รีวิวซีรีส์จีน

[รีวิว-เรื่องย่อ] ดินแดนเปี่ยมหวัง | This Thriving Land (2025)

  • This Thriving Land เป็นซีรีส์ดราม่าจีนที่สร้างจากนวนิยายยุค 1990s เล่าเรื่องราวของผู้หญิงที่ถูกกดขี่ในสังคมศักดินาปี ค.ศ. 1926
  • การแสดงของหยาง หมี่ในบทนางเอกโดดเด่นและเป็นการกลับมาที่แข็งแกร่ง หลังจากผลงานที่ไม่น่าประทับใจในปี 2024
  • ซีรีส์นำเสนอปัญหาการเหลื่อมล้ำทางสังคมและการกดขี่ผู้หญิง อย่างไม่เกรงใจ พร้อมแสดงความจำเป็นในการเปลี่ยนแปลงระบบเก่า
  • ประสบความสำเร็จอย่างมากด้วยเรตติ้งสูงถึง 4% ใน CCTV-8 และขึ้นอันดับหนึ่งในทุกชาร์ตการดู เอาชนะซีรีส์แนวโรแมนติกและแฟนตาซีอื่นๆ

เราเคยคิดไหมว่าการเกิดมาเป็นผู้หญิงในยุคโบราณจะแสนเจ็บปวดแค่ไหน? ซีรีส์ This Thriving Land (2025) พาเราไปสัมผัสกับความเป็นจริงอันโหดร้ายของสังคมศักดินาในปี ค.ศ. 1926 ผ่านเรื่องราวของ หนิง เซียว เซียว สาวน้อยที่ถูกลักพาตัวในวันแต่งงาน และกลายเป็นคน “เสียชื่อเสียง” ในสายตาของชาวบ้าน ซีรีส์เรื่องนี้ไม่ได้เล่าแค่เรื่องรักใสๆ แต่เป็นการเปิดเผยความเหลื่อมล้ำทางสังคมและการกดขี่ผู้หญิงอย่างโหดร้าย

เรื่องราวเริ่มต้นจากวันแต่งงานที่กลายเป็นฝันร้าย เมื่อหนิง เซียว เซียวถูก โจรภูเขาลักพาตัว เพื่อเรียกค่าไถ่ แต่พ่อของเธอที่เป็น เจ้าของที่ดินตัวจริงเสียดายเงิน กลับปฏิเสธจ่ายค่าไถ่ และยอมให้ลูกสาวต้องเผชิญกับชะตากรรมที่โหดร้าย โชคดีที่ เฟิง ดาเจียว หนุ่มชาวนาใจดีกล้าหาญเข้าช่วยเหลือ แต่เมื่อเธอกลับถึงหมู่บ้าน กลับพบว่าทุกอย่างเปลี่ยนไปแล้ว

ในบทความนี้ เราจะพาไปดูทุกแง่มุมของซีรีส์ ดราม่าจีนสุดฮิต ที่กำลังสร้างกระแสใหญ่ในช่วงซัมเมอร์นี้ ตั้งแต่การแสดงที่โดดเด่น ไปจนถึงข้อความลึกซึ้งเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงทางสังคม มาดูกันว่า This Thriving Land จะทำให้เรารู้สึกอย่างไรกับความไม่เป็นธรรมในสังคมโบราณ

This Thriving Land (ดินแดนเปี่ยมหวัง)

เรื่องย่อและฉากเปิด This Thriving Land (ดินแดนเปี่ยมหวัง)

This Thriving Land มีฉากเปิดที่ทรงพลังและน่าสะเทือนใจ เมื่อหนิง เซียว เซียวกำลังจะแต่งงานในพิธีที่หรูหราตามประเพณี แต่แล้วเหตุการณ์ที่คาดไม่ถึงก็เกิดขึ้น เธอถูก โจรภูเขาลักพาตัว ไปอย่างกะทันหัน ขณะที่ญาติพี่น้องและแขกผู้มาร่วมงานต่างตกใจกันใหญ่ ฉากนี้แสดงให้เห็นถึงความไม่มั่นคงและอันตรายในยุคสมัยนั้น ที่แม้แต่งานมงคลก็อาจกลายเป็นโศกนาฏกรรมได้

