[รีวิว-เรื่องย่อ] The Hunger Games: The Ballad of Songbirds & Snakes (2023)

ถ้าคุณเคยสงสัยว่า Coriolanus Snow แห่ง The Hunger Games กลายเป็นเผด็จการที่ไร้หัวใจได้อย่างไร The Ballad of Songbirds & Snakes มีคำตอบ! หนังภาคก่อน (Prequel) ที่สร้างจากนวนิยายของ Suzanne Collins เผยให้เห็นภาพของโลก Panem ในยุคแรกเริ่ม และการเปลี่ยนแปลงของหนุ่มสโนว์จากเด็กเนิร์ดหรูสู่ผู้บงการเกมมรณะ ด้วยการกำกับของ Francis Lawrence ที่เคยสร้างชื่อด้วยซีรีส์ดั้งเดิม หนังเล่มนี้ไม่เพียงเติมเต็มตำนานแต่ยังท้าทายอารมณ์ของผู้ชมด้วยพล็อตที่ลึกซึ้งและตัวละครที่มีมิติ

รีวิวและเรื่องย่อ The Hunger Games: The Ballad of Songbirds & Snakes

Tom Blyth สวมบท Coriolanus Snow ได้อย่างน่าทึ่ง แสดงให้เห็นวิวัฒนาการของตัวละครจากเด็กหนุ่มที่ถูกกดดันจากความยากจนในครอบครัวที่เคยรุ่งเรือง แม้จะมีพร้อมทั้งความฉลาดและความทะเยอทะยาน แต่สโนว์ต้องเผชิญกับทางเลือกที่โหดร้ายระหว่างความถูกต้องกับการอยู่รอด ความละเอียดอ่อนในบทนี้อยู่ที่การค่อยๆ ล้มล้างจริยธรรมของเขาก่อนจะกลายเป็นสัตว์ประหลาดในอนาคต ฉากที่เขาใช้กลยุทธ์เล็กๆ น้อยๆ เพื่อควบคุมสถานการณ์แสดงให้เห็นว่าความโหดเหี้ยมไม่จำเป็นต้องใช้กำลัง แต่มาพร้อมกับการคำนวณที่เฉียบคม

Lucy Gray Baird จากฝีมือของ Rachel Zegler คือแสงสว่างในความมืดของหนังเรื่องนี้ ด้วยเสียงร้องที่ไพเราะและความกล้าหาญในการต่อต้านระบบ ตัวละครนี้ไม่เพียงเป็นคู่ปรับของสโนว์แต่ยังสะท้อนถึงจิตวิญญาณของการต่อสู้เพื่อเสรีภาพ ความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับสโนว์เต็มไปด้วยความไม่ไว้วางใจแต่ก็มีช่วงเวลาที่ทั้งสองคนใกล้ชิดกันอย่างน่าสนใจ ซึ่งเพิ่มมิติให้กับพล็อตโรแมนติก-ทริลเลอร์ในหนัง

Dr. Volumnia Gaul ที่รับบทโดย Viola Davis เป็นตัวละครที่ทำให้หนังมีความดราม่าเข้มข้น เธอไม่เพียงเป็นผู้คิดค้นกฎเกณฑ์ของ Hunger Games แต่ยังแสดงให้เห็นถึงความเหี้ยมโหดที่ถูกปกปิดด้วยรอยยิ้มอ่อนหวาน การออกแบบเครื่องแต่งกายของเธอโดย Trish Summerville ก็เป็นจุดเด่นที่สะท้อนถึงความหรูหราแบบคลาสสิกแต่แฝงความน่าสะพรึง

หนังพาผู้ชมย้อนไปยังยุคที่ Panem เพิ่งฟื้นจากสงคราม ความโหดเหี้ยมของ Games ในยุคเริ่มต้นยังไม่ถึงขั้นสุดโต่ง แต่ก็เพียงพอที่จะสะเทือนใจผู้ชม ด้วยฉากการสังหารที่ตรงไปตรงมาและเทคโนโลยีที่ยังไม่ล้ำสมัย ทำให้ความตายในหนังนี้ดู “ดิบ” กว่าภาคก่อน ขณะเดียวกัน การเปลี่ยนฉากจากเมืองหลวงสู่ป่าในตอนท้ายสร้างความแตกต่างทั้งโทนและอารมณ์ ให้หนังมีช่วงเวลาที่เงียบสงบแต่เต็มไปด้วยความตึงเครียด

Jo Willems ผู้กำกับภาพ สร้างบรรยากาศที่สมจริงทั้งในเมืองและป่า โดยเฉพาะฉากกลางคืนที่ใช้แสงไฟและเงาเพื่อเพิ่มความลึกลับ ด้านเพลงประกอบของ James Newton Howard เสริมอารมณ์ได้อย่างลงตัว ไม่ว่าจะเป็นบทเพลงของ Lucy Gray ที่กลายเป็นสัญลักษณ์ของการต่อต้าน หรือท่วงทำนองที่สะท้อนความมืดในจิตใจของสโนว์

The Hunger Games: The Ballad of Songbirds & Snakes ไม่ใช่แค่หนังแอ็กชันมันส์ๆ แต่เป็นงานศึกษาจิตวิทยาของผู้นำเผด็จการและพลังของการต่อต้าน ด้วยตัวละครที่ลึกซึ้ง บทพูดที่คมคาย และการสร้างโลกที่น่าเชื่อถือ หนังนี้เหมาะกับทั้งแฟนตัวยงของซีรีส์และผู้ชมใหม่ที่อยากเข้าใจภูมิหลังของ Panem หากคุณชื่นชอบหนัง Dystopian Sci-Fi ที่ผสมผสานความคิดกับอารมณ์ ห้ามพลาดเรื่องนี้! ร่วมแสดงความคิดเห็นหรือแชร์บทความนี้เพื่อสนับสนุนงานเขียนเชิงวิเคราะห์ที่มีคุณภาพ

• ชื่อเรื่องในภาษาไทย: เดอะ ฮังเกอร์เกมส์ ปฐมบทเกมล่าเกม
• ประเภท: ดราม่า, แอ็กชัน, ดิสโทเปีย
• วันที่ออกอากาศ: 17 พฤศจิกายน 2023
• นักแสดงนำ: Tom Blyth, Rachel Zegler, Peter Dinklage, Viola Davis, Hunter Schafer
• ผู้กำกับ: Francis Lawrence
• จำนวนตอน/ความยาว: ความยาว 157 นาที (2 ชั่วโมง 37 นาที)
• เรตติ้ง IMDb: 6.8/10
• ช่องทางการดู: Netflix