
Key Points
- One Big Beautiful Bill Act (OBBBA) เป็นกฎหมายงบประมาณของสหรัฐฯ ที่อาจส่งผลต่อเศรษฐกิจโลก รวมถึงประเทศไทย ผ่านการเปลี่ยนแปลงนโยบายภาษีและการใช้จ่าย
- การลดภาษีและเพิ่มการใช้จ่ายในสหรัฐฯ อาจกระตุ้นความต้องการสินค้าส่งออกของไทย แต่ก็มีความเสี่ยงจากนโยบายการค้าที่เข้มงวด
- ผู้เชี่ยวชาญในไทยแนะนำให้ติดตามผลกระทบอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะในภาคการส่งออกและการลงทุน
- ความไม่แน่นอนในนโยบายการค้าของสหรัฐฯ อาจสร้างความท้าทายให้กับเศรษฐกิจไทยที่พึ่งพาการส่งออก
ในวันที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ. 2568 ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ลงนามในกฎหมายฉบับสำคัญที่เรียกว่า One Big Beautiful Bill Act (OBBBA) ซึ่งเป็นร่างกฎหมายปรองดองทางงบประมาณที่มีเนื้อหาครอบคลุมถึงนโยบายภาษีและการใช้จ่ายของรัฐบาลสหรัฐฯ กฎหมายฉบับนี้ได้รับการอนุมัติจากสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาด้วยคะแนนเสียงที่แบ่งเป็นสองขั้ว โดยพรรครีพับลิกันส่วนใหญ่สนับสนุน ขณะที่พรรคเดโมแครตคัดค้านอย่างเป็นเอกฉันท์ OBBBA ประกอบด้วยข้อบัญญัติหลายร้อยข้อ รวมถึงการขยายภาษีส่วนบุคคลที่ลดลงตามกฎหมายภาษีปี 2017 ให้ถาวร การเพิ่มวงเงินหักลดหย่อนภาษีสำหรับภาษีรัฐและท้องถิ่น การลดงบประมาณสำหรับโครงการสวัสดิการสังคม เช่น Medicaid และ SNAP และการจัดสรรงบประมาณจำนวนมหาศาลสำหรับการป้องกันประเทศและการบังคับใช้ชายแดน
สำหรับประเทศไทย ซึ่งเป็นหนึ่งในคู่ค้ารายใหญ่ของสหรัฐฯ การเปลี่ยนแปลงนโยบายเศรษฐกิจของสหรัฐฯ อาจส่งผลกระทบทั้งในแง่บวกและลบต่อเศรษฐกิจไทย โดยเฉพาะในด้านการค้าและการลงทุน บทความนี้จะวิเคราะห์ว่า OBBBA จะส่งผลต่อประเทศไทยอย่างไร และแนวทางที่ประเทศไทยควรเตรียมรับมือกับผลกระทบเหล่านี้
ภาพรวมของ One Big Beautiful Bill Act
One Big Beautiful Bill Act (OBBBA) เป็นร่างกฎหมายปรองดองทางงบประมาณที่ผ่านการลงคะแนนในสภาคองเกรสสหรัฐฯ โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อปฏิรูประบบภาษีและการใช้จ่ายของรัฐบาลกลาง กฎหมายฉบับนี้ถูกนำเสนอโดยประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ในฐานะที่เป็นแกนหลักของนโยบายในวาระการดำรงตำแหน่งสมัยที่สอง การลงคะแนนในวุฒิสภาเมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2568 ผ่านด้วยคะแนน 51-50 เสียง โดยรองประธานาธิบดีเจดี แวนซ์ลงคะแนนสนับสนุนเพื่อตัดสินผล ขณะที่สภาผู้แทนราษฎรผ่านร่างเมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม 2568 ด้วยคะแนน 218-214 เสียง
