
Key Points
- เวิ่นเว้อ การพูดหรือเขียนที่ไม่กระชับ ขยายความมากเกินไปโดยไม่ได้สาระสำคัญ
- คำนี้มีต้นกำเนิดจากภาษาเขมร และถูกนำมาใช้ในภาษาไทยอย่างแพร่หลาย
- การเวิ่นเว้อเกิดจากหลายสาเหตุ เช่น ความไม่มั่นใจ การไม่เตรียมตัว หรือความเคยชิน
- มีวิธีแก้ไขได้ เช่น การฝึกสรุป การวางแผนก่อนพูด และการใช้เทคโนโลยีช่วย
เคยได้ยินคำว่า เวิ่นเว้อ ในบทสนทนาแล้วสงสัยไหมว่ามันแปลว่าอะไร? หรือเคยเจอคนพูดแบบยาวเหยียดจนฟังแล้วรู้สึก “อืดอัด” หรือ “หงุดหงิด”? ถ้าใช่ คุณอาจเคยเจอคนที่ “พูดเวิ่นเว้อ” โดยไม่รู้ตัว! คำว่า เวิ่นเว้อ เป็นคำศัพท์ภาษาไทยที่ใช้เรียกพฤติกรรมการพูดหรือการเขียนที่เลื่อนลอย ไม่ตรงประเด็น หรือขยายความมากเกินไปโดยไม่มีสาระสำคัญ
เวลาที่ใครสักคนพูดอะไรนานๆ โดยไม่เข้าเรื่อง เช่น พูดเรื่องครอบครัวแต่จบลงที่เรื่องอาหารเมื่อเดือนที่แล้ว เราอาจบอกเขาเบาๆ ว่า “คุณพูดเวิ่นเว้อจังเลยนะ” ซึ่งไม่ใช่คำด่า แต่เป็นการสะท้อนว่าเราอยากให้เขาโฟกัสกับสิ่งที่กำลังพูดอยู่จริงๆ คำนี้จึงมีความหมายเชิงอารมณ์ร่วมด้วย ไม่ใช่แค่การอธิบายพฤติกรรมทางภาษาเท่านั้น
ถ้ามองในบริบทของการสื่อสารในชีวิตประจำวัน เวิ่นเว้อ มักถูกใช้เพื่ออธิบายการพูดที่ไม่กระชับ ขาดโครงสร้างที่ชัดเจน หรือแม้แต่การใช้คำซ้ำๆ จนทำให้ผู้ฟังรู้สึกเบื่อหน่าย บางคนอาจพูดเพราะต้องการอธิบายให้ละเอียด แต่กลับทำให้เสียพลังงานในการฟังจากฝั่งผู้รับสาร นี่จึงเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นได้บ่อย โดยเฉพาะในสถานการณ์ที่ต้องการการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพ เช่น การประชุม การสอน หรือแม้แต่การขายสินค้า

ที่มาและประวัติของคำว่า “เวิ่นเว้อ”
คำว่า เวิ่นเว้อ หมายถึงการพูดหรือเขียนที่ไม่ตรงจุด หรือใช้เวลาเยอะโดยไม่ได้สาระ เมื่อคำนี้ถูกนำเข้ามาใช้ในภาษาไทย ก็กลายเป็นคำที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในวงสนทนาทั่วไป โดยเฉพาะในกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่มักใช้คำนี้ในเชิงตลกขบขันหรือแซวกันเล่นๆ
ในอดีต คำว่า เวิ่นเว้อ อาจจะไม่ได้มีการบันทึกไว้ในพจนานุกรมภาษาไทยอย่างเป็นทางการ แต่ในยุคสมัยที่การสื่อสารผ่านโซเชียลมีเดียเติบโตอย่างรวดเร็ว คำนี้กลับกลายเป็นคำยอดนิยมที่ใช้กันทั้งในโลกออนไลน์และออฟไลน์ ไม่ว่าจะเป็นในโพสต์เฟซบุ๊ก, คลิปวิดีโอ หรือแม้แต่ในเกมออนไลน์ที่เพื่อนๆ แซวกันเวลาที่ใครพูดยาวเกินไป
นอกจากนี้ ในปัจจุบัน คำว่า เวิ่นเว้อ ยังถูกนำไปใช้ในบริบทการทำงาน เช่น การนำเสนอผลงานที่ไม่กระชับ หรือรายงานที่เขียนยาวจนไม่มีใครอ่าน บริษัทบางแห่งถึงกับมีนโยบายให้ลดการใช้ภาษาที่ “เวิ่นเว้อ” เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน นี่จึงไม่ใช่แค่คำธรรมดา แต่เป็นคำที่สะท้อนแนวโน้มการสื่อสารในยุคดิจิทัลที่ต้องการความเรียบง่ายและความชัดเจน
ลักษณะของคนที่มักจะเวิ่นเว้อ และทำไมพวกเขาถึงเป็นแบบนั้น
บางคนอาจคิดว่า คนที่พูดหรือเขียนเวิ่นเว้อเป็นเพราะ “ไม่ฉลาด” หรือ “ไม่มีความสามารถในการสื่อสาร” แต่ความจริงแล้ว สาเหตุหลักมักเกิดจากปัจจัยหลายอย่าง เช่น:
- ความไม่มั่นใจในตนเอง: คนที่ไม่มั่นใจในเนื้อหาที่ตัวเองจะพูด มักจะขยายความเพื่อให้ดูเหมือนมีเนื้อหาครบถ้วน แต่จริงๆ แล้วอาจไม่มีสาระสำคัญ
- ความต้องการแสดงออกอย่างเต็มที่: บางคนชอบพูดเพราะรู้สึกว่าเป็นโอกาสในการแสดงความคิดเห็น จนลืมตรวจสอบว่าเนื้อหานั้นจำเป็นหรือไม่
- การไม่เตรียมตัว: การพูดหรือเขียนที่ไม่มีโครงสร้างชัดเจน มักเกิดจากการไม่ได้เตรียมตัวล่วงหน้า ทำให้พูดไปเรื่อยๆ โดยไม่รู้ว่าจะจบตรงไหน
- ความเคยชิน: บางคนโตมาในสภาพแวดล้อมที่การพูดยาวเป็นเรื่องปกติ เช่น ครอบครัวที่พูดเก่ง หรือวัฒนธรรมการทำงานที่ไม่เน้นความกระชับ
การสังเกตว่าใครเป็นคนที่มีแนวโน้มจะพูดเวิ่นเว้อได้ง่าย สามารถช่วยให้เราปรับปรุงการสื่อสารของเราเองได้ดีขึ้น นอกจากนี้ ยังสามารถช่วยให้เราเข้าใจผู้อื่นได้ดีขึ้นด้วย เพราะไม่ใช่ทุกคนที่ตั้งใจจะพูดยาว แต่เป็นเพราะพวกเขายังไม่รู้วิธีจัดลำดับความคิดอย่างมีประสิทธิภาพเท่านั้น
วิธีแก้ไขการเวิ่นเว้อในการสื่อสาร
ถ้าคุณหรือคนรอบตัวมีนิสัยพูดเวิ่นเว้อ อย่าเพิ่งหมดหวัง เพราะมีวิธีแก้ไขได้! ลองนำเทคนิคเหล่านี้ไปปรับใช้ดู:
- ฝึกการสรุป: แทนที่จะพูดยาวๆ ทั้งหมด ให้เริ่มด้วยการสรุปประเด็นหลักก่อน จากนั้นค่อยลงรายละเอียด
- วางแผนก่อนพูด: หากต้องนำเสนอ แนะนำให้เขียนหัวข้อหลักไว้ล่วงหน้า เพื่อไม่ให้หลุดออกจากประเด็น
- ใช้คำถามปลายเปิด: ถ้าคุณเป็นผู้ฟัง ลองถามคำถามที่ช่วยให้ผู้พูดโฟกัส เช่น “คุณสรุปให้ฟังสั้นๆ ได้ไหม?”
- ฝึกการฟังอย่างตั้งใจ: บางครั้งการพูดเวิ่นเว้อเกิดจากความไม่มั่นใจว่าผู้ฟังเข้าใจหรือไม่ ดังนั้นการตอบกลับที่แสดงว่าเราเข้าใจ จะช่วยให้ผู้พูดรู้สึกสบายใจขึ้น
- ใช้เทคโนโลยีช่วย: แอปพลิเคชันช่วยจดบันทึก เช่น Google Keep หรือ Notion สามารถใช้เป็นเครื่องมือฝึกการสื่อสารให้กระชับและมีโครงสร้าง
การฝึกฝนเพียงเล็กน้อยก็สามารถเปลี่ยนคนที่เคยพูดเวิ่นเว้อให้กลายเป็นนักสื่อสารที่มีประสิทธิภาพได้ สิ่งสำคัญคือต้องมีความตั้งใจและเปิดใจที่จะปรับปรุง
เวิ่นเว้อในยุคดิจิทัล: ทำไมมันถึงยังคงมีอยู่
แม้เราจะอยู่ในยุคดิจิทัลที่เน้นความเร็วและความกระชับ แต่คำว่า เวิ่นเว้อ ยังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่อง ทำไมถึงเป็นเช่นนั้น? คำตอบคือ:
- โซเชียลมีเดีย: แพลตฟอร์มอย่าง TikTok, Facebook และ YouTube ทำให้การพูดหรือเขียนที่ยาวๆ ยังคงมีที่ทาง เพราะผู้ชมบางคนชอบเนื้อหายาวที่ให้ความรู้สึกใกล้ชิดและเป็นกันเอง
- การตลาด: บางครั้งแบรนด์ใช้ภาษาเวิ่นเว้อเพื่อดึงดูดความสนใจ เช่น การใช้ประโยคยาวๆ ที่แฝงอารมณ์ขันหรือความเซอร์ไพรส์
- ความหลากหลายของผู้ฟัง: ไม่ใช่ทุกคนที่ชอบการสื่อสารที่กระชับเสมอไป บางคนชอบเนื้อหายาวที่อธิบายละเอียด
ดังนั้น คำว่า เวิ่นเว้อ ไม่ได้เป็นสิ่งที่ “ผิด” เสมอไป แต่ขึ้นอยู่กับบริบทและการใช้ให้เหมาะสม การสื่อสารที่ดีคือการรู้จักปรับตัวตามผู้ฟังและสถานการณ์
ทิ้งท้าย
คำว่า เวิ่นเว้อ ไม่ใช่แค่คำหยอกล้อระหว่างเพื่อน แต่เป็นปรากฏการณ์ทางภาษาที่สะท้อนวิธีการสื่อสารของคนในสังคมปัจจุบัน ไม่ว่าคุณจะเป็นคนที่มักจะพูดเวิ่นเว้อเอง หรือเป็นคนที่รู้สึกหงุดหงิดเมื่อเจอคนแบบนี้ ความเข้าใจในคำนี้จะช่วยให้คุณสื่อสารได้ดีขึ้น และรับฟังได้เข้าใจมากขึ้น
หากคุณชอบบทความนี้ อย่าลืมแชร์ให้เพื่อนๆ ได้อ่านด้วยนะ หรือถ้าคุณมีประสบการณ์สนุกๆ กับคนที่พูดเวิ่นเว้อ คอมเมนต์เล่าให้ฟังได้เลย!