การที่พ่อของเธออย่าง หนิง เซือ เซียง ปฏิเสธจ่ายค่าไถ่แสดงให้เห็นถึงความเห็นแก่ตัวและการดูถูกคุณค่าของลูกสาว ในสายตาของเขา เงินสำคัญกว่าชีวิตและชื่อเสียงของลูกสาว ซึ่งเป็นการสะท้อนค่านิยมของสังคมศักดินาที่ผู้หญิงถูกมองเป็นเพียงทรัพย์สิน การตัดสินใจของพ่อเปลี่ยนชะตากรรมของหนิง เซียว เซียวไปตลอดกาล และทำให้เธอต้องเผชิญกับการตีตราทางสังคมที่โหดร้าย

เฟิง ดาเจียวในบทของ หนุ่มชาวนาผู้กล้าหาญ กลายเป็นแสงสว่างเดียวในความมืดมิดของเรื่องราว การที่เขาเสี่ยงชีวิตเข้าไปช่วยเหลือหนิง เซียว เซียวแสดงให้เห็นถึงความดีและความกล้าหาญที่ไม่คำนึงถึงชนชั้น แต่การกระทำของเขากลับทำให้เรื่องราวซับซ้อนมากขึ้น เพราะในสังคมยุคนั้น การที่ผู้หญิงใช้เวลาข้ามคืนกับผู้ชายที่ไม่ใช่สามี ถือเป็นเรื่องอื้อฉาวที่ยอมรับไม่ได้

การแสดงของ หยาง หมี่ ในบทหนิง เซียว เซียวเป็นจุดเด่นที่สำคัญของซีรีส์เรื่องนี้ หลังจากที่เธอมีผลงานที่ไม่ค่อยน่าประทับใจในปี 2024 การกลับมาครั้งนี้ถือว่าเป็นการแสดงที่แข็งแกร่งและน่าจดจำ เธอถ่ายทอดความเจ็บปวด ความโกรธ และความแกว่งใจของผู้หญิงที่ต้องเผชิญกับ การตีตราทางสังคม ได้อย่างสมจริง แม้จะเป็นนักแสดงหญิงที่ได้รับการบิลล์ชื่อแรก แต่เธอต้องแชร์ความสำคัญกับนักแสดงชายในเรื่อง

หนี่ ดาหง ในบทหนิง เซือ เซียง พ่อของนางเอก แสดงได้อย่างน่ารังเกียจเหมาะสม เขาถ่ายทอดภาพของ เจ้าของที่ดินเห็นแก่ตัว ที่คิดถึงแต่เงินทองและชื่อเสียงของตัวเอง โดยไม่สนใจความรู้สึกหรือชีวิตของลูกสาว การแสดงของเขาทำให้ผู้ชมเกลียดตัวละครไปโดยอัตโนมัติ ซึ่งแสดงว่าเขาทำหน้าที่ได้สำเร็จ

โอ่ว หาว ในบทเฟิง ดาเจียว แสดงในบทฮีโร่ชาวนาได้อย่างน่าเชื่อถือ เขาถ่ายทอดความกล้าหาญ ความดี และความรักที่แท้จริงต่อนางเอกได้อย่างสมจริง แต่เมื่อเรื่องราวดำเนินไป ความสำคัญของตัวละครเขาเริ่มเพิ่มขึ้น จนเกือบจะบดบังนางเอก ซึ่งเป็นสิ่งที่น่าเสียดาย

ฉิน ไห่หลู ในบทนางเฟย์ แสดงได้อย่างยอดเยี่ยมในฐานะผู้หญิงที่มีอำนาจและชั่วร้าย เธอเป็นตัวแทนของระบบสังคมศักดินาที่เน่าเฟะ ที่ใช้อำนาจและการหลอกลวงในการควบคุมผู้คน การแสดงของเธอทำให้ตัวละครน่าเกลียดแต่ก็น่าสนใจไปพร้อมกัน

นักแสดงสมทบอื่นๆ ก็ให้มิติที่น่าสนใจแก่เรื่องราว โดยเฉพาะตัวละครของชาวบ้านและเจ้าของที่ดิน ที่แสดงให้เห็นถึงความซับซ้อนของสังคมในยุคนั้น ทั้งผู้ที่ยึดติดกับประเพณีเก่า และผู้ที่เริ่มตั้งคำถามกับระบบเดิม แต่ก็มีบางตัวละครที่ถูกเขียนให้ดูโง่เง่าหรือเห็นแก่ตัวเกินไป จนทำให้ผู้ชมรู้สึกหงุดหงิด

This Thriving Land (ดินแดนเปี่ยมหวัง)

This Thriving Land นำเสนอธีมหลักเกี่ยวกับ การกดขี่ผู้หญิงในสังคมศักดินา อย่างไม่ปรานี เรื่องราวแสดงให้เห็นว่าผู้หญิงในยุคนั้นถูกจำกัดด้วยกฎเกณฑ์และประเพณีที่โหดร้าย การที่หนิง เซียว เซียวถูกถือว่า “เสียชื่อเสียง” เพียงเพราะถูกลักพาตัวไปหนึ่งคืน แสดงให้เห็นถึงมาตรฐานคู่และความไม่เป็นธรรมที่ผู้หญิงต้องเผชิญ ขณะที่ผู้ชายสามารถทำอะไรก็ได้โดยไม่ต้องรับผิดชอบ

ซีรีส์ยังสำรวจเรื่อง ความเหลื่อมล้ำทางสังคม และการที่คนรวยกดขี่คนจน ภาพของหมู่บ้านเทียนหนิว ที่เจ้าของที่ดินเพียงไม่กี่คนครอบครองที่ดินหลายร้อยไร่ ขณะที่ชาวนาต้องเช่าที่ดินและคนจนที่สุดมีที่ดินเพียงไม่กี่ไร่ สะท้อนถึงปัญหาที่ยังคงมีอยู่ในสังคมปัจจุบัน การที่ระบบนี้ทำให้คนจนไม่สามารถพัฒนาตัวเองได้ เป็นการวิจารณ์โครงสร้างทางสังคมอย่างชัดเจน

เนื้อหาของซีรีส์ยังนำเสนอความจำเป็นในการเปลี่ยนแปลง โดยแสดงให้เห็นว่า ระบบเก่าที่เน่าเฟะ ต้องถูกท้าทายและปรับปรุง การที่หนิง เซียว เซียวตัดสินใจเลือกเส้นทางของตัวเอง แทนที่จะยอมรับชะตากรรมที่สังคมกำหนดให้ เป็นสัญลักษณ์ของการต่อสู้เพื่อเสรีภาพและความเป็นตัวตน แต่การเปลี่ยนแปลงนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย และต้องแลกมาด้วยการเสียสละมากมาย

This Thriving Land (ดินแดนเปี่ยมหวัง)

จุดแข็งที่โดดเด่นที่สุดของ This Thriving Land คือ การนำเสนอปัญหาทางสังคมอย่างไม่เกรงใจ สิบตอนแรกของซีรีส์มีความน่าติดตามสูง ด้วยการแนะนำตัวละครที่มีมิติและการแสดงให้เห็นว่าคนแต่ละคนปรับตัวหรือล้มเหลวในการปรับตัวกับยุคสมัยอย่างไร การเล่าเรื่องมีความชัดเจนและมีพลังในการสื่อสาร ทำให้ผู้ชมสามารถเข้าใจและเห็นอกเห็นใจกับตัวละครได้

อีกจุดแข็งหนึ่งคือ การถ่ายทำและการออกแบบฉาก ที่สามารถสร้างบรรยากาศของยุค ค.ศ. 1926 ได้อย่างน่าเชื่อถือ เครื่องแต่งกาย การแต่งหน้า และฉากต่างๆ มีความละเอียดและสวยงาม ทำให้ผู้ชมรู้สึกเหมือนได้เดินทางย้อนกลับไปในอิด้ การดัดแปลงจากนวนิยายยุค 1990s ทำให้เนื้อหามีความเหมาะสมกับผู้ชมสมัยใหม่ แต่ยังคงแก่นของเรื่องราวไว้

แต่เมื่อเรื่องราวดำเนินไปในช่วงหลัง จุดอ่อนเริ่มปรากฏออกมา การให้ความสำคัญกับตัวละครชายมากกว่าหญิง เป็นปัญหาที่น่าผิดหวัง แม้ว่าหยาง หมี่จะได้รับการบิลล์ชื่อแรก แต่ในหลายฉากกลับรู้สึกว่าเธอถูกบดบังไปด้วยนักแสดงชาย อีกปัญหาหนึ่งคือการเขียนตัวละครชาวนาให้ดูขี้เกียจ เห็นแก่ตัว หรือไม่มีเหตุผล จนบางครั้งทำให้ผู้ชมเห็นอกเห็นใจกับเจ้าของที่ดินมากกว่าคนจน ซึ่งอาจไม่ใช่เจตนาที่ซีรีส์ต้องการสื่อ

This Thriving Land (ดินแดนเปี่ยมหวัง)

This Thriving Land กลายเป็น ซีรีส์ฮิตแห่งซัมเมอร์ ด้วยเรตติ้งที่สูงอย่างต่อเนื่อง การออกอากาศใน CCTV-8 มีเรตติ้งเฉลี่ยอยู่ที่ 3% และเคยพุ่งสูงถึง 4% ซึ่งถือว่าเป็นตัวเลขที่น่าประทับใจสำหรับซีรีส์จีนในปัจจุบัน ความสำเร็จนี้แสดงให้เห็นว่าผู้ชมยังคงสนใจเนื้อหาที่มีความหมายและส่งผลกระทบทางสังคม

การที่ซีรีส์สามารถทำลายกำแพง 10,000 คะแนนใน iQiYi และขึ้นอันดับหนึ่งในทุกชาร์ตการดู แสดงให้เห็นถึงความนิยมของผู้ชมออนไลน์ การแข่งขันกับ ซีรีส์รักโรแมนติกและแฟนตาซี อื่นๆ ที่ออกอากาศช่วงเดียวกัน และสามารถเอาชนะได้ ชี้ให้เห็นว่าผู้ชมไม่ได้ต้องการแค่ความบันเทิงผิวเผิน แต่ยังต้องการเนื้อหาที่มีความลึกซึ้งด้วย

ความสำเร็จของซีรีส์ยังเป็นการพิสูจน์ว่า การดัดแปลงงานวรรณกรรมคลาสสิก ยังคงมีเสน่ห์และความเกี่ยวข้องกับผู้ชมสมัยใหม่ การที่ผู้สร้างสามารถปรับเนื้อหาให้เหมาะสมกับยุคสมัยโดยไม่สูญเสียแก่นแท้ของเรื่องราว เป็นการทำงานที่ประสบความสำเร็จ แม้ว่าจะมีการตัดเนื้อหาบางส่วนออกเพื่อให้เหมาะสมกับมาตรฐานการออกอากาศ แต่ข้อความหลักของเรื่องราวยังคงชัดเจนและทรงพลัง

This Thriving Land เป็นซีรีส์ที่ทำให้เราได้คิดทบทวนเกี่ยวกับความเป็นธรรมทางสังคม การกดขี่ผู้หญิง และความจำเป็นในการเปลี่ยนแปลง แม้จะมีจุดอ่อนบางประการ แต่ก็ยังคงเป็นผลงานที่น่าชมและน่าสนใจ การแสดงของนักแสดงนำและการนำเสนอปัญหาทางสังคมอย่างตรงไปตรงมา ทำให้ซีรีส์นี้แตกต่างจากซีรีส์รักหวานเพรียวทั่วไป สำหรับใครที่ชื่นชอบซีรีส์ที่มีเนื้อหาลึกซึ้งและสะท้อนปัญหาสังคม This Thriving Land เป็นผลงานที่ไม่ควรพลาด มาแชร์ความคิดเห็นกันในคอมเมนต์ว่าเราคิดอย่างไรกับปัญหาการกดขี่ผู้หญิงที่ยังคงมีอยู่ในปัจจุบัน และอย่าลืมแชร์รีวิวนี้ให้เพื่อนๆ ที่ชื่นชอบซีรีส์แนวดราม่าสังคม!

  • ชื่อเรื่องในภาษาไทย: ดินแดนเปี่ยมหวัง
  • ประเภท: ดราม่า, โรแมนติก, สังคม
  • วันที่ออกอากาศ: 13 ส.ค. 2568 – 23 ส.ค. 2568
  • นักแสดงนำ: Yang Mi, Ou Hao
  • ผู้กำกับ: Liu Jia Cheng
  • จำนวนตอน: 36 ตอน
  • เรตติ้ง MyDramaList: 7.8/10
  • ช่องทางการดูในประเทศไทย: iQIYI

กดเพื่ออ่านต่อ

PhiRa W.

เป็นนักเขียนอิสระที่หลงใหลในสื่อบันเทิงทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นภาพยนตร์ ซีรีส์ วาไรตี้ และสารคดี ผมชอบที่จะวิเคราะห์และถอดรหัสเนื้อหาเหล่านั้นออกมาในรูปแบบของรีวิวที่เข้าใจง่ายและสนุกสนาน เพื่อแบ่งปันมุมมองและประสบการณ์ให้กับผู้อ่าน

บทความที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Back to top button