รีวิวซีรีส์จีน

[รีวิว-เรื่องย่อ] งามบุปผาสกุณา | In the Name of the Blossom ซีซั่น 2

  • In the Name of the Blossom ซีซั่น 2 เป็นซีรีส์ที่สองของหยางจื่อที่ไม่สามารถรักษาโมเมนตัมจากซีซั่นแรกได้
  • ซีซั่น 2 เน้นเรื่องความรักมากกว่าความสำเร็จทางธุรกิจของตัวละครหญิง ทำให้เสียจุดเด่นหลัก
  • คุณภาพการผลิต เครื่องแต่งกาย และฉากหลังยังคงสวยงามและน่าประทับใจเช่นเดิม
  • แม้จะสนุกได้ แต่ไม่กระตุ้นความคิดเท่าซีซั่นแรก และพล็อตดูเหมือนนำเอาเหตุการณ์เก่ามาใช้ใหม่

เราเคยรู้สึกผิดหวังไหมเมื่อ ซีรีส์จีน ที่เราชอบมากในซีซั่นแรก กลับทำให้เราไม่ประทับใจในซีซั่นต่อไป? In the Name of the Blossom หรือ งามบุปผาสกุณา (2025) เป็นอีกหนึ่งซีรีส์ที่ทำให้แฟนๆ ของ หยางจื่อ (Yang Zi) ต้องเผชิญกับความรู้สึกแบบนี้ เมื่อซีซั่น 2 ไม่สามารถรักษาความน่าสนใจและคุณภาพเนื้อเรื่องจากซีซั่นแรกไว้ได้ แม้ว่าการถ่ายทำจะเป็นช่วงเดียวกันก็ตาม

ซีรีส์เรื่องนี้กลายเป็นประสบการณ์ที่ขัดแย้งสำหรับผู้ชม เพราะแม้จะมี คุณภาพการผลิต ที่ยอดเยี่ยม เครื่องแต่งกายที่งดงาม และฉากที่สวยตระการตา แต่กลับมีปัญหาเรื่องพล็อตที่ทำให้ซีซั่น 2 ไม่โดดเด่นเท่าที่ควร โดยเฉพาะการเปลี่ยนจุดสนใจจากความเป็นนักธุรกิจที่เข้มแข็งของ เหอเหวยฟาง ไปเป็นเรื่องความรักที่ดูวกวนและไม่ได้พัฒนาตัวละครให้ก้าวหน้า

ในบทความนี้ เราจะมาสำรวจทุกมิติของ In the Name of the Blossom ซีซั่น 2 ตั้งแต่จุดแข็งด้านการผลิตที่ยังคงสวยงาม ไปจนถึงจุดอ่อนของพล็อตที่ทำให้ซีรีส์เสียเอกลักษณ์ที่โดดเด่นไป พร้อมวิเคราะห์ว่าทำไมซีรีส์เรื่องนี้ถึงไม่สามารถขึ้นอันดับ อันดับหนึ่ง ในช่วงที่ออกอากาศ และติดอันดับสามรองจากซีรีส์อื่นๆ ได้

งามบุปผาสกุณา | In the Name of the Blossom ซีซั่น 2

รีวิวและเรื่องย่อ In the Name of the Blossom (งามบุปผาสกุณา) ซีซั่น 2

ซีซั่น 2 ของ In the Name of the Blossom เป็นการต่อเรื่องที่เปลี่ยนจุดสนใจหลักจากการเติบโตของตัวละครหญิงไปเป็นความสัมพันธ์รัก ซึ่งนับเป็นการตัดสินใจที่ทำให้เสียเอกลักษณ์หลักของซีรีส์ไป ใน ซีซั่นแรก เราได้เห็น เหอเหวยฟาง เติบโตเป็นผู้นำทางธุรกิจที่เข้มแข็งและสามารถยืนหยัดได้ด้วยตัวเอง โดยไม่ต้องพึ่งพาผู้ชาย แต่ในซีซั่น 2 กลับมาเน้นที่ความสัมพันธ์แบบ “จะได้ด้วยกันหรือไม่” ระหว่างเธอกับ เจียงชางหยาง จนทำให้ความสำเร็จทางธุรกิจของเธอดูเป็นเรื่องรอง

