รีวิวหนังเกาหลี

[รีวิว-เรื่องย่อ] ตั๊กแตนนักฆ่า | Mantis (2025)

  • Mantis เป็นทั้งภาคต่อและสปินออฟจาก Kill Boksoon เล่าเรื่องหลังเหตุการณ์ปี 2023 เน้นตัวละครใหม่ในโลกนักฆ่า
  • การแสดงของอิม ชีวาน (Yim Si-wan) ในบทฮันอุลโดดเด่น แสดงความเก่งกาจและความซับซ้อนได้อย่างน่าประทับใจ
  • หนังสำรวจธีมความขัดแย้งระหว่างความรัก การงาน และการทรยศในวงการนักฆ่า
  • ผู้กำกับลี แทซอง (Lee Tae-sung) นำเสนอฉากแอ็คชั่นตื่นเต้น แต่ส่วนดราม่ายังไม่ค่อยเข้าถึงอารมณ์

เราเคยคิดไหมว่าชีวิตนักฆ่ารับจ้างมันจะยุ่งเหยิงขนาดไหน ถ้าต้อง balancing ระหว่างงานฆ่าคนกับชีวิตส่วนตัว? หนัง Mantis (2025) ของผู้กำกับ ลี แทซอง (Lee Tae-sung) พาเราไปดำดิ่งสู่จักรวาลนักฆ่าที่ต่อยอดจาก Kill Boksoon เรื่องจริงจากปี 2023 ที่ตัวเอกอย่างกิล บกซุน (รับบทโดยจอน โดยอน) ต้องรับมือทั้งงานฆ่าและเลี้ยงลูกสาว แต่คราวนี้โฟกัสไปที่ฮันอุล นักฆ่ามือฉมังที่ชีวิตพลิกผันเพราะปมขัดแย้งรอบตัว

เรื่องราวเริ่มจาก ฮันอุล แสดงโดย อิม ชีวาน (Yim Si-wan) ที่กำลังทำภารกิจฆ่า เหมือนใน Kill Boksoon ที่บกซุนใช้ค้อนธรรมดาฟาดศัตรู แต่ที่นี่ศัตรูชอบเรียกฮันอุลผิดๆ ว่า “ยุง” หรือ “ตั๊กแตน” แทนที่จะจำชื่อเล่นว่า Mantis ได้ มันตลกแต่ก็แสดงให้เห็นว่าเขาคือมือโปรตัวจริงที่ไม่สนคำดูถูก แล้วยังมีแจยี (รับบทโดยพัค กยูยอง) นักฆ่าสาวที่เปิดองค์กรของตัวเอง พวกเขาชอบกันแต่ไม่พูดออกมา สร้างความตึงเครียดแบบโรแมนติกที่หนังควรเล่นใหญ่ แต่กลับไม่ค่อยจุดติด

ในบทความนี้ เราจะพาไปเจาะลึกทุกมุมของ หนัง Mantis ตั้งแต่การแสดงที่เด่นๆ ไปจนถึงธีมลึกซึ้งเกี่ยวกับการทรยศและการเอาชีวิตรอดในโลกนักฆ่า มาดูกันว่าหนังเรื่องนี้จะทำให้เรารู้สึกยังไงกับความขัดแย้งที่ซ่อนอยู่ในใจคน

Mantis (2025) #1

รีวิวและเรื่องย่อ Mantis (ตั๊กแตนนักฆ่า)

Mantis เล่าเรื่องการขยายจักรวาลนักฆ่าจาก Kill Boksoon โดยตั้งหลังเหตุการณ์ในหนังเรื่องก่อน เน้นตัวละคร ฮันอุล หรือ Mantis (รับบทโดยอิม ชีวาน) นักฆ่าที่เก่งกาจแต่ต้องเผชิญกับความขัดแย้งมากมาย เหมือนการจุดไฟระหว่างความรักกับงาน ระหว่างเจ้านายกับลูกน้อง หรือแม้แต่ครูกับศิษย์ ฮันอุลถูกแนะนำขณะทำภารกิจฆ่า ที่ศัตรูชอบล้อชื่อเล่นของเขาแบบผิดๆ แต่เขาก็พิสูจน์ตัวเองด้วยฝีมือที่เฉียบคม ถ้าบกซุนไม่ได้ฆ่าชา มินกยูในเรื่องก่อน ฮันอุลกับแจยีคงรุ่งเรืองกว่านี้

