รีวิวซีรีส์เกาหลี

[รีวิว-เรื่องย่อ] วัยเยาว์ของสองเรา | My Youth (2025)

  • My Youth เป็นซีรีส์ที่สร้างจากเรื่องราวรักแรกในวัยเด็ก ที่ตัวเอกกลับมาเจอกันหลังจากห่างหายไปนาน
  • การแสดงของชอนอูฮีในบทซองแจยอนโดดเด่นมาก แสดงความเป็นมือโปรในวงการบันเทิงแต่ยังซ่อนความอ่อนไหวจากอดีต
  • ซีรีส์สำรวจธีมการเผชิญหน้ากับอดีตและความเปลี่ยนแปลงในชีวิตปัจจุบัน
  • ตอนแรกสร้างบรรยากาศนุ่มนวลแต่เต็มไปด้วยอารมณ์ที่ค้างคา ทำให้อยากดูต่อทันที

เราเคยคิดถึงรักแรกบ้างไหม? แบบที่เวลานึกถึงแล้วใจเต้นตุบๆ เหมือนกลับไปเป็นวัยรุ่นอีกครั้ง แต่ถ้าคนคนนั้นโผล่มาหน้าเราในชีวิตจริงล่ะ จะทำยังไง? ซีรีส์ My Youth (2025) จาก JTBC พาเราไปสัมผัสเรื่องแบบนั้นเลย กับเรื่องราวของสองคนที่เคยรักกันสมัยเด็ก แต่ชีวิตพัดพาให้ห่างกันสิบปี แล้วจู่ๆ ก็กลับมาเจอกันอีก ซีรีส์เรื่องนี้กำกับโดยคนที่รู้จักเล่าเรื่องโรแมนติกแบบนุ่มลึก นำแสดงโดย ซงจุงกิ (Song Joong-ki) ในบทซอนอูแฮ อดีตดาราเด็กที่ตอนนี้ใช้ชีวิตชิลๆ เป็นนักเขียนนิยายและเจ้าของร้านดอกไม้ กับ ชอนอูฮี (Chun Woo-hee) ในบทซองแจยอน สาวเก่งในวงการบันเทิงที่ชีวิตวุ่นวายสุดๆ

เรื่องราวเริ่มจากชีวิตที่ต่างกันสุดขั้วของทั้งคู่ ซอนอูแฮอยู่แบบสงบสุข ท่ามกลางดอกไม้และเพื่อนซี้ แต่ซองแจยอนต้องวิ่งวุ่นในโลกบันเทิง จัดการทีมและดาราแบบมือโปร แต่ทั้งหมดนี้เชื่อมโยงกันด้วยอดีตที่พวกเขาเคยแบ่งปัน ซีรีส์เรื่องนี้เหมือนกระจกสะท้อนชีวิตจริง ที่บางทีโอกาสครั้งที่สองมันมาแบบไม่ทันตั้งตัว ทำให้เราต้องย้อนคิดถึงความบริสุทธิ์ในวันเก่าและความโหดร้ายของโลกผู้ใหญ่

ในบทความนี้ เราจะพาไปเจาะลึกทุกมุมของตอนแรก ตั้งแต่เรื่องย่อที่ทำให้ใจละลาย ไปจนถึงรีวิวว่าทำไมซีรีส์เรื่องนี้ถึงน่าดูสุดๆ มาดูกันว่า My Youth จะทำให้เรารู้สึกยังไงกับการกลับมาเจอรักเก่า และมันจะจุดประกายความหวังในใจเราได้ขนาดไหน

My Youth (2025) #1

รีวิวและเรื่องย่อ My Youth (วัยเยาว์ของสองเรา)

My Youth เปิดเรื่องด้วยการวาดภาพชีวิตที่ต่างกันราวฟ้ากับดินของตัวเอกทั้งสอง ซอนอูแฮใช้ชีวิตเรียบง่ายเป็นเจ้าของร้านดอกไม้ ล้อมรอบด้วยกลิ่นหอมๆ และเพื่อนสนิทอย่างกอนโฮที่คอยซัพพอร์ต ในขณะที่ซองแจยอนต้องโลดแล่นในวงการบันเทิงที่เร็วแรง จัดการทีมที่ Feel Entertainment ด้วยความเฉียบคมและสไตล์ที่ไม่เคยตก แต่ซีรีส์ตั้งใจให้เห็นว่าทั้งคู่ยังผูกพันกันด้วยด้ายแดงจากอดีต เหมือนเส้นด้ายที่มองไม่เห็นแต่ดึงพวกเขากลับมาใกล้กัน

บริษัท Feel Entertainment สนใจซอนอูแฮมานานแล้ว เพราะเขาเคยเป็นดาราเด็กที่ดังสุดๆ ในเกาหลี แต่เขาหายหน้าไปจากวงการ ทำให้บริษัทอยากดึงเขากลับมา แต่ซอนอูแฮปฏิเสธตลอด จนบริษัทเห็นว่าซองแจยอนมีประวัติกับเขา เลยส่งเธอไปลุย เธอเดินทางไปที่ร้านดอกไม้ การเจอกันครั้งนี้เต็มไปด้วยอารมณ์ที่พูดไม่ออก ซอนอูแฮจำเธอได้ทันที และเธอก็สังเกตเห็นกำไลข้อมือที่เธอเคยให้เขาเมื่อนานมาแล้ว เธอแกล้งดูต้นไม้แต่จริงๆ แล้วชวนเขากลับมาเล่นละคร แต่เขาตัดบททันที ไม่ยอมคุยต่อ

เรื่องราวยังพาไปเจอตัวละครอื่นๆ จากอดีตที่คุ้นเคย โมแทริน อดีตดาราเด็กอีกคน ร้องไห้พรากตอนได้ยินเสียงซอกจูในพอดแคสต์ เพราะความคิดถึงวันเก่า ขณะที่ซอนอูแฮส่งดอกไม้แล้วบังเอิญเจอซองแจยอนอีกครั้ง เขายังเจอซอกจูที่ถามตรงๆ ว่าทำไมไม่กลับมาแสดง แต่ซอนอูแฮกลับเงียบสนิท เหมือนคำตอบมันซ่อนอยู่ในความเงียบนั้น พอเขาจะคุยกับซองแจยอน สิ่งอะไรบางอย่างในใจก็รั้งเขาไว้

ต่อมา ซองแจยอนได้โอกาสใหญ่จากโปรดิวเซอร์ดังอย่างยูอิลเจ ที่อยากให้เธอจัดประชุมกับนักเขียนนิยายชื่อดังจินมูยอง ซึ่งจริงๆ แล้วคือซอนอูแฮที่ใช้นามแฝง เขาไม่อยากไปตอนแรก แต่เธอขอร้องจริงจังจนเขายอม ระหว่างประชุม โปรดิวเซอร์พูดว่าจินมูยองหน้าคล้ายดาราเก่าซอนอูแฮ แต่ซองแจยอนรีบเปลี่ยนเรื่อง เพราะรู้ว่าจะทำให้เขาอึดอัด

หลังจากนั้น ซอนอูแฮถามเธอตรงๆ ว่าถ้าไม่มีผลประโยชน์เธอจะยังขอเขาไหม คำถามนี้ทำให้เธออึ้งไปเลย บอกถึงความซับซ้อนในความสัมพันธ์ ต่อมาเธอได้ข่าวประชุมอีกครั้งกับแทรินและโปรดิวเซอร์ ทำให้เธอดีใจขึ้น

คืนนั้น ซอนอูแฮนึกถึงเธอไม่หยุด จนต้องไปหาที่ออฟฟิศ เธอรีบดึงเขาไปที่ลับๆ กลัวคนจำได้ พออยู่กันสองคน เขากอดเธอ บอกว่าดีใจที่ได้เจออีกครั้ง แล้วกำไลข้อมือขาด เหมือนความปรารถนาที่เคยผูกไว้สมหวังแล้ว ตอนจบตอนแรกด้วยโมเมนต์หวานๆ เธอชวนเขากินข้าวดื่มเหล้า บอกว่าเราไม่ได้อายุสิบเก้าอีกแล้ว คำพูดนี้เหมือนเป็นสัญญาณ บอกว่าเขาพร้อมจะเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง ทำให้คนดูอยากดูต่อแบบใจจะขาด

