สุขภาพ

18 วิธีแก้แฮงค์ แก้เมาค้าง หลังดื่มเหล้ามาทั้งคืน!

วิธีแก้ปัญหาอาการเมาค้างที่คัดสรรมาอย่างดีของเราพร้อมช่วยเหลือคุณจากเงื้อมมือของผลพวงอันน่าสะพรึงกลัวหลังงานปาร์ตี้ ไม่ว่าคุณจะดื่มมากเกินไปหรือแค่มองหาวิธีป้องกันอาการเมาค้าง เราก็มีให้คุณ เตรียมตัวให้พร้อมเพื่อสำรวจวิธีรักษาที่น่าสนใจและมีประสิทธิภาพมากมายที่จะช่วยให้คุณพิชิตอาการเมาค้างและฟื้นคืนวันของคุณ

แฮงค์ คือ

แฮงค์ คือ

อาการแฮงค์ หรือ เมาค้าง (Hang Over) คือ ทันทีที่ดื่มเหล้าเข้าไปในร่างกายแอลกอฮอล์จะเข้าสู่ตับ เอนไซม์ในตัวคนเราจะเปลี่ยนแอลกอฮอล์เป็นอะเซตาลดีไฮด์ (Acetaldehyde) แล้วเปลี่ยนต่อไปเป็นสารแอซิเตด (Acetate) ที่ไม่มีพิษและร่างกายสามารถนำไปใช้เป็นพลังงานได้ ส่งผ่านไปยังสมองของต่อมควบคุมระดับเกลือและน้ำตาลในร่างกายและอวัยวะต่าง ๆ

ทำให้ร่างกายเริ่มมีอาการสมองโปร่งโล่งสบายในช่วงแรก แล้วจะตามมาด้วยความรู้สึกถูกบีบหนักร่างกายเริ่มเคลื่อนไหวช้า โซเซ ลิ้นแข็ง พูดจาไม่รู้เรื่อง หูอื้อ ตาลายเกิดจากฤทธิ์แอลกอฮอล์ บางคนจะเกิดอาการขนาดความจำเสื่อมไปชั่วขณะ และจะตามมาด้วยอาการคลื่นไส้อาเจียน และอื่น ๆ ตามมาถ้ายังกินไม่หยุด

เมื่อเกิดการสะสมของสารที่มีพิษเซลล์สมองจะมีกลไกป้องกันตัวเอง โดยการเปลี่ยนแปลงผนังเซลล์ให้หนามากพอ ที่จะไม่ให้สิ่งแปลกปลอมเข้ามาทำลายเพื่อป้องกันตัวเองอยู่ตลอดเวลา จนเกิดผลของการแฮงค์โอเวอร์หรืออาการเมาค้างตามมา ทำให้ระบบประสาทและสมอง ระบบการย่อยและระบบการดูดซึมอาหาร การนอนหลับผิดปกติ

อาการแฮงค์ทำให้เกิดกระบวนการแห้งเหือดของน้ำหรือของเหลวภายในร่างกาย แอลกอฮอล์เป็นสารที่ทำให้เกิดการปลดปล่อยของเหลวในร่างกาย โดยดูดซึมและขับถ่ายในรูปปัสสาวะและยังขับสารอาหารสำคัญ ๆ ออกมา เช่น แมกนีเซียม, โปตัสเซียม, วิตามินบี 1, วิตามินบี 6 และ วิตามินซี เป็นต้น

เรามักจะพบคนที่ดื่มจะบอกว่าในหัวจะ ปวดหนึบ ๆ ปวดจี๊ด ๆ ถ้าขยับเขยื้อนเคลื่อนไหวร่างกาย ก็จะยิ่งปวดหัวหนักเข้าไปอีก บางคนยังพบกับความยากลำบากในการลืมตา ถ้ามีลำแสงสาดส่องเข้ามากระทบดวงตายิ่งปวดหัวเหมือนหัวจะระเบิด บางครั้งจากเพลงที่เคยฟังสนุกไพเราะ กลายเป็นเสียงที่น่ารำคาญ จะกินอะไรก็ไม่อร่อย ไม่รู้รส ปากแห้ง เคลื่อนไหวจะลุกจะนั่ง จะเดินไม่รวดเร็วคล่องแคล่ว อาจจะตามมาด้วยอาการผะอืดผะอม และการอาเจียนเพื่อพยายามขับสิ่งที่อยู่ในท้องให้ออกมาทางปาก

มีผลการศึกษาว่า ผู้ชายน้ำหนัก 80 กิโลกรัม ไม่ควรดื่มเกิน 6 แก้ว ในขณะที่ผู้หญิงน้ำหนัก 60 กิโลกรัม ควรดื่มประมาณ 3-5 แก้ว ถ้ามากเกินกว่านี้ถือว่าเสี่ยงต่อการเมาค้าง แต่ก็ขึ้นอยู่กับสุขภาพร่างกายของแต่ละคน

เรื่องที่เกี่ยวข้อง:

วิธีแก้แฮงค์เมาค้างพะอืดพะอม

สายดื่มหนักมักจะมีอาการ แฮงค์ หลังจากการดื่มเหล้าหนักจากเมื่อคืน จะมีอาการ ปวดหัวบีบ ๆ ไม่อยากลุกไปไหน อยากนอนตลอดเวลา มาดู วิธีแก้แฮงค์ แก้เมาค้าง กันว่าควรทำอย่างไร

วิธีแก้อาการเมาค้างพะอืดพะอม
  1. ไม่นอนทั้งวัน : แม้ว่าร่างกายจะโหยหาการนอนแค่ไหน แต่ก็ไม่ควรนอนจมบนเตียงตลอดทั้งวัน ควรลุกออกมาสูดอากาศเพื่อให้ออกซิเจนช่วยกระตุ้นการทำงานของเมตะบอลิซึม ทำให้รู้สึกกระปรี้กระเปร่ามากขึ้นได้
  2. กาแฟดำ : กาแฟเป็นสูตรที่ได้รับความนิยามจากสาวกสายปาร์ตี้สุดโหด เพราะเป็นสิ่งที่ช่วยแก้แฮงค์ให้ดีขึ้นได้มาก โดยอาจเป็นเอสเพรสโซ่สักช็อต หรืออเมริกาโน่ร้อน ๆ สักแก้ว คาเฟอีนในกาแฟจะช่วยกระตุ้นคุณให้ฟื้นจากอาการมึนหัว และขับปัสสาวะ ทำให้แอลกอฮอล์ออกจากร่างกาย
  3. ไข่ต้ม ขนมปัง กับน้ำส้มคั้น : ตื่นมารองท้องกันด้วยไข่ต้ม ที่มีคุณสมบัติของโปรตีนในการดักจับสารพิษ ขนมปัง ตัวช่วยดูดซับสารพิษและป้องกันการอาเจียนได้อย่างดี ตบด้วยน้ำส้มคั้นสักแก้ว เพราะวิตามินซีในน้ำส้มจะช่วยลดการเวียนหัว แก้แฮงค์ และชดเชยภาวะขาดน้ำหลังการดื่มหนักได้อีกด้วย
  4. น้ำมะนาวอุ่น ๆ : ผสมน้ำผึ้ง ช่วยแก้อาการเมาค้างได้มากเช่นกัน และเป็นที่นิยมของคนทั่วไป แถมยังช่วยลดปริมาณสารตกค้างในตับได้อีกด้วย
  5. ดื่มน้ำเยอะ ๆ : การดื่มน้ำเปล่าจะช่วยให้ร่างกายขับสารพิษหรือแอลกอฮอล์ออกทางปัสสาวะได้มากขึ้น ซึ่งไม่ใช่แค่ดื่มน้ำหลังฟื้นนะ..แต่ควรดื่มน้ำเปล่าหลังกลับจากปาร์ตี้ด้วย
  6. เครื่องดื่มวิตามิน : ในนาทีเร่งด่วน เตรียมสูตรแก้แฮงค์ไม่ทัน เครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของวิตามินบีและวิตามินซีนี่แหละจะเป็นตัวช่วยอย่างดีที่หาซื้อได้ง่ายตามร้านสะดวกซื้อหรือร้านขายยาทั่วไป เพราะวิตามินดังกล่าวสามารถช่วยลดอาการเมาค้างได้มาก ที่แน่ ๆ ควรดื่มน้ำเปล่ามาก ๆ ควบคู่ไปด้วย เพื่อชดเชยน้ำที่สูญเสียไปหลังจากการดื่มหนัก
  7. ยาแก้ปวด : สำหรับบางรายที่มีอาการแฮงค์รุนแรง แนะนำให้เตรียมยาแก้ปวดไว้รอเลย เพราะอาการหนักที่มาพร้อมกันคือ อาการปวดหัว แต่ไม่ควรรับประทานยาแก้ปวดในขณะท้องว่าง และหลีกเลี่ยงการรับประทานยาแก้ปวดกลุ่มพาราเซตามอลโดยไม่จำเป็น เพราะอาจเกิดผลเสียที่ตับได้ และอย่าลืมดื่มน้ำตามมาก ๆ จากนั้นนอนพักผ่อน อาการจะดีขึ้น
