[รีวิว-เรื่องย่อ] ฝ่าหายนะครองเมือง | Havoc (2025) หนังแอคชั่นเลือดสาด

หากคุณเป็นแฟนหนังแอคชั่นเลือดสาดที่คุ้นเคยกับผลงานของ Gareth Evans จากซีรีส์ The Raid (2012-2014) ที่เต็มไปด้วยฉากต่อสู้ดุเดือดและความรุนแรงที่แทบไม่หยุดหายไปเลยตลอดทั้งเรื่อง Havoc (2025) อาจเป็นคำตอบที่คุณตามหา หนังเรื่องนี้ยังคงสไตล์การเล่าเรื่องแบบ “น้อยแต่มาก” ของ Evans แต่คราวนี้กลับยกระดับความโหดขึ้นไปอีก แม้เวลาจะสั้นกว่า The Raid 2 แต่จำนวนศพที่ล้มตายอาจทำให้คุณตะลึง!

แต่สิ่งที่แตกต่างคือ Havoc ไม่ได้พยายามเล่าเรื่องที่ซับซ้อนหรือสร้างตัวละครที่น่าจดจำ หนังเรื่องนี้คือการรวมตัวของฉากแอคชั่นที่โหดร้ายและต่อเนื่อง โดยมีพล็อตเรื่องที่ดูเหมือนเป็นเพียงข้ออ้างเพื่อพาคุณเข้าสู่โลกแห่งความรุนแรงที่ไร้ขีดจำกัด ตัวเอกอย่าง Tom Hardy ในบท Walker พยายามทำหน้าที่เป็นฮีโร่ที่เต็มไปด้วยความขัดแย้ง แต่สุดท้ายก็ถูกกลืนไปด้วยฉากต่อสู้ที่ไร้ซึ่งความหมาย

แล้ว Havoc ดีพอหรือไม่? หรือมันเป็นเพียงหนังแอคชั่นอีกเรื่องที่พยายามเลียนแบบความสำเร็จของ The Raid แต่ล้มเหลว? เราจะมาวิเคราะห์ทุกแง่มุมของหนังเรื่องนี้ ตั้งแต่การแสดงของนักแสดงชื่อดังไปจนถึงเทคนิคการถ่ายทำที่อาจทำให้คุณผิดหวัง

รีวิวและเรื่องย่อ Havoc (ฝ่าหายนะครองเมือง)

Havoc เล่าเรื่องของ Walker (Tom Hardy) ตำรวจที่เต็มไปด้วยความผิดพลาดและความขัดแย้งในชีวิตส่วนตัว แต่กลับต้องมาทำหน้าที่ช่วยเหลือ Charlie (Justin Cornwell) ลูกชายของนักการเมืองท้องถิ่นที่พัวพันกับแก๊งมาเฟียจีน เมื่อการตามล่าครั้งนี้ดึงเขาเข้าสู่สงครามระหว่างแก๊งอาชญากรและตำรวจที่ทุจริต หนังจึงกลายเป็นเส้นทางแห่งความรุนแรงที่ไม่มีวันจบ

แม้หนังจะพยายามสร้างความลึกให้กับตัวละครหลักผ่านความสัมพันธ์ที่ซับซ้อน แต่สุดท้ายแล้วทุกอย่างก็จบลงที่การต่อสู้แบบไม่ยั้งคิด ตัวละครส่วนใหญ่ถูกเขียนมาแบบผิวเผิน ทำให้ผู้ชมไม่รู้สึกผูกพันหรือเป็นห่วงเมื่อพวกเขาต้องเผชิญอันตราย

Gareth Evans เคยสร้างชื่อจากฉากแอคชั่นที่สวยงามและเต็มไปด้วยความสร้างสรรค์ใน The Raid แต่สำหรับ Havoc ดูเหมือนเขาพยายามยัดเยียดความรุนแรงเข้าไปให้มากที่สุด โดยไม่สนใจความสมจริงหรือความงามของการเคลื่อนไหว ฉากต่อสู้หลายส่วนถูกถ่ายด้วย CGI ที่ดูไม่สมจริง และบางครั้งก็รู้สึกว่า “มากเกินไป” จนกลายเป็นเรื่องตลก

มีฉากสำคัญอยู่ 3 ฉากที่อาจทำให้แฟนหนังแอคชั่นประทับใจ:

1. การไล่ล่าในตรอกแคบ ที่มีการใช้เครื่องซักผ้าเป็นอาวุธ
2. การต่อสู้ในคลับ ที่เต็มไปด้วยเลือดและอวัยวะที่ขาดรุ่งริ่ง
3. ฉากสุดท้ายในกระท่อม ที่ทุกคนมาพบกันเพื่อยิงกันอย่างบ้าคลั่ง

แต่ถึงแม้ฉากเหล่านี้จะดูดุดัน แต่กลับขาด “จิตวิญญาณ” ของหนังแอคชั่นคลาสสิกอย่าง John Woo ที่ความรุนแรงไม่ได้เป็นเพียงการฆ่าฟัน แต่ยังมีศิลปะและการเล่าเรื่องแฝงอยู่

Havoc อาจตอบโจทย์แฟนหนังที่ต้องการความรุนแรงแบบไม่ต้องคิดมาก แต่ถ้าคุณคาดหวังเรื่องราวที่ดี ตัวละครที่น่าสนใจ หรือแอคชั่นที่สมจริงและสวยงาม หนังเรื่องนี้อาจทำให้คุณผิดหวัง Gareth Evans ยังคงเป็นผู้กำกับที่เข้าใจการสร้างฉากต่อสู้ แต่ดูเหมือนเขาลืมไปว่าหนังแอคชั่นที่ดีต้องมีมากกว่าแค่เลือดและกระสุน

หากคุณอยากดูหนังแอคชั่นเลือดสาดสักเรื่อง Havoc อาจเป็นตัวเลือกหนึ่ง แต่เตรียมใจให้พร้อมสำหรับความรุนแรงที่อาจมากเกินจำเป็น และพล็อตเรื่องที่แทบไม่มีอะไรให้จดจำ

• ชื่อเรื่องในภาษาไทย: ฝ่าหายนะครองเมือง
• ประเภท: แอ็กชัน, ทริลเลอร์
• วันที่ออกอากาศ: 25 เมษายน 2025
• นักแสดงนำ: Tom Hardy, Forest Whitaker, Timothy Olyphant, Jessie Mei Li, Justin Cornwell, Quelin Sepulveda
• ผู้กำกับ: Gareth Evans
• จำนวนตอน/ความยาว: 1 ชั่วโมง 45 นาที
• เรตติ้ง IMDb: 6/10
• ช่องทางการดู: Netflix