![[รีวิว-เรื่องย่อ] เลือดธุรกิจฝ่าพายุวิกฤติ | Typhoon Family (2025)](https://www.nanitalk.com/wp-content/uploads/2025/10/Review-Typhoon-Family-2025.webp)
- Typhoon Family ดำเนินเรื่องในยุควิกฤติ IMF เกาหลีใต้ปี 1997 โดยโฟกัสที่การเอาตัวรอดของบริษัทค้าขายเล็กๆ
- อีจุนโฮ รับบทคัง แท-พุง ลูกชายเจ้าของที่ต้องเติบโตจากวัยรุ่นเจ้าสำราญกลายเป็นผู้นำ
- ธีมหลักคือความรับผิดชอบต่อครอบครัวและพนักงาน ท่ามกลางความรักและความขัดแย้งทางธุรกิจ
- คิม มิน-ฮา ในบทโอ มิ-ซอน แสดงถึงความมานะของหญิงสาวที่เลี้ยงดูครอบครัว สร้างเคมีคู่จิ้นที่ลงตัว
เคยลองนึกภาพไหมว่าชีวิตที่เคยสุขสบาย เงินทองไหลมาเทมา อยู่ๆ ก็พังไม่เหลือชิ้นดีเพราะพายุเศรษฐกิจถาโถมมาแบบไม่ทันตั้งตัว? ซีรีส์ Typhoon Family (2025) พาไปย้อนยุคปี 1997 สมัยวิกฤติ IMF เกาหลีใต้ที่ทำให้บริษัทใหญ่ๆ ล้มระเนระนาด เรื่องนี้เล่าถึงคัง แท-พุง ลูกชายเจ้าของบริษัทค้าขายเล็กๆ ที่ชื่อไทฟูน แทรดดิ้ง ซึ่งเคยใช้ชีวิตแบบออเรนจ์ไทร์บ์ วัยรุ่นรวยขี้เกียจในย่านอพกูจง กรุงโซล แต่แล้วพ่อก็จากไปกะทันหัน ทิ้งให้ต้องรับผิดชอบบริษัทที่แทบจะล้มละลาย ไร้เงิน ไร้พนักงาน ไร้สินค้า มันเหมือนพายุเฮอริเคนที่พัดกระหน่ำทุกอย่างให้ปลิวว่อน
แต่ที่ทำให้เรื่องนี้ไม่ใช่แค่ดราม่าธุรกิจธรรมดา คือการผสมผสานความโรแมนติกเข้ากับความดิบเถื่อนของยุคนั้น โอ มิ-ซอน สาวมานะที่ทำงานบัญชีในบริษัทเดียวกัน เธอคือตัวแทนของคนธรรมดาที่ต้องดิ้นรนเลี้ยงยาย น้องสาว น้องชาย ทำงานหนักหน่วงทั้งวันทั้งคืนเพื่อให้ครอบครัวรอดพ้นความยากจน ทั้งสองคนนี้เหมือนขั้วตรงข้ามที่ดึงดูดกัน ท่ามกลางความโกลาหลของเศรษฐกิจที่กำลังถล่มทลาย ซีรีส์นี้จะพาไปสำรวจว่าความรับผิดชอบ มิตรภาพ และรักแท้ สามารถช่วยฝ่าฟันพายุได้ยังไง รับรองว่าดูแล้วต้องฮา ร้องไห้ และคิดถึงชีวิตตัวเองในวันที่ทุกอย่างพลิกผัน
มาดูกันว่าทำไม Typhoon Family ถึงเป็นซีรีส์ที่วัยรุ่นชาวเน็ตไทยต้องไม่พลาด มันไม่ใช่แค่ย้อนรอยประวัติศาสตร์ แต่สะท้อนปัญหาการเงินที่ยังคงวนเวียนในโลกสมัยใหม่ เหมือนกับที่เราเคยเจอโควิดหรือเศรษฐกิจซบเซา เรื่องนี้กำกับโดย อีนาจอง ที่เคยฝากผลงานอย่าง Love Alarm ไว้อย่างสวยงาม และออกอากาศครั้งแรก 11 ตุลาคม 2025 บน tvN กับ Netflix สไตล์การเล่าเรื่องเรียบง่ายแต่ลึกซึ้ง พาให้เราติดงอมแงมตั้งแต่ตอนแรก

รีวิวและเรื่องย่อ Typhoon Family (เลือดธุรกิจฝ่าพายุวิกฤติ)
