รีวิวหนัง-ซีรีส์

[รีวิว-เรื่องย่อ] หลอนสะพรึง | True Haunting (2025)

  • True Haunting นำเสนอสารคดีผีด้วยสไตล์หนังสยองขวัญคุณภาพสูงโดยเจมส์ วาน ทำให้ดูสวยงามและมีสไตล์มากกว่าสารคดีผีทั่วไป
  • ซีรีส์เน้นไปที่ฉากแสดงซ้ำที่มีคุณภาพระดับหนังโรงมากกว่าการพิสูจน์ว่าเรื่องราวเป็นจริง ทำให้เหมาะกับคนที่ชอบความบันเทิงมากกว่าหลักฐาน
  • ไม่ได้หลอนมากแต่มีบรรยากาศอบอุ่นเหมือนการเล่าเรื่องผีข้างกองไฟ ไม่เน้นจัมแสร์มากเกินไปจนน่ารำคาญ
  • เหมาะกับแฟนงานเจมส์ วานและคนที่อยากดูสารคดีผีในรูปแบบใหม่ แต่อาจไม่เหมาะกับคนที่ต้องการสารคดีจริงจังที่มีหลักฐานชัดเจน

เคยดูสารคดีเรื่องผีบ้างไหม? ส่วนใหญ่แล้วมันมักจะมีฉากแสดงซ้ำเหตุการณ์ที่ดูโคตรห่วย จนเราอยากกดข้ามไปเลยใช่ไหมล่ะ? แต่ถ้าบอกว่ามีซีรีส์ที่เอาเรื่องผีจริงมาทำใหม่ด้วยสไตล์ หนังโรง ที่สวยปังสุดๆ โดยมือของ เจมส์ วาน (James Wan) ผู้กำกับตำนาน The Conjuring และ Insidious ล่ะ จะเชื่อไหมว่าสารคดีผีก็ดูสนุกได้?

True Haunting บน Netflix คือคำตอบสำหรับคนที่เบื่อสารคดีผีธรรมดาๆ ที่มีแค่คนมานั่งเล่าเรื่องหน้ากล้องแล้วตัดไปฉากแสดงซ้ำที่ดูเหมือนละครโทรทัศน์ท้องถิ่น ซีรีส์เรื่องนี้ยกระดับเกมขึ้นมาอีกขั้น ด้วยการทำให้ฉากแสดงซ้ำดูเหมือนหนังสยองขวัญตัวเต็มจริงๆ มีการสร้างบรรยากาศที่หลอน แสง สี เสียงที่ปังไม่แพ้หนังในโรง แต่ยังคงเป็น สารคดีที่บอกว่ามาจากเรื่องจริง อยู่นะ

ในบทความนี้ เราจะพาไปดูว่าซีรีส์เรื่องนี้ทำได้ดีแค่ไหน ตั้งแต่สไตล์การเล่าเรื่องที่แตกต่าง ไปจนถึงคำถามว่ามันหลอนจริงหรือแค่สวยเปล่าๆ และเหมาะกับใครบ้างที่ควรดู มาดูกันว่า True Haunting จะเปลี่ยนวิธีที่เรามองสารคดีผีได้อย่างไร

Netflix ไม่ใช่มือใหม่เรื่องสารคดีผีหรอก ใครเคยดู Haunted ที่แย่สุดๆ จนได้ถึง 3 ซีซันก็รู้ว่าคนดูชอบเรื่องแบบนี้แค่ไหน หรือ 28 Days Haunted ที่ปังมากก็ยืนยันว่า คอนเทนต์เรื่องผีและบ้านผีสิง เป็นที่ต้องการของตลาดมากๆ และถ้าใครมาวิจารณ์หรือไม่เชื่อเรื่องผี เตรียมโดนด่าได้เลยนะ เพราะแฟนเนื้อหาแนวนี้พวกเขาจริงจังมากๆ

