รีวิวอนิเมะ

[รีวิว-เรื่องย่อ] สปาย แฟมิลี่ | Spy x Family ซีซั่น 3 ครอบครัวสายลับกลับมาแล้ว

  • Spy x Family ซีซั่น 3 เริ่มฉายวันที่ 4 ตุลาคม 2025 พร้อมเพลงธีมเปิดโดยวง Spitz
  • ตอนแรกแบ่งเป็นสองส่วน ส่วนแรกเล่าเรื่องการมองเห็นอนาคตของอันย่ากับบอนด์ที่สวนสาธารณะ ส่วนที่สองเป็นภารกิจของฟิโอน่ากับแฟรงกี้
  • ผู้กำกับคนใหม่ยูกิโกะ อิไม มาแทนคาสึฮิโระ ฟูรุฮาชิ และทาคาฮิโระ ฮาราดะ ในขณะที่สตูดิโอ Wit Studio และ CloverWorks ยังคงรับผิดชอบแอนิเมชัน
  • ความสัมพันธ์ระหว่างฟิโอน่าและแฟรงกี้กลายเป็นจุดเด่นที่โดดเด่นและเต็มไปด้วยอารมณ์ขันในตอนแรก

เราเคยฝันไหมว่าจะมีชีวิตแบบสายลับที่ต้องปกปิดตัวตนและแกล้งทำเป็นครอบครัวธรรมดาๆ? แต่ถ้าภรรยาเราเป็น นักฆ่ามืออาชีพ ลูกสาวอ่านใจคนได้ และสุนัขเลี้ยงมองเห็นอนาคตล่วงหน้าได้ล่ะ? อนิเมะ Spy x Family ซีซั่น 3 กลับมาแล้วหลังจากรอคอยกันมานานถึงสองปี พร้อมเสิร์ฟความสนุกสนานและเรื่องราวอันน่าติดตามของครอบครัวฟอร์เจอร์ที่ไม่ธรรมดา ซีซั่นนี้ออกอากาศตั้งแต่วันที่ 4 ตุลาคม 2025 บนแพลตฟอร์ม Crunchyroll พร้อมด้วยเพลงธีมเปิดสุดเจ๋ง “Hi o Mamoru” หรือ “Protect the Light” โดยวงดนตรีร็อคชื่อดังจากญี่ปุ่นอย่าง Spitz ที่กำกับโดย ชินโกะ นัตสึเมะ ผู้กำกับชื่อดังจากอนิเมะ One-Punch Man

เรื่องราวในซีซั่นนี้ยังคงติดตาม ทไวไลท์ สายลับปรมาจารย์ที่ปลอมตัวเป็น ลอยด์ ฟอร์เจอร์ จิตแพทย์ผู้น่ารัก พร้อมด้วยภรรยาสุดสวย ยอร์ ซึ่งแท้จริงแล้วคือนักฆ่าสุดโหดที่มีชื่อเสียงในนาม “เจ้าหญิงหนาม” (Thorn Princess) ลูกสาวบุญธรรม อันย่า ที่มีพลังจิตอ่านใจคนได้ และ บอนด์ สุนัขเลี้ยงที่สามารถมองเห็นอนาคตล่วงหน้า ภารกิจของครอบครัวฟอร์เจอร์ในซีซั่นนี้ยังคงดำเนินต่อไปอย่างตื่นเต้น โดยสร้างจากผลงานมังงะโดย ทัตสึยะ เอนโด ที่ลงตีพิมพ์บน Shonen Jump+ และได้รับความนิยมอย่างล้นหลามทั่วโลก

ในบทความนี้ เราจะพาทุกคนไปสำรวจรายละเอียดที่น่าสนใจของ Spy x Family ซีซั่น 3 ตั้งแต่การเปลี่ยนแปลงทีมงาน ไปจนถึงเนื้อหาของตอนแรกที่เต็มไปด้วยความสนุกและความตื่นเต้น มาดูกันว่าครอบครัวฟอร์เจอร์จะพาเราไปผจญภัยอะไรใหม่ๆ และทำไมอนิเมะเรื่องนี้ถึงเป็นหนึ่งในผลงานที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในปี 2025

