นิทานชาดก

นิทานชาดก : พญาเนื้อทอง

นิทานชาดก : พญาเนื้อทอง เป็นนิทานที่เล่าถึงความรักและความกล้าหาญของพญาเนื้อทองและนางเนื้อ ทั้งสองต้องเผชิญกับสถานการณ์คับขันเมื่อพญาเนื้อทองติดบ่วงนายพราน ความรักอันยิ่งใหญ่ของนางเนื้อทำให้เธอตัดสินใจเสียสละชีวิตเพื่อปกป้องสามี การกระทำอันกล้าหาญของเธอทำให้นายพรานประทับใจและปล่อยทั้งสองให้เป็นอิสระ

พญาเนื้อทอง

ในสมัยหนึ่ง พระพุทธเจ้าประทับอยู่วัดเชตวันเมืองสาวีตถี ทรงปรารภธิดาของตระกูลอุปัฏฐากพระอัครสาวกทั้งสอง (พระสารีบุตร และพระโมคคัลลานะ) นางหนึ่งผู้สามารถทำให้ครอบครัวสามีเป็นมิจฉาทิฏฐิกลับเป็นสัมมาทิฏฐิ ได้ตรัสอดีตนิทานมาสาธก ว่า…

กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว พระโพธิสัตว์เกิดเป็นพญาเนื้อมีผิวพรรณดุจทอง มีนางเนื้อผู้ภรรยาที่น่ารัก ปกครองเนื้อประมาณ 80,000 ตัว อาศัยอยู่ป่าแห่งหนึ่ง

อยู่มาวันหนึ่ง พญาเนื้อนั้นพาบริวารออกหากิน เท้าได้ติดบ่วงนายพราน พยายามดิ้นสุดชีวิตหวังให้บ่วงขาด บ่วงกลับยิ่งรัดเข้าติดกระดูกข้อเท้า สร้างความเจ็บปวดทรมานอย่างยิ่งจึงร้องขึ้นว่า

“เราติดบ่วงแล้ว พวกท่านจงพากันหนีไป” หมู่เนื้อพอได้ยินก็พากันหนีไป ส่วนนางเนื้อภรรยาวิ่งหนีไปได้หน่อยหนึ่งไม่เห็นสามีวิ่งตามมาด้วย จึงวิ่งย้อนกลับไปที่เดิม เห็นสามีติดบ่วงอยู่จึงร้องไห้คร่ำครวญ ว่า

“พี่.. ท่านเป็นผู้มีกำลังมาก พยายามดึงบ่วงให้หลุดเถิด น้องอยู่คนเดียวในป่านี้โดยไม่มีพี่ไม่ได้นะ” พญาเนื้อตอบภรรยาว่า “น้อง..พี่ได้พยายามแล้ว แต่บ่วงมันไม่ขาด มันยิ่งรัดแน่นเข้าจนเท้าพี่จะขาดแล้วละ” นางเนื้อภรรยาพูดปลอบใจสามีว่า “พี่ไม่ต้องกลัว น้องจะอยู่เป็นเพื่อนพี่เอง ถ้าพี่ตายน้องขอตายด้วย น้องจะอ้อนวอนให้นายพรานเห็นใจปล่อยพวกเราไป ถ้าเขาไม่เห็นใจ น้องขอตายแทนพี่เอง” แล้วได้ยืนอยู่กับสามีผู้ชุ่มด้วยเลือดนองเท้่าอยู่ที่นั่นเอง

เวลาผ่านไปไม่นานนัก นายพรานเจ้าของบ่วงเดินถือหอกและดาบมาถึง นางเนื้อได้ออกมายืนต่อหน้านายพรานไหว้แล้วพูดว่า “ท่านนายพรานผู้เจริญ สามีข้าพเจ้าเป็นพญาเนื้อ เพียบพร้อมด้วยศีลและมารยาทดีงาม ปกครองเนื้อ 80,000 ตัว ก่อนที่ท่านจะฆ่าเขาขอให้ท่านฆ่าข้าพเจ้าก่อนเถิด” นายพรานพอได้ฟังก็ปลื้มใจแทน คิดว่า “แม้แต่มนุษย์เองก็ไม่มีใครเสียสละชีวิตตนเพื่อสามีเลย นางเนื้อตัวนี้กลับกล้าทำ และยังพูดเป็นภาษามนุษย์ที่ไพเราะยิ่งนัก เราจักให้ชีวิตแก่เนื้อสองตัวนี้” จึงพูดตอบไปว่า”แม่เนื้อ เราไม่เคยได้ยินได้เห็นเนื้อพูดได้ ขอให้ตัวเจ้าและพญาเนื้อจงอยู่เป็นสุขเถิด เราปล่อยพวกเจ้าไปละ” ว่าแล้วก็ตัดบ่วงที่เท้าพญาเนื้อทำบาดแผลให้แล้วก็ปล่อยไป

นางเนื้อปลาบปลื้มใจยิ่งพูดขอบคุณนายพรานว่า “นายพรานผู้เจริญ ขอขอบคุณท่านเป็นอย่างสูงยิ่ง ขอให้ท่านและครอบครัวจงจำเริญสุขยิ่ง ๆ ขึ้นไปด้วยเทอญ” ก่อนจากไปพญาเนื้อได้คาบแก้วมณีก้อนหนึ่งมาให้แก่นายพรานพร้อมให้โอวาทว่า “ท่านนายพราน ต่อแต่นี้ไปขอให้ท่านเลิกฆ่าสัตว์ตัดชีวิตเสียเถิดจงทำบุญรักษาศีลให้ทานด้วยแก้วมณีนี้เถิด” กล่าวจบก็อำลานายพรานเข้าป่าไป

นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า

ผู้มีศีลธรรม ย่อมสามารถชักนำผู้มีความเห็นผิด กลับมาเป็นผู้มีความเห็นถูกได้

อ่านต่อ

Fern A.

สามารถสร้างสรรค์เรื่องราวที่หลากหลาย ทั้งนิทาน นิทานชาดก และนิทานอีสป โดยฉันจะเน้นไปที่การถ่ายทอดเรื่องราวที่สนุกสนานและเต็มไปด้วยข้อคิดสอนใจ เพื่อให้ผู้อ่านได้รับประโยชน์จากเรื่องราวเหล่านั้น เชื่อว่านิทานเป็นสื่อที่ทรงพลัง สามารถปลูกฝังค่านิยมที่ดีให้กับเด็ก ๆ ได้ นิทานสามารถช่วยให้เด็ก ๆ เรียนรู้เกี่ยวกับโลกรอบตัว รู้จักการคิดวิเคราะห์ รู้จักแยกแยะสิ่งดีสิ่งเลว รู้จักแก้ไขปัญหา และรู้จักเห็นอกเห็นใจผู้อื่น

บทความที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Back to top button