Typhoon Family เปิดเรื่องด้วยภาพข่าวสารที่รายงานถึงไทฟูน แทรดดิ้ง บริษัทค้าขายขนาดเล็กที่เป็นหัวใจสำคัญของเศรษฐกิจเกาหลีใต้ คัง จิน-ยอง ผู้ก่อตั้งและ CEO แสดงโดย ซอง ดง-อิล ยืนรอสัญญาณกล้องด้วยท่าทีทำเป็นทำงาน แต่เบื้องหลังคือความกดดันมหาศาลจากวิกฤติที่กำลังก่อตัว ข่าวหันไปพูดถึงลูกๆ ของนักธุรกิจรุ่นใหญ่ที่ใช้ชีวิตฟุ่มเฟือยเหมือน “ออเรนจ์ไทร์บ์” วัยรุ่นเจ้าสำราญในย่านหรูอพกูจง โซล คัง แท-พุง ลูกชายของจิน-ยอง ที่รับบทโดย อีจุนโฮ กำลังสนุกกับปาร์ตี้ในไนต์คลับ จนเกิดทะเลาะวิวาทกับคู่ปรับอย่างพโย ฮยอน-จุน แสดงโดย มู จิน-ซอง สุดท้ายทั้งคู่โดนจับเข้าสถานีตำรวจกลางดึก
จิน-ยอง และนางชอง จอง-มี แม่ของแท-พุง แสดงโดย คิม จี-ยอง รีบไปรับลูกที่สถานี ท่ามกลางความผิดหวังที่พุ่งทะลุเพดาน จิน-ยองถึงกับตบหน้าลูกชายตอนที่แท-พุงยังกล้าขอเงินเพิ่ม มันเป็นฉากที่สะท้อนความขัดแย้งในครอบครัวเกาหลีสมัยนั้น พ่อที่ทำงานหนักแต่ไม่เคยแสดงความรัก ลูกที่อยากพิสูจน์ตัวเองแต่เลือกทางที่ผิด หลังจากนั้น แท-พุงที่กำลังเรียนด้านพฤกษศาสตร์ในมหาวิทยาลัย กลับไปที่เรือนกระจกส่วนตัว ใช้เวลาทั้งคืนรดน้ำ ตัดแต่ง และเก็บดอกไม้เพื่อนำกลับบ้าน แต่ความเหนื่อยล้าทำให้หลับคาโบกี้รถไฟ แล้วบังเอิญเอนพิงโอ มิ-ซอน แสดงโดย คิม มิน-ฮา สาวบัญชีของบริษัทไทฟูนที่กำลังรีบไปทำงาน
มิ-ซอน คือตัวละครที่ตรงข้ามกับแท-พุงโดยสิ้นเชิง เธอทำงานในบริษัทวันละ 11 ชั่วโมง เพื่อหาเงินเลี้ยงยายที่เลี้ยงเธอ น้องสาว และน้องชายมาตั้งแต่เด็ก หน้าที่ของเธอไม่ใช่แค่บันทึกบัญชี แต่รวมถึงชงกาแฟ ทำความสะอาดให้พนักงานชายส่วนใหญ่ด้วย จิน-ยองไว้วางใจเธอมาก จนปรึกษาเรื่องดีลใหญ่ที่ต้องลงทุนทุนหนัก เธอเตือนว่ามันเสี่ยงเกินไป แต่จิน-ยองก็เซ็นสัญญาไปอยู่ดี ปี 1997 วิกฤติการเงินถาโถมทั่วเอเชีย บริษัทที่เคยมั่นคงล้มละลายลูกโซ่ ลูกค้าสำคัญของไทฟูนเจ๊ง จิน-ยองเครียดหนักจนอัลไซม์ สุดท้ายเสียชีวิต ทิ้งให้แท-พุงต้องรับช่วงต่อบริษัทที่แทบจะพังยับเยิน
ตอนแรกของ Typhoon Family ใช้เวลา 76 นาทีในการปูพื้นเรื่อง แต่บางทีมันยืดเยื้อเกินไปหน่อย เหมือนพยายามยัดเยียดตัวละครและ backstory เข้ามาเยอะ จนรู้สึกกระจัดกระจาย แต่จุดเด่นคือการตัดกันระหว่างชีวิตแท-พุงที่ไร้กังวล กับมิ-ซอนที่ดิ้นรนสุดตัว ทั้งคู่อายุไล่เลี่ยกัน แต่โลกทัศน์ต่างขั้ว แท-พุงรักการเต้นรำในคลับ ชอบพัฒนากุหลาบพันธุ์ใหม่ แต่ก็ทะเลาะวิวาทแบบหนังแอ็คชั่นเก่าๆ ขณะที่พ่อกำลังป่วยหนัก มิ-ซอนคือแรงบันดาลใจที่แท-พุงน่าจะหันไปพึ่งพา เหมือนที่พ่อเคยเห็นแววในตัวเธอ ซีรีส์แนวโรแมนติกเกาหลีอย่างนี้ มักมีโมเมนต์น่ารักๆ คั่น แต่ตอนแรกมันดูหลงทางไปกับฉากข้างเคียง จนสงสัยว่าตอนต่อๆ ไปจะโฟกัสเรื่องหลักได้ดีกว่านี้ไหม