การเปลี่ยนแปลงนี้ส่งผลให้ ผลงานทางธุรกิจ ของเหอเหวยฟางในซีซั่น 2 ดูง่ายเกินไป โดยเฉพาะการที่เธอสามารถสร้างธุรกิจใหม่ๆ และทำให้ดอกโบตั๋นบานสะพรั่งได้แม้ในฤดูหนาว ซึ่งดูเหมือนจะทำได้โดยไม่มีความท้าทายมากนัก ในขณะที่ความสัมพันธ์กับเจียงชางหยางกลับดูซับซ้อนและยุ่งยากกว่า นี่เป็นการสลับความสำคัญที่ทำให้ตัวละครหลักไม่ได้พัฒนาในทิศทางที่น่าสนใจเหมือนเดิม

สิ่งที่น่าผิดหวังอีกประการหนึ่งคือการที่ ตัวละครสมทบ อย่าง เจ้าหญิง และ หลิวชาง ไม่ได้เรียนรู้อะไรจากซีซั่นแรกเลย ทำให้เหตุการณ์ในซีซั่น 2 ดูเหมือนเป็นการนำเอาปัญหาเดิมมาใช้ซ้ำ แทนที่จะเป็นการพัฒนาเรื่องราวไปในทิศทางใหม่ การขาดการเติบโตของตัวละครทำให้ พล็อต ดูซ้ำซากและไม่มีความคืบหน้าที่ชัดเจน

แม้ว่า พล็อต ของ In the Name of the Blossom ซีซั่น 2 จะมีปัญหา แต่ คุณภาพการผลิต ยังคงอยู่ในระดับท็อปคลาสเช่นเดิม เครื่องแต่งกายของซีรีส์เรื่องนี้งดงามและประณีตจนทำให้ผู้ชมหลายคนอยากจะซื้อไปคอสเพลย์ในเวลาว่าง การแต่งหน้าและทรงผม ของนักแสดงก็สวยงามและเข้ากับยุคสมัยของเรื่อง ส่วนองค์ประกอบทางประวัติศาสตร์ก็ยังคงมีความหลากหลายและน่าสนใจ

ซีรีส์เรื่องนี้เป็น ผลงานที่น่าตื่นตาตื่นใจ ในด้านภาพ และสร้างบรรยากาศที่อบอุ่นกว่าซีรีส์ช่วงเดียวกันอย่าง The Litchi Road มากมาย ทำให้ได้บรรยากาศที่ โรแมนติกและเงินอุดมคติ ของราชวงศ์ถัง การออกแบบฉากและการจัดแสงก็ทำให้ทุกเฟรมดูสวยงามและน่าจดจำ แม้ว่าเนื้อเรื่องจะไม่ดึงดูดใจเท่าที่ควร แต่ความงามทางสายตาก็ยังคงทำให้ผู้ชมติดตามได้

ความสำเร็จด้าน การออกแบบเครื่องแต่งกาย โดยเฉพาะชุดที่เหอเหวยฟางสวมใส่ ทำให้ผู้ชมมีความประทับใจและอยากนำไปใช้ในชีวิตจริง นี่แสดงให้เห็นถึงความพิถีพิถันในการผลิตที่ทีมงานยังคงรักษาไว้ได้ แม้ว่าจะมีปัญหาในส่วนของการเขียนบท การใส่ใจในรายละเอียดเหล่านี้ทำให้ซีรีส์ยังคงมีคุณค่าในแง่ของความงดงามและการสร้างโลกแฟนตาซี

งามบุปผาสกุณา | In the Name of the Blossom ซีซั่น 2

เมื่อเปรียบเทียบกับ ซีซั่นแรก ซีซั่น 2 ของ In the Name of the Blossom มีปัญหาคล้ายกับ Lost You Forever อีกหนึ่งซีรีส์ของ หยางจื่อ ที่ไม่สามารถรักษาโมเมนตัมจากซีซั่นแรกไว้ได้ ทั้งสองซีรีส์ถูกถ่ายทำในช่วงเวลาเดียวกัน แต่กลับมีปัญหาเรื่องคุณภาพเนื้อเรื่องที่ลดลงในซีซั่น 2 นี่แสดงให้เห็นถึงปัญหาในการวางแผนเนื้อหาระยะยาวที่อาจจะเป็นประเด็นสำคัญในวงการซีรีส์จีน

ในด้าน อันดับความนิยม In the Name of the Blossom ซีซั่น 2 ไม่สามารถขึ้นสู่อันดับหนึ่งในช่วงที่ออกอากาศ โดยติดอันดับสามรองจากซีรีส์อย่าง In the Name of Justice และ A Dream within A Dream การที่ซีรีส์ที่มี งบประมาณสูง และนักแสดงชื่อดังอย่างหยางจื่อไม่สามารถครองอันดับหนึ่งได้ แสดงให้เห็นว่าผู้ชมให้ความสำคัญกับคุณภาพเนื้อเรื่องมากกว่าการผลิตที่หรูหรา

