รีวิวซีรีส์ฝรั่ง

[รีวิว-เรื่องย่อ] ปิดตาฟอร์มวง | Building the Band (2025)

  • แนวคิดสุดแหวก: Building the Band นำเสนอการสร้างวงดนตรีโดยไม่เห็นหน้ากัน ท้าทายการตัดสินจากภาพลักษณ์
  • จุดเด่น: ความหลากหลายของผู้เข้าแข่งขันและคณะกรรมการชื่อดังอย่าง Nicole Scherzinger และ Kelly Rowland
  • จุดด้อย: การดำเนินเรื่องยืดเยื้อและขาดเคมีในบางวง ทำให้เสียอารมณ์
  • คำแนะนำ: เหมาะสำหรับแฟนเรียลลิตี้ที่ชอบดนตรี แต่ต้องลดความคาดหวังเรื่องความตื่นเต้น

เคยรู้สึกไหมว่าเวลาดูรายการเรียลลิตี้เกี่ยวกับดนตรี แล้วเหมือนได้ย้อนกลับไปสมัยเด็ก ๆ ที่นั่งหน้าทีวีกับครอบครัว ตื่นเต้นไปกับการแข่งขันร้องเพลงอย่าง Pop Idol หรือ The X Factor? ตัวฉันเองเติบโตมากับแม่ที่หลงใหลในดนตรี และรายการแข่งขันเหล่านี้คือส่วนหนึ่งของความทรงจำวัยเด็กที่แสนพิเศษ เมื่อได้ยินว่า Netflix เปิดตัว Building the Band ในปี 2025 ฉันจึงตื่นเต้นมากที่จะได้สัมผัสความรู้สึกเก่า ๆ อีกครั้ง แต่สิ่งที่ทำให้รายการนี้พิเศษยิ่งกว่าคือแนวคิดสุดแหวกแนว การสร้างวงดนตรีโดยที่ผู้เข้าแข่งขันไม่เห็นหน้ากัน! ฟังดูเหมือน Love is Blind เวอร์ชันนักดนตรีใช่ไหมล่ะ? แค่คิดก็สนุกแล้ว!

Building the Band ไม่ได้เป็นแค่รายการเรียลลิตี้ทั่วไป มันมาพร้อมแนวคิดที่ท้าทายการตัดสินคนจากภายนอก ซึ่งเป็นสิ่งที่ฉันชื่นชอบมากในยุคที่ทุกคนหมกมุ่นกับภาพลักษณ์ รายการนี้พยายามชวนให้เราโฟกัสที่ความสามารถและตัวตนที่แท้จริงของผู้เข้าแข่งขัน ฟังดูน่าสนใจสุด ๆ ใช่ไหม? แต่เมื่อได้ดูจริง ๆ ฉันพบว่ามันมีทั้งจุดที่ทำให้ตื่นเต้นและจุดที่ทำให้ผิดหวัง มาดูกันว่ารายการนี้จะพาคุณไปพบอะไรบ้าง และมันจะทำให้คุณหลงรักหรืออยากเปลี่ยนช่องหนี!

Building the Band (ปิดตาฟอร์มวง) (2025)

รีวิวและเรื่องย่อ Building the Band (ปิดตาฟอร์มวง)

Building the Band นำเสนอกฎง่าย ๆ แต่ทรงพลัง: ผู้เข้าแข่งขัน 50 คนจะต้องเลือกสมาชิกวงโดยไม่เห็นหน้าตากันเลย แต่ละคนมีโอกาสให้ “ไลค์” ได้ 10 ครั้งเพื่อเลือกคนที่อยากร่วมวง และต้องได้รับไลค์อย่างน้อย 5 ครั้งเพื่อผ่านเข้ารอบต่อไป เมื่อผ่านเข้ารอบแล้ว พวกเขาจะเริ่มคุยกันผ่านระบบที่คล้ายกับรายการ The Circle เพื่อสร้างวงที่มีสมาชิก 3-5 คน จากนั้นวงที่ฟอร์มขึ้นจะต้องแข่งขันกันต่อหน้าคณะกรรมการชื่อดังอย่าง Nicole Scherzinger, Kelly Rowland และ Liam Payne (พร้อมการไว้อาลัยที่ซึ้งใจให้กับ Liam ในตอนแรก) แนวคิดนี้ทำให้ฉันตื่นเต้น เพราะมันเหมือนการทดลองทางสังคมที่ท้าทายค่านิยมในยุคที่ภาพลักษณ์มาก่อนสาระ