อีจุนโฮ ในบทคัง แท-พุง คือดาวเด่นของเรื่อง เขาเปลี่ยนจากวัยรุ่นเจ้าสำราญที่ใช้ชีวิตแบบออเรนจ์ไทร์บ์ สนุกกับดนตรีและเพื่อนฝูงในไนต์คลับ กลายเป็น CEO มือใหม่ที่ต้องเผชิญวิกฤติ IMF แบบไม่ทันตั้งตัว การแสดงของเขาถ่ายทอดความขัดแย้งภายในได้ดี ตั้งแต่ฉากทะเลาะกับคู่ปรับที่เต็มไปด้วยแอ็คชั่นเก่าๆ ไปจนถึงโมเมนต์เงียบๆ ในเรือนกระจกที่แสดงถึงด้านอ่อนโยนและความรักในพฤกษศาสตร์ มันทำให้เห็นว่าแท-พุงไม่ใช่แค่เด็กเสเพล แต่มีศักยภาพที่จะเติบโตเป็นผู้นำที่รับผิดชอบครอบครัวและพนักงาน
คิม มิน-ฮา รับบทโอ มิ-ซอน สาวบัญชีที่แข็งแกร่ง เธอเลี้ยงดูครอบครัวมาตั้งแต่เด็ก ทำงานหนักทั้งในบริษัทและเรียนเพื่อสอบเข้ามหาวิทยาลัย ฉากที่เธอชงกาแฟ ทำความสะอาด และให้คำปรึกษาจิน-ยองเรื่องดีลเสี่ยง แสดงถึงความมานะและฉลาดหลักแหลมที่ไม่ยอมแพ้ต่อความยากลำบาก การแสดงของเธอในงานศพจิน-ยองที่ต้องปกป้องเงินแสดงให้เห็นความเด็ดเดี่ยวแบบมืออาชีพ แม้ถูกมองข้ามเพราะเป็นผู้หญิง แต่เธอก็แก้ปัญหาได้อย่างมีเหตุผล เคมีระหว่างเธอกับอีจุนโฮ เริ่มก่อตัวตั้งแต่ฉากหลับคารถไฟ ทำให้รู้สึกถึงความโรแมนติกที่ค่อยๆ เบ่งบานท่ามกลางพายุเศรษฐกิจ
ส่วน ซอง ดง-อิล ในบทคัง จิน-ยอง พ่อที่สร้างบริษัทจากศูนย์ แต่ไม่เคยแสดงความรักต่อลูกชายอย่างเปิดเผย เขาทำงานหนักเพื่อปกป้องครอบครัว ท่ามกลางวิกฤติที่ทำให้เครียดจนอัลไซม์ การปรากฏตัวสั้นๆ แต่ทรงพลัง สะท้อนภาพพ่อเกาหลีรุ่นเก่าที่เต็มไปด้วยความเสียสละเงียบๆ นักแสดงสมทบอย่าง มู จิน-ซอง ในบทคู่ปรับของแท-พุง เพิ่มความตึงเครียดทางธุรกิจ ทำให้เรื่องราวไม่น่าเบื่อ ตัวละครเหล่านี้ถูกปูให้มีมิติ เหมือนคนจริงในยุคนั้นที่ต้องดิ้นรนเพื่อเอาชีวิตรอด
วิกฤติ IMF ปี 1997 ใน Typhoon Family ไม่ใช่แค่พื้นหลัง แต่เป็นตัวเร่งให้ตัวละครเติบโต เกาหลีใต้ต้องกู้เงินจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ บริษัทใหญ่ล้มระเนระนาด คนตกงานทะลัก ซีรีส์นี้โชว์ด้านมืดของเศรษฐกิจที่กระทบคนตัวเล็กๆ อย่างไทฟูน แทรดดิ้ง ที่ลูกค้าหลักเจ๊ง จนจิน-ยองไม่สามารถจ่ายเงินเดือนพนักงานได้ มันเหมือนพายุที่พัดพาความมั่นคงทั้งหมดให้ปลิวไป เหตุการณ์จริงในประวัติศาสตร์นี้ถูกนำเสนออย่างสมจริง ไม่โอ้อวด แต่เน้นผลกระทบต่อชีวิตประจำวัน
ธีมหลักคือการรับผิดชอบและการเติบโต ท่ามกลางความสูญเสีย แท-พุงที่เคยใช้ชีวิตฟุ่มเฟือย ต้องเรียนรู้ที่จะนำบริษัทผ่านพายุ โดยมีมิ-ซอนเป็นเพื่อนคู่คิด เธอสอนให้เห็นว่าความมานะสามารถเปลี่ยนชะตาชีวิตได้ ซีรีส์ยังสะท้อนความขัดแย้งในครอบครัวเกาหลี พ่อที่ทำงานหนักแต่ไม่เคยพูดคำว่ารัก ลูกที่อยากพิสูจน์ตัวเองแต่เลือกทางผิด มันชวนคิดถึงสังคมสมัยใหม่ที่ปัญหาการเงินยังคงวนเวียน เหมือนกับที่วัยรุ่นไทยเคยเจอในช่วงเศรษฐกิจถดถอย
นอกจากนี้ เรื่องยังผสมความโรแมนติกเบาๆ เข้ากับดราม่าธุรกิจ ทำให้ไม่หนักเกินไป เปรียบเหมือนกุหลาบที่แท-พุงเพาะปลูก – สวยงามแต่ต้องดูแลอย่างละเอียดเพื่อให้รอดพ้นพายุ ธีมเหล่านี้ถูกถ่ายทอดผ่านบทที่เรียบง่ายแต่คมคาย กำกับโดย อีนาจอง ที่เก่งเรื่องเล่าเรื่องมนุษย์ ทำให้ผู้ชมรู้สึกเชื่อมโยง เหมือนกำลังดูเรื่องจริงจากยุค 90s ที่เต็มไปด้วยความหวังและความสิ้นหวังผสมกัน

การผลิตของ Typhoon Family โดดเด่นด้วยการย้อนยุคที่สมจริง ย่านอพกูจงในโซลถูกสร้างสรรค์ให้เหมือนปี 1997 ด้วยแฟชั่นวินเทจ เสื้อเชิ้ตหลวมๆ กางเกงขากระบอก และเพจเกอร์ที่ใช้สื่อสาร ฉากไนต์คลับเต็มไปด้วยดนตรีป๊อปเกาหลีเก่าๆ ที่ชวนย้อนวัย ขณะที่เรือนกระจกของแท-พุงให้ฟีลสงบผสมโรแมนติก การถ่ายภาพเน้นคอนทราสต์ระหว่างชีวิตหรูหรากับความยากลำบาก ทำให้เห็นความแตกต่างชัดเจน ดนตรีประกอบเรียบง่ายแต่ตึงเครียด เพิ่มอารมณ์ให้ฉากวิกฤติเดือดพล่าน
สไตล์การเล่าเรื่องผสมดราม่า โรแมนติก และฮิวเมอร์ดำเบาๆ เหมือนซีรีส์ Genie Make a Wish ที่เคยฮิต แต่ที่นี่โฟกัสวิกฤติจริงมากกว่า ตอนแรกอาจยืดเยื้อด้วยฉากข้างเคียงอย่างการเต้นในคลับหรือรายการเดท แต่ตอนสองเริ่มแน่นขึ้น ด้วยการค้นพบสมุดบัญชีลับของจิน-ยองที่เป็นทั้งพล็อตหลักและสัญลักษณ์ของความเสียสละที่ซ่อนไว้ มันทำให้เรื่องไม่น่าเบื่อ แม้จะไม่มีพล็อตตีวิสต์บูมบับ แต่เน้นการเติบโตช้าๆ ของตัวละคร
โดยรวม การผลิตคุณภาพสูงจาก Studio Dragon ทำให้ซีรีส์นี้เหมาะกับวัยรุ่นที่ชอบเรื่องมีสาระแต่ไม่เครียดเกิน มันชวนคิดถึงความยืดหยุ่นของมนุษย์ในยามวิกฤติ เหมือนพายุที่ผ่านไปแล้วทิ้งบทเรียนไว้ให้เติบโตแข็งแกร่งกว่าเดิม ผู้กำกับถ่ายทอดยุค 90s ได้อย่างน่าประทับใจ โดยไม่ต้องพึ่งเอฟเฟกต์เยอะ แต่ใช้ตัวละครและเรื่องจริงเป็นหลัก
Typhoon Family (2025) คือซีรีส์ที่พาไปสัมผัสพายุวิกฤติ IMF ผ่านสายตาของวัยรุ่นที่ต้องโตชั่วข้ามคืน มันไม่ใช่แค่เรื่องธุรกิจ แต่เป็นบทเรียนชีวิตเกี่ยวกับความรับผิดชอบ รักครอบครัว และการดิ้นรนเพื่ออนาคต แท-พุงและมิ-ซอนคือตัวอย่างที่ชวนให้เราคิดถึงตัวเอง – ถ้าพายุมา เราจะยืนหยัดยังไง? ซีรีส์นี้เริ่มต้นช้าแต่ลึกซึ้ง ถ้าตอนต่อๆ ไปรักษาคุณภาพได้ มันจะกลายเป็นคลาสสิกแน่นอน
สำหรับสาวกเค-ดราม่าโรแมนติกที่ชอบเรื่องมีสาระ เรื่องนี้ตอบโจทย์สุดๆ ดูแล้วต้องรู้สึกฮึกเหิม อยากลุกขึ้นสู้กับปัญหาชีวิตตัวเอง ลองชวนเพื่อนๆ มาดูด้วยกันบน Netflix แล้วมาแชร์ในคอมเมนต์ว่าชอบฉากไหนมากที่สุด หรือวิกฤติแบบนี้เคยกระทบชีวิตยังไง แชร์โพสต์นี้ให้เพื่อนที่กำลังดิ้นรนเรื่องงานหรือเงินดูด้วยนะ รับรองว่ามันจะจุดประกายแรงบันดาลใจให้ทุกคน!
- ชื่อเรื่องในภาษาไทย: เลือดธุรกิจฝ่าพายุวิกฤติ
- ประเภท: โรแมนติก, ดราม่า, ธุรกิจ, ย้อนยุค
- วันที่ออกฉาย: 1 ตุลาคม – 30 พฤศจิกายน 2568
- นักแสดงนำ: อีจุนโฮ (Lee Jun-ho), คิม มิน-ฮา (Kim Min-ha), ซอง ดง-อิล (Sung Dong-il), คิม จี-ยอง (Kim Ji-young), มู จิน-ซอง (Mu Jin-sung)
- ผู้กำกับ: อีนาจอง (Lee Na-jeong)
- ความยาว: 16 ตอน
- เรตติ้ง IMDb: 8.5/10
- ช่องทางการดูในประเทศไทย: Netflix
![[รีวิว-เรื่องย่อ] เหลี่ยมมายามรณะ | Dear X (2025)](https://www.nanitalk.com/wp-content/uploads/2025/11/Review-Dear-X-2025.webp)
![[รีวิว-เรื่องย่อ] ฟ้าผ่าชี้ชะตาเมือง | Death by Lightning (2025)](https://www.nanitalk.com/wp-content/uploads/2025/11/Review-Death-by-Lightning-2025.webp)
![[รีวิว-เรื่องย่อ] บารามุลลาอาถรรพ์ | Baramulla (2025)](https://www.nanitalk.com/wp-content/uploads/2025/11/Review-Baramulla-2025.webp)
![[รีวิว-เรื่องย่อ] โลกที่ขวางระหว่างเรา | Maxton Hall – The World Between Us ซีซั่น 2](https://www.nanitalk.com/wp-content/uploads/2025/11/Review-Maxton-Hall-Season-2.webp)
![[รีวิว-เรื่องย่อ] The Manipulated (2025)](https://www.nanitalk.com/wp-content/uploads/2025/11/Review-The-Manipulated-2025.webp)
![[รีวิว-เรื่องย่อ] อลิซเลือกรัก | Just Alice (2025)](https://www.nanitalk.com/wp-content/uploads/2025/11/Review-Just-Alice-2025.webp)
![[รีวิว-เรื่องย่อ] ฝ่าคลื่นทะเลคลั่ง | Heweliusz (2025)](https://www.nanitalk.com/wp-content/uploads/2025/11/Review-Heweliusz-2025.webp)
![[รีวิว-เรื่องย่อ] เดอะ มาร์เชียน กู้ตาย 140 ล้านไมล์ | The Martian (2015)](https://www.nanitalk.com/wp-content/uploads/2025/09/Review-The-Martian-2015.webp)