SPY x FAMILY Season 3 #1

ซีซั่น 3 ของ Spy x Family ยังคงผลิตโดยความร่วมมือของสองสตูดิโอชื่อดังอย่าง Wit Studio และ CloverWorks ซึ่งเป็นสตูดิโอเดียวกันที่รับผิดชอบซีซั่นก่อนหน้า แต่ครั้งนี้มีการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญในตำแหน่งผู้กำกับ โดย ยูกิโกะ อิไม ผู้กำกับฉากและผู้กำกับตอนจากซีซั่น 1 และ 2 ได้รับมอบหมายให้เป็นผู้กำกับหลักของซีซั่นนี้ มาแทน คาสึฮิโระ ฟูรุฮาชิ และ ทาคาฮิโระ ฮาราดะ ที่กำกับซีซั่นก่อนหน้า การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้นำมาซึ่งมุมมองใหม่ๆ ในการเล่าเรื่องและการนำเสนอภาพ แต่ยังคงรักษาสไตล์และบรรยากาศที่แฟนๆ คุ้นเคยไว้ได้อย่างดี

ทีมงานคนอื่นๆ ที่กลับมาร่วมงานในซีซั่นนี้ ได้แก่ รินโนะ ยามาซากิ ในตำแหน่งผู้เขียนบทซีรีส์ คาซูอากิ ชิมาดะ ดีไซเนอร์ตัวละครและหัวหน้าผู้กำกับแอนิเมชัน ยูยะ ซากุมะ ผู้กำกับภาพ และ มินามิ อูซุอิ ผู้กำกับศิลป์ นอกจากนี้ยังมีสมาชิกใหม่ๆ ที่เข้ามาร่วมทีม อาทิ ยูกิ ทาเคอุชิ และ โทโมมิ ซูกิโมโตะ ในตำแหน่งผู้กำกับศิลป์ เคตะ วาตานาเบะ เป็นผู้กำกับ CG และ รินะ โคกุจิ เป็นบรรณาธิการ การรวมตัวของทีมงานเก่าและใหม่ครั้งนี้สร้างความสมดุลระหว่างความคุ้นเคยและความสดใหม่ที่น่าตื่นเต้น

เพลงประกอบในซีซั่นนี้ก็ไม่ธรรมดา โดยเพลงธีมเปิด “Hi o Mamoru” หรือ “Protect the Light” ขับร้องโดยวง Spitz วงร็อคชื่อดังจากญี่ปุ่น ซึ่งนี่เป็นครั้งแรกที่วงนี้สร้างเพลงสำหรับอนิเมะทีวีโดยเฉพาะ ส่วนเพลงธีมปิดคือ “Actor” ขับร้องโดย Lilas Ikuta ที่ช่วยปิดท้ายแต่ละตอนได้อย่างสวยงาม การกำกับภาพเพลงเปิดโดย ชินโกะ นัตสึเมะ ผู้กำกับชื่อดังจาก Space Dandy และ One-Punch Man ยิ่งทำให้ซีเควนซ์เปิดของซีซั่นนี้มีความโดดเด่นและน่าจดจำอย่างมาก

ตอนแรกของ Spy x Family ซีซั่น 3 เริ่มต้นด้วยความสนุกสนานและเต็มไปด้วยแอ็คชั่นตั้งแต่วินาทีแรก โดยแบ่งออกเป็นสองส่วนหลักที่มีสไตล์แตกต่างกันอย่างน่าสนใจ ส่วนแรกชื่อ “Berlint Panic” เล่าเรื่องของครอบครัวฟอร์เจอร์ที่ออกไปเที่ยวสวนสาธารณะในวันหยุด อันย่า วิ่งเล่นอย่างมีความสุข กินไอศกรีมและอยากได้ลูกโป่ง แต่ความสนุกนั้นก็หยุดชะงักทันทีเมื่อเธออ่านความคิดของ บอนด์ ได้และเห็นนิมิตที่น่ากลัว ในนิมิตนั้น มีคนขับ เครื่องจักรกลหนัก อย่างบ้าคลั่งและพุ่งชนต้นไม้ใส่คนบริสุทธิ์ที่กำลังเดินเล่นอยู่โดยไม่มีเหตุผล

