รีวิวซีรีส์ญี่ปุ่น

[รีวิว-เรื่องย่อ] อลิสในแดนมรณะ | Alice in Borderland ซีซั่น 3

  • Alice in Borderland ซีซั่น 3 สร้างจากเรื่องจริงของการเอาชีวิตรอดในโลกเกมสุดโหด ที่เต็มไปด้วยดราม่าและคำถามชีวิต
  • การแสดงของนักแสดงนำอย่างเคนโตะ ยามาซากิและทาโอะ ซึชิยะยังคงโดดเด่น สื่ออารมณ์ความสิ้นหวังและความหวังได้อย่างเข้าถึง
  • ซีรีส์สำรวจธีมการต่อสู้ดิ้นรนและความขัดแย้งระหว่างเหตุผลกับอารมณ์ในสถานการณ์วิกฤต
  • ผู้กำกับชินตะ โชจิ นำเสนอเรื่องราวที่ตึงเครียด เต็มเปี่ยมด้วยการหักมุมและความรุนแรงทางจิตใจ

เคยฝันไหมว่าจะหลุดเข้าไปในโลกเกมที่ชีวิตแขวนอยู่บนเส้นด้าย ทุกการตัดสินใจหมายถึงความเป็นความตาย? ซีรีส์ Alice in Borderland ซีซั่น 3 บน Netflix พาเราไปสัมผัสกับการกลับมาของอาริสึที่ต้องเผชิญหน้ากับแดนมรณะอีกครั้ง หลังจากคิดว่าทุกอย่างจบลงแล้วในซีซั่นที่แล้ว ซีซั่นนี้เล่าเรื่องการตามหาอุซากิที่หายตัวไป พร้อมกับคำถามใหญ่ที่ว่า เราจะเอาชนะอุปสรรคสุดท้ายเพื่อความสงบสุขได้จริงๆ เหรอ? ด้วยเกมที่โหดร้ายและการหักมุมที่ทำให้ใจเต้นรัว มันคือการผจญภัยที่เต็มไปด้วยดราม่าจิตวิทยา

เรื่องราวเริ่มต้นจากอาริสึที่ตื่นขึ้นในแดนมรณะอีกครั้ง โดยไม่รู้ว่าอุซากิถูกพาตัวไปไหน แต่สิ่งที่น่าหงุดหงิดที่สุดคืออุซากิที่ดูเหมือนไม่สนใจจะบอกความรู้สึกของตัวเองก่อนตัดสินใจใหญ่โต มันทำให้ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ดูซ้ำซาก เหมือนพล็อตดราม่าที่เราเห็นบ่อยๆ ในซีรีส์ทั่วไป ซึ่งต่างจากสองซีซั่นก่อนที่ตัวละครทั้งคู่ฉลาดและมีเหตุผลมากกว่านี้ ซีซั่นนี้เลยรู้สึกว่าบางส่วนถูกบังคับเพื่อเดินเรื่อง ซึ่งทำให้เราอดถอนหายใจไม่ได้

ในบทความนี้ เราจะพาไปเจาะลึกทุกมุมของซีซั่น 3 ตั้งแต่จุดเด่นของเกม การแสดงของนักแสดง ไปจนถึงข้อเสียที่ทำให้ซีซั่นนี้ไม่เป๊ะเท่าที่ควร มาดูกันว่า Alice in Borderland ยังคงรักษาเสน่ห์เดิมไว้ได้แค่ไหน หรือมันจะกลายเป็นแค่ซีรีส์ทั่วไปที่เราดูผ่านๆ

Alice in Borderland Season 3 #1

รีวิวและเรื่องย่อ Alice in Borderland (อลิสในแดนมรณะ) ซีซั่น 3

Alice in Borderland ซีซั่น 3 เล่าเรื่องต่อจากซีซั่นที่แล้ว โดยอาริสึ (เคนโตะ ยามาซากิ) กลับมาที่แดนมรณะเพื่อตามหาอุซากิ (ทาโอะ ซึชิยะ) ที่ถูกมัตสึยามะพาตัวไป โลกเกมนี้ยังคงเต็มไปด้วยเกมสุดโหดที่ทดสอบทั้งสมองและจิตใจ แต่ซีซั่นนี้เพิ่มมิติใหม่ด้วยการเปิดเผยที่มาของแดนมรณะ ซึ่งน่าสนใจและทำให้เราอยากรู้ว่ามันคืออะไรกันแน่ เหมือนกับการไขปริศนาที่ค้างคาใจมาตั้งแต่ซีซั่นแรก

อย่างไรก็ตาม บางเกมรู้สึกซ้ำซากกับซีซั่นก่อนๆ ทำให้ความตื่นเต้นลดลง เช่น เกมที่ต้องใช้กลยุทธ์คล้ายๆ กัน แต่ก็มีเกมดีๆ ที่สนุกและทำให้เราลุ้นตัวโก่ง โดยเฉพาะฉากที่ตัวละครต้องเผชิญหน้ากับความกลัวส่วนตัว มันสะท้อนถึงชีวิตจริงที่เราต้องเลือกทางเดินในสถานการณ์คับขัน

การแสดงของนักแสดงนำยังคงเป็นจุดแข็ง เคนโตะ ยามาซากิถ่ายทอดความสิ้นหวังของอาริสึได้อย่างเข้าถึง ทำให้เรารู้สึกเอาใจช่วยตลอดเวลา แต่ส่วนที่น่าผิดหวังคือพัฒนาการของอุซากิที่ดูไม่สมเหตุสมผล เธอตามผู้ชายแปลกหน้าไปโดยไม่คิดหน้าคิดหลัง ซึ่งขัดกับตัวละครที่เราเคยรู้จัก

จุดเด่นของซีซั่นนี้คือการเจาะลึกประเด็นจริยธรรมที่เราพบเจอในชีวิตประจำวัน เช่น การเลือกข้างระหว่างเหตุผลกับอารมณ์ หรือการเสียสละเพื่อคนที่รัก มันเหมือนกับการโยนคำถามให้เราว่า ถ้าเราอยู่ในสถานการณ์แบบนั้น เราจะทำยังไง? การอธิบายที่มาของแดนมรณะก็น่าติดตาม ทำให้ซีรีส์ไม่ใช่แค่เกมฆ่าเวลา แต่เป็นบทเรียนชีวิตที่แฝงไว้อย่างแนบเนียน

นักแสดงสมทบก็ทำหน้าที่ได้ดี โดยเฉพาะตัวละครใหม่ที่เพิ่มความซับซ้อนให้เรื่องราว แต่การแสดงของทาโอะ ซึชิยะในบทอุซากิกลับรู้สึกแบนๆ เพราะพล็อตบังคับให้เธอทำอะไรที่ไม่เมคเซนส์ เช่น การลืมเป้าหมายเดิมทันทีที่เจออาริสึ มันทำให้เราสงสัยว่าตัวละครนี้เปลี่ยนไปยังไง

รวมๆ แล้ว การแสดงโดยรวมยังคงยอดเยี่ยม แต่บางส่วนรู้สึกถูกยัดเยียดเพื่อเดินเรื่อง ซึ่งลดเสน่ห์ที่ซีรีส์เคยมีในซีซั่นก่อนๆ ลงไป

character details of the Alice in Borderland Season 3 cast

จุดด้อยใหญ่คือพัฒนาการตัวละคร โดยเฉพาะความสัมพันธ์ของอาริสึกับอุซากิที่ทำให้เราอยากกลอกตา มันเหมือนกับซีรีส์รักน้ำเน่าที่ผสมเข้ากับเกมเอาชีวิตรอด ซึ่งไม่เข้ากันเลย และบางคำถามที่ยกขึ้นมาก็ไม่ได้รับคำตอบ ทำให้เรื่องราวรู้สึกค้างคาแบบไม่น่าพอใจ

ตอนจบยิ่งแย่ เพราะจบด้วยคลิฟแฮงเกอร์ที่ดูไร้เหตุผล เหมือนโยนอะไรใหม่ๆ เข้ามาเพื่อเรียกความสนใจ แต่กลับทำให้ทุกอย่างดูยุ่งเหยิง เหมือนกับการเล่นเกมที่ใกล้ชนะแต่จู่ๆ ก็รีเซ็ตใหม่โดยไม่มีเหตุผล มันทำให้เรารู้สึกว่าซีซั่นนี้ไม่สมบูรณ์

โดยรวม เกมบางเกมยังสนุก แต่หลายอย่างรู้สึกซ้ำและไม่สดใหม่ ทำให้ซีซั่น 3 ไม่เปรี้ยงเท่าที่ควร

Alice in Borderland Season 3 #2

ธีมหลักของซีซั่นนี้คือการต่อสู้กับตัวเองและสังคมในโลกที่ไร้กฎเกณฑ์ มันถามเราว่า ความสงบสุขจริงๆ คืออะไร? การกำกับของชินตะ โชจิยังคงตึงเครียด สร้างบรรยากาศที่ทำให้เราลุ้นตลอดเวลา เหมือนกับการนั่งรถไฟตีลังกาที่ไม่รู้จะจบยังไง

เสียงประกอบและภาพก็ช่วยเสริมให้เรื่องราวน่าติดตาม โดยเฉพาะฉากเกมที่ถ่ายทำได้สมจริง แต่บางส่วนรู้สึกยืดเยื้อ ทำให้ความเข้มข้นลดลง บทภาพยนตร์มีหักมุมดีๆ แต่ตอนจบทำให้ทุกอย่างดูไม่ลงตัว เหมือนปริศนาที่แก้ไม่เสร็จ

Alice in Borderland ซีซั่น 3 ทำให้เราตั้งคำถามกับการตัดสินใจในชีวิต แม้จะมีจุดด้อยเรื่องพัฒนาการตัวละครและตอนจบที่งงๆ แต่เกมและธีมลึกซึ้งยังคงทำให้มันน่าดูสำหรับแฟนๆ ซีรีส์นี้แสดงให้เห็นว่าปัญหาไม่ได้อยู่ที่โลกภายนอก แต่อยู่ที่ ธรรมชาติของมนุษย์ ที่เต็มไปด้วยความขัดแย้ง แม้จะพยายามสร้างสวรรค์แค่ไหนก็ตาม

สำหรับใครที่ชอบ ซีรีส์ดราม่าจิตวิทยา และเกมเอาชีวิตรอด Alice in Borderland ซีซั่น 3 ยังคงมีเสน่ห์พอให้ติดตาม แต่ถ้าคาดหวังความสมบูรณ์แบบเหมือนสองซีซั่นก่อน อาจผิดหวังนิดๆ มาแชร์ความเห็นกันในคอมเมนต์ว่าซีซั่นนี้ทำให้เราคิดยังไงเกี่ยวกับการเอาชีวิตรอด และอย่าลืมแชร์รีวิวนี้ให้เพื่อนๆ ที่เป็นแฟนซีรีส์แนวนี้!

  • ชื่อเรื่องในภาษาไทย: อลิสในแดนมรณะ ซีซั่น 3
  • ประเภท: ดราม่า, ระทึกขวัญ, เอาชีวิตรอด
  • วันที่ออกฉาย: 25 กันยายน 2568
  • นักแสดงนำ: เคนโตะ ยามาซากิ (Kento Yamazaki), ทาโอะ ซึชิยะ (Tao Tsuchiya), และนักแสดงสมทบ
  • ผู้กำกับ: ชินตะ โชจิ (Shinsuke Sato)
  • ความยาว: 6 ตอน
  • เรตติ้ง IMDb: 7.8/10
  • ช่องทางการดูในประเทศไทย: Netflix

กดเพื่ออ่านต่อ

PhiRa W.

เป็นนักเขียนอิสระที่หลงใหลในสื่อบันเทิงทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นภาพยนตร์ ซีรีส์ วาไรตี้ และสารคดี ผมชอบที่จะวิเคราะห์และถอดรหัสเนื้อหาเหล่านั้นออกมาในรูปแบบของรีวิวที่เข้าใจง่ายและสนุกสนาน เพื่อแบ่งปันมุมมองและประสบการณ์ให้กับผู้อ่าน

บทความที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Back to top button