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าแนวคิดจะดูน่าสนใจ แต่การนำเสนอกลับทำให้ฉันรู้สึกว่ามันยืดเยื้อเกินไป ในโลกที่ทุกอย่างเร็วไปหมด การใช้เวลาถึงสามตอน (หรือสามชั่วโมง!) เพื่อฟอร์มวงดนตรีนั้นรู้สึกเหมือนกำลังวิ่งมาราธอนที่ไม่จำเป็น ถ้าเปรียบเทียบกับยุคทองของ Pop Idol หรือ The X Factor ที่ใช้เวลาแค่ 1-2 ตอนในการคัดเลือก มันชัดเจนว่า Building the Band พยายามยืดเรื่องราวเพื่อสร้างความตื่นเต้น แต่กลับทำให้คนดูอย่างฉันเริ่มกดข้ามไปมา คุณเคยรู้สึกไหมว่าเวลาดูอะไรยาว ๆ แล้วเริ่มหมดความอดทน? นี่แหละคือสิ่งที่ฉันเจอ!

สิ่งที่ทำให้ Building the Band น่าสนใจคือความหลากหลายของผู้เข้าแข่งขันที่มีทั้งความฝันและสไตล์ที่แตกต่างกัน ฉันชอบที่รายการพยายามสร้างพื้นที่ให้คนที่มีความสามารถได้เปล่งประกายโดยไม่ต้องกังวลเรื่องหน้าตา แต่สิ่งที่ทำให้ฉันผิดหวังคือทัศนคติของผู้เข้าแข่งขันบางคนที่ยังยึดติดกับการสร้างวงแบบ “เฉพาะผู้หญิง” หรือ “เฉพาะผู้ชาย” ในเมื่อจุดเด่นของรายการคือการไม่ตัดสินจากภายนอก ทำไมถึงยังจำกัดตัวเองด้วยกรอบแบบนี้ล่ะ? มันเหมือนการเดินเข้าไปในร้านอาหารที่มีเมนูหลากหลาย แต่เลือกสั่งแค่ข้าวผัดเดิม ๆ ที่เคยกิน!

นอกจากนี้ การขาดเคมีระหว่างสมาชิกในบางวงก็เป็นปัญหาใหญ่ อย่างเช่น วงผู้หญิงวงหนึ่งที่ฟอร์มขึ้นมา ฉันรู้สึกว่าพวกเขาเหมือนคนแปลกหน้าที่ถูกจับมารวมกันโดยไม่มีอะไรเชื่อมโยงเลย มันน่าผิดหวังที่เห็นศักยภาพของพวกเขาต้องสูญเปล่าเพราะขาดความลงตัว ในทางกลับกัน มีวงบอยแบนด์วงหนึ่งที่ดูมีแวว แต่ก็มีสมาชิกบางคนที่ดูเหมือนจะ “ติดรถมา” มากกว่าที่จะมีส่วนร่วมอย่างแท้จริง คุณเคยเห็นทีมที่ทุกคนเก่งแต่ขาดความเป็นหนึ่งเดียวไหม? นั่นคือสิ่งที่ฉันรู้สึกกับบางวงในรายการนี้

ถ้าจะให้เปรียบเทียบ การดู Building the Band เหมือนการนั่งรถไฟที่ควรจะถึงจุดหมายในสองชั่วโมง แต่กลับต้องแวะทุกสถานีจนใช้เวลาเป็นวัน! การปล่อยสี่ตอนแรกพร้อมกันแล้วค้างไว้หกตอนหลังทำให้คนดูอย่างฉันรู้สึกเหมือนถูกทิ้งไว้กลางทาง ถ้า Netflix เลือกปล่อยตอนละสัปดาห์เหมือนรายการยุคก่อน ๆ อาจจะช่วยสร้างความตื่นเต้นและรักษาความสนใจของผู้ชมได้ดีกว่า คุณคิดว่าไหมว่าการรอคอยนิด ๆ หน่อย ๆ มันทำให้อะไร ๆ น่าสนใจขึ้น?

ยิ่งไปกว่านั้น การตัดต่อและจังหวะของรายการก็ดูไม่ลงตัว บางช่วงรู้สึกเหมือนกำลังดูสารคดีที่ยาวเกินไปมากกว่ารายการแข่งขันที่ควรจะตื่นเต้นตลอดเวลา ถ้าเปรียบเทียบกับ The Voice ที่มีการตัดต่อฉับไวและดึงอารมณ์คนดูได้ทันที Building the Band ยังขาดความกระชับที่ทำให้คนดูติดหนึบ ฉันหวังว่าในอนาคต Netflix จะปรับปรุงจุดนี้เพื่อให้รายการสนุกและลื่นไหลกว่านี้

Building the Band ในปี 2025 บน Netflix เป็นรายการที่มาพร้อมแนวคิดที่สดใหม่และน่าสนใจ การสร้างวงดนตรีโดยไม่เห็นหน้ากันเป็นไอเดียที่ทั้งท้าทายและชวนให้คิดถึงค่านิยมในสังคมปัจจุบัน อย่างไรก็ตาม การดำเนินเรื่องที่ยืดเยื้อและการขาดเคมีในบางวงทำให้รายการนี้ไม่สามารถดึงดูดใจได้เต็มที่ ฉันยังคงชื่นชมความพยายามของ Netflix ที่กล้าทำอะไรใหม่ ๆ และหวังว่าจะได้เห็นการปรับปรุงในซีซันหน้า ถ้าคุณเป็นแฟนรายการเรียลลิตี้หรือหลงใหลในดนตรี รายการนี้อาจจะเป็นตัวเลือกที่สนุกสำหรับเย็นวันศุกร์ แต่ถ้าคุณคาดหวังความตื่นเต้นแบบจัดเต็ม คุณอาจต้องลดความคาดหวังลงสักหน่อย

ถึงเวลาที่คุณจะลองไปดูและตัดสินด้วยตัวเองแล้วล่ะ! คุณคิดว่า Building the Band จะทำให้คุณหลงรักหรือรู้สึกเหมือนฉันที่อยากย้อนกลับไปดู The X Factor แทน? มาคอมเมนต์บอกกันหน่อย หรือแชร์โพสต์นี้ให้เพื่อน ๆ ที่ชอบรายการเรียลลิตี้ได้รู้! ถ้าคุณอยากสัมผัสความตื่นเต้นของการสร้างวงแบบไม่เห็นหน้า ลองเปิด Netflix แล้วไปดูกันเลย!

  • ชื่อเรื่องในภาษาไทย: ปิดตาฟอร์มวง
  • ประเภท: เรียลลิตี้, ดนตรี, การแข่งขัน
  • วันที่ออกอากาศ: 9 กรกฎาคม 2025
  • นักแสดงนำ: เอเจ แมคลีน (พิธีกร), นิโคล เชอร์ซิงเกอร์ (เมนเทอร์และกรรมการ), เคลลี่ โรว์แลนด์ (กรรมการรับเชิญ), เลียม เพย์น (กรรมการรับเชิญ)
  • **จำนวนตอน/ความยาว: 10 ตอน
  • ช่องทางการดูในประเทศไทย: Netflix

PhiRa W.

เป็นนักเขียนอิสระที่หลงใหลในสื่อบันเทิงทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นภาพยนตร์ ซีรีส์ วาไรตี้ และสารคดี ผมชอบที่จะวิเคราะห์และถอดรหัสเนื้อหาเหล่านั้นออกมาในรูปแบบของรีวิวที่เข้าใจง่ายและสนุกสนาน เพื่อแบ่งปันมุมมองและประสบการณ์ให้กับผู้อ่าน

บทความที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Back to top button