30 ซีรีส์ตำรวจสุดมันส์ สนุกเข้มข้น แฟนสายสืบห้ามพลาด!

วงการบันเทิงไทยและต่างประเทศเต็มไปด้วยผลงานซีรีส์แนวตำรวจที่สร้างความตื่นเต้นและท้าทายให้กับผู้ชม ด้วยเรื่องราวการไขคดี สืบสวนสอบสวน และความดราม่าที่เข้มข้น ซีรีส์เหล่านี้ไม่เพียงแต่เล่าเรื่องแอ็กชันสุดมันส์ แต่ยังสะท้อนให้เห็นถึงความซับซ้อนของจิตใจมนุษย์และความยุติธรรมในสังคม

สำหรับคนที่ชื่นชอบความลึกลับและความตื่นเต้นในโลกของการสืบสวน วันนี้เราขอแนะนำ ซีรีส์ตำรวจ ที่ได้รับความนิยมและคำชมจากผู้ชมทั่วโลก ซีรีส์แต่ละเรื่องล้วนมีเสน่ห์เฉพาะตัวและพล็อตเรื่องที่ชวนติดตาม

ไม่ว่าคุณจะเป็นแฟนซีรีส์เก่า หรือกำลังมองหาซีรีส์ใหม่ ๆ ที่จะทำให้คุณไม่วางสายตา ติดตามบทความนี้เพื่อพบกับรายชื่อที่ครบครันและน่าดูที่สุดในปีนี้

1. Signal (2016)

สัญญาณลับ ล่าข้ามเวลา (Signal) เป็น ซีรีส์เกาหลี ที่ผสมผสานความลึกลับและการสืบสวนได้อย่างน่าตื่นเต้น เรื่องราวของ พัคแฮยอง นักวิเคราะห์พฤติกรรมอาชญากรที่สูญเสียศรัทธาในตำรวจจากอดีตอันเจ็บปวด เมื่อเขาค้นพบวิทยุสื่อสารเก่าที่เชื่อมต่อกับ อีแจฮัน นักสืบในอดีต ทั้งสองร่วมมือกันไข คดีเย็น ที่ยังปิดไม่ลง ผ่านการสื่อสารข้ามเวลา เรื่องราวเต็มไปด้วยปมปริศนาและความระทึกที่ชวนให้ลุ้นทุกตอน

ด้วยพล็อตที่แปลกใหม่และการเล่าเรื่องที่สลับไปมาระหว่างอดีตและปัจจุบัน Signal นำเสนอการสืบสวนที่เข้มข้นผสมผสานกับ ดราม่า และ แฟนตาซี ได้อย่างลงตัว การแสดงของนักแสดงนำที่ถ่ายทอดอารมณ์ได้อย่างลึกซึ้งทำให้ ซีรีส์ นี้เป็นหนึ่งใน ซีรีส์สืบสวน ที่แฟนๆ ไม่ควรพลาด

• ชื่อเรื่องในภาษาไทย: สัญญาณลับ ล่าข้ามเวลา
• ประเภท: สืบสวน, อาชญากรรม, ดราม่า, แฟนตาซี
• วันที่ออกอากาศ: 22 มกราคม 2016
• นักแสดงนำ: อีเจฮุน, คิมฮเยซู, โจจินวูง
• ผู้กำกับ: คิมวอนซอก
• จำนวนตอน/ความยาว: 16 ตอน
• เรตติ้ง IMDb: 8.5/10
• ช่องทางการดูในประเทศไทย: Netflix

2. Voice (2017-2021)

Voice (2017-2021) เป็นซีรีส์เกาหลีแนวทริลเลอร์อาชญากรรมที่เข้มข้นและชวนลุ้นระทึก เรื่องราวติดตามหน่วยงานตำรวจในศูนย์รับแจ้งเหตุฉุกเฉินที่ต้องเผชิญหน้ากับคดีอาชญากรรมสุดซับซ้อน ตัวเอกคือเจ้าหน้าที่ตำรวจที่มีความสามารถพิเศษในการวิเคราะห์เสียงและเบาะแสเพื่อตามล่าตัวผู้ร้าย ซีรีส์ถ่ายทอดความกดดันของการทำงานแข่งกับเวลา พร้อมเผยด้านมืดของจิตใจมนุษย์ผ่านคดีที่ทั้งโหดร้ายและน่าสะพรึงกลัว

นอกจากพล็อตที่ตื่นเต้นเร้าใจ ซีรีส์ยังเจาะลึกชีวิตส่วนตัวและปมในอดีตของตัวละครที่เชื่อมโยงกับคดีต่างๆ ทำให้เกิดความผูกพันทางอารมณ์กับผู้ชม การแสดงที่ทรงพลังของนักแสดงและการเล่าเรื่องที่กระชับทำให้ Voice เป็นซีรีส์ที่ตอบโจทย์แฟนๆ สายสืบสวนที่ชื่นชอบความเข้มข้นและดราม่าที่ตราตรึงใจ

• ชื่อเรื่องในภาษาไทย: สัมผัสเสียงมรณะ
• ประเภท: ทริลเลอร์, อาชญากรรม, ดราม่า
• วันที่ออกอากาศ: 14 มกราคม 2017 – 30 พฤศจิกายน 2021
• นักแสดงนำ: อี ฮานา, จาง ฮยอก, อี จินอุค
• ผู้กำกับ: คิม ฮงซอน, ชิน ยงฮวี
• จำนวนตอน/ความยาว: 4 ซีซั่น, 58 ตอน
• เรตติ้ง IMDb: 7.6/10
• ช่องทางการดูในประเทศไทย:

3. Tunnel (2017)

Tunnel (2017) ซีรีส์แนวสืบสวนผสมผสานกับแฟนตาซีที่ชวนลุ้นระทึกตลอดทั้งเรื่อง โดยมีพล็อตที่น่าสนใจเกี่ยวกับการเดินทางข้ามเวลาและการไล่ล่าฆาตกรต่อเนื่อง เรื่องราวเริ่มต้นในปี 1986 เมื่อ พัคกวางโฮ (รับบทโดย ชเวจินฮยอก) นักสืบหนุ่มผู้มุ่งมั่น ไล่ล่าฆาตกรต่อเนื่องที่ก่อเหตุในอุโมงค์แห่งหนึ่ง แต่แล้วเขากลับพบว่าตัวเองถูกส่งข้ามเวลาไปยังปี 2016 โดยไม่ทราบสาเหตุ ในโลกอนาคต เขาต้องร่วมมือกับ คิมซอนแจ (รับบทโดย ยุนฮยอนมิน) นักสืบหนุ่มผู้มีความสามารถสูง และ ชินแจยี (รับบทโดย อียูยอง) ศาสตราจารย์ด้านจิตวิทยาอาชญากรรม เพื่อสืบหาตัวฆาตกรที่ยังคงก่อเหตุซ้ำรอยเดิม

ซีรีส์นี้ได้รับการยกย่องในด้านการดำเนินเรื่องที่เข้มข้นและการแสดงที่ยอดเยี่ยมของนักแสดงนำ โดยเฉพาะการถ่ายทอดความรู้สึกของตัวละครที่ต้องเผชิญกับความเปลี่ยนแปลงของเวลาและสังคมที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง การผสมผสานระหว่างการสืบสวนและองค์ประกอบแฟนตาซีทำให้ Tunnel เป็นซีรีส์ที่น่าติดตามและไม่ควรพลาดสำหรับแฟนๆ แนวสืบสวนและแฟนตาซี

• ชื่อเรื่องในภาษาไทย: อุโมงค์ลับซ่อนมิติ
• ประเภท: สืบสวน, แฟนตาซี, ทริลเลอร์
• วันที่ออกอากาศ: 25 มีนาคม – 21 พฤษภาคม 2017
• นักแสดงนำ: ชเวจินฮยอก, ยุนฮยอนมิน, อียูยอง
• ผู้กำกับ: ชินยงฮวี
• จำนวนตอน: 16 ตอน
• เรตติ้ง IMDb: 7.6/10
• ช่องทางการดูในประเทศไทย: MONOMAX

