แอร์ไม่เย็นเกิดจากอะไร? แนะนำสาเหตุหลักและแนวทางแก้ปัญหา

อากาศที่ร้อนอบอ้าวสามารถสร้างความหงุดหงิดและทำให้เรารู้สึกไม่สบายตัว หากแอร์ที่บ้านหรือที่ทำงานเกิดไม่เย็นขึ้นมา ก็อาจทำให้รู้สึกหงุดหงิดเป็นพิเศษ การทำความเข้าใจถึงสาเหตุที่ทำให้แอร์ไม่เย็นถือเป็นก้าวแรกของการแก้ไขปัญหาได้อย่างถูกต้อง บทความนี้จะแนะนำสาเหตุที่พบบ่อย พร้อมแนวทางการแก้ไขเบื้องต้นเพื่อให้แอร์ของเรากลับมาเย็นดังเดิม

หลายครั้งที่ปัญหาแอร์ไม่เย็นสามารถแก้ไขได้ด้วยตัวเอง ก่อนที่จะถึงขั้นตอนการเรียกช่าง มาดูกันว่าสาเหตุหลักๆ ที่ทำให้แอร์ไม่เย็นมีอะไรบ้าง เพื่อที่เราจะได้ตรวจสอบเครื่องปรับอากาศของเราได้อย่างถูกจุด

สาเหตุที่ทำให้แอร์ไม่เย็นเกิดจากอะไร ไม่ได้มีแค่สาเหตุเดียว หากเกิดปัญหานี้ขึ้น สิ่งสำคัญคือการสังเกตอาการ วิเคราะห์ปัญหา และหาแนวทางแก้ไขอย่างเป็นขั้นเป็นตอน เพื่อคืนความเย็นสบายให้กับบรรยากาศภายในบ้านของคุณ

แอร์ไม่เย็นเกิดจากอะไร?

อยากนอนเย็นสบาย แต่เจอปัญหาแอร์ไม่เย็น ร้อนจนเหงื่อไหล มาหาสาเหตุกันดีกว่า!

ฝุ่นหนาแน่นในแผ่นกรอง

แอร์ไม่เย็น เป็นปัญหาที่พบบ่อยในบ้าน โดยเฉพาะในช่วงที่มีฝุ่นละอองมาก สาเหตุหลักๆ ของปัญหาแอร์ไม่เย็น มาจากแผ่นกรองอากาศตัน ดังนั้น การแก้ไขเบื้องต้นที่ง่ายที่สุด คือ การทำความสะอาดแผ่นกรองอากาศ

วิธีแก้ไข

ถอดแผ่นกรองอากาศออกมาจากคอยล์เย็น
ล้างแผ่นกรองอากาศด้วยน้ำสะอาด
เป่าแผ่นกรองอากาศให้แห้ง หรือตากแดดให้แห้งสนิท
ใส่แผ่นกรองอากาศกลับเข้าที่

ข้อควรระวัง

ห้ามล้างแผ่นกรองอากาศด้วยน้ำร้อน
ห้ามใช้เครื่องเป่าผมเป่าแผ่นกรองอากาศ
ห้ามใส่แผ่นกรองอากาศที่ยังไม่แห้งสนิทกลับเข้าที่

คอมเพรสเซอร์ทำงานผิดปกติ

หากแอร์ของคุณไม่เย็น สาเหตุหนึ่งอาจมาจากคอมเพรสเซอร์ทำงานผิดปกติ คอมเพรสเซอร์เปรียบเสมือนหัวใจของแอร์ ทำหน้าที่อัดฉีดสารทำความเย็นเพื่อดูดซับความร้อนจากภายในห้อง

สัญญาณที่บ่งบอกว่าคอมเพรสเซอร์อาจทำงานผิดปกติ

แอร์ไม่เย็น: แอร์ทำงานแต่ไม่มีลมเย็นออกมา หรืออุณหภูมิห้องไม่เย็นลง
เสียงดังผิดปกติ: ได้ยินเสียงดังผิดปกติจากคอมเพรสเซอร์ เช่น เสียงคลิก เสียงหวีด หรือเสียงมอเตอร์ทำงานหนัก
เบรกเกอร์ตัด: เบรกเกอร์ที่จ่ายไฟให้กับคอมเพรสเซอร์ตัดบ่อย
น้ำแข็งเกาะ: พบน้ำแข็งเกาะที่ท่อน้ำยา หรือคอยล์เย็น

วิธีแก้ไข

ปิดแอร์และถอดปลั๊ก: เพื่อความปลอดภัย ให้ปิดแอร์และถอดปลั๊กก่อนทำการตรวจสอบ
ตรวจสอบเบรกเกอร์: ตรวจสอบว่าเบรกเกอร์ที่จ่ายไฟให้กับคอมเพรสเซอร์ทำงานปกติหรือไม่
ทำความสะอาดคอมเพรสเซอร์: ทำความสะอาดคราบสกปรก ฝุ่นละออง ที่เกาะอยู่บนคอมเพรสเซอร์
ตรวจสอบแรงดันน้ำยา: ตรวจสอบว่าแรงดันน้ำยาแอร์อยู่ในระดับที่เหมาะสม
เรียกช่างผู้ชำนาญ: หากลองทำตามคำแนะนำข้างต้นแล้ว แอร์ยังไม่เย็น แนะนำให้เรียกช่างผู้ชำนาญมาตรวจสอบและแก้ไข

น้ำยาแอร์รั่วหรือหมด

แอร์ไม่เย็น เป็นปัญหาที่พบเจอได้บ่อยในบ้าน สร้างความร้อนรนและอึดอัดให้กับผู้อยู่อาศัย สาเหตุหลักๆ ของปัญหาแอร์ไม่เย็น มาจาก น้ำยาแอร์รั่วหรือหมด

วิธีสังเกตว่าน้ำยาแอร์รั่วหรือหมด

แอร์ไม่เย็น หรือเย็นน้อยลง
คอมเพรสเซอร์แอร์ทำงานไม่หยุด
ท่อน้ำยาแอร์มีน้ำแข็งเกาะ
มีเสียงดังผิดปกติจากแอร์
ใบพัดแอร์เย็นแต่ลมไม่แรง

วิธีแก้ไข กรณีน้ำยาแอร์รั่ว

ปิดแอร์และถอดปลั๊ก
เรียกช่างแอร์ที่ชำนาญมาตรวจสอบและหาจุดรั่ว
ซ่อมแซมจุดรั่ว
เติมน้ำยาแอร์ใหม่

ท่อน้ำยาอุดตัน

แอร์ไม่เย็น เป็นปัญหาที่พบบ่อยสำหรับผู้ใช้เครื่องปรับอากาศ ปัญหานี้สามารถเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ หนึ่งในสาเหตุที่พบบ่อยที่สุดคือ ท่อน้ำยาอุดตัน

ท่อน้ำยาอุดตัน เกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ เช่น

สิ่งสกปรก เช่น ฝุ่นละออง เศษใบไม้ อุดตันในท่อน้ำยา
น้ำมันคอมเพรสเซอร์ เสื่อมสภาพ เกิดตะกอนอุดตันในท่อน้ำยา
การติดตั้งท่อน้ำยา ไม่ถูกต้อง เกิดการบีบอัดหรือหักงอ ทำให้ท่อน้ำยาอุดตัน

วิธีแก้ไข ท่อน้ำยาอุดตัน ขึ้นอยู่กับสาเหตุที่เกิดขึ้น

กรณีท่อน้ำยาอุดตันจากสิ่งสกปรก

ปิดเครื่องปรับอากาศและถอดปลั๊กออก
ถอดฝาครอบคอยล์เย็น
ใช้แปรงหรือเครื่องดูดฝุ่นทำความสะอาดครีบระบายความร้อน
ล้างคอยล์เย็นด้วยน้ำสะอาด
เช็ดให้แห้งและประกอบกลับ
เปิดเครื่องปรับอากาศและทดสอบการทำงาน

กรณีท่อน้ำยาอุดตันจากน้ำมันคอมเพรสเซอร์เสื่อมสภาพ

จำเป็นต้องเรียกช่างผู้ชำนาญมาทำการล้างระบบและเปลี่ยนน้ำมันคอมเพรสเซอร์

กรณีท่อน้ำยาอุดตันจากการติดตั้งไม่ถูกต้อง

จำเป็นต้องเรียกช่างผู้ชำนาญมาทำการแก้ไข

เลือกขนาด BTU ไม่เหมาะสม

ปัญหาแอร์ไม่เย็น เกิดขึ้นได้หลายสาเหตุ หนึ่งในสาเหตุที่พบบ่อยที่สุดคือ การเลือกขนาด BTU ของแอร์ไม่เหมาะสมกับขนาดห้อง

วิธีแก้ไข:

คำนวณขนาด BTU ใหม่:

หาพื้นที่ห้อง (กว้าง x ยาว)
คูณค่าพื้นที่ด้วย 600 (ค่าประมาณ BTU ที่ใช้ต่อตารางเมตร)
เพิ่มค่า BTU ขึ้น 10-20% สำหรับห้องที่โดนแดดจัด หรือมีเครื่องใช้ไฟฟ้าจำนวนมาก

เปลี่ยนแอร์ใหม่:

เลือกแอร์ที่มีขนาด BTU เหมาะสมกับขนาดห้อง
เลือกแอร์ที่มีฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5

อื่นๆ

รีโมทแอร์และการตั้งค่าไม่ถูกต้อง

ตรวจสอบว่าตั้งค่าโหมดทำความเย็น (Cool) หรือไม่
อุณหภูมิที่ตั้งไว้นั้นเหมาะสมหรือไม่ ควรตั้งไว้ประมาณ 25 – 27 องศาเซลเซียส
ตรวจสอบว่าตั้งค่าพัดลม (Fan) ไม่ได้อยู่ที่โหมดต่ำเกินไป
ปิดการใช้งานโหมดตั้งเวลา (Timer)

อุณหภูมิภายนอกสูง

แอร์ทำงานหนักขึ้นเพื่อรักษาอุณหภูมิภายในห้องให้เย็น
ปิดม่านหรือติดตั้งฟิล์มกรองแสงเพื่อลดความร้อนจากแสงแดด
เปิดหน้าต่างในช่วงเช้าหรือเย็นเพื่อระบายความร้อน
ใช้พัดลมช่วยกระจายลมเย็น

เราหวังว่าบทความนี้จะช่วยให้ผู้อ่านเกิดความเข้าใจมากขึ้นเกี่ยวกับสาเหตุที่อาจทำให้แอร์ไม่เย็น พร้อมทั้งสามารถนำวิธีแก้ไขเบื้องต้นไปลองปฏิบัติกัน หากยังไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ การเลือกใช้บริการช่างผู้เชี่ยวชาญถือเป็นขั้นตอนที่จำเป็น เพื่อตรวจสอบอย่างละเอียดและช่วยให้แอร์ของเรากลับมาทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกครั้ง

เรื่องที่เกี่ยวข้อง: