วันนี้ในอดีต

28 มีนาคม ตุรกี เปลี่ยนชื่อกรุง คอนสแตนติโนเปิล เป็น อิสตันบูล

28 มีนาคม 2473 เปลี่ยนชื่อกรุง “คอนสแตนติโนเปิล” อดีตเมืองหลวงของจักรวรรดิไบแซนไทน์และออตโตมัน เป็น “อิสตันบูล” อันเป็นเมืองใหญ่ที่สุดของประเทศตุรกี ตั้งอยู่ที่จุดใต้สุดของช่องแคบบอสพอรัส เป็นสะพานเชื่อมระหว่างโลกตะวันตกและตะวันออก เพราะเป็นเมืองเดียวในโลกที่ตั้งอยู่บนสองทวีปคือเอเชียและยุโรป

อิสตันบูล

อิสตันบูล (İstanbul) เดิมชื่อ คอนสแตนติโนเปิล เป็นเมืองที่มีประชากรมากที่สุดในประเทศตุรกีและทวีปยุโรป (นับรวมเขตเมืองฝั่งเอเชีย) เป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ของประเทศตุรกี อิสตันบูลเป็นเมืองเชื่อมทวีปยูเรเชียโดยตั้งระหว่างช่องแคบบอสพอรัส (ซึ่งแยกยุโรปและเอเชีย) ระหว่างทะเลมาร์มาราและทะเลดำ เมืองอิสตันบูลมีชื่อเสียงทางด้านศูนย์กลางการค้าและประวัติศาสตร์ของฝั่งยุโรป ประมาณหนึ่งในสามของประชากรอาศัยอยู่ทางอานาโตเลียหรือฝั่งทวีปเอเชีย โดยมีประชากรทั้งหมดประมาณ 15 ล้านคน อิสตันบูลเป็นเมืองที่มีประชากรมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลกโดยจัดว่าเป็นเมืองที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับสี่ของโลกและเป็นเมืองในยุโรปที่ใหญ่ที่สุด เมืองเป็นศูนย์กลางการปกครองของเทศบาลนครอิสตันบูล อิสตันบูลถือว่าเป็นสะพานเชื่อมระหว่างซีกโลกตะวันออกและตะวันตก

ในอดีตเมืองอิสตันบูลก่อตั้งขึ้นภายใต้ชื่อ ไบแซนไทน์ (Βυζάντιον) บนแหลมซาเรย์บูนู ราว 660 ปีก่อนคริสต์ศักราช เมื่อเวลาผ่านไปตัวเมืองค่อยๆขยายขนาดและอิทธิพลเพิ่มขึ้นจนกลายเป็นหนึ่งในเมืองที่สำคัญที่สุดในประวัติศาสตร์ โดยหลังจากการสถาปนาเป็นกรุงคอนสแตนติโนเปิลในปี ค. ศ. 330 , ไบแซนไทน์ อยู่ในฐานะเมืองหลวงของจักรวรรดิมาเป็นเวลาเกือบ 16 ศตวรรษ ตั้งแต่ จักรวรรดิโรมัน / ไบเซนไทน์ (330-1204) ละติน (1204–1761) จักรวรรดิไบแซนไทน์ภายใต้ราชวงศ์พาลาโอโลกอส (1261–1453) จนมาถึงจักรวรรดิไบแซนไทน์ (1453–1922) โดยเมืองไบแซนไทน์ได้กลายเป็นศูนย์กลางการเผยแผ่ศาสนาคริสต์ในช่วงเวลานั้น ก่อนที่ชาวออตโตมานจะพิชิตเมืองในปี ค.ศ. 1453 และเปลี่ยนให้กลายเป็นจุดยุทธศาสตร์ของจักรวรรดิออตโตมันและศาสนามุสลิมในที่สุด

ตำแหน่งของเมืองถูกปรากฏบนหน้าประวัติศาสตร์ ทั้งบนเส้นทางสายไหม, เส้นทางผ่านของรถไฟไปยังยุโรป ตะวันออกกลาง และเป็นเพียงการเดินทางทะเลทางเดียวที่จะข้ามระหว่างทะเลดำและทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ซึ่งทำให้เกิดความหลากหลายทางประชากร หลังจากสงครามประกาศอิสรภาพตุรกีอังการาได้รับเลือกให้เป็นเมืองหลวงของตุรกี เมืองไบแซนไทน์เปลี่ยนได้ชื่อเป็นอิสตันบูลในปัจจุบัน อย่างไรก็ตามเมืองคงความโดดเด่นด้านการเมืองและศิลปวัฒนธรรม และประชากรในเมืองมีจำนวนเพิ่มขึ้นเป็นสิบเท่านับจากปี ค.ศ. 1950 โดยมีผู้อพยพจากทั่วอานาโตเลียย้ายเข้ามาอาศัยในเขตเมือง อีกทั้งยังมีการขยายผังเมืองเพื่อที่จะรองรับประชากรได้มากขึ้น เกิดการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานเพื่อสร้างเครือข่ายการขนส่งที่ครอบคลุมเส้นทางภายในเมืองมากขึ้น ในช่วงปลายศตวรรษที่ 20 เทศกาลศิลปะดนตรีภาพยนตร์และวัฒนธรรมได้รับการก่อตั้งขึ้นที่นี่ และอิสตันบูลยังคงเป็นเมืองเจ้าภาพในปัจจุบัน

ในปี 2558 นักท่องเที่ยวต่างชาติราว 12.56 ล้านคนได้เดินทางมายังอิสตันบูล และห้าปีหลังจากนั้นได้รับการขนานนามว่าเป็นเมืองหลวงแห่งวัฒนธรรมยุโรป จึงทำให้อิสตันบูลเป็นเมืองท่องเที่ยวอันดับห้าที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลก แหล่งท่องเที่ยวที่ใหญ่ที่สุดของเมืองคือศูนย์กลางประวัติศาสตร์ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นส่วนหนึ่งของมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโกและศูนย์กลางทางวัฒนธรรมและความบันเทิงของเมืองตั้งอยู่ในเขต Beyo Hornlu อิสตันบูลถือว่าเป็นเมืองระดับโลก อิสตันบูลเป็นหนึ่งในเขตเศรษฐกิจที่เติบโตเร็วที่สุดในโลก โดยเป็นเป็นที่ตั้งของสำนักงานใหญ่จำนวนมากของประเทศ รวมถึงสื่อและการเงินมากกว่าหนึ่งในสี่ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศของตุรกี ด้วยความหวังว่าจะได้รับประโยชน์จากการฟื้นฟูและการขยายตัวเมืองมากขึ้น อิสตันบูลจึงเสนอสำหรับการเป็นเจ้าภาพโอลิมปิกฤดูร้อนถึงห้าครั้งในรอบยี่สิบปีที่ผ่านมา

อ่านต่อ

Alinda C.

ฉันเชื่อว่าประวัติศาสตร์เป็นสิ่งที่สำคัญ เป็นสิ่งที่ช่วยให้เราเข้าใจความเป็นมาของสังคมและโลก ประวัติศาสตร์ทำให้เราตระหนักถึงคุณค่าของเสรีภาพและความเท่าเทียมกัน ทำให้เราเรียนรู้จากข้อผิดพลาดในอดีต เพื่อไม่ให้ซ้ำรอยเดิม

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Back to top button