True Haunting นำเสนอตัวเองว่าเป็นเรื่องจริง แต่จุดขายไม่ได้อยู่ที่ความจริงของเรื่องราวเท่าไหร่ แต่อยู่ที่วิธีการนำเสนอ ซีรีส์เรื่องนี้ไม่ได้พยายามโน้มน้าวใจเราว่าผีมีจริงด้วยหลักฐานหรือคำพูดของคนที่เจอมา แต่เน้นไปที่การสร้าง บรรยากาศที่หลอนและน่าติดตาม ผ่านฉากแสดงซ้ำที่ดูเหมือนหนังจริงๆ มีการจัดแสง มุมกล้อง และเทคนิคการสร้างความกลัวแบบที่เราเคยเห็นในหนังสยองขวัญคุณภาพสูง

เจมส์ วานเป็นตัวเลือกที่สมบูรณ์แบบสำหรับโปรเจกต์แบบนี้ แม้ว่าเขาจะไม่ได้กำกับทุกตอนเอง ตอนแรกสามตอนที่ชื่อว่า “Eerie Hall” ถูกกำกับโดย นีล รอว์ลส์ (Neil Rawles) และอีกสองตอนสุดท้ายที่ชื่อว่า “This House Murdered Me” กำกับโดย ลุค วัตสัน (Luke Watson) แต่รอยมือของวานปรากฏอยู่ทุกที่ ให้ความรู้สึกเหมือนดูหนังสยองขวัญระดับโรงภาพยนตร์มากกว่า สารคดีทีวีทั่วไป ที่เราเคยเห็น

ตอนละประมาณสามสิบนาที ทำให้โครงสร้างและจังหวะการเล่าเรื่องเหมือนกับหนังเต็มเรื่องมากขึ้น แม้ว่าเรื่องแรกจะมีสามตอนและเรื่องที่สองมีแค่สองตอน ทำให้ความรู้สึกในการดูค่อนข้างต่างกัน แต่โดยรวมแล้วยังคงความสนุกและไม่รู้สึกยืดเยื้อ ซึ่งเป็นปัญหาที่พบได้บ่อยใน ซีรีส์สยองขวัญ แนวนี้

คำถามที่หลายคนคงสงสัยคือ True Haunting หลอนจริงไหม? คำตอบตรงๆ คือไม่ค่อยหลอนเท่าไหร่ ทั้งในแง่ของการพยายามทำให้เราเชื่อว่าเรื่องราวเหล่านี้เกิดขึ้นจริง หรือในแง่ของฉากสยองขวัญที่พยายามทำให้เรากลัว แต่ดูเหมือนว่าซีรีส์เรื่องนี้ก็ไม่ได้พยายามหนักมากที่จะทำให้คนดูกลัวจนสะดุ้งตกเตียงเหมือนกัน มันมีความรู้สึกเหมือนนั่ง เล่าเรื่องผีข้างกองไฟ ที่อบอุ่นและสนุกมากกว่า

ซีรีส์เรื่องนี้ไม่ได้เน้นใส่ จัมแสร์ (jump scares) เยอะจนเกินไป มีบ้างสองสามที่ แต่ไม่ได้รู้สึกล้นหรือน่ารำคาญ แทนที่จะพยายามทำให้คนดูกลัว มันเน้นไปที่การเล่าเรื่องที่มีเนื้อหาและตัวละครที่น่าสนใจมากกว่า ทำให้ผู้ดูซื้อเรื่องราวได้ง่ายขึ้น โดยไม่ต้องมีการแสดงที่แย่หรือเอฟเฟกต์ผีที่ดูถูกๆ มาทำลายอารมณ์ตลอดเวลา ซึ่งเป็นจุดบวกใหญ่เลยทีเดียว

การใช้ความสามารถทางภาพยนตร์มาเล่าเรื่องที่ มีตัวละครที่ลึกซึ้ง และมีโครงเรื่องที่ชัดเจนทำให้ True Haunting แตกต่างจากสารคดีผีทั่วไป เราไม่ได้แค่ฟังคนมาเล่าว่าเขาเจออะไร แต่เรารู้สึกเหมือนกำลังดูละครหรือหนังที่มีพล็อตจริงๆ มีการพัฒนาตัวละคร มีความตึงเครียดที่สะสมขึ้นเรื่อยๆ และมีจุดไคลแมกซ์ที่ชัดเจน

อย่างไรก็ตาม สำหรับคนที่เชื่อเรื่องผีจริงๆ และต้องการเห็นหลักฐานหรือคำพูดที่น่าเชื่อถือ อาจจะรู้สึกผิดหวังนิดหนึ่งที่ฉากแสดงซ้ำดูเหมือนทำขึ้นมาเพื่อความบันเทิงมากกว่าความจริง บางครั้งเราอาจลืมไปเลยว่านี่คือสารคดีที่อ้างว่ามาจาก เรื่องจริง เพราะฉากแสดงซ้ำดูเหมือนหนังสยองขวัญแบบฟิคชั่นมากเกินไป

สิ่งที่ทำให้ True Haunting น่าสนใจคือการนำเสนอที่สวยงามและดูแพงมาก แสง สี และการจัดองค์ประกอบภาพทำให้ทุกฉากดูเหมือนออกมาจาก หนังสยองขวัญระดับโรงภาพยนตร์ เจมส์ วานนำเอาสไตล์ที่เขาใช้ใน The Conjuring และ Insidious มาใช้ที่นี่ ทำให้แม้จะไม่หลอนมากแต่ก็ดูสวยตาและมีสไตล์มากกว่าสารคดีผีทั่วไปที่เราเคยเห็น

การผสมผสานระหว่างฉากสัมภาษณ์ที่คนเล่าประสบการณ์ตรงต่อกล้องกับฉากแสดงซ้ำที่มีคุณภาพสูง บางครั้งก็ทำได้ดีและน่าสนใจ โดยเฉพาะเมื่อมีการใช้ ภาพเก่าหรือเอกสารจริง มาประกอบกับฉากแสดง ทำให้เกิดความรู้สึกเชื่อมโยงกับความเป็นจริงมากขึ้น แต่ก็ชัดเจนอยู่ดีว่าจุดขายหลักของซีรีส์เรื่องนี้คือฉากแสดงซ้ำที่สวยงาม ไม่ใช่ส่วนของสารคดี

สำหรับคนที่ไม่เชื่อเรื่องผีอย่างเรา การเน้นไปที่สไตล์และความสวยงามมากกว่าความน่าเชื่อถือเป็นสิ่งที่ทำให้ซีรีส์เรื่องนี้ดูได้และสนุก เราไม่ได้คาดหวังว่าจะเห็นหลักฐานที่โน้มน้าวใจให้เราเชื่อว่าผีมีจริง แต่เราชื่นชมความพยายามในการทำให้เรื่องราวเหล่านี้ดู น่าติดตามและบันเทิง มากกว่าแค่คนมานั่งเล่าเรื่องหน้ากล้อง

แต่สำหรับคนที่หลงใหลใน เรื่องเหนือธรรมชาติ และต้องการสารคดีที่มีหลักฐานชัดเจนเพื่อสนับสนุนความเชื่อของพวกเขา อาจจะรู้สึกว่าซีรีส์เรื่องนี้ไม่ได้ตอบโจทย์เท่าที่ควร เพราะมันดูเหมือนจะเน้นไปที่ความบันเทิงมากกว่าความจริง ซึ่งก็เป็นทางเลือกของผู้สร้างที่จะนำเสนอเรื่องราวในรูปแบบนี้

True Haunting เหมาะกับคนที่ชอบหนังสยองขวัญแต่อยากดูอะไรแปลกใหม่ ถ้าเราเบื่อหนังผีทั่วไปแล้วอยากเห็นรูปแบบใหม่ที่ผสมระหว่าง สารคดีกับหนังสยองขวัญ ซีรีส์เรื่องนี้ให้ความรู้สึกแบบนั้นพอดี มันไม่ได้พยายามหลอกว่าเป็นสารคดีจริงจังแบบ 100% แต่ก็ไม่ได้เป็นแค่หนังสยองขวัญธรรมดาเหมือนกัน มันอยู่ตรงกลางและทำออกมาได้ดีมาก

สำหรับคนที่ชอบงานของเจมส์ วาน อย่าง The Conjuring หรือ Insidious จะรู้สึกคุ้นเคยกับสไตล์การสร้างบรรยากาศและการใช้เสียงเพื่อสร้างความหลอน แม้ว่า True Haunting จะไม่หลอนเท่าหนังเหล่านั้น แต่ก็ยังคงมี รอยเท้าของวาน อยู่ทั่วทั้งซีรีส์ ทำให้รู้สึกว่าเราได้ดูบางอย่างที่มีคุณภาพและไม่ใช่แค่สารคดีผีทั่วไป

แต่ถ้าเราเป็นคนที่เชื่อเรื่องผีจริงจัง และต้องการเห็นสารคดีที่มีหลักฐานชัดเจน มีการสัมภาษณ์ผู้เชี่ยวชาญ หรือมีการตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างละเอียด True Haunting อาจจะทำให้เราผิดหวัง เพราะซีรีส์เรื่องนี้เน้นไปที่ ความบันเทิงและความสวยงาม มากกว่าความน่าเชื่อถือ มันเป็นเหมือนการดูหนังผีที่อ้างว่ามาจากเรื่องจริง แต่ไม่ได้พยายามมากในการพิสูจน์ว่าเรื่องจริงขนาดไหน

ซีรีส์เรื่องนี้ก็เหมือนกับ Nightmares of Nature ที่พยายามนำเสนอเนื้อหาที่คุ้นเคยในรูปแบบใหม่ที่สดชื่นกว่า มันอาจจะไม่ได้ปฏิวัติวงการสารคดีผี แต่ก็เป็นทางเลือกที่ดีสำหรับคนที่อยากดูอะไรที่ แตกต่างและมีคุณภาพ มากกว่าสารคดีผีทั่วไปที่เราเห็นใน Netflix

True Haunting คือสารคดีผีที่ไม่เหมือนใคร ด้วยการผสมผสานระหว่างเรื่องราวจริงกับการนำเสนอแบบหนังสยองขวัญคุณภาพสูง ซีรีส์เรื่องนี้อาจจะไม่หลอนมากแต่ก็สวยงามและน่าติดตามเกินความคาดหมาย ถ้าเราชอบงานของเจมส์ วานหรือแค่อยากดูสารคดีผีที่ดูดีกว่าปกติ ซีรีส์เรื่องนี้คุ้มค่าที่จะลองดู แต่ถ้าเราต้องการสารคดีที่จริงจังและมีหลักฐานชัดเจน อาจจะต้องมองหาที่อื่น มาแชร์ความคิดเห็นกันในคอมเมนต์ว่าเรารู้สึกอย่างไรกับการนำเสนอเรื่องผีในรูปแบบใหม่แบบนี้ และอย่าลืมแชร์รีวิวนี้ให้เพื่อนๆ ที่ชอบหนังสยองขวัญและเรื่องผีๆ ด้วยนะ!

  • ชื่อเรื่องในภาษาไทย: หลอนสะพรึง
  • ประเภท: สารคดี, สยองขวัญ, ดราม่า
  • วันที่ออกฉาย: 2025
  • โปรดิวเซอร์: เจมส์ วาน (James Wan)
  • ผู้กำกับ: นีล รอว์ลส์ (Neil Rawles), ลุค วัตสัน (Luke Watson)
  • จำนวนตอน: 5 ตอน (Eerie Hall: 3 ตอน, This House Murdered Me: 2 ตอน)
  • ช่องทางการดูในประเทศไทย: Netflix

กดเพื่ออ่านต่อ

PhiRa W.

เป็นนักเขียนอิสระที่หลงใหลในสื่อบันเทิงทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นภาพยนตร์ ซีรีส์ วาไรตี้ และสารคดี ผมชอบที่จะวิเคราะห์และถอดรหัสเนื้อหาเหล่านั้นออกมาในรูปแบบของรีวิวที่เข้าใจง่ายและสนุกสนาน เพื่อแบ่งปันมุมมองและประสบการณ์ให้กับผู้อ่าน

บทความที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Back to top button