ผลงานนี้ทำให้เราเห็นได้ว่า ความสำเร็จ ของซีรีส์ไม่ได้ขึ้นอยู่กับความสวยงามของภาพหรือชื่อเสียงของนักแสดงเพียงอย่างเดียว แต่ต้องมีเนื้อเรื่องที่แข็งแกร่งและการพัฒนาตัวละครที่สมเหตุสมผล การที่ซีซั่น 2 เน้นไปที่ความรักมากกว่าการเติบโตของตัวละครหญิง ทำให้เสียจุดขายหลักที่ทำให้ซีซั่นแรกโดดเด่น

In the Name of Blossom 2 #2

แม้ว่า In the Name of the Blossom ซีซั่น 2 จะมีปัญหาในเรื่องพล็อต แต่ก็ยังคงเป็นซีรีส์ที่ดูได้และสนุกได้ โดยเฉพาะสำหรับคนที่ชื่นชอบ ความงดงามทางสายตา และการออกแบบเครื่องแต่งกายที่ประณีต อย่างไรก็ตาม ซีรีส์เรื่องนี้ไม่สามารถกระตุ้นความคิดหรือสร้างแรงบันดาลใจได้เท่ากับซีซั่นแรก ทำให้รู้สึกเสียดายกับศักยภาพที่เสียไป

สำหรับผู้ที่กำลังตัดสินใจว่าจะดู ซีซั่น 2 หรือไม่ เราแนะนำให้ดูด้วยความคาดหวังที่ปรับลดลงมาบ้าง และมุ่งเน้นไปที่การชื่นชมความงดงามของการผลิตมากกว่าการคาดหวังพล็อตที่ซับซ้อนหรือการพัฒนาตัวละครที่ลึกซึ้ง หากเราสามารถยอมรับข้อจำกัดเหล่านี้ได้ ก็ยังสามารถเพลิดเพลินกับซีรีส์ได้ระดับหนึ่ง

In the Name of the Blossom เป็นตัวอย่างที่ดีของการที่ คุณภาพการผลิต ไม่สามารถชดเชยเนื้อเรื่องที่อ่อนแอได้ ซีรีส์เรื่องนี้ทำให้เราได้เรียนรู้ว่าความสำเร็จที่แท้จริงของซีรีส์ต้องมาจากความสมดุลระหว่างภาพที่สวยงามและเรื่องราวที่มีเนื้อหา การที่ซีซั่น 2 เน้นไปที่ ความรักโรแมนติก มากกว่าความเข้มแข็งของตัวละครหญิง อาจจะเป็นบทเรียนสำคัญสำหรับผู้สร้างซีรีส์ในอนาคต

เราอยากให้ผู้ชมที่ได้ดู In the Name of the Blossom ซีซั่น 2 แล้ว มาแชร์ความคิดเห็นกันในคอมเมนต์ว่าเห็นด้วยกับมุมมองของเราหรือไม่ และคิดว่าหยางจื่อควรเลือกโปรเจ็กต์แบบไหนในอนาคต เพื่อให้กลับมาโดดเด่นเหมือน ซีรีส์คุณภาพ ที่เธอเคยทำมา อย่าลืมแชร์บทความนี้ให้เพื่อนๆ ที่ชอบซีรีส์จีนและอยากอ่านรีวิวที่ตรงไปตรงมา!

  • ชื่อเรื่องในภาษาไทย: งามบุปผาสกุณา
  • ประเภท: ย้อนยุค, โรแมนติก, ธุรกิจ
  • วันที่ออกอากาศ: 30 มิ.ย. 2568 – 13 ก.ค. 2568
  • นักแสดงนำ: หยางจื่อ (Yang Zi) รับบท เฮอเว่ยฟาง และ หลี่เซียน (Li Xian) รับบท เจียงฉางหยาง
  • ผู้กำกับ: ติ่งจือกวง (Ding Ziguang)
  • จำนวนตอน/ความยาว: 24 ตอน
  • เรตติ้ง MyDramaList: 8.3/10
  • ช่องทางการดูในประเทศไทย: TrueID

กดเพื่ออ่านต่อ

PhiRa W.

เป็นนักเขียนอิสระที่หลงใหลในสื่อบันเทิงทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นภาพยนตร์ ซีรีส์ วาไรตี้ และสารคดี ผมชอบที่จะวิเคราะห์และถอดรหัสเนื้อหาเหล่านั้นออกมาในรูปแบบของรีวิวที่เข้าใจง่ายและสนุกสนาน เพื่อแบ่งปันมุมมองและประสบการณ์ให้กับผู้อ่าน

บทความที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Back to top button