![[รีวิว-เรื่องย่อ] หากวันใดใครตนนั้นใคร่กลืนกิน | This Monster Wants to Eat Me (2025)](https://www.nanitalk.com/wp-content/uploads/2025/10/Review-This-Monster-Wants-to-Eat-Me.webp)
- This Monster Wants to Eat Me เป็นอนิเมะ Girls’ Love ผสมสยองขวัญและเรื่องเหนือธรรมชาติที่หาดูได้ยากในฤดูกาล Fall 2025
- การแสดงเสียงของเรนะ อุเอดะในบทฮินาโกะโดดเด่นที่สุด ถ่ายทอดความสิ้นหวังและความว่างเปล่าได้อย่างน่าขนลุก
- อนิเมะสำรวจธีมความตายและความรักผ่านตัวละครฮินาโกะที่ปรารถนาตาย และชิโอริโยไคที่ต้องการกินเธอ
- ตอนแรกสร้างบรรยากาศที่สงบแต่น่าขนลุกพร้อมกัน ทำให้เราตั้งคำถามทางจริยธรรมเกี่ยวกับการอยากตายของตัวละคร
เราเคยอยากหนีจากโลกที่วุ่นวายนี้ไหม? อยากหายใจลึกๆ แล้วปล่อยให้ทุกอย่างผ่านไปเฉยๆ? แต่ถ้าวันหนึ่งมีใครบางคนหรือบางสิ่งมาบอกว่า “ฉันอยากกินเธอ” ในความหมายที่แท้จริง เราจะรู้สึกอย่างไร? อนิเมะ This Monster Wants to Eat Me (หากวันใดใครตนนั้นใคร่กลืนกิน) ในฤดูกาล Fall 2025 พาเราไปสัมผัสกับเรื่องราวความรักระหว่างสาวน้อยที่ปรารถนาความตายกับโยไคที่ต้องการกินเธอ นี่คือการผสมผสานระหว่าง Girls’ Love สยองขวัญและเหนือธรรมชาติ ที่หาดูได้ยากมากในวงการอนิเมะ
เมื่อตอนแรกออกมา หลายคนอาจคิดว่าฤดูกาล Fall 2025 จะเงียบกว่าฤดูร้อนที่ผ่านมา แต่จริงๆ แล้วมีอนิเมะเด็ดๆ ซ่อนอยู่เยอะแยะ ไม่ว่าจะเป็นซีเควลที่รอคอยหรือเรื่องราวใหม่ที่แปลกตา และท่ามกลางอนิเมะทั้งหมดนั้น This Monster Wants to Eat Me คือเรื่องที่ดึงดูดความสนใจได้ในทันที Girls’ Love ผสมสยองขวัญกับเรื่องเหนือธรรมชาติ? นี่คือคอมโบที่เราแทบไม่เคยเจอเลย (เรื่องสุดท้ายที่นึกออกคือ Otherside Picnic หรือ Ave Mujica -The Die Is Cast- ถ้าจะนับเป็น Girls’ Love) เลยรีบกดดูตอนแรกทันทีที่ออกมา และต้องบอกเลยว่ามันคือการเปิดตัวที่สวยงามและน่าขนลุกพร้อมกัน
ในบทความนี้ เราจะพาไปสำรวจทุกแง่มุมของอนิเมะเรื่องนี้ ตั้งแต่การเปิดตัวที่น่าประทับใจ ตัวละครที่มีเอกลักษณ์โดดเด่น ไปจนถึงธีมลึกซึ้งที่ทำให้เราตั้งคำถามทางจริยธรรม มาดูกันว่า This Monster Wants to Eat Me จะพาเราไปสัมผัสกับการผสมผสานระหว่าง ความตายและความรัก ได้อย่างไร

รีวิวและเรื่องย่อ This Monster Wants to Eat Me (หากวันใดใครตนนั้นใคร่กลืนกิน)
This Monster Wants to Eat Me เริ่มต้นด้วยวิธีที่ไม่คาดคิดเลย แทนที่จะกระโจนเข้าสู่ฉากสยองขวัญหรือสร้างบรรยากาศที่น่ากลัว อนิเมะเรื่องนี้เลือกที่จะเปิดด้วยความสงบเงียบแทน ภาพของฮินาโกะที่กำลังจมน้ำดูเงียบสงบ ผ่อนคลาย และแปลกประหลาดไปในทางที่ สวยงามเหมือนภาพนามธรรม การตายไม่ควรให้ความรู้สึกสงบขนาดนี้ แต่อนิเมะเรื่องนี้กลับจับความขัดแย้งนั้นไว้ได้อย่างสมบูรณ์แบบตั้งแต่ช่วงเปิดเรื่อง จากฉากนี้เพียงฉากเดียว เราก็รู้แล้วว่านี่ไม่ใช่แค่เรื่องสยองขวัญธรรมดา แต่มันจะเป็นอะไรที่เหนือจริงและอาจจะดูเหมือนบทกวีด้วยซ้ำ
ตั้งแต่ช่วงเปิดตัว เราจะได้รู้จักกับตัวละครหลักทั้งสามคน นั่นคือ ฮินาโกะ ชิโอริ และมิโกะ ด้วยข้อความแชทสั้นๆ กับชีวิตประจำวันในโรงเรียนเพียงไม่กี่ฉาก ตัวละครของฮินาโกะก็ชัดเจนแล้ว เราเข้าใจความสิ้นหวังของเธอ เข้าใจว่าทำไมเธอถึงปรารถนาความตาย แม้ว่าเธอจะไม่มีกำลังใจที่จะทำมันด้วยตัวเอง และจริงๆ แล้วความอ่อนแอนั้นเองที่ทำให้ตัวละครของเธอน่าติดตามมากขึ้น การที่ฮินาโกะอยากตายแต่กลับไม่กล้าทำเอง สะท้อนความเปราะบางของมนุษย์ที่หลายคนอาจเคยรู้สึกแบบนี้มาก่อน
มิโกะคือตรงข้ามของฮินาโกะโดยสิ้นเชิง เธอสดใส ตรงไปตรงมา และแทบจะตลกขบขันในบทบาทของเธอ มิโกะถูกออกแบบมาให้เป็นทั้งตัวช่วยและตัวสร้างความแตกต่างกับความหม่นหมองของฮินาโกะ สิ่งที่ทำให้ดีคือแม้ทั้งสองจะเป็นตรงข้ามกัน แต่เคมีระหว่างพวกเธอก็ยังมีอยู่ ถึงแม้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างมิโกะกับฮินาโกะจะยังไม่ได้ถูกสำรวจอย่างลึกซึ้ง แต่มิโกะก็มีศักยภาพที่จะผลักดันเรื่องราวไปข้างหน้าในตอนต่อๆ ไปอย่างแน่นอน
การออกแบบตัวละครมิโกะเป็นการสร้างสมดุลที่ดีให้กับอนิเมะเรื่องนี้ เพราะถ้าทุกตัวละครมืดมนไปหมด อนิเมะก็คงจะกลายเป็นเรื่องที่หนักเกินไป การมีตัวละครที่สดใสเหมือนมิโกะ ทำให้เรื่องราวมีจังหวะหายใจ และทำให้ผู้ดูไม่รู้สึกหดหู่เกินไป ความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับฮินาโกะอาจจะดูไม่ได้มีความลึกซึ้งมากในตอนแรก แต่มันมีศักยภาพที่จะพัฒนาไปในทิศทางที่น่าสนใจมาก
ในบรรดาตัวละครทั้งสาม ชิโอริคือคนที่ขโมยซีนไปหมด เธอคือโยไคที่มีเป้าหมายเพียงอย่างเดียวคือกินฮินาโกะ และเธอก็บอกตรงๆ เลยว่าฮินาโกะ “อร่อย” มากแค่ไหน เหมือนเธอกำลังชิมอาหารจานพิเศษที่เก็บไว้สำหรับโอกาสที่สมบูรณ์แบบ และสถานการณ์แบบนี้เองที่ทำให้เรื่องราวน่าติดตามมาก เรื่องนี้จะจบยังไง? ชิโอริจะกินฮินาโกะจริงๆ และทำให้ความปรารถนาของเธอเป็นจริงหรือเปล่า? หรือว่าเธอจะตกหลุมรักฮินาโกะแทน แล้วบังคับให้ฮินาโกะต้องเผชิญหน้ากับชีวิต? ความตึงเครียดระหว่างความปรารถนาตายกับเรื่องราวความรัก คือสิ่งที่ดึงดูดเราได้ตั้งแต่แรก และความจริงที่ว่าชิโอริกลายเป็นเพื่อนร่วมชั้นของฮินาโกะในตอนจบก็เป็นทวิสต์ที่อร่อยมาก
การที่ชิโอริเป็นทั้งโยไคและเพื่อนร่วมชั้น ทำให้เรื่องราวมีความซับซ้อนขึ้นมาทันที เธอจะแอบย่องเข้าไปอยู่ใกล้ฮินาโกะได้อย่างไร? เธอจะควบคุมความอยากกินฮินาโกะได้ไหมเมื่ออยู่ใกล้ขนาดนี้? และที่สำคัญคือ ฮินาโกะจะรู้สึกอย่างไรเมื่อรู้ว่าคนที่นั่งข้างๆ คือโยไคที่อยากกินเธอ? คำถามเหล่านี้ทำให้เราอยากติดตามต่อไปอย่างมาก การวางโครงสร้างแบบนี้แสดงให้เห็นว่าผู้สร้างรู้จักวิธีดึงดูดผู้ดู และทำให้เราตั้งตารอตอนต่อไป