แจยี (พัค กยูยอง) คืออีกหนึ่งนักฆ่าที่เปิดองค์กรตัวเอง เหมือน startup ในโลกมืด เธอกับฮันอุลชอบกันแต่เก็บไว้ในใจ สร้างโอกาสให้เกิดดราม่าโรแมนติก แต่หนังกลับไม่ขุดลึกตรงนี้เท่าที่ควร มันเหมือนมีไฟแต่ไม่ลุกโหม เหมือนกองฟืนที่เปียกฝน หนังมีธีมหนักๆ อย่างการถูกครูบอกว่าไร้พรสวรรค์ หรือเจ้านายเล่นพรรคเล่นพวก แต่สุดท้ายมันอยู่แค่บนกระดาษ ไม่ค่อยถ่ายทอดออกมาให้รู้สึกจริงจัง

หนังยังสำรวจความขัดแย้งแบบต่างๆ เช่น ถ้าคนที่สอนทุกอย่างให้เราบอกว่าเราไม่เก่งพอ จะทำยังไง? หรือถ้าต้องเลือกฆ่าครูตัวเองเพื่อเอาชีวิตรอด? คำถามพวกนี้ควรทำให้หนังระเบิดอารมณ์ แต่ผู้กำกับลี แทซองกลับไม่ค่อยทำให้มันเข้าถึงใจคนดู ตัวละครรองๆ ดูเหมือนแค่ประกอบฉาก ไม่มีชีวิตจริงๆ ของตัวเอง

การแสดงของ อิม ชีวาน (Yim Si-wan) ในบทฮันอุลคือจุดเด่นสุดๆ เขาถ่ายทอดความเก่งกาจแบบไม่ตลกโปกฮา แต่เป็นมือโปรที่จริงจัง ฉากต่อสู้ของเขาดูตื่นเต้น ด้วยคอเรโอกราฟีที่ลื่นไหลและกล้องที่เคลื่อนไหวพลิ้วไหว มันเหมือนการเต้นรำแห่งความตายที่ทำให้เราลุ้นตาม แต่พอถึงฉากพูดคุย อารมณ์มันหายไป เหมือนไฟที่มอดลงกะทันหัน ชีวานแสดงความเศร้าและความขัดแย้งภายในได้ แต่หนังไม่ทำให้เรารู้สึกเชื่อมโยง

พัค กยูยอง (Park Gyu-young) ในบทแจยีก็ทำได้ดี เธอเป็นนักฆ่าสาวที่มั่นใจและมีเสน่ห์ แต่ความสัมพันธ์กับฮันอุลกลับไม่ค่อยพัฒนา เหมือนหนังลืมใส่เชื้อเพลิงให้โรแมนติก มันน่าเสียดาย เพราะธีมความรักในโลกนักฆ่าควรจะเข้มข้นกว่านี้ เหมือนคู่รักที่เจอกันแต่ไม่กล้าบอก มันสร้างความตึงเครียดแต่ไม่เคยระเบิดออกมา

นักแสดงอื่นๆ อย่างทีมงานของแจยีดูเหมือนแค่ตัวประกอบ ไม่มีมิติลึกซึ้ง มันทำให้โลกในหนังดูแบนๆ เหมือนภาพวาดที่สวยแต่ไร้ชีวิต ผู้กำกับเก่งเรื่องแอ็คชั่น แต่ส่วนดราม่ากลับธรรมดา เหมือนกินอาหารอร่อยแต่ขาดรสชาติ