ข้อบัญญัติสำคัญของ OBBBA ได้แก่ การขยายอัตราภาษีส่วนบุคคลที่ลดลงตามกฎหมาย Tax Cuts and Jobs Act ปี 2017 ให้ถาวร ซึ่งเดิมกำหนดให้สิ้นสุดในปี 2025 การเพิ่มวงเงินหักลดหย่อนภาษีสำหรับภาษีรัฐและท้องถิ่นจาก 10,000 ดอลลาร์เป็น 40,000 ดอลลาร์สำหรับผู้มีรายได้น้อยกว่า 500,000 ดอลลาร์ โดยจะกลับไปเป็น 10,000 ดอลลาร์หลัง 5 ปี การตัดงบประมาณ Medicaid กว่า 1.2 ล้านล้านดอลลาร์ และการเพิ่มข้อกำหนดการทำงานสำหรับผู้รับสิทธิ์ การจัดสรรงบประมาณ 150 พันล้านดอลลาร์สำหรับการบังคับใช้ชายแดนและการเนรเทศ รวมถึงการยกเลิกเครดิตภาษีสำหรับพลังงานสะอาดที่ได้รับการสนับสนุนจากกฎหมาย Inflation Reduction Act และการเพิ่มเพดานหนี้สหรัฐฯ อีก 5 ล้านล้านดอลลาร์
กฎหมายฉบับนี้ได้รับการสนับสนุนจากพรรครีพับลิกัน โดยมองว่าเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจและส่งเสริมความมั่นคงของชาติ อย่างไรก็ตาม พรรคเดโมแครตคัดค้าน โดยอ้างว่าจะเพิ่มภาระหนี้สินของประเทศและลดการใช้จ่ายสำหรับโครงการสวัสดิการสังคมที่สำคัญ
ผลกระทบต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ
OBBBA คาดว่าจะมีผลกระทบอย่างมากต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ ผ่านการลดภาษีและการใช้จ่ายของรัฐบาล นักเศรษฐศาสตร์บางคนมองว่าการลดภาษีส่วนบุคคลและการเพิ่มวงเงินหักลดหย่อนจะช่วยเพิ่มกำลังซื้อของประชาชนและกระตุ้นการบริโภค ซึ่งอาจนำไปสู่การเติบโตทางเศรษฐกิจในระยะสั้น การจัดสรรงบประมาณสำหรับการป้องกันประเทศและการบังคับใช้ชายแดนอาจช่วยสร้างงานและกระตุ้นการลงทุนในบางภาคส่วน
อย่างไรก็ตาม มีข้อกังวลเกี่ยวกับผลกระทบในระยะยาว การเพิ่มเพดานหนี้ 5 ล้านล้านดอลลาร์และการลดภาษีอาจทำให้ขาดดุลงบประมาณเพิ่มขึ้น ซึ่งอาจนำไปสู่การเพิ่มขึ้นของอัตราดอกเบี้ยหรือปัญหาทางการเงินในอนาคต รายงานจาก Committee for a Responsible Federal Budget ระบุว่า OBBBA อาจเพิ่มหนี้สาธารณะของสหรัฐฯ อีก 3-5 ล้านล้านดอลลาร์ในทศวรรษหน้า การตัดงบประมาณสำหรับ Medicaid และ SNAP อาจส่งผลกระทบต่อกลุ่มประชากรที่มีรายได้น้อย ซึ่งอาจเพิ่มความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจ
นอกจากนี้ การยกเลิกเครดิตภาษีสำหรับพลังงานสะอาดอาจชะลอความก้าวหน้าในการต่อสู้กับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ซึ่งอาจส่งผลต่อภาพลักษณ์ของสหรัฐฯ ในเวทีโลกและความสัมพันธ์กับประเทศที่ให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อม
ผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลกและไทย
เศรษฐกิจสหรัฐฯ เป็นเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดในโลก ดังนั้นการเปลี่ยนแปลงนโยบายในสหรัฐฯ จึงมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลก รวมถึงประเทศไทยด้วย สหรัฐฯ เป็นคู่ค้ารายใหญ่ของไทย โดยในปี 2024 ไทยส่งออกสินค้าไปสหรัฐฯ มูลค่ากว่า 54,960 ล้านดอลลาร์ คิดเป็น 18.3% ของการส่งออกทั้งหมด หาก OBBBA กระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐฯ ได้สำเร็จ อาจนำไปสู่การเพิ่มขึ้นของความต้องการสินค้านำเข้า รวมถึงสินค้าจากไทย เช่น อิเล็กทรอนิกส์และผลิตภัณฑ์เกษตร
อย่างไรก็ตาม ความไม่แน่นอนในนโยบายการค้าของสหรัฐฯ อาจเป็นความท้าทาย รัฐบาลทรัมป์มีแนวโน้มที่จะดำเนินนโยบายการค้าที่เข้มงวด เช่น การขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากประเทศที่มีดุลการค้าขาดดุลกับสหรัฐฯ ตามรายงานของ Reuters นายกรัฐมนตรีแพทองธาร ชินวัตร ได้สั่งให้มีการศึกษาเกี่ยวกับผลกระทบของนโยบายการค้าของสหรัฐฯ ต่อการส่งออกของไทย ซึ่งบ่งชี้ถึงความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น
การเปลี่ยนแปลงในอัตราดอกเบี้ยและอัตราแลกเปลี่ยนที่อาจเกิดจากนโยบายของ OBBBA อาจส่งผลต่อต้นทุนการเงินของธุรกิจไทย โดยเฉพาะในภาคการส่งออกและการลงทุน นอกจากนี้ การยกเลิกเครดิตภาษีสำหรับพลังงานสะอาดอาจส่งผลต่อความพยายามระดับโลกในการต่อสู้กับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ซึ่งอาจมีผลกระทบทางอ้อมต่อประเทศไทยที่มุ่งมั่นสู่เป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอนภายในปี 2050
มุมมองจากผู้เชี่ยวชาญในประเทศไทย
ผู้เชี่ยวชาญในประเทศไทยมองว่า OBBBA อาจนำมาซึ่งทั้งโอกาสและความท้าทาย ดร. ธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยเศรษฐกิจป๋วย อึ๊งภากรณ์ กล่าวว่า “การลดภาษีในสหรัฐฯ อาจกระตุ้นเศรษฐกิจโลก ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อประเทศที่ส่งออกสินค้าไปสหรัฐฯ เช่น ไทย อย่างไรก็ตาม ไทยต้องเตรียมพร้อมสำหรับความผันผวนในนโยบายการค้าที่อาจเกิดขึ้น”
นอกจากนี้ รายงานจาก Mahanakorn Partners ระบุว่าไทยกำลังปรับกลยุทธ์เพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลงในนโยบายการค้าของสหรัฐฯ โดยอาจมุ่งเน้นไปที่การกระจายตลาดส่งออกและการเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับอุตสาหกรรมภายในประเทศ การเจรจาทางการค้าระดับทวิภาคีกับสหรัฐฯ อาจเป็นอีกหนึ่งแนวทางในการลดผลกระทบจากนโยบายที่เข้มงวด
ทิ้งท้าย
One Big Beautiful Bill Act (OBBBA) เป็นกฎหมายที่มีศักยภาพในการเปลี่ยนแปลงทิศทางของเศรษฐกิจสหรัฐฯ และส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลก รวมถึงประเทศไทย การลดภาษีและการใช้จ่ายของรัฐบาลอาจกระตุ้นความต้องการสินค้าส่งออกของไทย แต่ความไม่แน่นอนในนโยบายการค้าของสหรัฐฯ และผลกระทบต่ออัตราดอกเบี้ยและอัตราแลกเปลี่ยนอาจสร้างความท้าทาย
ประเทศไทยควรวางแผนรับมือโดยการกระจายตลาดส่งออก เสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับอุตสาหกรรมภายใน และติดตามสถานการณ์เศรษฐกิจสหรัฐฯ อย่างใกล้ชิด การเจรจาทางการค้ากับสหรัฐฯ และการลงทุนในนวัตกรรมจะช่วยให้ไทยสามารถใช้ประโยชน์จากโอกาสและลดผลกระทบจากความท้าทายที่อาจเกิดขึ้น
เราขอเชิญชวนผู้อ่านให้ติดตามข่าวสารเกี่ยวกับ OBBBA และผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทย อย่างต่อเนื่อง และแบ่งปันความคิดเห็นในส่วนแสดงความเห็นด้านล่าง เพื่อร่วมกันหาแนวทางรับมือกับการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจในระดับโลก