การเปลี่ยนแปลงใหม่ของ Google Shopping ด้วย AI

Google ได้เปิดตัวประสบการณ์ใหม่ของ Google Shopping โดยนำเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) มาใช้อย่างเต็มรูปแบบ เพื่อยกระดับการค้นหาสินค้าและการซื้อของออนไลน์ให้ตรงกับความต้องการของผู้ใช้มากยิ่งขึ้น การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้เกิดขึ้นจากการสร้างระบบใหม่ทั้งหมด ตั้งแต่การจับคู่สินค้ากว่า 45 พันล้านรายการเข้ากับโมเดล AI ที่ชื่อว่า Google Gemini ซึ่งจะช่วยให้ผู้ใช้ได้รับคำแนะนำที่เฉพาะเจาะจงและเป็นส่วนตัวมากขึ้นในการเลือกซื้อสินค้า

การปรับปรุง Google Shopping ในครั้งนี้ไม่เพียงแต่ช่วยให้ผู้ใช้ค้นหาสินค้าที่ต้องการได้อย่างแม่นยำ แต่ยังนำเสนอสินค้าในรูปแบบที่ง่ายต่อการเลือกซื้อ โดยมีการจัดหมวดหมู่ของสินค้าให้ชัดเจน และมีฟิลเตอร์ที่สามารถปรับแต่งได้ตามความต้องการเฉพาะของแต่ละบุคคล นอกจากนี้ ยังมีฟีเจอร์การลองสินค้าผ่านการจำลองเสมือนจริง (AR) รวมถึงพื้นที่ที่รวบรวมข้อเสนอพิเศษส่วนบุคคล ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสบการณ์การช้อปปิ้งให้สะดวกและคุ้มค่ายิ่งขึ้น

Google ได้ประกาศปรับปรุงฟีเจอร์ Google Shopping ใหม่ล่าสุด โดยใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) เพื่อสร้างประสบการณ์การช้อปปิ้งที่เหนือกว่าเดิม ทั้งนี้ Google ได้เริ่มปรับโฉม Google Shopping ใหม่ตั้งแต่ฐานราก ด้วยการนำโมเดล AI ที่ชื่อว่า Google Gemini มาใช้ร่วมกับรายการสินค้ากว่า 45 พันล้านรายการ ซึ่งโมเดลนี้ถูกออกแบบมาเพื่อช่วยให้คำแนะนำสินค้าเป็นไปอย่างแม่นยำและตรงกับความสนใจส่วนบุคคลของผู้ใช้งาน

ฟีเจอร์ใหม่นี้ถูกออกแบบมาเพื่อช่วยให้ผู้ใช้ได้รับคำแนะนำที่ดีที่สุดเมื่อต้องการซื้อสินค้า โดยเมื่อผู้ใช้ทำการค้นหาสินค้า AI จะทำการประมวลผลและแสดงสินค้าที่เกี่ยวข้องมากที่สุด พร้อมทั้งเสนอแนะสินค้าเด่นที่ควรพิจารณา ด้วยการจัดเรียงสินค้าเป็นหมวดหมู่ ผู้ใช้สามารถมองเห็นภาพรวมของประเภทสินค้าต่าง ๆ และยังมีฟิลเตอร์ที่สามารถปรับแต่งเพื่อคัดกรองสินค้าตามความต้องการเฉพาะ เช่น ราคา สี ขนาด หรือคุณสมบัติอื่น ๆ ที่สำคัญกับผู้ใช้

หนึ่งในฟีเจอร์ที่โดดเด่นของ Google Shopping ใหม่คือการเพิ่มระบบทดลองสินค้าผ่านเทคโนโลยีเสมือนจริง (AR) ผู้ใช้สามารถทดลองสวมใส่สินค้า เช่น แว่นตา รองเท้า หรือเครื่องแต่งกายแบบเสมือนจริง เพื่อให้มั่นใจว่าสินค้าที่เลือกซื้อจะตรงกับความต้องการมากที่สุด นอกจากนี้ Google ยังได้เพิ่มส่วนที่เรียกว่า “Deals” ซึ่งจะนำเสนอโปรโมชั่นและข้อเสนอพิเศษที่ปรับให้ตรงกับความสนใจและการค้นหาที่ผ่านมาของผู้ใช้