  8. น้ำขิง : เครื่องดื่มสมุนไพรแก้กระหายที่ช่วยแก้แฮงค์ได้อย่างดี ลองหาน้ำขิงอุ่น ๆ สักแก้วดื่มหลังจากปาร์ตี้ น้ำขิงจะช่วยฟื้นฟูร่างกาย ระบบหายใจ และป้องกันอาการปวดหัวที่จะมาได้ในระดับหนึ่ง แถมยังช่วยให้ระบบขับถ่ายขับแอลกอฮอล์ออกมาได้ดีขึ้น
  9. กล้วยหอม : สุดยอดอาหารที่นักดื่มควรมีติดไว้ เพระช่วยแก้แฮงค์ได้อย่างดี เนื่องจากโพเทสเซียมในกล้วยหอมจะช่วยป้องกันการขาดน้ำและเคลือบกระเพาะไปในตัว ทำให้ร่างกายดูดซึมแอลกอฮอล์ได้น้อย และขับออกมาได้เร็วยิ่งขึ้น
  10. ใบโหระพา : สมุนไพรใกล้ตัว บ้านใครมีลองนำมาขยี้หรือบด ผสมน้ำร้อนหรือชาร้อนทิ้งไว้สัก 5 นาที จากนั้นกรองเอาแต่น้ำมาดื่ม วิธีนี้ช่วยแก้แฮงค์และลดอาการคลื่นไส้ได้เป็นอย่างดี
  11. ออกกำลังกายขับแอลกอฮอล์ : ไม่ใช่ให้คนแฮงค์ต้องเข้ายิมไปออกกำลังกายแบบหนักหน่วง แต่เพียงให้ออกกำลังกายเบา ๆ เช่น วิ่งสักนิด วิดพื้นสักหน่อย ให้ร่างกายได้เหงื่อ นี่แหละคือการขับแอลกกอฮอล์ออกมาจากร่างกาย ช่วบแก้แฮงค์ และทำให้ร่างกายรู้สึกกระปี่กระเปร่าขึ้นด้วย
  12. นมช็อกโกแลต : ช่วยป้องกันอาการเมาค้างได้อย่างดี แถมไม่ทำให้เกิดอาการปวดหัวอย่างแรงเมื่อตื่นขึ้นมาอีกด้วย
  13. น้ำเกลือแร่ : เมื่อร่างกายสูญเสียน้ำไปมากเพราะฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ สายปาร์ตี้ควรติดน้ำเกลือแร่ชนิดละลายน้ำไว้เป็นตัวช่วยฟื้นฟูอาการขาดน้ำด้วย ทั้งนี้ควรติดไว้จิบทั้งวันเพื่อแก้แฮงค์ และเติมน้ำให้ร่างกายอย่างต่อเนื่อง และทำให้ระบบต่างๆ ของร่างกายทำงานได้ดีขึ้น
  14. ดื่มน้ำอัดลม : น้ำอัดลมนอกจากจะช่วยให้เราสดชื่นแล้ว ในน้ำอัดลมโดยเฉพาะน้ำอัดลมกลิ่นโคล่าช่วยลดสารอะซิทัลดีไฮด์ และเอทานอลที่เป็นต้นเหตุของอาการปวดหัว
  15. น้ำมะพร้าว : หากคุณดื่มแอลกอฮอล์ในตอนกลางคืนพอเช้ามาคุณอาจรู้สึกปวดศีรษะ ดังนั้นถ้าต้องการกำจัดอาการปวดศีรษะหรืออาการเมาค้างและชดเชยของเหลวที่สูญเสียไปคุณสามารถทำได้ด้วยการดื่มน้ำมะพร้าว เนื่องจากน้ำมะพร้าวมีฤทธิ์ในการขับปัสสาวะโดยธรรมชาติ ทั้งทางเดินปัสสาวะและกระเพาะปัสสาวะจะได้รับการชำระล้าง ดังนั้นร่างกายจะขับสารพิษออกมาทางปัสสาวะด้วย
  16. เช็ดตัว : เช็ดตัวด้วยผ้าชุบน้ำเย็นและประคบด้วยผ้าเย็นบริเวณใบหน้าและศีรษะ
  17. ดื่มน้ำผลไม้คั้น : ดื่มน้ำผลไม้คั้นที่มีรสเปรี้ยวจัด แก้ไขการอาเจียน เช่น น้ำส้ม หรือน้ำมะนาว
  18. ดื่มน้ำผลไม้สด : ดื่มน้ำผลไม้สด ๆ หรือผลไม้สดแช่เย็นฉ่ำ เช่น น้ำแตงโม, น้ำแครอทผสมแอปเปิ้ล, น้ำจับฉ่าย หรือน้ำวุ้นจากใบว่านหางจระเข้ ช่วยล้างกระเพาะและแก้อาการแฮงค์ เพื่อชดเชยวิตามินซี เพิ่มปริมาณออกซิเจนในเลือด ชดเชยพลังงานที่ร่างกายต้องการทำให้ร่างกายสดชื่น