4. Flower of Evil (2020)

Flower of Evil (2020) เป็นซีรีส์เกาหลีแนวระทึกขวัญและอาชญากรรมที่เล่าเรื่องราวของคู่สามีภรรยาที่ดูเหมือนจะมีชีวิตครอบครัวที่สมบูรณ์แบบ แต่กลับซ่อนความลับที่น่าตกใจไว้เบื้องหลัง โดย ชาจีวอน (รับบทโดย มุนแชวอน) นักสืบสาวที่มีความสามารถในการสังเกตและวิเคราะห์คดี ได้เริ่มสงสัยในตัวสามีของเธอ เบคฮีซอง (รับบทโดย อีจุนกิ) เมื่อเธอพบความผิดปกติในคดีฆาตกรรมที่กำลังสืบสวน ความสงสัยของเธอเริ่มลึกซึ้งขึ้นเมื่อพบว่าเบคฮีซองอาจไม่ใช่คนที่เขาอ้างตัว และอาจเกี่ยวข้องกับคดีฆาตกรรมในอดีตที่ยังไม่ได้รับการคลี่คลาย

ซีรีส์นี้นำเสนอความตึงเครียดและความซับซ้อนของความสัมพันธ์ระหว่างสามีภรรยา ผ่านการสืบสวนที่เต็มไปด้วยความลับและการเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงของตัวละครหลัก การแสดงของนักแสดงนำได้รับคำชมอย่างมาก โดยเฉพาะการถ่ายทอดอารมณ์และความขัดแย้งภายในของตัวละคร ทำให้ Flower of Evil กลายเป็นซีรีส์ที่ได้รับความนิยมและคำชมจากผู้ชมอย่างต่อเนื่อง

• ชื่อเรื่องในภาษาไทย: ดอกไม้ปิศาจ
• ประเภท: ระทึกขวัญ, อาชญากรรม, ดราม่า
• วันที่ออกอากาศ: 29 กรกฎาคม – 23 กันยายน 2020
• นักแสดงนำ: อีจุนกิ, มุนแชวอน
• ผู้กำกับ: คิมชอลกยู
• จำนวนตอน: 16 ตอน
• เรตติ้ง IMDb: 8.5/10
• ช่องทางการดูในประเทศไทย: Netflix, MONOMAX

5. Beyond Evil (2021)

Beyond Evil (괴물) เป็นซีรีส์เกาหลีแนวจิตวิทยา-สืบสวนที่เล่าเรื่องราวของตำรวจสองนายที่ร่วมมือกันสืบสวนคดีฆาตกรรมต่อเนื่องในเมืองเล็กๆ ซึ่งมีความเชื่อมโยงกับคดีที่เกิดขึ้นเมื่อ 20 ปีก่อน โดย อีดงซอก (รับบทโดย ชินฮยอนคยูน) ตำรวจที่เคยเป็นนักสืบแต่ถูกลดตำแหน่ง และ ฮันจูวอน (รับบทโดย ยอจินกู) นักสืบหนุ่มจากหน่วยสืบสวนอาชญากรรมระหว่างประเทศ ทั้งสองต้องร่วมมือกันเผชิญหน้ากับความจริงที่ซับซ้อนและคำถามที่ว่า “ใครคือปีศาจตัวจริง?”

ซีรีส์นี้ได้รับคำชมอย่างล้นหลามจากนักวิจารณ์และผู้ชม โดยเฉพาะการแสดงของชินฮยอนคยูนที่ได้รับรางวัลนักแสดงนำชายยอดเยี่ยมจากงาน Baeksang Arts Awards ครั้งที่ 57 และการเขียนบทที่เข้มข้นและซับซ้อน นอกจากนี้ยังได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในซีรีส์เกาหลีที่ดีที่สุดในปี 2021

• ชื่อเรื่องในภาษาไทย: ปมปีศาจ
• ประเภท: จิตวิทยา, สืบสวน, ทริลเลอร์
• วันที่ออกอากาศ: 19 กุมภาพันธ์ – 10 เมษายน 2021
• นักแสดงนำ: ชินฮยอนคยูน, ยอจินกู
• ผู้กำกับ: ชิมนาเยอน
• จำนวนตอน: 16 ตอน
• เรตติ้ง IMDb: 8.8/10
• ช่องทางการดูในประเทศไทย: Netflix, HBO MAX

6. Mouse (2021)

Mouse (마우스) เป็นซีรีส์เกาหลีแนวระทึกขวัญที่ผสมผสานระหว่างการสืบสวนและจิตวิทยาอย่างลงตัว โดยเริ่มต้นด้วยคดีฆาตกรรมที่สะเทือนขวัญ ซึ่งนำไปสู่การตั้งคำถามสำคัญว่า “สามารถตรวจสอบพฤติกรรมของฆาตกรจากพันธุกรรมในครรภ์ได้หรือไม่?” เรื่องราวติดตามการสืบสวนของ จองบารึม (รับบทโดย อีซึงกี) ตำรวจมือใหม่ที่มีความซื่อสัตย์ และ โกโมจิ (รับบทโดย อีฮีจุน) นักสืบที่มีความมุ่งมั่นในการจับกุมฆาตกรโรคจิตที่ก่อเหตุซ้ำแล้วซ้ำเล่า ซีรีส์นี้ตั้งคำถามถึงความเป็นมนุษย์และจิตใจของผู้กระทำความผิด พร้อมทั้งสำรวจประเด็นทางจริยธรรมที่ท้าทายความเชื่อของสังคม

นอกจากเนื้อเรื่องที่เข้มข้นและซับซ้อนแล้ว Mouse ยังได้รับคำชมในด้านการแสดงของนักแสดงนำ โดยเฉพาะ อีซึงกี ที่ถ่ายทอดบทบาทของตำรวจหนุ่มที่ต้องเผชิญกับความจริงอันโหดร้ายได้อย่างยอดเยี่ยม การดำเนินเรื่องที่ไม่หยุดนิ่งและการหักมุมที่คาดไม่ถึง ทำให้ซีรีส์นี้กลายเป็นหนึ่งในซีรีส์ที่ต้องดูสำหรับแฟนๆ แนวระทึกขวัญและจิตวิทยา

• ชื่อเรื่องในภาษาไทย: Mouse
• ประเภท: ระทึกขวัญ, สืบสวน, จิตวิทยา, อาชญากรรม
• วันที่ออกอากาศ: 3 มีนาคม – 20 พฤษภาคม 2021
• นักแสดงนำ: อีซึงกี, อีฮีจุน, พัคจูฮยอน, คยองซูจิน
• ผู้กำกับ: ชเวจุนเบ, คังชอลอู
• จำนวนตอน: 20 ตอน + 2 ตอนพิเศษ + 3 ตอนเสริม
• เรตติ้ง IMDb: 8.7/10
• ช่องทางการดูในประเทศไทย: Prime Video, HBO MAX

7. Vagabond (2019)

Vagabond (2019) เป็นซีรีส์แอ็กชัน-ทริลเลอร์ที่ผสมผสานความเข้มข้นของการสืบสวนและการผจญภัยได้อย่างลงตัว โดยเริ่มต้นจากเหตุการณ์เครื่องบินตกที่คร่าชีวิตนักบินและพลเมืองเกาหลีหลายคน ซึ่งทำให้ ชา ดัลกอน (รับบทโดย อีซึงกิ) นักแสดงสตั๊นท์หนุ่มผู้สูญเสียหลานชายในเหตุการณ์นี้ ตัดสินใจสืบหาความจริงเบื้องหลังการตกของเครื่องบินและเครือข่ายอาชญากรรมที่เกี่ยวข้อง เขาได้ร่วมมือกับ โก แอนนา (รับบทโดย ซูจี) นักสืบหญิงจากหน่วยงานรัฐบาลที่มีความสามารถพิเศษในการสืบสวน ทั้งสองต้องเผชิญกับอุปสรรคและอันตรายมากมายในการเปิดเผยความจริงที่ถูกปกปิด

ซีรีส์นี้ไม่เพียงแต่เน้นไปที่การสืบสวนและการจับกุมอาชญากร แต่ยังสะท้อนถึงความกล้าหาญและความมุ่งมั่นของตัวละครหลักในการต่อสู้กับระบบที่ไม่เป็นธรรมและการเปิดเผยความจริงที่ถูกซ่อนเร้น นอกจากนี้ยังมีการพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างตัวละครหลักที่เข้มข้นและน่าติดตาม ทำให้ Vagabond กลายเป็นซีรีส์ที่ได้รับความนิยมและคำชมจากผู้ชมอย่างต่อเนื่อง