อันย่าค้นพบว่าคนร้ายคนนี้คือคนงานก่อสร้างที่ ไม่ได้มีวันหยุด และเมื่อความเหนื่อยล้าสะสม เขาก็เกิดความโกรธแค้นที่เห็นคนอื่นสนุกสนานในวันหยุดจนคิดจะทำร้ายพวกเขา หลังจากที่อันย่าโน้มน้าวพ่อแม่ให้กลับบ้าน เธอก็เจอกับคนงานคนนั้น และอย่างชาญฉลาด เธอชี้ตัวเขาให้ ลอยด์ เห็น ลอยด์สังเกตได้ทันทีว่ามีอะไรผิดปกติกับคนๆ นั้น และรีบไปหยุดยั้งก่อนที่เขาจะก่อความเสียหายมากกว่านี้ ส่วน ยอร์ ก็แสดงพลังอันน่าทึ่งในฉากนี้ด้วยการช่วยคุณตาคนหนึ่งและเตะตึกทั้งหลังอย่างง่ายดาย แต่น่าขำที่แม้จะช่วยชีวิตคนได้แล้ว อันย่ากลับหนีไม่พ้นการบ้านและการเรียนอยู่ดี

ส่วนที่สองของตอนนี้มีแอ็คชั่นหนักขึ้นและเน้นไปที่ตัวละครสมทบที่น่าสนใจ โดยเรื่องเปลี่ยนไปที่ “The Informant and Nightfall” ซึ่งเป็นภารกิจของ ฟิโอน่า ฟรอสต์ หรือที่รู้จักกันในนาม Nightfall สายลับของ WISE และ แฟรงกี้ แฟรงคลิน ผู้ให้ข้อมูลข่าวกรองจากใต้ดิน ทั้งสองต้องแกล้งทำเป็นคู่รักเพื่อเข้าไปในไนท์คลับสุดต้องสงสัยเพื่อติดต่อกับผู้ปลอมแปลงเอกสารที่ซ่อนตัวอยู่ที่นั่น เคมีระหว่างฟิโอน่าและแฟรงกี้ถือเป็น จุดไคลแม็กซ์ของตอนนี้ ฟิโอน่าเป็นสายลับที่เย็นชาและมีเพียงลอยด์ในใจ ในขณะที่แฟรงกี้เป็นคนแปลกประหลาดและชอบล้อเล่นที่มีความรู้สึกทางเดียวกับฟิโอน่า

การดูทั้งสองคนทนอยู่ด้วยกันเพื่อภารกิจอาจดูเป็นสูตรสำเร็จแบบเก่าๆ แต่ก็ยังสนุกและตลกขบขันอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ความขัดแย้งระหว่างความเป็นมืออาชีพของฟิโอน่ากับพฤติกรรมเด็กๆ ของแฟรงกี้สร้างจังหวะตลกที่ยอดเยี่ยม ฟิโอน่าพูดคำว่า “เกลียด” หรือ “ฆ่า” บ่อยมากจนเกือบจะนับไม่ถ้วนตลอดการ “เดท” ปลอมของพวกเขา แต่เมื่อภารกิจเปลี่ยนเป็นการไล่ล่าและเกิดการต่อสู้ด้วยปืน แฟรงกี้กลับไม่หนีและกล้ายืนหยัดต่อสู้ ฟิโอน่าเองก็ยอมรับความสามารถของเขา (แม้เธอจะไม่พูดออกมาก็ตาม) ถือเป็นการพัฒนาตัวละครของแฟรงกี้ที่น่าประทับใจ

SPY x FAMILY Season 3 #2

การกลับมาของนักพากย์ทั้งหมดจากซีซั่นก่อนหน้าทำให้ซีซั่น 3 รู้สึกคุ้นเคยและต่อเนื่อง นักพากย์หลักอย่าง ทาคุยะ เอกุจิ (ลอยด์/ทไวไลท์) อัตสึมิ ทาเนซากิ (อันย่า) และ ไซโตะ โยโกะ (ยอร์) ยังคงถ่ายทอดตัวละครได้อย่างยอดเยี่ยมเหมือนเดิม โดยเฉพาะการแสดงเสียงของอัตสึมิ ทาเนซากิที่ทำให้อันย่ามีเสน่ห์และความน่ารักอย่างเหลือล้น การร้องไห้ เสียงหัวเราะ และการตกใจของเธอล้วนทำให้ตัวละครมีชีวิตชีวาและเป็นที่รักของแฟนๆ ทั่วโลก

การกำกับของยูกิโกะ อิไมในซีซั่นนี้มีความสมดุลที่ดีระหว่างความตลกขบขันและแอ็คชั่นที่ตื่นเต้น ฉากการต่อสู้ใน “Berlint Panic” ถูกกำกับให้ดูเหมือนการต่อสู้ของเมคคะ (mecha) ที่มาจากอนิเมะ Gundam โดยเครื่องจักรกลหนักกลายเป็นอาวุธที่น่ากลัว ขณะที่ทุกคนเข้าใจผิดคิดว่ากำลังแก้ไขวิกฤตการณ์ครั้งใหญ่ แต่จริงๆ แล้วพวกเขากำลังรับมือกับความเครียดและความหมดหวังของคนงานคนเดียว อารมณ์ขันแบบนี้คือสิ่งที่ทำให้ Spy x Family แตกต่างและโดดเด่นจากอนิเมะอื่นๆ

การออกแบบตัวละครและแอนิเมชันในซีซั่นนี้ยังคงคุณภาพสูงเหมือนเดิม โดยเฉพาะการเคลื่อนไหวของยอร์ในฉากแอ็คชั่นที่ลื่นไหลและทรงพลัง การเตะของเธอที่ส่งคนร้ายหรือแม้กระทั่งตึกทั้งหลังปลิวไปได้นั้นถูกออกแบบอย่างพิถีพิถัน สะท้อนถึงความเป็นนักฆ่ามืออาชีพที่ไม่ธรรมดา การใช้สี และแสงเงาในฉากต่างๆ ก็ช่วยสร้างบรรยากาศได้อย่างเหมาะสม ไม่ว่าจะเป็นบรรยากาศสบายๆ ในสวนสาธารณะ หรือบรรยากาศเข้มข้นในไนท์คลับที่น่าสงสัย

แม้ว่า Spy x Family จะเป็นอนิเมะตลกและมีแอ็คชั่น แต่ก็มีธีมและข้อความที่ลึกซึ้งซ่อนอยู่เบื้องหลัง เรื่องราวของครอบครัวฟอร์เจอร์สะท้อนถึง ความหมายของครอบครัว ที่ไม่จำเป็นต้องเกิดจากสายเลือดเท่านั้น แม้ว่าลอยด์ ยอร์ และอันย่าจะมารวมตัวกันเพราะเหตุผลที่เห็นแก่ตัว (ภารกิจ การปกปิดตัวตน และความปลอดภัย) แต่พวกเขากำลังค่อยๆ เติบโตและกลายเป็นครอบครัวที่แท้จริง ความรักและความห่วงใยที่พัฒนาขึ้นระหว่างพวกเขาเป็นหัวใจหลักของเรื่องราว ทำให้ผู้ชมรู้สึกอบอุ่นและซาบซึ้งใจ

นอกจากนี้ อนิเมะยังสำรวจเรื่องของ การปกปิดตัวตนและความลับ ทุกคนในครอบครัวฟอร์เจอร์มีความลับของตัวเอง ลอยด์ไม่รู้ว่ายอร์เป็นนักฆ่า ยอร์ไม่รู้ว่าลอยด์เป็นสายลับ และทั้งสองไม่รู้ว่าอันย่าอ่านใจคนได้และรู้ความจริงทั้งหมด การจัดการกับความลับเหล่านี้ในขณะที่พยายามรักษาภาพลักษณ์ของครอบครัวปกติสร้างสถานการณ์ที่ตลกขบขันและตึงเครียดไปพร้อมๆ กัน และยังทำให้เราตั้งคำถามว่าเมื่อไหร่ความจริงจะถูกเปิดเผยและพวกเขาจะรับมือกับมันอย่างไร

SPY x FAMILY Season 3 #3

ตอนแรกของซีซั่น 3 เป็นการเปิดตัวที่ดี แม้จะไม่ได้สร้างความประทับใจครั้งใหญ่หรือทำอะไรที่แปลกใหม่มากนัก แต่ก็กลับมาพร้อมกับทุกอย่างที่แฟนๆ รักและคิดถึง การกลับมาของตัวละครที่ทุกคนรักและการนำเสนอเรื่องราวที่สนุกสนานยังคงทำให้ Spy x Family เป็นหนึ่งในอนิเมะที่น่าติดตามมากที่สุดในปี 2025 คาดว่าซีซั่นนี้จะมี 12-13 ตอน เหมือนกับซีซั่นก่อนหน้า โดยแต่ละตอนจะออกอากาศทุกวันเสาร์ทำให้แฟนๆ ได้เพลิดเพลินกับเรื่องราวต่อเนื่องไปจนถึงช่วงปลายปี