ไม่ควรทำหลังดื่มแอลกอฮอล์

  • ห้ามอาบน้ำทันที : หลังจบปาร์ตี้ ใครที่ชอบอาบน้ำหลังกลับมาถึงบ้าน ขอบอกว่าให้เปลี่ยนพฤติกรรมซะ เพราะถ้าไม่อยากเมาหนักกว่าเดิม…ก็ยอมดมกลิ่นเหงื่อตัวเองไปสักพักก่อนเนอะ!
  • ห้ามหลับยาว : เวลาเมาค้างทีไร อาการหนังตาจะปิดมักจะมาทุกที งานนี้ขอบอกเลยว่าถ้าคุณเผลอหลับยาวหลังดื่มหนักใหม่ ๆ เมื่อตื่นนอนตอนเช้าก็เตรียมตัวมึนงงกับอาการเมาค้างได้เลย
  • ห้ามเป่าพัดลม : แอลกอฮอล์อาจทำให้คุณรู้สึกร้อนวูบวาบจนต้องการลมเย็น ๆ จากพัดลม ซึ่งการเป่าพัดลมไม่เพียงทำให้ร่างกายสูญเสียพลังงานความร้อนเร็วขึ้น..จนส่งผลให้เกิดอาการปวดศีรษะ แต่ยังเสี่ยงต่อการเกิดเส้นเลือดสมองแตกได้ด้วยนะ
  • ห้ามกินยาบรรเทาอาการ : การกินยาบรรเทาอาการปวดศีรษะก่อนเข้านอน หรือในขณะที่ร่างกายยังมีปริมาณแอลกอฮอล์สะสมอยู่มาก ไม่ใช่สิ่งที่ควรทำ! เพราะเมื่อยาบรรเทาอาการปวดผสมเข้ากับแอลกอฮอล์..จะส่งผลอันตรายต่อตับได้

ยาแก้แฮงค์ในเซเว่น

FOD ยาแก้แฮงค์ในเซเว่น

ผลิตภัณฑ์อาหารเสริม ยาแก้แฮงค์ FOD อาหารเสริมบำรุงตับ ลดอาการเมาไม่แฮงค์ มีจำหน่ายที่ 7-11

  • ทำให้คอแข็ง ดื่มได้ยาวนาน
  • ลดค่าแอลกอฮอล์ ให้มีสติมากขึ้น
  • ดื่มหนัก ไม่แฮงค์
  • บำรุงตับ ป้องกันโรคตับแข็ง

วิธีกินยาแก้แฮงค์

วิธีแรกเคล็ดลับคอแข็ง

ทานก่อนดื่ม 15 นาที 1 แคปซูล ช่วยให้คืนนี้คุณจะเป็นคนคอแข็งสุดในวงเหล้า หลังดื่มทันทีอีก 1-2 แคปซูล เพื่อให้ดื่มหนักยังไง ไม่มีแฮงค์ 1,000,000%

