
- Windows 11 25H2 จะอัปเดตได้ง่ายจาก 24H2 ด้วย enablement package เพียงรีสตาร์ทเครื่องเดียว
- Windows 2026 จะเน้นการรวม AI เข้าสู่ระบบ พร้อม UI ใหม่และประสิทธิภาพที่ดีขึ้น
- การสนับสนุน Windows 10 จะสิ้นสุดในตุลาคม 2025 แต่มี ESU ให้ถึง 2026
- ระบบ shared servicing branch ทำให้การอัปเดตปลอดภัยและรวดเร็วกว่าเดิม
เราเคยสงสัยไหมว่าระบบปฏิบัติการ Windows 11 25H2 ที่กำลังจะมาถึงในปลายปี 2025 นี้จะมีอะไรใหม่? หรือจะเป็นอย่างไรกับ Windows 2026 ที่หลายคนเรียกว่า Windows 12 ที่คาดว่าจะเปิดตัวในอีกไม่ช้า? การอัปเดตครั้งนี้ไม่ใช่เรื่องธรรมดา เพราะ Microsoft กำลังเปลี่ยนแปลงวิธีการให้บริการอัปเดตแบบใหม่ที่รวดเร็วและง่ายกว่าเดิม
สำหรับ Windows 11 25H2 ที่คาดว่าจะเปิดตัวในเดือนตุลาคม 2025 นั้น จะมาในรูปแบบของ enablement package ที่ทำให้การอัปเดตจากเวอร์ชัน 24H2 เป็นเรื่องง่าย เพียงแค่รีสตาร์ทเครื่องเดียว ส่วน Windows 2026 หรือ Windows 12 ที่คาดว่าจะออกมาระหว่างปี 2025-2026 จะเน้นการรวม AI เข้ามามากขึ้น พร้อมการปรับปรุง UI และประสิทธิภาพที่ดีกว่าเดิม บทความนี้จะพาเราไปรู้จักกับสิ่งใหม่ๆ ที่กำลังจะเกิดขึ้นกับระบบปฏิบัติการที่เราใช้กันอยู่ทุกวัน
Windows 11 25H2 การอัปเดตที่ง่ายที่สุดในประวัติศาสตร์
Windows 11 25H2 จะเป็นการอัปเดตที่แตกต่างจากที่เราเคยเจอมา เพราะใช้เทคโนโลยี shared servicing branch ที่ทำให้การอัปเดตจากเวอร์ชัน 24H2 เป็นเรื่องง่ายมาก Microsoft ได้พัฒนาฟีเจอร์ใหม่สำหรับ 25H2 ไว้ในระบบ 24H2 แล้ว แต่ปิดการใช้งานไว้ เมื่อเราได้รับ enablement package (eKB) ระบบจะเปิดใช้งานฟีเจอร์เหล่านั้นทันที
การอัปเดตแบบนี้ทำให้ขนาดไฟล์ที่ต้องดาวน์โหลดลดลงอย่างมาก และใช้เวลาติดตั้งเพียงไม่กี่นาที เปรียบเสมือนการอัปเดตความปลอดภัยรายเดือนทั่วไป ซึ่งต่างจากการอัปเดตแบบเต็มรูปแบบที่ใช้เวลานานและมีความเสี่ยงในการเกิดปัญหามากกว่า
ข้อดีสำคัญของระบบนี้คือการที่ Microsoft สามารถให้บริการอัปเดตความปลอดภัยและแก้ไขบัคสำหรับทั้งเวอร์ชัน 24H2 และ 25H2 พร้อมกันได้ เนื่องจากใช้โค้ดพื้นฐานเดียวกัน นอกจากนี้ยังช่วยลดปัญหาด้านความเข้ากันได้ของซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์อีกด้วย
สำหรับผู้ใช้ Enterprise และ Education editions จะได้รับการรองรับเป็นเวลา 36 เดือน ในขณะที่ Pro, Pro Education และ Pro for Workstation editions จะได้รับการรองรับเป็นเวลา 24 เดือน การอัปเดตครั้งนี้จะเริ่มนับ lifecycle ใหม่ ทำให้ผู้ใช้ได้รับการรองรับต่อเนื่องอีกยาวนาน

ฟีเจอร์ใหม่ที่น่าสนใจใน Windows 11 25H2
แม้ว่า Microsoft ยังไม่ได้เปิดเผยฟีเจอร์ใหม่ทั้งหมดของ Windows 11 25H2 อย่างเป็นทางการ แต่จากการรั่วไหลข้อมูลและการทดสอบใน Windows Insider Program เราสามารถคาดเดาฟีเจอร์ใหม่ที่น่าสนใจได้หลายอย่าง รวมถึงการปรับปรุง เมนู Start ให้ใหม่หมดจด และระบบ Adaptive Power ที่จัดการพลังงานได้อัจฉริยะขึ้น
การปรับปรุงสำคัญอีกประการหนึ่งคือระบบ quick machine recovery (QMR) ที่ช่วยให้เครื่องฟื้นตัวจากปัญหาได้เร็วขึ้น และการเพิ่มความสามารถในการเพิ่มคำศัพท์ที่กำหนดเองในพจนานุกรมสำหรับ voice access ทำให้การใช้เสียงควบคุมคอมพิวเตอร์มีความแม่นยำมากขึ้น
ระบบ Screen ก็ได้รับการปรับปรุงให้ดีขึ้น รวมถึงการปรับขนาดไอคอนใน taskbar ได้ตามต้องการ ซึ่งเป็นฟีเจอร์ที่ผู้ใช้เรียกร้องมานาน นอกจากนี้ยังมีการปรับปรุงประสิทธิภาพโดยรวม โดยเฉพาะในด้านการจัดการหน่วยความจำและการประมวลผลของ CPU
Microsoft ยังคงพัฒนาแพลตฟอร์ม Germanium ที่เป็นพื้นฐานของทั้ง 24H2 และ 25H2 ตลอดปี 2025 ซึ่งหมายความว่าผู้ใช้ทั้งสองเวอร์ชันจะได้รับประโยชน์จากการปรับปรุงเหล่านี้ การอัปเดตแบบ enablement package ทำให้ Microsoft สามารถนำฟีเจอร์ใหม่มาให้ผู้ใช้ได้เร็วขึ้น โดยไม่ต้องรอการอัปเดตใหญ่
Windows 2026 ระบบปฏิบัติการยุค AI
Windows 2026 หรือที่หลายคนเรียกว่า Windows 12 คาดว่าจะเป็นการปฏิวัติครั้งใหญ่ของระบบปฏิบัติการ Microsoft โดยจะเน้นการนำ AI integration เข้ามาใช้งานอย่างลึกซึ้ง ตั้งแต่การค้นหาไฟล์ที่อัจฉริยะขึ้น ระบบแนะนำที่เข้าใจบริบท ไปจนถึง Copilot ที่สามารถช่วยงานอัตโนมัติและวางแผนงานได้
การค้นหาใน Windows 2026 จะสามารถหาไฟล์จากเนื้อหาและบริบทได้ ไม่ใช่แค่ชื่อไฟล์อย่างในปัจจุบัน ระบบ AI จะเรียนรู้พฤติกรรมการใช้งานของเราและให้คำแนะนำที่เหมาะสม ทำให้การทำงานกับคอมพิวเตอร์เป็นเรื่องที่ง่ายและเป็นธรรมชาติมากขึ้น
ด้านการรักษาความปลอดภัย Windows 2026 จะมีการปรับปรุงระบบตรวจจับภัยคุกคาม การเข้ารหัสที่แข็งแกร่งกว่าเดิม และการยืนยันตัวตนที่ล้ำหน้า ระบบจะสามารถคาดการณ์และป้องกันภัยคุกคามได้ก่อนที่จะเกิดขึ้นจริง รวมถึงการจัดการพลังงานที่ดีขึ้น ทำให้แบตเตอรี่ของแล็ปท็อปและแท็บเล็ตใช้งานได้นานขึ้น
ระบบ Modular ใน Windows 2026 จะทำให้องค์ประกอบต่างๆ ของระบบปฏิบัติการสามารถอัปเดตแยกจากกันได้ ทำให้ระบบมีความเสถียรและยืดหยุ่นมากขึ้น การผสานรวมกับ Azure Cloud จะช่วยให้การทำงานระยะไกลมีประสิทธิภาพดีขึ้น พร้อมระบบรักษาความปลอดภัยและการซิงค์ข้อมูลที่ไร้รอยต่อ
UI ใหม่และประสบการณ์การใช้งานที่ดีขึ้น
การออกแบบ user interface ใน Windows 2026 จะมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ โดยจะมี floating taskbar และ search bar ที่ทำให้หน้าจอดูสะอาดตาและใช้งานได้สะดวกขึ้น เมนู Start จะได้รับการออกแบบใหม่ให้สะอาดตาและปรับแต่งได้ตามต้องการมากกว่าเดิม
Live widgets จะสามารถแสดงข้อมูลแบบเรียลไทม์ ทำให้เราติดตามข่าวสาร สภาพอากาศ และข้อมูลสำคัญอื่นๆ ได้โดยไม่ต้องเปิดแอปพลิเคชัน UI ใหม่จะตอบสนองต่อการใช้งานได้ดีขึ้น และมีการใช้งานที่เป็นธรรมชาติมากขึ้น