My Youth (2025) #2

ตอนแรกของ My Youth ตั้งฉากได้ดีมาก ด้วยการเปรียบเทียบชีวิตสงบของซอนอูแฮกับโลกวุ่นวายของซองแจยอน ทำให้ซีรีส์มีโทนคิดถึงแต่สดใหม่ การกลับมาเจอกันเต็มไปด้วยความอ่อนโยนและอารมณ์ที่ค้างคา โดยเฉพาะ detail กำไลข้อมือที่เขายังใส่ มันเหมือนสัญลักษณ์ของรักเก่าที่ไม่เคยจาง ตอนนี้สามารถถ่ายทอดความรู้สึกอบอุ่นควบคู่ไปกับความโหยหาได้อย่างพอดี ไม่รีบร้อนไปดราม่าหนัก ทำให้คนดูรู้สึกถึงความลึกซึ้งในอดีตโดยไม่ต้องเล่ามาก

การแสดงของทั้งคู่เด่นสุดๆ ซงจุงกิ ถ่ายทอดความสงบแต่ซ่อนปมในใจได้เนียนมาก ขณะที่ ชอนอูฮี แสดงความเก่งกาจแต่ยังมีมุมอ่อนไหว ทำให้ตัวละครดูจริง เหมือนคนที่เราเจอในชีวิตประจำวัน ซีรีส์เรื่องนี้เหมือนแก้วน้ำใสที่สะท้อนภาพวันเก่า ทำให้เราถามตัวเองว่า ถ้าเจอรักเก่าจะทำยังไง?

บทและการกำกับทำให้ตอนแรกไหลลื่น ชวนติดตาม เหมือนกำลังเล่นเกมปริศนาที่ค่อยๆ เผยชิ้นส่วน ใครชอบโรแมนติกแบบไม่หวานเลี่ยนต้องชอบแน่ๆ

My Youth (2025) ทำให้เราตั้งคำถามกับชีวิตว่าอดีตที่เคยสวยงามมันกลับมาได้จริงไหม ซีรีส์เรื่องนี้แสดงให้เห็นว่าบางทีโอกาสครั้งที่สองมันซ่อนอยู่ในที่ที่เราไม่คาดคิด และปัญหาไม่ได้อยู่ที่เวลา แต่อยู่ที่ใจเราที่กล้าจะก้าวหรือเปล่า แม้ชีวิตจะเปลี่ยนไป แต่ความรู้สึกบางอย่างยังคงอยู่ เหมือนดอกไม้ที่บานซ้ำได้ถ้าได้รับน้ำใจที่พอ

ถ้าเราเป็นแฟนซีรีส์โรแมนติกที่ชอบเรื่องลึกซึ้งแต่ไม่หนักเกิน My Youth คือเรื่องที่ต้องดูเลย มันจะทำให้เราย้อนคิดถึงวันเก่าและเห็นคุณค่าของการเริ่มใหม่ มาคอมเมนต์กันหน่อยว่าตอนแรกทำให้เรารู้สึกยังไงกับรักเก่า และแชร์รีวิวนี้ให้เพื่อนๆ ที่ชอบซีรีส์เกาหลีแนวนี้ดูด้วยนะ อย่าพลาดตอนต่อไปเด็ดขาด!

  • ชื่อเรื่องในภาษาไทย: วัยเยาว์ของสองเรา
  • ประเภท: โรแมนติก, ดราม่า, นอสตัลเจีย
  • วันที่ออกฉาย: 5 ก.ย. 2568 – 10 ต.ค. 2568
  • นักแสดงนำ: ซงจุงกิ (Song Joong-ki), ชอนอูฮี (Chun Woo-hee)
  • ผู้กำกับ: Lee Sang Yeob
  • ความยาวตอน: 12 ตอน
  • เรตติ้ง MyDramaList: 7.7/10
  • ช่องทางการดูในประเทศไทย: Viu

กดเพื่ออ่านต่อ

PhiRa W.

เป็นนักเขียนอิสระที่หลงใหลในสื่อบันเทิงทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นภาพยนตร์ ซีรีส์ วาไรตี้ และสารคดี ผมชอบที่จะวิเคราะห์และถอดรหัสเนื้อหาเหล่านั้นออกมาในรูปแบบของรีวิวที่เข้าใจง่ายและสนุกสนาน เพื่อแบ่งปันมุมมองและประสบการณ์ให้กับผู้อ่าน

บทความที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Back to top button