• ชื่อเรื่องในภาษาไทย: เจาะแผนลับเครือข่ายนรก
• ประเภท: แอ็กชัน, ทริลเลอร์, สืบสวน
• วันที่ออกอากาศ: 20 กันยายน – 23 พฤศจิกายน 2019
• นักแสดงนำ: อีซึงกิ, ซูจี
• ผู้กำกับ: ยูอินชิก
• จำนวนตอน: 16 ตอน
• เรตติ้ง IMDb: 7.9/10
• ช่องทางการดูในประเทศไทย: Netflix

8. The Good Detective (2020-2022)

The Good Detective (2020–2022) เป็นซีรีส์แนวสืบสวนที่นำเสนอเรื่องราวของตำรวจสองนายที่มีวิธีการสืบสวนและมุมมองที่แตกต่างกัน แต่ต้องมาร่วมมือกันเพื่อเปิดโปงความจริงเบื้องหลังคดีอาชญากรรมที่ซับซ้อน โดย คิมซอจิน (รับบทโดย จูจีฮุน) ตำรวจหนุ่มที่มีความมุ่งมั่นและเชื่อมั่นในระบบยุติธรรม และ คิมยงจู (รับบทโดย จางซึงโจ) ตำรวจที่มีประสบการณ์และวิธีการสืบสวนที่เป็นเอกลักษณ์ ทั้งสองต้องเผชิญกับความท้าทายและความกดดันจากทั้งภายในและภายนอกองค์กรในการเปิดเผยความจริงที่ถูกปกปิด

ซีรีส์นี้ไม่เพียงแต่เน้นไปที่การสืบสวนคดีอาชญากรรม แต่ยังสะท้อนถึงความซับซ้อนของระบบยุติธรรมและความสัมพันธ์ระหว่างตัวละครที่มีมิติ ทำให้ผู้ชมได้เห็นถึงความจริงที่ซ่อนอยู่เบื้องหลังคดีต่าง ๆ และความหมายของการเป็นตำรวจที่แท้จริง The Good Detective จึงเป็นซีรีส์ที่น่าติดตามสำหรับผู้ที่ชื่นชอบแนวสืบสวนและดราม่า

• ชื่อเรื่องในภาษาไทย: ตำรวจพันธุ์แกร่ง
• ประเภท: สืบสวน, ดราม่า
• วันที่ออกอากาศ: 2020–2022
• นักแสดงนำ: จูจีฮุน, จางซึงโจ
• ผู้กำกับ: โจนัมฮี
• จำนวนตอน: 16 ตอน (ซีซั่น 1), 16 ตอน (ซีซั่น 2)
• เรตติ้ง IMDb: 8.0/10
• ช่องทางการดูในประเทศไทย: Netflix, MONOMAX

9. Bad and Crazy (2021)

Bad and Crazy (2021) เป็นซีรีส์แนวแอ็กชัน-ดราม่า ที่ผสมผสานความตลกขบขันเข้ากับการต่อสู้ทางจิตใจของตัวละครหลัก โดยมี อีดงอุค รับบทเป็น คังฮานา ตำรวจหนุ่มที่มีความสามารถพิเศษในการมองเห็นวิญญาณและมีความสัมพันธ์พิเศษกับวิญญาณของผู้เสียชีวิต ในขณะที่เขาต้องเผชิญกับคดีที่ซับซ้อนและอันตราย เขาก็ต้องต่อสู้กับความมืดในจิตใจของตัวเองและพยายามหาความหมายในชีวิตของเขา

ซีรีส์นี้นำเสนอการผสมผสานระหว่างการสืบสวนคดีอาชญากรรมและการสำรวจจิตใจของตัวละครหลัก ผ่านการเผชิญหน้ากับวิญญาณและการต่อสู้กับความกลัวภายในตัวเอง ทำให้ Bad and Crazy เป็นซีรีส์ที่ไม่เพียงแต่ให้ความบันเทิง แต่ยังสะท้อนถึงการต่อสู้ภายในจิตใจของมนุษย์และความหมายของชีวิต

• ชื่อเรื่องในภาษาไทย: เลว ชั่ว บ้าระห่ำ
• ประเภท: แอ็กชัน, ดราม่า, สืบสวน
• วันที่ออกอากาศ: 2021
• นักแสดงนำ: อีดงอุค, คิมโซอึน
• ผู้กำกับ: คิมจินมิน
• จำนวนตอน: 16 ตอน
• เรตติ้ง IMDb: 7.9/10
• ช่องทางการดูในประเทศไทย: iQIYI

10. Tell Me What You Saw (2020)

Tell Me What You Saw (2020) เป็นซีรีส์แนวสืบสวนระทึกขวัญที่เล่าเรื่องราวของ โอฮยอนแจ (รับบทโดย จางฮยอก) นักสืบอัจฉริยะที่เกษียณตัวเองหลังจากสูญเสียคู่หมั้นในเหตุระเบิดจากฝีมือฆาตกรต่อเนื่องที่รู้จักกันในชื่อ “ลูกอมเปปเปอร์มินต์” ห้าปีต่อมา ฆาตกรที่คิดว่าตายไปแล้วกลับมาปรากฏตัวอีกครั้ง ทำให้ ฮวางฮวายอง (รับบทโดย จินซอยอน) หัวหน้าทีมสืบสวนตัดสินใจดึง ชาซูยอง (รับบทโดย ชเวซูยอง) ตำรวจสาวที่มีความสามารถในการจดจำภาพได้อย่างแม่นยำ มาร่วมมือกับโอฮยอนแจในการสืบหาฆาตกรที่ยังลอยนวลอยู่

ซีรีส์นี้เน้นความตึงเครียดและการวางแผนของตัวละครหลักในการตามล่าฆาตกรที่มีความชำนาญและชั่วร้าย พร้อมกับการเปิดเผยเบื้องหลังของแต่ละตัวละครที่มีความซับซ้อนและน่าสนใจ ทำให้ผู้ชมต้องติดตามอย่างไม่ละสายตา

• ชื่อเรื่องในภาษาไทย: นั่งสืบในความมืด
• ประเภท: ระทึกขวัญ, สืบสวน, อาชญากรรม
• วันที่ออกอากาศ: 1 กุมภาพันธ์ – 22 มีนาคม 2020
• นักแสดงนำ: จางฮยอก, ชเวซูยอง, จินซอยอน
• ผู้กำกับ: คิมซังฮุน
• จำนวนตอน: 16 ตอน
• เรตติ้ง IMDb: 7.6/10
• ช่องทางการดูในประเทศไทย:

11. CSI: Crime Scene Investigation (2000-2015)

CSI: Crime Scene Investigation เป็นซีรีส์ฝรั่งแนวสืบสวนอาชญากรรมที่ถ่ายทอดชีวิตของทีมงานนิติวิทยาศาสตร์ในเมืองลาสเวกัส โดยมุ่งเน้นการใช้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีในการไขคดีอาชญากรรมที่ซับซ้อนและน่าสะพรึงกลัว ซีรีส์นี้เริ่มต้นด้วยการแนะนำตัวละครหลักอย่าง กิล กริสซอม (รับบทโดย วิลเลียม ปีเตอร์เซน), แคเธอรีน วิลโลว์ส (รับบทโดย มาร์ก เฮลเกนเบอร์เกอร์), และทีมงานอื่น ๆ ที่ร่วมกันสืบสวนคดีต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในเมืองแห่งแสงสีแห่งนี้

ซีรีส์นี้ได้รับความนิยมอย่างสูงและมีผลกระทบต่อวงการโทรทัศน์อย่างมาก โดยเฉพาะในด้านการนำเสนอวิธีการสืบสวนทางนิติวิทยาศาสตร์ที่มีความสมจริงและน่าสนใจ นอกจากนี้ยังมีการพัฒนาตัวละครและความสัมพันธ์ระหว่างทีมงานที่ทำให้ผู้ชมรู้สึกผูกพันและติดตามต่อเนื่องจนถึงตอนจบ

• ประเภท: สืบสวน, อาชญากรรม, ดราม่า
• วันที่ออกอากาศ: 6 ตุลาคม 2000 – 27 กันยายน 2015
• นักแสดงนำ: วิลเลียม ปีเตอร์เซน, มาร์ก เฮลเกนเบอร์เกอร์, จอร์จ อีดส์, จอร์จา ฟ็อกซ์, เอริค ซ์มันดา
• ผู้กำกับ: แดนนี่ แคนนอน, หลุยส์ ชอว์ มิลิโต
• จำนวนตอน: 337 ตอน (15 ซีซั่น)
• เรตติ้ง IMDb: 7.9/10
• ช่องทางการดูในประเทศไทย:

12. NCIS (2003)

NCIS (2003–ปัจจุบัน) เป็นซีรีส์แนวสืบสวนอาชญากรรมที่ผสมผสานความตึงเครียดของการไขคดีเข้ากับมิตรภาพและอารมณ์ขันของทีมงาน NCIS (Naval Criminal Investigative Service) ซึ่งมีภารกิจหลักในการสืบสวนคดีที่เกี่ยวข้องกับกองทัพเรือและหน่วยนาวิกโยธินของสหรัฐฯ

ซีรีส์เริ่มต้นด้วยการสืบสวนคดีที่เกี่ยวข้องกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงของกองทัพเรือและการคุกคามต่อความมั่นคงของชาติ โดยมีตัวละครหลักอย่าง Leroy Jethro Gibbs (รับบทโดย Mark Harmon) หัวหน้าทีม NCIS ที่มีความสามารถในการสืบสวนและความเป็นผู้นำที่เข้มแข็ง ทีมของเขาประกอบด้วย Anthony DiNozzo (รับบทโดย Michael Weatherly), Caitlin Todd (รับบทโดย Sasha Alexander), Abby Sciuto (รับบทโดย Pauley Perrette), Donald “Ducky” Mallard (รับบทโดย David McCallum), และ Timothy McGee (รับบทโดย Sean Murray)

• ชื่อเรื่องในภาษาไทย: เอ็นซีไอเอส: หน่วยสืบสวนแห่งนาวิกโยธิน
• ประเภท: สืบสวน, อาชญากรรม, ดราม่า
• วันที่ออกอากาศ: 23 กันยายน 2003 – ปัจจุบัน
• นักแสดงนำ: Mark Harmon, Michael Weatherly, Sasha Alexander, Pauley Perrette, David McCallum, Sean Murray
• ผู้กำกับ: Donald P. Bellisario, Don McGill
• จำนวนตอน: มากกว่า 400 ตอน (จนถึงซีซั่นที่ 21)
• เรตติ้ง IMDb: 8.1/10
• ช่องทางการดูในประเทศไทย:

13. The Rookie (2018-ปัจจุบัน)

The Rookie เป็นซีรีส์แนวตำรวจที่ผสมผสานความตื่นเต้นของการสืบสวนกับมิตรภาพและการเติบโตส่วนบุคคลได้อย่างลงตัว โดยมี นาธาน ฟิลลิออน รับบทเป็น จอห์น โนแลน ชายวัย 40 ปีจากเมืองเล็ก ๆ ที่ตัดสินใจย้ายไปลอสแอนเจลิสเพื่อเริ่มต้นชีวิตใหม่ในฐานะตำรวจ LAPD แม้จะเป็นตำรวจมือใหม่ที่มีอายุมากที่สุดในหน่วย แต่เขาก็เต็มไปด้วยความมุ่งมั่นและความกล้าหาญในการเผชิญกับสถานการณ์อันตรายและความท้าทายต่าง ๆ

ซีรีส์นี้ไม่เพียงแต่เน้นไปที่การปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจเท่านั้น แต่ยังสำรวจความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อนร่วมงานและการเติบโตส่วนบุคคลของตัวละครหลัก ๆ อย่าง ลูซี่ เฉิน (รับบทโดย เมลิสซา โอ’นีล), แจ็คสัน เวสต์ (รับบทโดย ไททัส เมคิน จูเนียร์), และ ทิม แบรดฟอร์ด (รับบทโดย เอริค วินเทอร์) ที่ต้องเผชิญกับความท้าทายทั้งในและนอกหน้าที่ ทำให้ The Rookie เป็นซีรีส์ที่ทั้งสนุก ตื่นเต้น และเต็มไปด้วยอารมณ์ความรู้สึกที่เข้มข้น

• ชื่อเรื่องในภาษาไทย: นายตำรวจมือใหม่
• ประเภท: ดราม่า, ตำรวจ, แอ็กชัน
• วันที่ออกอากาศ: 16 ตุลาคม 2018 – ปัจจุบัน
• นักแสดงนำ: นาธาน ฟิลลิออน, เมลิสซา โอ’นีล, ไททัส เมคิน จูเนียร์, เอริค วินเทอร์
• ผู้กำกับ: อเล็กซี่ ฮอว์ลีย์
• จำนวนตอน: 126 ตอน (7 ซีซั่น)
• เรตติ้ง IMDb: 8.0/10
• ช่องทางการดูในประเทศไทย: Netflix

14. FBI (2018-ปัจจุบัน)

FBI (2018–ปัจจุบัน) เป็นซีรีส์แนวสืบสวนที่ติดตามชีวิตของเจ้าหน้าที่หน่วยสืบสวนกลางแห่งสหรัฐอเมริกา (FBI) ในการต่อสู้กับอาชญากรรมระดับสูงในมหานครนิวยอร์ก โดยเน้นไปที่การสืบสวนคดีที่ซับซ้อนและมีความเสี่ยงสูง ทั้งการก่อการร้าย, การค้ามนุษย์, และอาชญากรรมข้ามชาติ ตัวละครหลักประกอบด้วย แม็กซ์ (รับบทโดย เจเรมี ซิสโต) และ ซินดี้ (รับบทโดย โมเรน อินอส) ที่ต้องเผชิญกับสถานการณ์ตึงเครียดและการตัดสินใจที่ยากลำบากในการทำงานประจำวันของพวกเขา

ซีรีส์นี้ได้รับคำชมจากผู้ชมและนักวิจารณ์ในเรื่องของการถ่ายทอดความเป็นจริงของงานสืบสวนและการสร้างความตึงเครียดที่น่าติดตาม นอกจากนี้ยังมีการพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างตัวละครที่ทำให้เรื่องราวมีมิติและน่าสนใจมากยิ่งขึ้น FBI จึงเป็นซีรีส์ที่เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบเรื่องราวอาชญากรรมและการสืบสวนที่มีความสมจริงและเข้มข้น

• ประเภท: สืบสวน, อาชญากรรม, ดราม่า
• วันที่ออกอากาศ: 25 กันยายน 2018 – ปัจจุบัน
• นักแสดงนำ: เจเรมี ซิสโต, โมเรน อินอส
• ผู้กำกับ: อเล็กซ์ เคอร์ชแมน, เจนน์ ทิริโอ
• จำนวนตอน: 5 ซีซั่น
• เรตติ้ง IMDb: 7.8/10

15. Bones (2005-2017)

Bones (2005–2017) เป็นซีรีส์แนวสืบสวนที่ผสมผสานระหว่างวิทยาศาสตร์นิติเวชและการสืบสวนอาชญากรรมได้อย่างลงตัว โดยมี ดร. เบรนนัน (รับบทโดย Emily Deschanel) นักโบราณคดีและนักนิติเวชศาสตร์ ที่มีความเชี่ยวชาญในการวิเคราะห์กระดูกมนุษย์เพื่อไขคดีฆาตกรรม และ เอฟบีไอ ซูเปอร์ไวเซอร์ ซี่ย์ บูธ (รับบทโดย David Boreanaz) เจ้าหน้าที่เอฟบีไอที่มีประสบการณ์และทักษะในการสืบสวน ทั้งสองร่วมมือกันไขคดีที่ซับซ้อน โดยใช้ความรู้ด้านวิทยาศาสตร์และประสบการณ์ภาคสนามในการหาคำตอบ

ซีรีส์นี้ไม่เพียงแต่เน้นไปที่การสืบสวนคดีอาชญากรรม แต่ยังมีการพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างตัวละครหลักที่เข้มข้นและน่าติดตาม ทั้งในด้านอาชีพและชีวิตส่วนตัว การผสมผสานระหว่างวิทยาศาสตร์และอารมณ์มนุษย์ทำให้ Bones เป็นซีรีส์ที่ได้รับความนิยมและคำชมจากผู้ชมอย่างต่อเนื่อง

• ประเภท: สืบสวน, อาชญากรรม, ดราม่า
• วันที่ออกอากาศ: 13 กันยายน 2005 – 28 มีนาคม 2017
• นักแสดงนำ: Emily Deschanel, David Boreanaz
• ผู้กำกับ: Hart Hanson
• จำนวนตอน: 246 ตอน (12 ซีซั่น)
• เรตติ้ง IMDb: 7.8/10
• ช่องทางการดูในประเทศไทย: Disney+

16. Lucifer (2016-2021)

Lucifer (2016–2021) เป็นซีรีส์แนวสืบสวนที่ผสมผสานความเหนือธรรมชาติและอารมณ์ขันได้อย่างลงตัว โดยเล่าเรื่องราวของ ลูซิเฟอร์ มอร์นิงสตาร์ (รับบทโดย Tom Ellis) เทพเจ้าแห่งนรกที่เบื่อหน่ายกับชีวิตในนรก จึงตัดสินใจมาใช้ชีวิตในลอสแองเจลิสและเปิดคลับชื่อ Lux เขาได้ร่วมมือกับตำรวจหญิง Chloe Decker (รับบทโดย Lauren German) ในการสืบสวนคดีฆาตกรรม โดยใช้ความสามารถพิเศษในการทำให้ผู้คนสารภาพความลับที่ซ่อนเร้นอยู่ในใจ

ซีรีส์นี้ไม่เพียงแต่เน้นไปที่การสืบสวนคดีต่าง ๆ แต่ยังสำรวจความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนระหว่างตัวละครหลัก โดยเฉพาะความสัมพันธ์ระหว่างลูซิเฟอร์และโคลอี้ที่มีความตึงเครียดและพัฒนาไปอย่างน่าสนใจ นอกจากนี้ยังมีการผสมผสานขององค์ประกอบเหนือธรรมชาติและอารมณ์ขันที่ทำให้ซีรีส์นี้โดดเด่นและน่าติดตาม

• ชื่อเรื่องในภาษาไทย: ยมทูตล้างนรก
• ประเภท: สืบสวน, แฟนตาซี, ดราม่า
• วันที่ออกอากาศ: 25 มกราคม 2016 – 28 กันยายน 2021
• นักแสดงนำ: Tom Ellis, Lauren German
• ผู้กำกับ: Sheri Elwood, Ildy Modrovich, Joe Henderson
• จำนวนตอน: 6 ซีซั่น, 6 ตอนพิเศษ (รวมทั้งหมด 6 ซีซั่น)
• เรตติ้ง IMDb: 8.1/10
• ช่องทางการดูในประเทศไทย: Netflix

17. Dead Boy Detectives (2024)

Dead Boy Detectives เป็นซีรีส์แนวสืบสวนลึกลับผสมผสานความเหนือธรรมชาติและความตลกขบขัน ถ่ายทอดเรื่องราวของ เอ็ดวิน เพน (รับบทโดย จอร์จ เร็กซ์สทรู) และ ชาร์ลส์ โรลแลนด์ (รับบทโดย เจย์เดน เรฟรี) สองเด็กชายผู้เสียชีวิตในวัยเยาว์แต่เลือกที่จะไม่ไปสู่ปรโลก พวกเขาตั้งหน่วยสืบสวนของตัวเองขึ้นมาเพื่อช่วยเหลือวิญญาณอื่นๆ ที่ติดค้างอยู่บนโลกมนุษย์ โดยมี คริสตัล พาเลซ (รับบทโดย คาสเซียส เนลสัน) สื่อจิตผู้สามารถมองเห็นและสื่อสารกับวิญญาณ มาร่วมมือในการไขคดีเหนือธรรมชาติที่ซับซ้อนและน่าหวาดหวั่น

ซีรีส์นี้ได้รับคำชมจากนักวิจารณ์ในด้านการเขียนบทที่มีเสน่ห์ การกำกับที่มีสไตล์ และการแสดงที่น่าประทับใจ โดยเฉพาะเคมีระหว่างนักแสดงนำที่สร้างความน่าสนใจให้กับเรื่องราว นอกจากนี้ยังได้รับการยกย่องในด้านการนำเสนอความหลากหลายทางวัฒนธรรมและการเป็นตัวแทนของกลุ่ม LGBTQ+ อย่างมีคุณภาพ

• ชื่อเรื่องในภาษาไทย: เดดบอยดีเทคทีฟส์
• ประเภท: สืบสวน, ลึกลับ, ตลก, เหนือธรรมชาติ
• วันที่ออกอากาศ: 25 เมษายน 2024
• นักแสดงนำ: จอร์จ เร็กซ์สทรู, เจย์เดน เรฟรี, คาสเซียส เนลสัน
• ผู้กำกับ: ลี โทแลนด์ ครีเกอร์
• จำนวนตอน: 8 ตอน
• เรตติ้ง IMDb: 7.9/10
• ช่องทางการดูในประเทศไทย: Netflix

18. Fool Me Once (2024)

Fool Me Once (2024) เป็นซีรีส์ทริลเลอร์จาก Netflix ที่ดัดแปลงจากนวนิยายของ Harlan Coben เล่าเรื่องราวของ Maya Stern (รับบทโดย Michelle Keegan) อดีตทหารหญิงผู้สูญเสียสามี Joe Burkett (รับบทโดย Richard Armitage) ไปในการฆาตกรรมที่ดูเหมือนจะเป็นการปล้นที่ผิดพลาด แต่เมื่อ Maya ติดตั้งกล้องนานี่เพื่อเฝ้าลูกสาวของเธอ กลับพบภาพของสามีที่เธอคิดว่าตายไปแล้วปรากฏอยู่ในกล้อง ทำให้เธอต้องสืบหาความจริงและเปิดเผยความลับที่ซ่อนอยู่ในครอบครัว Burkett

ซีรีส์นี้ผสมผสานระหว่างความตื่นเต้นและการหักมุมที่คาดไม่ถึง โดยมีการเปิดเผยความจริงที่ซับซ้อนและลึกลับในแต่ละตอน ทำให้ผู้ชมต้องติดตามจนถึงตอนสุดท้ายเพื่อหาคำตอบว่าใครคือผู้ที่อยู่เบื้องหลังการฆาตกรรมและความลับที่ถูกซ่อนไว้

• ชื่อเรื่องในภาษาไทย: อย่าหลอกกัน
• ประเภท: ทริลเลอร์, อาชญากรรม, ลึกลับ
• วันที่ออกอากาศ: 1 มกราคม 2024
• นักแสดงนำ: Michelle Keegan, Richard Armitage, Adeel Akhtar, Joanna Lumley
• ผู้กำกับ: David Moore, Nimer Rashed
• จำนวนตอน: 8 ตอน
• เรตติ้ง IMDb: 6.8/10
• ช่องทางการดูในประเทศไทย: Netflix

19. The Mentalist (2008-2015)

The Mentalist (2008–2015) เป็นซีรีส์แนวสืบสวนที่นำเสนอเรื่องราวของ แพทริค เจน (รับบทโดย ไซมอน เบเกอร์) อดีตนักต้มตุ๋นที่เคยอ้างว่าตนเองมีพลังจิต และใช้ทักษะการสังเกตอย่างเฉียบคมในการช่วยตำรวจไขคดีฆาตกรรม โดยเฉพาะคดีของฆาตกรต่อเนื่องชื่อ เรด จอห์น ซึ่งฆ่าครอบครัวของเขา ทำให้เจนตัดสินใจร่วมงานกับ เทเรซา ลิสบอน (รับบทโดย โรบิน ทันนีย์) และทีมงานของ California Bureau of Investigation (CBI) เพื่อสืบสวนและจับกุมอาชญากรที่ก่อคดีอย่างต่อเนื่อง

ซีรีส์นี้ผสมผสานระหว่างการสืบสวนคดีรายสัปดาห์กับเรื่องราวหลักที่เน้นการตามล่าหาเรด จอห์น ซึ่งดำเนินไปอย่างต่อเนื่องจนถึงกลางซีซั่นที่ 6 ก่อนที่เรื่องราวจะเปลี่ยนแปลงไปเมื่อเจนและทีมงานย้ายไปทำงานกับ FBI และต้องเผชิญกับคดีใหม่ๆ ที่ท้าทายยิ่งขึ้น การผสมผสานระหว่างความฉลาดของเจนและความสัมพันธ์ที่พัฒนาขึ้นระหว่างตัวละครหลักทำให้ซีรีส์นี้ได้รับความนิยมและคำชมจากผู้ชมอย่างต่อเนื่อง

• ประเภท: สืบสวน, อาชญากรรม, ทริลเลอร์
• วันที่ออกอากาศ: 23 กันยายน 2008 – 18 กุมภาพันธ์ 2015
• นักแสดงนำ: ไซมอน เบเกอร์, โรบิน ทันนีย์
• ผู้กำกับ: บรูโน เฮลเลอร์
• จำนวนตอน: 151 ตอน (7 ซีซั่น)
• เรตติ้ง IMDb: 8.2/10
• ช่องทางการดูในประเทศไทย: Prime Video

20. Sherlock (2010-2017)

Sherlock (2010–2017) เป็นซีรีส์สืบสวนอาชญากรรมที่นำเสนอการปรับโฉมใหม่ของเรื่องราวของเชอร์ล็อก โฮล์มส์ในยุคปัจจุบัน โดยมี เบเนดิกต์ คัมเบอร์แบตช์ รับบทเป็นเชอร์ล็อก โฮล์มส์ และ มาร์ติน ฟรีแมน รับบทเป็นดร. จอห์น วัตสัน ทั้งสองร่วมมือกันสืบสวนคดีที่ซับซ้อนและท้าทาย โดยซีรีส์นี้ได้รับการยกย่องในด้านการเขียนบทที่ชาญฉลาด การแสดงที่ยอดเยี่ยม และการกำกับที่มีสไตล์เฉพาะตัว

ซีรีส์นี้ประกอบด้วย 4 ซีซั่นและตอนพิเศษ 1 ตอน โดยแต่ละตอนมีความยาวประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที เนื้อเรื่องจะพาไปสู่การเผชิญหน้ากับศัตรูที่ทรงอำนาจและการเปิดเผยความลับที่ซ่อนอยู่ในมุมมืดของลอนดอน ซีรีส์นี้ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางและได้รับรางวัลมากมาย รวมถึงรางวัล Emmy และ BAFTA

• ประเภท: สืบสวน, อาชญากรรม, ดราม่า
• วันที่ออกอากาศ: 25 กรกฎาคม 2010 – 15 มกราคม 2017
• นักแสดงนำ: เบเนดิกต์ คัมเบอร์แบตช์, มาร์ติน ฟรีแมน
• ผู้กำกับ: พอล แม็คกีกัน, เจเรมี เลิฟเวอริง, ยูโรส ลิน
• จำนวนตอน: 13 ตอน (แบ่งเป็น 4 ซีซั่น และตอนพิเศษ 1 ตอน)
• เรตติ้ง IMDb: 9.1/10
• ช่องทางการดูในประเทศไทย:

21. Voice สัมผัสเสียงมรณะ (2019)

Voice สัมผัสเสียงมรณะ (2019) เป็นซีรีส์สืบสวนที่ต่อยอดจากซีซั่นแรก โดยเน้นไปที่การใช้เทคโนโลยีและความสามารถพิเศษในการสืบสวนคดีอาชญากรรมที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วและซับซ้อน ตัวละครหลักอย่าง คังควอนจู (รับบทโดย อีฮานี) และ มินฮยอก (รับบทโดย ชินฮยอนบิน) ยังคงร่วมมือกันในศูนย์รับแจ้งเหตุฉุกเฉิน 112 เพื่อป้องกันและแก้ไขคดีอาชญากรรมที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วและมีความซับซ้อน

ซีรีส์นี้ยังคงรักษาความเข้มข้นของการสืบสวนและการจับกุมอาชญากร พร้อมทั้งพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างตัวละครหลักที่เข้มข้นและน่าติดตาม ทำให้ Voice สัมผัสเสียงมรณะ (2019) กลายเป็นซีรีส์ที่ได้รับความนิยมและคำชมจากผู้ชมอย่างต่อเนื่อง

• ชื่อเรื่องในภาษาไทย: สัมผัสเสียงมรณะ
• ประเภท: สืบสวน, อาชญากรรม, ทริลเลอร์
• วันที่ออกอากาศ: 2019
• นักแสดงนำ: อีฮานี, ชินฮยอนบิน
• ผู้กำกับ: คิมฮยอนซอก
• จำนวนตอน: 16 ตอน
• เรตติ้ง IMDb: 7.8/10
• ช่องทางการดูในประเทศไทย: Netflix

22. ปริศนาล่าข้ามเวลา Tunnel (2019)

Tunnel (2017) เป็นซีรีส์แนวสืบสวนและไซไฟที่ผสมผสานการเดินทางข้ามเวลาเข้ากับการไขคดีฆาตกรรมต่อเนื่องในยุค 1980 และ 2016 โดยเริ่มต้นด้วยการปรากฏตัวของ พัคควางโฮ (รับบทโดย ชเวจินฮยอก) นักสืบหนุ่มที่กำลังตามล่าฆาตกรต่อเนื่องในปี 1986 แต่เมื่อเขาไล่ล่าผู้ต้องสงสัยเข้าไปในอุโมงค์ เขากลับถูกส่งข้ามเวลาไปยังปี 2017 ซึ่งฆาตกรรมดังกล่าวยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องในรูปแบบเดิม ทำให้เขาต้องร่วมมือกับ คิมซอนแจ (รับบทโดย ยุนฮยอนมิน) นักสืบหนุ่มจากยุคปัจจุบัน และ ชินแจอี (รับบทโดย อียูยอง) ศาสตราจารย์ด้านจิตวิทยาอาชญากรรม เพื่อจับกุมฆาตกรที่ยังคงหลบหนีอยู่

ซีรีส์นี้ได้รับแรงบันดาลใจจากคดีฆาตกรรมต่อเนื่องในเมืองฮวาซอง และได้รับความนิยมอย่างมากในเกาหลีใต้และต่างประเทศ โดยเฉพาะในจีนและไทยที่มีการรีเมคเป็นเวอร์ชันไทยในปี 2019 นอกจากนี้ยังได้รับการยกย่องในด้านการผสมผสานระหว่างการสืบสวนที่เข้มข้นและการพัฒนาตัวละครที่ลึกซึ้ง ทำให้ Tunnel เป็นซีรีส์ที่น่าติดตามสำหรับแฟนๆ แนวสืบสวนและไซไฟ

• ชื่อเรื่องในภาษาไทย: อุโมงค์ปริศนา
• ประเภท: สืบสวน, ไซไฟ, ทริลเลอร์
• วันที่ออกอากาศ: 25 มีนาคม – 21 พฤษภาคม 2017
• นักแสดงนำ: ชเวจินฮยอก, ยุนฮยอนมิน, อียูยอง
• ผู้กำกับ: ชินยงฮวี
• จำนวนตอน: 16 ตอน
• เรตติ้ง IMDb: 7.6/10
• ช่องทางการดูในประเทศไทย: Netflix

23. คือเธอ Remember You (2021)

คือเธอ (Remember You) เป็นซีรีส์ไทยรีเมกจากซีรีส์เกาหลีเรื่อง Hello Monster (2015) ที่ผสมผสานความลึกลับของคดีฆาตกรรมกับดราม่าครอบครัวได้อย่างลงตัว เรื่องราวเริ่มต้นเมื่อ ตันวา (รับบทโดย ตะวัน วิหครัตน์) นักสืบหนุ่มที่มีความสามารถพิเศษ ถูกเชิญให้เข้าร่วมทีมสืบสวนคดีฆาตกรรมต่อเนื่อง ระหว่างการสืบสวน เขาค้นพบเบาะแสที่อาจเชื่อมโยงกับอดีตของเขาเอง การพบกับ พัทธมนต์ (รับบทโดย ทนายตะวัน วิหครัตน์) ที่มีความเกี่ยวข้องกับคดีนี้ ทำให้เขาต้องเผชิญหน้ากับความจริงที่ถูกซ่อนไว้

ซีรีส์นี้ไม่เพียงแต่เน้นไปที่การสืบสวนคดีฆาตกรรม แต่ยังสะท้อนถึงความสัมพันธ์ระหว่างพี่น้องที่ถูกแยกจากกันตั้งแต่เด็ก และการต่อสู้กับอดีตที่ยังคงตามหลอกหลอน ตัวละครหลักทั้งสองต้องเผชิญกับความจริงที่ไม่คาดคิด และการตัดสินใจที่ยากลำบาก ทำให้ คือเธอ เป็นซีรีส์ที่น่าติดตามและท้าทายความคิดของผู้ชม

• ชื่อเรื่องในภาษาไทย: คือเธอ
• ประเภท: สืบสวน, อาชญากรรม, ดราม่า
• วันที่ออกอากาศ: 16 สิงหาคม 2021
• นักแสดงนำ: ตะวัน วิหครัตน์, ทนายตะวัน วิหครัตน์
• ผู้กำกับ: ไม่ระบุ
• จำนวนตอน: ไม่ระบุ
• เรตติ้ง IMDb: ไม่ระบุ
• ช่องทางการดูในประเทศไทย: Netflix

24. Tokyo Vice (2022–2024)

Tokyo Vice (2022–2024) เป็นซีรีส์แนวอาชญากรรมที่ดัดแปลงจากหนังสือบันทึกของนักข่าวชาวอเมริกัน เจค ออดเดอร์ ที่เคยทำงานในโตเกียวในช่วงยุค 1990 เรื่องราวติดตามการปรับตัวของ เจค (รับบทโดย แอนเซล เอลกอร์ต) นักข่าวหนุ่มที่ย้ายมาทำงานในโตเกียวและต้องเผชิญกับความท้าทายในการทำงานภายใต้ระบบสื่อที่เข้มงวดและวัฒนธรรมที่แตกต่าง ขณะเดียวกัน เขาก็ได้พบกับ ฮิโรโตะ (รับบทโดย คิทาโนะ ทาเคชิ) ตำรวจที่มีความสัมพันธ์กับยากูซ่า ซึ่งทำให้เจคต้องตัดสินใจว่าจะยืนหยัดในอุดมการณ์ของตนเองหรือยอมรับกับโลกแห่งอาชญากรรมที่เขากำลังสืบสวนอยู่

ซีรีส์นี้นำเสนอภาพลักษณ์ของโตเกียวในยุค 90 ได้อย่างสมจริง ทั้งด้านสถาปัตยกรรม วัฒนธรรม และสังคม นอกจากนี้ยังสะท้อนถึงความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนระหว่างสื่อมวลชน ตำรวจ และอาชญากรในเมืองใหญ่ ทำให้ Tokyo Vice เป็นซีรีส์ที่น่าสนใจสำหรับผู้ชมที่ชื่นชอบเรื่องราวเกี่ยวกับการสืบสวนและความท้าทายในการทำงานในสังคมที่มีความซับซ้อน

• ชื่อเรื่องในภาษาไทย: โตเกียว เมืองคนอันตราย
• ประเภท: อาชญากรรม, ดราม่า, สืบสวน
• วันที่ออกอากาศ: 2022–2024
• นักแสดงนำ: แอนเซล เอลกอร์ต, คิทาโนะ ทาเคชิ
• ผู้กำกับ: Michael Mann, Alan Paul
• จำนวนตอน: 10 ตอน (ซีซั่น 1)
• เรตติ้ง IMDb: 7.9/10
• ช่องทางการดูในประเทศไทย: HBO MAX

25. Delhi Crime (2019)

Delhi Crime (2019) เป็นซีรีส์อาชญากรรมที่สร้างจากเหตุการณ์จริงในปี 2012 ซึ่งสะท้อนความมืดมิดของสังคมอินเดียผ่านการสืบสวนคดีข่มขืนหมู่ที่เกิดขึ้นในกรุงนิวเดลี โดยมี DCP วาร์ติกา ชาตูร์เวดี (รับบทโดย Shefali Shah) หัวหน้าทีมตำรวจหญิงที่ต้องรับมือกับความกดดันจากทั้งสังคมและสื่อมวลชน ในการตามล่าหาผู้กระทำผิดที่ทิ้งร่องรอยไว้เพียงเล็กน้อย ซีรีส์นำเสนอความทุ่มเทของเจ้าหน้าที่ตำรวจในการคลี่คลายคดีที่สะเทือนขวัญและเป็นจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงกฎหมายในประเทศอินเดีย

ซีรีส์นี้ได้รับคำชมจากนักวิจารณ์และผู้ชมในด้านการแสดงที่เข้มข้นและการถ่ายทอดเรื่องราวที่สมจริง โดยเฉพาะการแสดงของ Shefali Shah ที่ได้รับการยกย่องอย่างสูง นอกจากนี้ยังได้รับรางวัลจากหลายสถาบัน เช่น รางวัลซีรีส์ดราม่ายอดเยี่ยมจาก International Emmy Awards ในปี 2020 และรางวัลซีรีส์ดราม่ายอดเยี่ยมจาก Asian Academy Creative Awards ในปี 2019

• ชื่อเรื่องในภาษาไทย: ล่าเดนเดลี
• ประเภท: อาชญากรรม, ดราม่า
• วันที่ออกอากาศ: 22 มีนาคม 2019
• นักแสดงนำ: Shefali Shah, Rasika Dugal, Rajesh Tailang, Adil Hussain
• ผู้กำกับ: Richie Mehta (ซีซั่น 1), Tanuj Chopra (ซีซั่น 2)
• จำนวนตอน: 12 ตอน (แบ่งเป็น 2 ซีซั่น)
• เรตติ้ง IMDb: 8.5/10
• ช่องทางการดูในประเทศไทย: Netflix

26. Stranger (2017-2020)

Stranger (2017-2020) หรือที่รู้จักกันในชื่อ Secret Forest เป็นซีรีส์เกาหลีแนวสืบสวนที่ผสมผสานความตึงเครียดของการเมืองและการสืบสวนได้อย่างลงตัว โดยเล่าเรื่องราวของ ฮวางชีมอก (รับบทโดย โจซึงอู) อัยการหนุ่มที่ไร้ความรู้สึกทางอารมณ์

แต่มีความสามารถในการวิเคราะห์คดีอย่างเฉียบคม เขาร่วมมือกับ ฮันยอจิน (รับบทโดย แบดูนา) ตำรวจสาวที่มีความมุ่งมั่นในการเปิดเผยความจริง ทั้งสองต้องร่วมมือกันสืบสวนคดีการคอร์รัปชันที่เกี่ยวข้องกับอัยการและนักการเมืองระดับสูง ซึ่งเต็มไปด้วยความซับซ้อนและอันตราย

ซีรีส์นี้ได้รับคำชมอย่างล้นหลามจากผู้ชมและนักวิจารณ์ ด้วยบทที่เข้มข้นและการแสดงที่ยอดเยี่ยมของนักแสดงนำ Stranger ไม่เพียงแต่เป็นซีรีส์สืบสวนที่น่าติดตาม แต่ยังสะท้อนถึงปัญหาสังคมและการเมืองในเกาหลีใต้ได้อย่างลึกซึ้ง ทำให้เป็นหนึ่งในซีรีส์ที่ไม่ควรพลาดสำหรับแฟนๆ แนวสืบสวนและดราม่า

• ชื่อเรื่องในภาษาไทย: สเตรนเจอร์
• ประเภท: สืบสวน, ดราม่า, การเมือง
• วันที่ออกอากาศ: 10 มิถุนายน 2017 – 20 กันยายน 2020
• นักแสดงนำ: โจซึงอู, แบดูนา
• ผู้กำกับ: อีซังยง
• จำนวนตอน: 16 ตอน (ซีซั่น 1), 16 ตอน (ซีซั่น 2)
• เรตติ้ง IMDb: 8.7/10
• ช่องทางการดูในประเทศไทย: Netflix

27. The Recruit (2022–2025)

The Recruit (2022–2025) เป็นซีรีส์สายลับที่ผสมผสานความตลกขบขันเข้ากับความตึงเครียดของการเมืองระหว่างประเทศได้อย่างลงตัว โดยมี โนอาห์ เซนติโน รับบทเป็น โอเวน เฮนดริคส์ ทนายความหนุ่มที่เพิ่งจบใหม่และถูกดึงตัวเข้าทำงานให้กับ CIA ในช่วงสัปดาห์แรกของการทำงาน เขาพบกับ แม็กซ์ เมลาดเซ (รับบทโดย ลอร่า แฮดด็อค) อดีตสายลับรัสเซียที่ถูกคุมขัง ซึ่งขู่ว่าจะเปิดเผยความสัมพันธ์กับหน่วยงานเว้นแต่จะได้รับการปล่อยตัว โอเวนต้องเผชิญกับโลกแห่งการเมืองระหว่างประเทศที่ซับซ้อนและอันตราย ซึ่งเต็มไปด้วยการหักหลังและเกมการเมืองที่ไม่คาดคิด ซีรีส์นี้ได้รับความนิยมจากการผสมผสานระหว่างความตลกและความตื่นเต้นในการสืบสวน

ในซีซันที่สอง โอเวนถูกส่งไปยังเกาหลีใต้เพื่อจัดการกับสถานการณ์ที่เกี่ยวข้องกับการขู่กรรโชกระดับสูง แต่เขากลับพบว่าภัยคุกคามที่แท้จริงอาจมาจากภายในหน่วยงานของเขาเอง การเดินทางครั้งนี้ทำให้เขาต้องร่วมมือกับ จาง คยูน (รับบทโดย เทโอ ยู) เจ้าหน้าที่จากหน่วยข่าวกรองแห่งชาติของเกาหลีใต้ ซึ่งมีความสามารถและอารมณ์ขันที่เฉียบคม ทั้งสองต้องเผชิญกับอันตรายและการหักหลังที่ไม่คาดคิด ซีซันนี้ได้รับคำชมจากการพัฒนาตัวละครและความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้น

• ชื่อเรื่องในภาษาไทย: ทนายซีไอเอ
• ประเภท: สืบสวน, สายลับ, ตลก, ดราม่า
• วันที่ออกอากาศ: 16 ธันวาคม 2022 – 30 มกราคม 2025
• นักแสดงนำ: โนอาห์ เซนติโน, ลอร่า แฮดด็อค, เทโอ ยู
• ผู้กำกับ: อเล็กซี่ ฮอว์ลีย์
• จำนวนตอน: 14 ตอน (2 ซีซัน)
• เรตติ้ง IMDb: 7.9/10
• ช่องทางการดูในประเทศไทย: Netflix

28. The Undoing (2020)

The Undoing (2020) เป็นซีรีส์แนวจิตวิทยาทริลเลอร์ที่เล่าเรื่องราวของ เกรซ เฟรเซอร์ (รับบทโดย นิโคล คิดแมน) นักจิตวิทยาผู้ประสบความสำเร็จในนิวยอร์กซิตี้ ที่ชีวิตอันสมบูรณ์แบบของเธอเริ่มพังทลายลงเมื่อพบว่ามีคดีฆาตกรรมเกิดขึ้นในโรงเรียนของลูกชายของเธอ และสามีของเธอ โจนาธาน เฟรเซอร์ (รับบทโดย ฮิวจ์ แกรนท์) กลายเป็นผู้ต้องสงสัยหลัก ทั้งคู่ต้องเผชิญกับความจริงที่ไม่เคยคาดคิด และเกรซต้องตัดสินใจว่าจะเชื่อใจสามีของเธอหรือไม่

ซีรีส์นี้ได้รับคำชมจากการแสดงของนักแสดงนำและการถ่ายทำที่สวยงาม แต่ก็มีเสียงวิจารณ์เกี่ยวกับการดำเนินเรื่องที่คาดเดาได้และการพัฒนาตัวละครที่ไม่ลึกซึ้งเท่าที่ควร

• ชื่อเรื่องในภาษาไทย: ดิอันดูอิง
• ประเภท: จิตวิทยา, ทริลเลอร์, ดราม่า
• วันที่ออกอากาศ: 25 ตุลาคม – 29 พฤศจิกายน 2020
• นักแสดงนำ: นิโคล คิดแมน, ฮิวจ์ แกรนท์
• ผู้กำกับ: ซูซานน์ เบียร์
• จำนวนตอน: 6 ตอน
• เรตติ้ง IMDb: 7.4/10
• ช่องทางการดูในประเทศไทย: HBO MAX

29. Dark (2017-2020)

Dark (2017–2020) เป็นซีรีส์ไซไฟ-ทริลเลอร์จากเยอรมนีที่ได้รับคำชมอย่างล้นหลามจากผู้ชมทั่วโลก โดยเฉพาะแฟนๆ แนวลึกลับและไซไฟ ซีรีส์นี้เริ่มต้นด้วยเหตุการณ์ลึกลับในเมืองสมมติ Winden เมื่อเด็กสองคนหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย ซึ่งนำไปสู่การเปิดเผยความลับของสี่ครอบครัวที่มีความเชื่อมโยงกันอย่างซับซ้อน ทั้งในอดีต ปัจจุบัน และอนาคต ผ่านการเดินทางข้ามเวลาและการทดลองที่เกี่ยวข้องกับพลังงานนิวเคลียร์และมิติคู่ขนาน

ซีรีส์นี้มีความโดดเด่นในด้านการเล่าเรื่องที่ซับซ้อนและต้องการความตั้งใจในการติดตาม โดยมีการสลับไปมาระหว่างปี 1953, 1986, 2019, 2020, 2052 และ 2053 พร้อมกับการเปิดเผยปริศนาและความสัมพันธ์ที่เชื่อมโยงกันอย่างลึกซึ้งระหว่างตัวละครและเหตุการณ์ต่างๆ นอกจากนี้ยังมีการสำรวจประเด็นทางปรัชญาและจิตวิทยาที่เกี่ยวข้องกับการเดินทางข้ามเวลาและผลกระทบต่อชีวิตมนุษย์ ทำให้ Dark เป็นซีรีส์ที่ท้าทายและน่าติดตามอย่างยิ่งสำหรับผู้ชมที่ชื่นชอบเรื่องราวที่ต้องใช้ความคิดและการวิเคราะห์

• ชื่อเรื่องในภาษาไทย: ดาร์ก
• ประเภท: ไซไฟ, ทริลเลอร์, ลึกลับ
• วันที่ออกอากาศ: 1 ธันวาคม 2017 – 27 มิถุนายน 2020
• นักแสดงนำ: Louis Hofmann, Karoline Eichhorn, Jördis Triebel, Maja Schöne
• ผู้กำกับ: Baran bo Odar
• จำนวนตอน: 26 ตอน (3 ซีซั่น)
• เรตติ้ง IMDb: 8.8/10
• ช่องทางการดูในประเทศไทย: Netflix

30. Blind (2022)

Blind (2022) เป็นซีรีส์แนวสืบสวนที่ผสมผสานความตึงเครียดและดราม่าได้อย่างลงตัว โดยมีตัวเอกเป็น จูคังฮุน (รับบทโดย อีจุนยอง) อดีตตำรวจที่สูญเสียการมองเห็นหลังจากเหตุการณ์สะเทือนขวัญ เขาต้องเผชิญกับความท้าทายในการใช้ชีวิตประจำวันและการค้นหาความยุติธรรมให้กับคดีที่ยังไม่ได้รับการคลี่คลาย ซีรีส์นำเสนอการต่อสู้ภายในของตัวละครหลักที่ต้องเผชิญกับความจริงที่ซับซ้อนและความยุติธรรมที่ไม่สมบูรณ์แบบ

ซีรีส์นี้ไม่เพียงแต่เน้นไปที่การสืบสวนและการเปิดเผยความจริง แต่ยังสะท้อนถึงความเป็นมนุษย์และการต่อสู้ภายในของตัวละครที่ต้องเผชิญกับความสูญเสียและความยุติธรรมที่ไม่สมบูรณ์แบบ Blind จึงเป็นซีรีส์ที่ท้าทายความคิดและความรู้สึกของผู้ชมได้อย่างลึกซึ้ง

• ชื่อเรื่องในภาษาไทย: ปิดตาล่าความจริง
• ประเภท: สืบสวน, ดราม่า, ทริลเลอร์
• วันที่ออกอากาศ: 2022
• นักแสดงนำ: อีจุนยอง, ฮันซูฮี, คิมยองกวัง
• ผู้กำกับ: อีซังยุน
• จำนวนตอน: 16 ตอน
• เรตติ้ง IMDb: 7.5/10
• ช่องทางการดูในประเทศไทย: Prime Video, Viu

การติดตาม ซีรีส์ตำรวจ เหล่านี้ไม่เพียงแต่ทำให้คุณได้ลุ้นระทึกไปกับการไขปริศนาและคดีต่าง ๆ เท่านั้น แต่ยังเป็นการเปิดโลกให้เห็นถึงความหลากหลายของอาชีพตำรวจในแง่มุมต่าง ๆ ผ่านเรื่องราวที่สมจริงและน่าสนใจ

ไม่ว่าคุณจะชอบซีรีส์แนวสอบสวนแนวลึก หรือเรื่องราวแอ็กชันสุดมันส์ ทุกเรื่องที่เราแนะนำต่างได้รับการคัดสรรมาอย่างดีเพื่อให้ตอบโจทย์แฟนซีรีส์สายตำรวจอย่างแท้จริง

อย่ารอช้า เลือกซีรีส์ที่ชอบแล้วเริ่มดูได้ทันที รับรองว่าคุณจะติดใจและได้ประสบการณ์ความบันเทิงที่ครบครันไม่แพ้ใคร