โครงสร้างของตอนนี้น่าสนใจมาก เริ่มต้นด้วยความสงบและเหมือนความฝัน แต่จบลงด้วยความรู้สึกไม่สบายใจ ฝันกลางวันของฮินาโกะเกี่ยวกับทะเลก็เป็นสัมผัสที่ดี ราวกับว่าทะเลกำลังเรียกหาเธอ ล่อลวงให้เธอเข้ามาใกล้ แต่การเปิดเผยว่าสิ่งที่รออยู่ใต้คลื่นนั้นไม่ใช่ความสงบ แต่เป็นสัตว์ประหลาดในทะเล ทำให้ภาพที่ดูสวยงามกลายเป็นสิ่งที่น่าขนลุก และนั่นคือจุดเด่นของตอนเปิดตัวที่น่าขนลุกนี้
ภาพของทะเลที่สวยงามกลับกลายเป็นสัญลักษณ์ของความตาย การใช้ภาพแบบนี้ช่วยสร้างความรู้สึกสองแง่สองง่ามที่ดึงดูดแต่น่ากลัวพร้อมกัน ความตายอาจดูสวยงามและเย้ายวนจากภายนอก แต่เมื่อเราเข้าไปใกล้ เราจะพบว่ามันไม่ได้สงบอย่างที่คิด นี่คือการใช้ภาพที่ชาญฉลาดมาก และช่วยสร้างบรรยากาศที่ทำให้อนิเมะเรื่องนี้แตกต่างจากเรื่องอื่นๆ ในฤดูกาลนี้
ต้องชมการแสดงเสียงของ เรนะ อุเอดะ (Reina Ueda) ในบทฮินาโกะเป็นพิเศษ การถ่ายทอดของเธอน่าขนลุกในความสงบเรียบ เราได้ยินในเสียงของเธอว่าฮินาโกะได้ยอมแพ้กับชีวิตไปแล้ว ทุกบทพูดมีความหนักอึ้งและว่างเปล่า แต่เมื่อฮินาโกะยิ้มเมื่อคิดถึงความปรารถนาของเธอที่กำลังจะเป็นจริง อุเอดะเปลี่ยนน้ำเสียงอย่างละเอียดอ่อน และมันทำให้เราปรบมือจริงๆ ช่วงเวลาสุดท้ายนั้นยอดเยี่ยม และเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้ตอนนี้ทิ้งความประทับใจไว้ได้ลึกซึ้งมาก
การแสดงเสียงของอุเอดะ แสดงให้เห็นถึงความสามารถในการถ่ายทอดอารมณ์ที่ซับซ้อน เธอไม่ได้ทำให้ฮินาโกะดูเศร้าหรือร้องไห้แบบเกินจริง แต่เธอทำให้ตัวละครดูว่างเปล่าและสิ้นหวัง ซึ่งน่ากลัวกว่าการร้องไห้มาก การที่ฮินาโกะไม่มีพลังที่จะร้องไห้หรือแสดงอารมณ์อย่างรุนแรง แต่กลับมีแค่ความว่างเปล่านั้นทำให้เราเข้าใจความเจ็บปวดของเธอได้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น

ถ้าต้องหาข้อวิจารณ์อะไรสักอย่าง นั่นคือความตึงเครียดของตอนนี้ไม่ค่อยได้ผลกับเราในแบบดั้งเดิม ทุกครั้งที่ฮินาโกะตกอยู่ในอันตราย เราไม่ได้รู้สึกตื่นตระหนกแบบ “ได้โปรดอย่าตาย!” หลักๆ เพราะเราสงสัยว่าควรเชียร์ให้เธอตายไหม เพราะมันคือสิ่งที่เธอต้องการ ภาวะที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกทางจริยธรรมนี้ทำให้เรารู้สึกขัดแย้งภายใน เราควรรู้สึกผิดที่เห็นใจความปรารถนาของเธอไหม? หรือควรโล่งใจที่เธออาจจะรอดชีวิต? และจริงๆ แล้วนั่นคือการเขียนเรื่องที่ดีมาก นี่คือภาวะที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกทางจริยธรรมที่ซีรีส์แบบนี้ควรสร้าง มันทำให้เรารู้สึกไม่สบายใจ ทำให้เราตั้งคำถามกับตัวเอง และเปิดประตูสำหรับการเติบโตของตัวละครในภายหลัง
การที่อนิเมะทำให้เราตั้งคำถามว่า เราควรเชียร์ให้ฮินาโกะอยู่รอดหรือควรเคารพในความปรารถนาของเธอ เป็นสิ่งที่ท้าทายและน่าสนใจมาก นี่ไม่ใช่อนิเมะที่จะให้คำตอบง่ายๆ กับเรา แต่มันบังคับให้เราต้องคิดและสำรวจความรู้สึกของตัวเอง คำถามเหล่านี้จะทำให้เราได้คิดทบทวนเกี่ยวกับชีวิต ความตาย และความหมายของการมีชีวิตอยู่ และนั่นคือจุดแข็งของอนิเมะเรื่องนี้
This Monster Wants to Eat Me ตอนที่ 1 เป็นการเปิดตัวที่สวยงามและน่าขนลุกมาก มันล่อลวงเราด้วยความสงบ แล้วทำให้เราไม่สบายใจด้วยเนื้อเรื่องที่แปลกใหม่ ทำให้เราทั้งขัดแย้งและหลงใหล ถ้าซีรีส์นี้ยังคงสร้างสมดุลระหว่างความสยองขวัญกับความงามเหนือจริง ขณะเดียวกันก็สำรวจการเดินทางของฮินาโกะระหว่างความตายและความรัก เราอาจจะได้เห็นหนึ่งในซีรีส์ที่มีเอกลักษณ์ที่สุดของฤดูกาลนี้
อนิเมะเรื่องนี้มีศักยภาพสูงมากที่จะสำรวจธีมที่ซับซ้อนเกี่ยวกับชีวิต ความตาย และความรัก การผสมผสานระหว่าง Girls’ Love กับสยองขวัญ เป็นสิ่งที่หาดูได้ยาก และถ้าอนิเมะเรื่องนี้ทำได้ดี มันอาจจะกลายเป็นหนึ่งในผลงานที่น่าจดจำที่สุดของปี 2025 เราตั้งตารอที่จะเห็นว่าความสัมพันธ์ระหว่างฮินาโกะและชิโอริจะพัฒนาไปในทิศทางใด และทิศทางนั้นจะพาเราไปสู่จุดจบแบบไหน
This Monster Wants to Eat Me คืออนิเมะที่ท้าทายความคาดหมายของเรา มันไม่ได้เป็นแค่เรื่อง Girls’ Love หรือเรื่องสยองขวัญธรรมดา แต่มันผสมผสานทั้งสองอย่างเข้าด้วยกันอย่างชาญฉลาด และเติมธีมเรื่องความตายและความรักที่ทำให้เราตั้งคำถามทางจริยธรรม ตอนแรกสร้างความประทับใจไว้ได้อย่างลึกซึ้ง ด้วยการแสดงเสียงที่ยอดเยี่ยม บรรยากาศที่น่าขนลุกแต่สวยงาม และเนื้อเรื่องที่ท้าทายความคาดหมาย
สำหรับใครที่ชื่นชอบอนิเมะที่แปลกใหม่และไม่ธรรมดา This Monster Wants to Eat Me คือเรื่องที่ไม่ควรพลาด อนิเมะเรื่องนี้จะทำให้เราได้คิดทบทวนเกี่ยวกับชีวิต ความตาย และความหมายของการมีชีวิตอยู่ มันจะพาเราไปในการเดินทางที่เต็มไปด้วยความขัดแย้ง ความสวยงาม และความน่ากลัวพร้อมกัน มาแชร์ความคิดเห็นกันในคอมเมนต์ว่าอนิเมะเรื่องนี้ทำให้เราคิดอย่างไรเกี่ยวกับธีมความตายและความรัก และอย่าลืมแชร์รีวิวนี้ให้เพื่อนๆ ที่ชื่นชอบอนิเมะแนว Girls’ Love หรือสยองขวัญที่มีความหมาย เราจะรอติดตามต่อไปว่าเรื่องราวของฮินาโกะและชิโอริจะจบลงอย่างไร!
- ชื่อเรื่องในภาษาญี่ปุ่น: Watashi wo Tabetai, Hitodenashi
- ชื่อเรื่องในภาษาไทย: หากวันใดใครตนนั้นใคร่กลืนกิน
- ชื่อเรื่องภาษาอังกฤษ: This Monster Wants to Eat Me
- ประเภท: Girls’ Love, สยองขวัญ, เหนือธรรมชาติ, ดราม่า
- ฤดูกาล: Fall 2025
- นักพากย์: Reina Ueda (ฮินาโกะ), Hina Yomiya (ชิโอริ), Haruka Shiraishi (มิโกะ)
- สตูดิโอ: Studio Lings
- วันฉายตอนแรก: 2 ตุลาคม 2025
- เรตติ้ง MyAnimeList: 7.50/10
- ช่องทางการดูในประเทศไทย: Ani-One Thailand Crunchyroll