Mantis (2025) #2

สไตล์การกำกับของ ลี แทซอง (Lee Tae-sung) เหมาะกับฉากแอ็คชั่นมาก หนังถ่ายทำการต่อสู้แบบมีพลัง กล้องหมุนและตัดต่อลื่นไหล ทำให้เรารู้สึกตื่นเต้น เหมือนดูการแข่งขันที่ดุเดือด แต่พอถึงบทสนทนา มันกลับนิ่งๆ ไม่มีไอเดียใหม่ๆ มันเหมือนรถสปอร์ตที่วิ่งเร็วแต่จอดนิ่งสนิทตอนไม่เร่งเครื่อง หนังดูเท่และขัดเกลา แต่ไม่ดึงเราเข้าไปในโลกจริงๆ

ธีมหลักอย่างการทรยศและการเอาชีวิตรอดถูกนำเสนอแบบมีสไตล์ แต่ขาดความลึกทางอารมณ์ มันทำให้ Mantis เป็นหนังที่ดูเพลินแต่ไม่ติดใจ เหมือนกาแฟที่หอมแต่จืดชืด หนังมีศักยภาพแต่ไม่ถึงจุดสูงสุด เหมือนวางพล็อตไว้ดีแล้ว แต่ทำออกมาได้ไม่สุด

โดยรวมแล้ว หนังสำรวจความขัดแย้งในโลกนักฆ่าได้น่าสนใจ แต่ส่วนดราม่ายังไม่ค่อยโดนใจ มันเหมาะกับคนชอบแอ็คชั่นมากกว่าดราม่าลึกซึ้ง

Mantis (2025) ทำให้เราตั้งคำถามกับชีวิตในโลกที่เต็มไปด้วยการทรยศและความขัดแย้ง หนังเรื่องนี้แสดงให้เห็นว่าปัญหาไม่ได้อยู่ที่งานหรือสถานที่ แต่อยู่ที่ ธรรมชาติของมนุษย์ ที่ซับซ้อนและพร้อมพลิกผัน แม้จะมีจุดเด่นเรื่องแอ็คชั่น แต่ดราม่ายังไม่ค่อยเข้าถึง มันเหมือนกระจกสะท้อนว่าความรักและความเกลียดในวงการมืดมันใกล้กันแค่ไหน

สำหรับใครที่ชอบ หนังแอ็คชั่นเกาหลีดราม่าที่มีเนื้อหาลึกซึ้ง และอยากเห็นการแสดงเจ๋งๆ จากอิม ชีวาน Mantis คือเรื่องที่ไม่ควรพลาด หนังทำให้เราคิดถึงการบาลานซ์ชีวิตและงานในแบบสุดขั้ว มาแชร์ความเห็นในคอมเมนต์ว่าหนังเรื่องนี้ทำให้เรารู้สึกยังไงกับปมขัดแย้งในชีวิตจริง และอย่าลืมแชร์รีวิวนี้ให้เพื่อนๆ ที่ชอบหนังแนวฆ่าฟันจิตวิทยา!

  • ชื่อเรื่องในภาษาไทย: ตั๊กแตนนักฆ่า
  • ประเภท: แอ็คชั่น, ดราม่า, ระทึกขวัญ
  • วันที่ออกฉาย: 15 กันยายน 2568
  • นักแสดงนำ: Yim Si-wan, Park Gyu-young, Jo Woo-jin
  • ผู้กำกับ: ลี แทซอง (Lee Tae-sung)
  • ความยาว: 1 ชั่วโมง 53 นาที
  • เรตติ้ง IMDb: 5.4/10
  • ช่องทางการดูในประเทศไทย: Netflix

กดเพื่ออ่านต่อ

PhiRa W.

เป็นนักเขียนอิสระที่หลงใหลในสื่อบันเทิงทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นภาพยนตร์ ซีรีส์ วาไรตี้ และสารคดี ผมชอบที่จะวิเคราะห์และถอดรหัสเนื้อหาเหล่านั้นออกมาในรูปแบบของรีวิวที่เข้าใจง่ายและสนุกสนาน เพื่อแบ่งปันมุมมองและประสบการณ์ให้กับผู้อ่าน

บทความที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Back to top button