หน้าแรกของ Google Shopping ใหม่นี้ถูกปรับแต่งให้เป็นฟีดส่วนบุคคลที่เต็มไปด้วยคำแนะนำตามการค้นหาและความสนใจที่ผ่านมาของผู้ใช้ การแนะนำสินค้าในฟีดนี้จะปรับเปลี่ยนตามความชอบและพฤติกรรมของผู้ใช้ โดยที่ผู้ใช้สามารถปิดการแนะนำส่วนบุคคลได้หากไม่ต้องการฟีเจอร์นี้ โดยการไปที่เมนูของ Google Shopping และเลือก “Shopping preferences” ที่อยู่ด้านล่างของหน้า

Google Shopping ใหม่กำลังทยอยเปิดให้ผู้ใช้ในสหรัฐอเมริกาได้ทดลองใช้งาน แม้ว่าบางคนอาจยังไม่เห็นการเปลี่ยนแปลงนี้ในทันที แต่ Google ได้ระบุว่าฟีเจอร์ใหม่นี้จะพร้อมใช้งานสำหรับผู้ใช้ทุกคนในสหรัฐอเมริกาภายในไม่กี่สัปดาห์

การนำ AI มาผสานเข้ากับ Google Shopping ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการค้นหาสินค้าและทำให้กระบวนการช้อปปิ้งออนไลน์สะดวกและเป็นมิตรกับผู้ใช้มากยิ่งขึ้น ฟีเจอร์เหล่านี้แสดงให้เห็นว่า Google กำลังมุ่งมั่นที่จะตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้แต่ละคน โดยการนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาใช้ในการปรับปรุงบริการ นอกจากฟีเจอร์เสมือนจริงและข้อเสนอส่วนบุคคลแล้ว Google ยังได้ให้ความสำคัญกับการจัดเรียงข้อมูลที่ชัดเจนและมีประสิทธิภาพ ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้สามารถค้นหาสินค้าที่ต้องการได้ง่ายขึ้น

ไม่ว่าผู้ใช้จะมองหาสินค้าประเภทใด ฟีเจอร์การกรองข้อมูลที่มีประสิทธิภาพจะช่วยให้การเลือกสินค้ารวดเร็วขึ้น เช่น การกรองตามราคาหรือการเลือกสินค้าที่ตรงกับคุณสมบัติเฉพาะ อีกทั้งผู้ใช้ยังสามารถมั่นใจได้ว่าสินค้าที่เลือกจะตอบโจทย์ความต้องการของตนเองได้เป็นอย่างดี เนื่องจาก Google Gemini จะช่วยให้คำแนะนำสินค้าเป็นไปอย่างแม่นยำและตรงใจมากที่สุด

Google Shopping ใหม่นี้ยังช่วยให้ผู้ใช้สามารถประหยัดเวลาและเงินมากยิ่งขึ้น ด้วยการรวบรวมโปรโมชั่นที่ตรงกับความต้องการของแต่ละบุคคล การใช้ฟีเจอร์ “Deals” ช่วยให้ผู้ใช้ไม่พลาดโอกาสในการได้รับข้อเสนอที่ดีที่สุดจากร้านค้าต่าง ๆ โดย Google จะทำการประมวลผลข้อมูลจากการค้นหาที่ผ่านมา เพื่อให้ได้ข้อเสนอพิเศษที่คุ้มค่าที่สุด

การปรับปรุง Google Shopping ด้วยการนำ AI มาใช้ครั้งนี้เป็นก้าวสำคัญที่ช่วยให้การซื้อสินค้าออนไลน์เป็นไปอย่างสะดวกและรวดเร็วมากขึ้น ฟีเจอร์ที่ช่วยในการเลือกซื้อสินค้าเสมือนจริง การจัดหมวดหมู่ที่ชัดเจน และข้อเสนอพิเศษส่วนบุคคล ล้วนแต่เป็นประโยชน์ที่ทำให้ผู้ใช้สามารถเลือกซื้อสินค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ ฟีเจอร์เหล่านี้ยังช่วยให้ผู้ใช้ได้รับสินค้าที่ตรงกับความต้องการมากที่สุด ซึ่งเป็นสิ่งที่ Google มุ่งมั่นที่จะพัฒนาเพื่อเพิ่มความสะดวกสบายและประสบการณ์ที่ดีที่สุดแก่ผู้ใช้