จากตัวอย่างและข้อมูลที่ปล่อยออกมา ซีซั่น 3 จะมีการสำรวจ อดีตของลอยด์/ทไวไลท์ มากขึ้น ซึ่งเป็นสิ่งที่แฟนๆ รอคอยมานาน เราจะได้เห็นว่าอะไรทำให้เขากลายมาเป็นสายลับชั้นยอด และเหตุการณ์ใดในอดีตที่หล่อหลอมเขาให้เป็นคนที่เย็นชาและมุ่งมั่นกับภารกิจ นอกจากนี้ การพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างฟิโอน่าและแฟรงกี้ก็เป็นอีกหนึ่งจุดที่น่าสนใจ หากทั้งสองจะกลายเป็นคู่รักจริงๆ ก็คงจะเป็นความประหลาดใจที่น่ารักสำหรับแฟนๆ

การผสมผสานระหว่างแอ็คชั่น ตลก และความอบอุ่นของครอบครัวในซีซั่นนี้คาดว่าจะดำเนินต่อไปอย่างลงตัว โดยยังคงรักษาเอกลักษณ์ที่ทำให้ Spy x Family เป็นที่รักของแฟนๆ ทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นมุกตลกของอันย่า แอ็คชั่นสุดเจ๋งของยอร์ หรือความพยายามของลอยด์ในการรักษาความลับและทำภารกิจให้สำเร็จ ทุกองค์ประกอบเหล่านี้รวมกันเป็นสูตรสำเร็จที่ทำให้อนิเมะเรื่องนี้ยังคงความนิยมและได้รับความรักจากผู้ชมทุกวัย

Spy x Family ซีซั่น 3 กลับมาอย่างยิ่งใหญ่พร้อมกับทุกสิ่งที่แฟนๆ รักและคิดถึง ตั้งแต่ตัวละครที่น่ารัก เรื่องราวที่สนุกสนาน แอนิเมชันคุณภาพสูง ไปจนถึงเพลงประกอบที่ยอดเยี่ยม การเปลี่ยนแปลงทีมผู้กำกับไม่ได้ทำให้คุณภาพของอนิเมะลดลง แต่กลับนำมาซึ่งมุมมองใหม่ๆ ที่ยังคงรักษาเอกลักษณ์เดิมไว้ได้อย่างลงตัว ตอนแรกที่แบ่งออกเป็นสองส่วนสะท้อนถึงความหลากหลายของเนื้อหาที่อนิเมะนี้สามารถนำเสนอได้ ไม่ว่าจะเป็นความตลกขบขันแบบครอบครัวหรือแอ็คชั่นและการจารกรรมที่ตื่นเต้น

ซีซั่นนี้สัญญาว่าจะพาเราไปสำรวจ ความลับของอดีต ความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนระหว่างตัวละคร และภารกิจใหม่ๆ ที่ท้าทายมากขึ้น สำหรับใครที่เป็นแฟนตัวยงของครอบครัวฟอร์เจอร์ ซีซั่น 3 นี้เป็นสิ่งที่ต้องไม่พลาด และสำหรับใครที่ยังไม่เคยดู นี่คือโอกาสที่ดีที่จะเริ่มต้นติดตามอนิเมะสายลับสุดฮาที่กำลังครองใจคนดูทั่วโลก

มาร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการผจญภัยครั้งใหม่กับครอบครัวฟอร์เจอร์ และอย่าลืมแชร์ความคิดเห็นของเราในคอมเมนต์ว่าชอบตอนไหนหรือตัวละครไหนมากที่สุด แชร์บทความนี้ให้เพื่อนๆ ที่รักอนิเมะได้อ่านกันด้วยนะ!

  • ชื่อภาษาไทย: สปาย แฟมิลี่ ซีซั่น 3
  • ชื่อภาษาญี่ปุ่น: SPY×FAMILY
  • ประเภท: แอ็คชั่น, ตลก, ดราม่า, โชเน็น
  • วันที่ออกอากาศ: 4 ตุลาคม 2025
  • จำนวนตอน: 13 ตอน
  • สตูดิโอแอนิเมชัน: Wit Studio, CloverWorks
  • เรตติ้ง MyAnimeList: 8.13/10
  • ช่องทางการรับชม: Bilibili, iQIYI, Crunchyroll, Netflix

กดเพื่ออ่านต่อ

PhiRa W.

เป็นนักเขียนอิสระที่หลงใหลในสื่อบันเทิงทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นภาพยนตร์ ซีรีส์ วาไรตี้ และสารคดี ผมชอบที่จะวิเคราะห์และถอดรหัสเนื้อหาเหล่านั้นออกมาในรูปแบบของรีวิวที่เข้าใจง่ายและสนุกสนาน เพื่อแบ่งปันมุมมองและประสบการณ์ให้กับผู้อ่าน

บทความที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Back to top button