Apple ยุติการผลิต iPhone 15 Pro และ iPhone 13

Apple ยังคงยึดมั่นในกลยุทธ์การปรับเปลี่ยนผลิตภัณฑ์ของตนในทุกๆ ปี และในครั้งนี้ บริษัทได้ประกาศยุติการผลิต iPhone 15 Pro และ iPhone 15 Pro Max รวมถึง iPhone 13 รุ่นเก่าที่หลายคนยังคงชื่นชอบ การยุติการผลิตเหล่านี้มีเป้าหมายเพื่อเปิดทางให้กับผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่ล้ำสมัยมากขึ้น ทั้งในด้านการใช้งานและเทคโนโลยีที่ทันสมัย

สำหรับผู้ที่ยังคงสนใจ iPhone 15 Pro หรือ Pro Max รุ่นปี 2023 อาจยังมีโอกาสในการหาซื้อได้ตามร้านค้าปลีกและช่องทางออนไลน์บางแห่ง แม้ว่าจะเป็นช่วงสุดท้ายที่สามารถหาซื้อได้ก็ตาม บางร้านค้ากำลังจัดโปรโมชั่นลดราคาสำหรับรุ่นเหล่านี้ เพื่อเคลียร์สต็อกสินค้าที่เหลืออยู่

นอกจากนี้ การประกาศยุติการผลิตยังรวมไปถึง iPhone 13 ที่เปิดตัวในปี 2021 ซึ่งเป็นรุ่นที่มีการออกแบบ notch ที่เล็กลงและกล้องที่พัฒนาขึ้น แม้ว่า iPhone 13 จะได้รับความนิยม แต่ Apple ก็ได้ตัดสินใจหยุดการผลิตเพื่อส่งเสริมรุ่นใหม่ๆ ให้กับตลาดแทน

iPhone 15 Pro และ iPhone 13 ยุติการผลิตอย่างเป็นทางการ

การที่ Apple ตัดสินใจยุติการผลิต iPhone 15 Pro และ iPhone 13 ในปีนี้ ไม่ได้สร้างความแปลกใจให้กับผู้ที่ติดตามข่าวสารจากบริษัทอย่างใกล้ชิด Apple มีแนวโน้มที่จะยุติผลิตภัณฑ์รุ่นเก่าเมื่อมีการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ที่มีคุณสมบัติล้ำหน้าออกมา iPhone 15 Pro และ Pro Max ซึ่งเป็นหนึ่งในโทรศัพท์รุ่นล่าสุดจากปี 2023 ที่ยังคงมีประสิทธิภาพสูง ได้ถูกแทนที่ด้วยรุ่นใหม่ที่มีการพัฒนาในหลายๆ ด้าน โดยเฉพาะด้านการประมวลผลและฟีเจอร์ที่ล้ำสมัยกว่าเดิม

อย่างไรก็ตาม สำหรับผู้ที่ยังชื่นชอบหรือไม่ต้องการเปลี่ยนไปใช้รุ่นใหม่ อาจจะยังสามารถหาซื้อ iPhone 15 Pro และ Pro Max ได้ตามร้านค้าปลีกที่ยังคงมีสต็อกเหลืออยู่ แต่คงเป็นช่วงเวลาสั้นๆ เท่านั้นเนื่องจากสินค้าจะหมดสต็อกในไม่ช้า นอกจากนี้ บางร้านอาจเสนอส่วนลดพิเศษเพื่อเคลียร์สต็อกสินค้าให้เร็วที่สุด

iPhone 13: จากรุ่นที่นิยมสู่การยุติการผลิต

iPhone 13 ที่เคยเปิดตัวในปี 2021 มีความโดดเด่นด้วยการออกแบบที่ทำให้ notch มีขนาดเล็กลง รวมถึงระบบกล้องที่ได้รับการปรับปรุงให้ถ่ายภาพได้คมชัดยิ่งขึ้น ราคาที่เปิดตัวในตอนแรกอยู่ที่ $799 และภายหลังถูกลดราคาลงเหลือ $599 เมื่อมีการเปิดตัว iPhone 15 ในตลาด แม้ว่า iPhone 13 จะได้รับความนิยมอย่างมากในช่วงเปิดตัว แต่การเปลี่ยนแปลงและพัฒนาของเทคโนโลยีทำให้ Apple ตัดสินใจยุติการผลิตรุ่นนี้ เพื่อเปิดทางให้กับ iPhone รุ่นใหม่ๆ ที่ตอบโจทย์ผู้ใช้งานในปัจจุบันมากขึ้น