วิธีที่สองเคล็ดลับช่วยให้แก้เมา ไม่แฮงค์

หลังหยุดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แก้วสุดท้ายแล้ว รับประทาน FOD 3 แคปซูล พร้อมน้ำเปล่า 1-2 แก้ว รอ 30-45 นาที จะดีขึ้น 30-80% รุ่งขึ้นไม่แฮงค์…บำรุงตับ…บำรุงร่างกาย แค่นี้ง่ายๆ แต่ได้ผลลัพธ์ที่ดีงามมากๆ ครับ

ขึ้นอยู่กับปริมาณการดื่มและสุขภาพของแต่ละบุคคล

ดื่มอย่างไรไม่ให้เกิดอาการเมาค้าง

การดื่มถือเป็นวัฒนธรรมที่ช่วยกระชับความสัมพันธ์ โดยผู้คนมักดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เพื่อสังสรรค์หรือเฉลิมฉลองในโอกาสสำคัญต่าง ๆ แต่หากดื่มมากเกินไป จะทำให้เกิดอาการเมาค้างในเช้าวันต่อมา ซึ่งผู้ดื่มสามารถป้องกันอาการเมาค้างและฟื้นฟูร่างกายจากอาการเมาค้างให้ดีขึ้นได้

วิธีป้องกันอาการเมาค้าง

  • ควรรับประทานของกินเล่นหรืออาหารที่มีคาร์โบไฮเดรตหรือไขมันรองท้องก่อน จะช่วยให้ร่างกายชะลอการดูดซึมแอลกอฮอล์ได้มาก รวมทั้งดื่มน้ำเปล่าระหว่างดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และไม่ดื่มตอนท้องว่าง
  • จำกัดปริมาณการดื่ม ไม่ควรดื่มเยอะเกินที่ร่างกายจะรับได้ ทั้งนี้ ผู้ที่ดื่มเป็นประจำทุกสัปดาห์ควรรักษาระดับแอลกอฮอล์ไม่ให้สูงเกินไป โดยดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์รวมกันแล้วไม่เกิน 14 แก้ว (Units) ต่อหนึ่งสัปดาห์ ทั้งนี้ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์แต่ละชนิดก็มีปริมาณหน่วยบริโภคที่แตกต่างกัน ส่วนผู้ที่ต้องการลดปริมาณแอลกอฮอล์ ควรงดดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์สัปดาห์ละ 3-4 วัน
  • ดื่มให้ช้าลง โดยดื่มเพียงหนึ่งแก้วหรือในปริมาณที่น้อยกว่านั้นในแต่ละชั่วโมง
  • เลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์สีเข้ม เลือกดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่มีสีใส เนื่องจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์สีเข้มมีส่วนผสมของคอนจีเนอร์มาก ส่งผลให้ผู้ดื่มเกิดอาการเมาค้างอย่างรุนแรง
  • ดื่มน้ำเปล่าหนึ่งแก้วทุกครั้งหลังดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์หนึ่งอึก หรือจะผสมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์กับเครื่องดื่มอื่น ๆ ก็จะช่วยให้ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้น้อยลง ทั้งนี้ น้ำเปล่าจะช่วยให้ผู้ดื่มไม่เกิดภาวะขาดน้ำ
  • รับประทานสารสกัดจากกระบองเพชรพริกคลีแพร์ (Prickly Pear) ก่อนดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จะช่วยบรรเทาอาการเมาค้างให้ทุเลาได้ โดยสารสกัดนี้มีโปรตีนที่ช่วยยับยั้งอาการอักเสบจากฤทธิ์แอลกอฮอล์
  • งดสูบบุหรี่ระหว่างดื่ม เนื่องจากจะทำให้นอนไม่หลับ ทั้งนี้ การสูบบุหรี่จะทำให้อาการเมาค้างแย่ลง

ระดับของความเมา

ระดับของความเมา

พยายามจะหาวิธีเทียบให้เห็นได้ชัดว่ากี่มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์อะไรนี่จะเท่ากับเบียร์กี่ขวด เหล้ากี่แบน แต่จนแล้วจนรอดผู้รู้แจ้งก็ไม่สามารถหาวิธีการคำนวณอันง่ายดายพอที่สมองน้อย ๆ ของเราจะเข้าใจ ดังนั้นจึงใช้เป็นนัยยะให้รู้ได้เพียงแค่ว่า ยิ่งแสดงอาการตรงกับค่ามิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ที่เกิน 50 มากขึ้นเท่าไหร่ ยิ่งเสี่ยงต่ออันตรายจากการจับกุมมากยิ่งขึ้นเท่านั้น

  • 30 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ (เบียร์ 2 แก้ว) : สนุกสนาน เฮฮา ร่าเริง
  • 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ (เบียร์ 3 แก้ว) : สนุกกว่าเดิมเล็กน้อย แต่เริ่มออกอาการเฮฮามากขึ้น กระทั่งแก้วหรือขวด หรือจานกับแกล้มที่วางบนโต๊ะเริ่มเกะกะ
  • 100 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ (เบียร์ 6 แก้ว) : ลักษณะการเดินคล้ายปู ปัดไปเป๋มา เวลาเดินเข้าห้องน้ำ อาจมีการปะทะกับโต๊ะเก้าอี้ชาวบ้าน หรือเหยียบเท้า คนอื่นโดยไม่ทันสังเกต
  • 200 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ (เบียร์ 12 แก้ว) : เริ่มควบคุมตัวเองไม่ได้ เพราะว่าจิตได้สำนึกจะผุดขึ้นมาในระยะนี้เอง ตัวจริง ๆ ที่แท้ ความในใจทั้งหลายที่เคยเก็บกดไว้ก็จะทะลักอออกมาแบบหยุดไม่ค่อยอยู่
  • 300 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ (เบียร์ 18 แก้ว) : โลกจะมีแรงดึงดูดศีรษะคนเมาระดับนี้เป็นพิเศษ น้ำหนักของศีรษะจะมากขึ้นจนคอของตัวเองรับไม่ไหว ต้องเอาไปวางบนพื้นโต๊ะ อ่างล้างหน้า
  • 400 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ขึ้นไป (เบียร์ 24 แก้ว) : น็อคเอ๊าท์ สลบ

แต่ละคนเมื่อดื่มเข้าไปอาจเมามากน้อยไม่เท่ากันขึ้นอยู่กับค่าความทนทานของร่างกาย หมายถึงว่าพวกที่ไม่ค่อยได้ดื่มหรือไม่เคยดื่มมาก่อน ร่างกายจะดูดซึมแอลกอฮอล์เข้าไปได้เร็วกว่าคนที่ดื่มมานานแล้ว คนอ้วน คนผอม ก็เมาเร็วเมาช้าต่างกัน ความสามารถในการดูดซึมสารอาหารและความสามารถในการขับถ่ายของเสียของแต่ละคนที่ไม่เหมือนกัน ก็เป็นอีกสาเหตุ

วิธีดูแลคนเมาเหล้า

วิธีดูแลคนเมาเหล้า

ไม่ควรปล่อยให้ดื่มหนัก

สถานการณ์แต่ละอย่างของแต่ละบุคคลจะต้องประเมินตามบริบทและสิ่งรอบข้าง แต่สิ่งสำคัญคือต้องพร้อมที่จะดูแลคนเมาจนกว่าจะพ้นขีดอันตราย

ไม่ควรปล่อยให้คนที่ดื่มหนักมากคนเดียว หลับไป ถือว่าอันตรายมาก ๆ สำหรับคนเมา เพราะเขาอาจทำให้ตัวเองบาดเจ็บหรือหยุดหายใจไปได้

โน้มน้าวให้หยุดดื่มต่อ

พยายามชักจูงให้คนเมาเปลี่ยนใจไม่ดื่มแอลกอฮอล์เพิ่ม เอาแอลกอฮอล์ออกห่างจากตัวเขาไปเลย อย่างพาเขาไปสูดอากาศบริสุทธิ์ที่สวนหน้าบ้าน บอกว่ามืดแล้ว พร้อมทั้งเรียกแท็กซี่ให้มารับกลับบ้านไป หรือแค่นั่งกับเขาในที่ที่ไม่ได้เอาไว้ดื่มแล้วพูดคุยกัน ควรหาที่ ๆ เงียบ และไม่สว่างเกินไป

อย่าทำให้คนเมาโมโห

ทำใจให้เย็นและทำให้เขารู้สึกอุ่นใจตลอดเวลา คนที่เมาอาจอารมณ์หนักหน่วงขี้โมโหเป็นพิเศษเวลาที่เมา ฉะนั้นคุณก็ควรทำให้เขาใจเย็นลง

แอลกอฮอล์เป็นพิษ

ถ้าเริ่มหายใจช้าลง (8 ครั้งต่อนาทีหรือน้อยกว่านั้น หรือหายใจติดขัดไม่สม่ำเสมอ 10 วินาทีหรือนานกว่านั้นต่อการหายใจหนึ่งครั้ง) แล้วถึงจะจิ้มหรือหยิกไปแรง ๆ ร่างกายก็ไม่ตอบสนอง นั่นแปลว่าเขาอาจตกอยู่ในภาวะแอลกอฮอล์เป็นพิษ ภาวะแอลกอฮอล์เป็นพิษยังทำให้การหายใจหยุดชะงัก แล้วหัวใจก็จะหยุดเต้นแทบจะในทันทีหลังจากนั้น ถ้าไม่ได้รับการฟื้นฟูสมรรถภาพทางการหายใจเสียก่อน ฉะนั้นให้ใช้การผายปอดทันทีถ้าหากว่าการหายใจหยุดชะงัก และถ้าเกิดว่าหัวใจหยุดเต้น ก็ให้ใช้การผายปอดพร้อมกับเครื่องกระตุ้นหัวใจในทันที

อย่าบังคับให้กินอาหาร

อย่าบังคับให้คนเมารับประทานอาหาร. ในตอนที่คนเมาเมามาก ๆ แล้ว อาหารก็ไม่สามารถช่วยให้ สร่าง ได้แล้วล่ะ คนที่เมามาก ๆ อาจมีการตอบสนองอัตโนมัติของเส้นประสาทในสมองแย่ลงและสำลักอาหารได้

อย่าเทน้ำใส่คนเมา

เมื่อคนเกิดอาการเมา ปฏิกิริยาตอบสนองก็จะช้า การเทน้ำใส่เพื่อจะทำให้ตื่นหรือสร่างเมานั้น จริง ๆ แล้วจะไปทำให้เขาสำลักหรือจมน้ำแทน

ดื่มหลายอย่างไม่ทำให้แฮงค์

ดื่มหลายอย่างไม่ทำให้แฮงค์

นักวิจัยเยอรมันเผย ความเชื่อที่ว่าการดื่มแอลกอฮอล์หลายอย่างปนกันจะทำให้แฮงค์ มากกว่าปกติในวันถัดไปอาจไม่เป็นความจริง (การทดลองใช้แค่เบียร์กับไวน์ขาว) โดยปัจจัยหลักที่มีผลต่อแฮงค์ที่สุด คือ ระดับแอลกอฮอล์ในเลือด ไม่ว่าคืนก่อนหน้าจะดื่มอย่างเดียว ปนกัน หรือดื่มอะไรก่อนหลัง

งานวิจัยนี้เป็นการทดลองซับซ้อนนานกว่า 2 ปี มีการควบคุมปัจจัยต่างๆ อย่างเข้มงวด เช่น ระดับแอลกอฮอล์ในเลือด น้ำหนักตัว อาหารการกิน น้ำดื่ม เวลานอน ฯลฯ นอกจากนี้ ยังพบด้วยว่าผู้หญิงมีแนวโน้มจะรู้สึกว่าตัวเองแฮงค์ มากกว่าผู้ชายแม้มีระดับแอลกอฮอล์เท่า ๆ กัน

กฎหมายเมาแล้วขับ

โทษคุกปรับ
เมาแล้วขับ1 ปี10,000-20,000 บาท
เมาแล้วขับทำให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่ร่างกายหรือจิตใจ5 ปี20,000-100,000 บาท
เมาแล้วขับเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายอย่างสาหัส6 ปี40,000-120,000 บาท
เมาแล้วขับเป็นเหตุทำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย10 ปี60,000-200,000 บาท

การขับขี่ยานพาหนะนับเป็นเรื่องที่ยากและซับซ้อนนอกจากผู้ขับจะต้องสามารถตัดสินใจได้รวดเร็วและเด็ดขาดแล้วต้องมีสมาธิสูงเช่นกันการดื่มแอลกอฮอล์จะทำให้ความสามารถในการขับขี่และตัดสินใจลดลงเนื่องจากแอลกอฮอล์จัดอยู่ในประเภทเครื่องดื่มที่มีฤทธิ์กดประสาททำให้ร่างกายและจิตใจทำงานช้าลง

จากสติในประเทศไทยแสดงถึงเกือบ 44% ของการได้รับบาดเจ็บบนท้องถนน อุบัติเหตุของมอเตอร์ไซต์เผยให้เห็นว่าแอลกอฮอล์เป็นสาเหตุของอุบัติเหตุถึง 36%

ระดับแอลกอฮอล์ในเลือดของผู้ขับขี่ยานพาหนะที่ถูกต้องตามกฎหมายไทยคือต้องไม่เกิน 50 มิลลิกรัม

อัตราโทษเมาแล้วขับ

  • มีโทษจำคุก 1 ปี
  • ปรับตั้งแต่ 10,000-20,000 บาท
  • หรือทั้งจำทั้งปรับ
  • ศาลสามารถสั่งพักใช้ใบขับขี่ไม่น้อยกว่า 6 เดือนหรือเพิกถอนใบขับขี่ไปเลย
  • สามารถยึดรถไว้ได้ไม่เกิน 7 วัน

ทำให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่ร่างกายหรือจิตใจ

  • มีโทษจำคุก 1-5 ปี
  • ปรับตั้งแต่ 20,000-100,000 บาท
  • หรือทั้งจำทั้งปรับ
  • ศาลสามารถสั่งพักใช้ใบขับขี่ไม่น้อยกว่า 1 ปีหรือเพิกถอนใบขับขี่ไปเลย

เป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายอย่างสาหัส

  • มีโทษจำคุก 2-6 ปี
  • ปรับตั้งแต่ 40,000-120,000 บาท
  • หรือทั้งจำทั้งปรับ
  • ศาลสามารถสั่งพักใบขับขี่ไม่น้อยกว่า 2 ปีหรือเพิกถอนใบขับขี่ไปเลย

เป็นเหตุทำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย

  • มีโทษจำคุก 3-10 ปี
  • ปรับตั้งแต่ 60,000-200,000 บาท
  • หรือทั้งจำทั้งปรับ
  • ศาลสามารถสั่งเพิกถอนใบขับขี่เลย

สรุป

เมื่อเช้ามาพร้อมกับอาการเมาค้างที่ไม่พึงปรารถนา วิธีแก้ปัญหาที่คิดค้นขึ้นอย่างพิถีพิถันของเราพร้อมช่วยเหลือคุณจากอาการไม่สบายตัวและนำความสดใสของคุณกลับคืนมา ด้วยการรวมข้อมูลเชิงลึกของผู้เชี่ยวชาญเข้ากับวิธีการรักษาที่ผ่านการทดสอบตามเวลา เราได้ปรับแต่งวิธีแก้ปัญหาอาการเมาค้างที่ครอบคลุมเพื่อฟื้นฟูร่างกายและจิตวิญญาณของคุณ ค่ำคืนแห่งการเฉลิมฉลองจะไม่ทำให้คุณรู้สึกแย่อีกต่อไปสำหรับการสวมใส่ในวันถัดไป น้อมรับกลยุทธ์ที่พิสูจน์แล้วของเรา ตั้งแต่การดื่มน้ำที่จำเป็นไปจนถึงการฟื้นฟูบำรุงร่างกาย และบอกลาอาการเมาค้าง เรียกคืนวันของคุณ ฟื้นฟูพลังงานของคุณ และค้นพบความสุขในตอนเช้าอีกครั้งด้วยวิธีการรักษาอาการเมาค้างที่เหนือชั้นของเรา การฟื้นฟูตัวเองกำลังรออยู่ ถึงเวลาฉลองให้กับยุคใหม่ของการบรรเทาอาการเมาค้าง!

ที่มาภาพ – drunk man by Gan Khoon Lay from the Noun Project

อ่านต่อ

NaniTalk S.

เป็นนักเขียนที่ขยันขันแข็งและมุ่งมั่นที่จะผลิตเนื้อหาที่มีคุณภาพ เรียนรู้และเติบโตอยู่เสมอ เชื่อว่าเนื้อหาที่ดีสามารถสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อโลกได้

บทความที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Back to top button