ระบบจะมีการปรับปรุงประสิทธิภาพโดยรวม ตั้งแต่เวลาบูตที่เร็วขึ้น การโหลดแอปพลิเคชันที่รวดเร็ว และประสิทธิภาพโดยรวมที่ดีกว่าเดิม การจัดการทรัพยากรระบบจะอัจฉริยะขึ้น ทำให้คอมพิวเตอร์ทำงานได้ราบรื่นแม้ในการใช้งานหนัก
ความต้องการของระบบสำหรับ Windows 2026 คาดว่าจะคล้ายกับ Windows 11 แต่อาจมีการเพิ่ม RAM ขั้นต่ำจาก 4GB เป็น 8GB และยังคงต้องการ TPM 2.0 เพื่อความปลอดภัย ส่วนใหญ่แล้วคอมพิวเตอร์สมัยใหม่ที่รองรับ Windows 11 ก็จะสามารถใช้ Windows 2026 ได้
การเตรียมพร้อมสำหรับอนาคต
สำหรับผู้ใช้ Windows 10 ที่ยังไม่ได้อัปเกรด ต้องระลึกไว้ว่าการรองรับจะสิ้นสุดในเดือนตุลาคม 2025 แต่ Microsoft ได้เปิดโปรแกรม Extended Security Updates (ESU) ที่จะให้การรองรับด้านความปลอดภัยต่อไปจนถึง ตุลาคม 2026 ให้กับผู้ที่ต้องการเวลาเพิ่มเติมในการตัดสินใจอัปเกรด
การอัปเกรดจาก Windows 10 เป็น Windows 11 ยังคงฟรีสำหรับผู้ที่มีเครื่องที่รองรับ และการอัปเดตจาก Windows 11 24H2 เป็น 25H2 ก็จะฟรีเช่นกัน สิ่งสำคัญคือต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่าเครื่องเราตรงตามความต้องการของระบบ
สำหรับการเตรียมพร้อมรับ Windows 11 25H2 เราควรอัปเดต Windows 11 24H2 ให้เป็นเวอร์ชันล่าสุด เพื่อให้การอัปเดตเป็น 25H2 เป็นไปอย่างราบรื่น การสำรองข้อมูลสำคัญก่อนการอัปเดตใหญ่ก็เป็นสิ่งที่ควรทำเสมอ
การติดตาม Windows Insider Program จะช่วยให้เราได้ทดลองฟีเจอร์ใหม่ก่อนใครแล้วให้ความคิดเห็นกับ Microsoft ซึ่งจะช่วยให้ผลิตภัณฑ์สุดท้ายมีคุณภาพดีขึ้น การเข้าร่วมโปรแกรมนี้จึงเป็นโอกาสดีสำหรับคนที่ชอบเทคโนโลยีใหม่ๆ
ทิ้งท้าย
Windows 11 25H2 และ Windows 2026 จะนำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญในวงการระบบปฏิบัติการ การอัปเดตแบบ enablement package ใน 25H2 จะทำให้การอัปเกรดเป็นเรื่องง่ายและรวดเร็วที่สุดเท่าที่เคยมีมา ในขณะที่ Windows 2026 จะเป็นก้าวสำคัญสู่ยุค AI ที่แท้จริง
การที่ Microsoft เปลี่ยนแนวทางการให้บริการอัปเดตแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการลดความยุ่งยากในการใช้งาน และเพิ่มความมั่นคงของระบบ ผู้ใช้จะได้รับประสบการณ์ที่ดีขึ้น ไม่ว่าจะเป็นในแง่ของประสิทธิภาพ ความปลอดภัย หรือความสะดวกในการใช้งาน
เราควรเริ่มเตรียมตัวสำหรับการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ตั้งแต่ตอนนี้ ไม่ว่าจะเป็นการอัปเดตระบบให้เป็นปัจจุบัน การศึกษาฟีเจอร์ใหม่ หรือการวางแผนการอัปเกรดฮาร์ดแวร์หากจำเป็น อนาคตของระบบปฏิบัติการกำลังจะเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางที่น่าตื่นเต้น และเราไม่ควรพลาดโอกาสที่จะเป็นส่วนหนึ่งของการเปลี่ยนแปลงนี้
ข้อมูลอ้างอิง