ในขณะที่ iPhone 14 รุ่นปัจจุบันได้รับการลดราคาลงเหลือ $599 ซึ่งเท่ากับราคาเดิมของ iPhone 13 ส่วน iPhone 14 Plus ได้รับการปรับราคาอยู่ที่ $699 และ iPhone 15 รุ่นใหม่เริ่มต้นที่ $699 เช่นเดียวกับ iPhone 15 Plus ที่มีราคาเริ่มต้นที่ $799 ส่วน iPhone SE รุ่นล่าสุดจากปี 2022 ยังคงมีวางจำหน่ายในราคาเริ่มต้นที่ $429 อย่างไรก็ตาม คาดว่า Apple จะทำการอัปเดต iPhone SE ในปี 2025

การเปลี่ยนแปลงของผลิตภัณฑ์อื่นๆ จาก Apple

ไม่เพียงแต่ iPhone เท่านั้นที่ได้รับการยุติการผลิต ผลิตภัณฑ์อื่นๆ จาก Apple ก็มีการปรับเปลี่ยนเช่นเดียวกัน ในงานเปิดตัวเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา Apple ได้ทำการแทนที่ AirPods Max รุ่นก่อนหน้าด้วยรุ่นใหม่ที่มีการเปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อย ซึ่งมาพร้อมกับพอร์ต USB-C แทนพอร์ต Lightning ที่เคยใช้ นอกจากนี้ยังมีการเปิดตัว AirPods รุ่นใหม่ที่ออกแบบใหม่ รวมถึงชิป H2 ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการฟังเสียงแบบส่วนบุคคลและติดตามการเคลื่อนไหวของศีรษะ

สำหรับผู้ที่ต้องการฟีเจอร์ที่มากขึ้น AirPods 4 รุ่นใหม่ในราคาที่ $179 จะมาพร้อมกับระบบตัดเสียงรบกวนแบบแอคทีฟ เสียงที่ปรับตามสภาพแวดล้อม โหมดโปร่งใส และเคสชาร์จแบบ USB-C ที่สามารถชาร์จด้วย Apple Watch และ Qi ได้ รวมถึงมีลำโพงในตัวเพื่อแจ้งเตือนสถานะการชาร์จ นอกจากนี้ Apple ยังได้ยุติการผลิต Apple Watch Series 9 เพื่อเปิดทางให้กับ Apple Watch Series 10 ที่เปิดตัวในปีนี้ ขณะที่ Apple Watch Ultra 2 ยังคงมีวางจำหน่ายเช่นเดิมแต่มีการเพิ่มสีใหม่เป็นสี Smooth Slate เพื่อให้ผู้ใช้งานมีตัวเลือกมากขึ้น

ยุติการผลิตเคส FineWoven

อีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ที่ได้รับผลกระทบจากการปรับเปลี่ยนครั้งนี้คือเคส FineWoven สำหรับ iPhone ที่ได้รับคำติชมด้านลบจากผู้ใช้หลายคน ทำให้ Apple ตัดสินใจหยุดการผลิตเคส FineWoven สำหรับ iPhone แต่ไม่ได้ยุติการใช้วัสดุนี้ทั้งหมด ยังมีการใช้ FineWoven ในสาย Apple Watch และกระเป๋าเงิน MagSafe บางรุ่นอยู่ ซึ่งผู้ใช้สามารถเลือกซื้อได้ตามความชอบ

สรุป

การยุติการผลิตผลิตภัณฑ์หลายๆ รุ่นของ Apple เป็นการยืนยันถึงความมุ่งมั่นของบริษัทในการนำเสนอเทคโนโลยีที่ดีที่สุดให้กับผู้ใช้งาน แม้ว่า iPhone 15 Pro, iPhone 13 และผลิตภัณฑ์อื่นๆ จะถูกยุติการผลิตแล้ว แต่ผู้ที่สนใจยังสามารถหาซื้อได้จากร้านค้าปลีกที่ยังมีสินค้าคงเหลืออยู่ในระยะเวลาจำกัด ในอนาคต Apple ยังคงมีแผนที่จะเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ล้ำสมัยยิ่งขึ้น เพื่อตอบสนองต่อความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัย