
Summary
- “คริ้นจ์ (Cringe)” คือความรู้สึกเขินแทนหรืออึดอัดเมื่อเห็นสิ่งที่ดูเกินจริงหรือไม่เหมาะสม
- นิยมใช้ในสังคมออนไลน์เพื่อแสดงความรู้สึกในเชิงตลกขบขัน
- การเข้าใจคำนี้ช่วยให้คุณตามทันเทรนด์และเข้าใจพฤติกรรมของวัยรุ่นยุคใหม่ได้ง่ายขึ้น
เคยไหม เวลานั่งดูคลิปหรือฟังใครเล่าเรื่องอะไรบางอย่างแล้วรู้สึกแปลกๆ รู้สึกเขินแทน รู้สึกอึดอัดจนแทบอยากจะกดข้ามหรือปิดหน้าจอไปเลย? ใช่แล้วล่ะ นั่นแหละที่วัยรุ่นสมัยนี้เขาเรียกกันว่า “Cringe” หรือที่ในภาษาไทยเราเรียกกันสั้นๆ ว่า “คริ้นจ์” แม้ว่าคำนี้จะถูกใช้อย่างแพร่หลายในโลกออนไลน์ แต่หลายคนก็อาจยังสงสัยว่าจริงๆ แล้วความหมายที่แท้จริงคืออะไร และมันมีที่มาที่ไปอย่างไร?
บทความนี้เราจะมาไขข้อสงสัยให้เพื่อนๆ เข้าใจคำว่า “Cringe” อย่างลึกซึ้งกันเลย ไม่ใช่แค่รู้แค่ผิวเผิน แต่เราจะมาเจาะลึกถึงที่มาที่ไป ความหมายแท้จริง รวมไปถึงการใช้งานที่ถูกต้องเพื่อไม่ให้เราต้องตกเทรนด์ แถมยังช่วยให้คุณเข้าใจโลกของวัยรุ่นยุคใหม่ได้ดีขึ้นด้วย พร้อมแล้วหรือยัง? ไปเริ่มกันเลย!
Cringe (คริ้นจ์) มีความหมายว่าอะไรกันแน่?

“Cringe” (คริ้นจ์) เป็นคำที่วัยรุ่นไทยรับมาจากภาษาอังกฤษโดยตรง ความหมายดั้งเดิมคือ “การขดตัว” หรือ “การแสดงท่าทางอึดอัดหรือไม่สบายใจ” แต่เมื่อถูกนำมาใช้ในบริบทของภาษาออนไลน์หรือภาษาพูดของวัยรุ่น ความหมายก็จะเปลี่ยนไปเล็กน้อย กลายเป็นความรู้สึก “เขินแทน” หรือ “อึดอัด” ในสถานการณ์ที่ดูแล้วน่าอาย หรือดูแล้วไม่เหมาะสมจนต้องหันหน้าหนีหรือทำตัวไม่ถูก
ในทางสังคมออนไลน์ ความ “Cringe” อาจจะมาจากการดูคลิปที่ใครบางคนพยายามทำตัวโดดเด่นมากเกินไป การพูดหรือแสดงท่าทางที่ผิดจังหวะ ผิดกาลเทศะ หรือแม้แต่การเล่าเรื่องส่วนตัวที่ผู้ฟังไม่ได้อยากฟัง กลายเป็นเรื่องที่ฟังแล้วไม่ค่อยสบายนัก จนทำให้คนที่ดูหรือฟังต้องรู้สึกกระอักกระอ่วน หรือ “อายแทน” คนในเรื่องนั่นเอง
การใช้คำว่า “คริ้นจ์” จึงเป็นเหมือนการแสดงความรู้สึกในเชิงตลกขบขันหรือแสดงความเห็นเชิงวิจารณ์เล็กๆ ที่ช่วยสร้างสีสันในการสนทนาให้ดูมีชีวิตชีวาขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งบนโลกออนไลน์ เช่น ในคอมเมนต์เฟซบุ๊ก หรือทวิตเตอร์
ต้นกำเนิดของคำว่า Cringe มาจากไหน?
คำว่า “Cringe” นั้นเดิมทีมีรากศัพท์มาจากภาษาอังกฤษโบราณ (Old English) ว่า “cringan” ซึ่งแปลว่า “งอหรือก้มลงอย่างกลัวหรือยอมจำนน” ต่อมาคำนี้ได้ถูกพัฒนาความหมายและการใช้งานจนแพร่หลายขึ้นในศตวรรษที่ 20 โดยเฉพาะในช่วงปี 2000 ที่เริ่มมีการใช้คำนี้อย่างแพร่หลายในโลกออนไลน์ผ่านเว็บไซต์และฟอรัมต่างๆ
ในช่วงแรกๆ “Cringe” มักถูกใช้ในการบรรยายความรู้สึกเมื่อเห็นใครบางคนกระทำสิ่งที่ไม่เหมาะสมหรือไม่ถูกกาลเทศะ โดยเฉพาะในวัฒนธรรมของอินเทอร์เน็ต อย่างเช่น เว็บไซต์ Reddit และแพลตฟอร์ม YouTube ที่เป็นแหล่งรวมคลิปวิดีโอที่คนมักแสดงความเห็นด้วยคำนี้ จนกระทั่งมันกลายเป็นคำติดปากวัยรุ่นทั่วโลกไปแล้ว
ในประเทศไทย คำว่า “คริ้นจ์” ถูกนำมาใช้อย่างแพร่หลายประมาณช่วงปี 2020 โดยเฉพาะในหมู่ผู้ใช้โซเชียลมีเดียที่มักใช้คำนี้ในการแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับสถานการณ์ที่ทำให้รู้สึกอึดอัดหรือเขินแทน เช่น วิดีโอเต้น TikTok ที่ดูแปลกๆ หรือการโพสต์ข้อความที่ดูเกินจริงเกินไป เป็นต้น
สถานการณ์แบบไหนถึงจะเรียกว่า “คริ้นจ์”?
สถานการณ์ที่เรียกว่า “คริ้นจ์” มักมีลักษณะที่ทำให้รู้สึกไม่สบายใจหรือเขินแทน ซึ่งอาจเกิดจากหลายเหตุการณ์ เช่น
- การแสดงออกที่ดูฝืนธรรมชาติ เช่น พยายามทำตัวเป็นคนดังหรือทำตัวเด่นจนดูไม่เป็นธรรมชาติ
- สถานการณ์ที่คนพูดหรือทำสิ่งที่ไม่เหมาะสมกับสถานการณ์ เช่น พูดตลกแต่ไม่ตลก
- การเล่าเรื่องหรือการแสดงความสามารถที่ฟังดูแล้วไม่สมเหตุสมผล หรือดูเหมือนพยายามเกินไป
ยกตัวอย่างง่ายๆ คือ คลิปเต้นบน TikTok ที่คนแสดงออกท่าทางแปลกๆ หรือทำตัวเกินไปจนผู้ชมรู้สึกอึดอัดแทน หรือการโพสต์ข้อความในโซเชียลที่ดูอวดเกินจริง เป็นต้น
แล้วทำไมวัยรุ่นถึงนิยมใช้คำว่า “คริ้นจ์”?
สาเหตุที่วัยรุ่นชื่นชอบและนำคำว่า “คริ้นจ์” มาใช้กันอย่างแพร่หลาย ส่วนหนึ่งเป็นเพราะมันสะท้อนความรู้สึกได้อย่างชัดเจนและตรงไปตรงมา บางครั้งมันก็ถูกใช้ในเชิงตลกขบขัน ช่วยทำให้การสนทนาสนุกสนานมากขึ้น บางครั้งก็ถูกใช้ในเชิงวิพากษ์วิจารณ์อย่างมีอารมณ์ขัน
นอกจากนี้ “คริ้นจ์” ยังช่วยให้วัยรุ่นแสดงออกถึงการมีส่วนร่วมในวัฒนธรรมของกลุ่มตัวเองได้ชัดเจนยิ่งขึ้น เพราะเป็นภาษาที่มีรากฐานมาจากวัฒนธรรมออนไลน์ ทำให้คนรุ่นใหม่เข้าถึงได้ง่ายและเข้าใจตรงกันทันทีเมื่อมีการใช้งาน
ทิ้งท้าย
คำว่า “คริ้นจ์” ไม่ใช่แค่คำที่วัยรุ่นเอามาเล่นสนุกๆ แต่ยังเป็นคำที่ช่วยสะท้อนการรับรู้ทางสังคมในยุคปัจจุบันที่มีความไวต่อสิ่งต่างๆ มากขึ้น การเข้าใจคำนี้ช่วยให้คุณตามทันเทรนด์โลกออนไลน์ และมีส่วนร่วมในบทสนทนาได้ง่ายขึ้น
ที่สำคัญ “คริ้นจ์” ยังแสดงให้เห็นถึงพฤติกรรมและการรับรู้ของคนรุ่นใหม่ที่ไม่ชอบอะไรที่ดูเกินจริงหรือไม่เป็นธรรมชาติ หากคุณอยากเข้าถึงใจวัยรุ่นยุคนี้ การรู้และเข้าใจความหมายที่แท้จริงของคำว่า “คริ้นจ์” จึงเป็นสิ่งสำคัญ
หวังว่าบทความนี้จะช่วยให้คุณเข้าใจคำว่า “คริ้นจ์” มากขึ้น หากคุณชอบบทความนี้ อย่าลืมแชร์ให้เพื่อนๆ หรือคอมเมนต์แสดงความคิดเห็นกันเข้ามาเลยนะ!