รีวิวซีรีส์ญี่ปุ่น

[รีวิว-เรื่องย่อ] Marry My Husband (2025) ความแค้นย้อนเวลาที่ดูเพลินจนหยุดไม่ได้!

Marry My Husband (2025) จากนิยายเว็บ Marry My Husband (내 남편과 결혼해줘) ของ Seong So Jak ถูกดัดแปลงเป็นซีรีส์ญี่ปุ่นที่ปล่อยทาง Prime Video ตั้งแต่วันที่ 27 มิถุนายน – 25 กรกฎาคม 2025 บอกเล่าเรื่องราวของ Kobe Misa หญิงสาวผู้ถูกทรยศโดยสามีและเพื่อนสนิท จนชีวิตพังพินาศ… แต่แล้วเธอกลับย้อนเวลากลับไป 10 ปีก่อน เพื่อวางแผนแก้แค้น และพบความรักครั้งใหม่กับ Suzuki Wataru ชายแปลกหน้าที่เข้ามาเปลี่ยนชีวิตเธอ! ซีรีส์ Drama ผสม Time Travel และ Revenge ที่เต็มไปด้วยอารมณ์หลากหลาย ทั้งความเจ็บปวด การเติบโต และความหวัง พร้อมคำถามใหญ่: Misa จะล้างแค้นสำเร็จหรือเลือกเดินทางใหม่?

การดัดแปลงจากนิยายเว็บและ Marry My Husband (2024) เวอร์ชันเกาหลี สร้างความคาดหวังอย่างมาก โดยเฉพาะเมื่อ Fuka Koshiba รับบท Misa ที่ต้องแสดงทั้งความอ่อนแอในอดีตและความแข็งแกร่งในปัจจุบัน ขณะที่ Takeru Satoh ในบท Suzuki Wataru ต้องสร้างเคมีกับเธอให้สมจริง แม้บางเสียงจะมองว่าบทของตัวละครหลักอาจดูจืดชืด แต่การพลิกผันของเนื้อเรื่องและการพัฒนาตัวละครในแต่ละตอนกลับดึงดูดผู้ชมได้อย่างเหนียวแน่น

Marry My Husband (Watashi no Otto to Kekkon Shite)

รีวิวและเรื่องย่อ Marry My Husband (Watashi no Otto to Kekkon Shite)

ตอนแรกเปิดด้วยการย้อนอดีตของ Misa และ Reina (เพื่อนสนิท) ที่รู้จักกันตั้งแต่เด็ก จนกลายเป็นการทรยศครั้งใหญ่เมื่อ Misa พบว่า Tomoya (สามี) และ Reina สมคบกันใช้เงินประกันชีวิตของเธอเพื่อซื้อบ้านใหม่ ฉากที่ Tomoya ผลักเธอตกชั้นสองกลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญ เมื่อเธอย้อนเวลาไป 10 ปีก่อน และเริ่มวางแผนแก้แค้นอย่างมีระบบ แต่สิ่งที่ไม่คาดคิดคือการพบกับ Suzuki Wataru ชายลึกลับที่กลายเป็นกำลังใจสำคัญ

ความเข้มข้นของเรื่องอยู่ที่การเปิดโปงความเลวของ Reina ที่แฝงตัวอยู่ภายใต้หน้ากากมิตรภาพ ทั้งการกีดกันความรักของ Misa และการควบคุมชีวิตเธอแบบเนียนๆ ในอดีต การที่ Misa ตัดสินใจเผชิญหน้าทุกคนในงานเลี้ยงรุ่น พร้อมพยาน Yuto ถือเป็นจุดพีคที่ทำให้ผู้ชมรู้สึกสะใจ ขณะเดียวกันก็เห็นใจในความเจ็บปวดของเธอ

Fuka Koshiba ในบท Misa ถ่ายทอดความเจ็บปวดและพลังการฟื้นตัวได้อย่างน่าประทับใจ เธอไม่ได้แสดงเป็นเหยื่อผู้อ่อนแอ แต่ค่อยๆ เปลี่ยนเป็นหญิงแกร่งที่รู้จักปกป้องตัวเอง ต่างจากเวอร์ชันเกาหลีของ Park Min-young ที่บางฉากอาจดูโอเวอร์แอคติ้งเกินไป ส่วน Takeru Satoh ในบท Wataru แม้จะมีบทบาทสำคัญ แต่การแสดงของเขาถูกวิจารณ์ว่า “จืด” ไม่สามารถสร้างความรู้สึกสั่นสะเทือนได้เท่า Na In-woo ในเวอร์ชันเกาหลี

You Yokoyama รับบท Tomoya ได้สมบทบาทเป็นตัวร้ายที่ดูน่าเกลียดตั้งแต่แรก ขณะที่ Sei Shiraishi ในบท Reina ใช้สีหน้าและน้ำเสียงสร้างความรู้สึก “ปลอมแฝง” ได้อย่างแม่นยำ แม้บางครั้งตัวละครอาจดูเหมือนวายร้ายในละครเวทีเกินไป แต่ก็เพียงพอที่จะกระตุ้นอารมณ์ของผู้ชม

เวอร์ชันเกาหลี (2024) ของ tvN มี 16 ตอน ในขณะที่เวอร์ชันญี่ปุ่นลดเหลือ 10 ตอน ทำให้เนื้อเรื่องกระชับและเดินเร็วขึ้น แต่บางช่วงอาจดูรีบเกินไป เช่น การเปิดเผยแผนแก้แค้นของ Misa ที่ไม่ค่อยมีรายละเอียดลึกๆ เปรียบเหมือนอาหารรสจัดที่กินเร็วเกินจนไม่ได้รสชาติเต็มที่ อย่างไรก็ตาม การลดจำนวนตอนทำให้ผู้ชมที่เบื่อหน้าจอไม่ต้องรอคอยนาน ซึ่งเหมาะกับยุคที่ทุกคนต้องการความรวดเร็ว

อีกจุดที่แตกต่างคือการปรับบทบาทของ Suzuki Wataru ในเวอร์ชันญี่ปุ่น เขาไม่ใช่แค่ “ผู้ช่วย” แต่เป็นแรงผลักดันให้ Misa รู้จักรักตัวเอง ขณะที่เวอร์ชันเกาหลีเน้นความสัมพันธ์เชิงโรแมนติกมากกว่า

Marry My Husband (2025) ไม่ใช่แค่ซีรีส์แก้แค้นธรรมดา แต่คือการเดินทางของหญิงสาวที่เรียนรู้ที่จะ “รักตัวเอง” หลังถูกทำร้ายทั้งด้านจิตใจและร่างกาย แม้จะมีจุดอ่อนในบทของตัวละครรองที่ดูเกินจริง แต่พลังของการแสดงและเนื้อเรื่องที่กระชับก็ช่วยให้เรื่องนี้น่าติดตาม สำหรับผู้ชมที่ชอบซีรีส์แนว Drama ผสม Time Travel และอยากเห็นการเติบโตของตัวละคร ห้ามพลาด!

  • ชื่อเรื่องในภาษาไทย: สามีคนนี้แจกฟรีให้เธอ: ญี่ปุ่น
  • ประเภท: ดราม่า, โรแมนติก, ชีวิตครอบครัว
  • วันที่ออกอากาศ: 2025
  • นักแสดงนำ: คาซึมิ อิชิฮาระ, ฮิโรฟุมิ อาเบะ
  • ผู้กำกับ: มาซาโอะ คุโรซาวะ
  • จำนวนตอน/ความยาว: 12 ตอน
  • เรตติ้ง IMDb:
  • ช่องทางการดูในประเทศไทย: Prime Video

กดเพื่ออ่านต่อ

PhiRa W.

เป็นนักเขียนอิสระที่หลงใหลในสื่อบันเทิงทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นภาพยนตร์ ซีรีส์ วาไรตี้ และสารคดี ผมชอบที่จะวิเคราะห์และถอดรหัสเนื้อหาเหล่านั้นออกมาในรูปแบบของรีวิวที่เข้าใจง่ายและสนุกสนาน เพื่อแบ่งปันมุมมองและประสบการณ์ให้กับผู้อ่าน

บทความที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Back to top button