รีวิวซีรีส์ฝรั่ง

[รีวิว-เรื่องย่อ] Stick (2025) ความสัมพันธ์ที่เติบโตผ่านกอล์ฟ

Key Points

  • Stick (2025) เป็นผลงานที่ผสมผสานความจริงใจ การเติบโตของตัวละคร และความสัมพันธ์ที่ไม่ได้หวานใส่แป้ง
  • นำแสดงโดย Owen Wilson และ Peter Dager ที่มีเคมีที่น่าประทับใจ
  • เหมาะกับผู้ชมที่ต้องการเนื้อหาที่ลึกซึ้ง ไม่ใช่แค่การถูกบันเทิงแบบผิวเผิน
  • แม้จะมีจุดอ่อนเล็กน้อย แต่โดยรวมแล้ว Stick เป็นผลงานที่ควรค่าแก่การรับชม

ในโลกแห่งซีรีส์และภาพยนตร์ที่มักจะเน้นการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วและความสำเร็จแบบ instant Stick (2025) เป็นผลงานที่เลือกเดินเส้นทางต่างออกไป โดยแทนที่จะใช้พล็อตที่หวือหวาหรือฉากที่ตระการตา มันกลับเลือกที่จะเล่าเรื่องด้วยความเรียบง่ายแต่ลึกซึ้ง ผ่านการพบกันของชายสองคนที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ชายวัยกลางคนที่เคยประสบความสำเร็จแต่ตอนนี้ตกต่ำ และวัยรุ่นที่กำลังค้นหาตัวเอง Owen Wilson และ Peter Dager นำแสดงได้อย่างน่าประทับใจ ทำให้ Stick กลายเป็นผลงานที่ควรค่าแก่การจดจำ

เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นกับ Pryce Cahill (Owen Wilson) อดีตนักกอล์ฟแชมป์ผู้เคยมีทุกอย่างในชีวิต แต่ตอนนี้กลับทำงานขายอุปกรณ์กอล์ฟในห้างสรรพสินค้าเล็กๆ พร้อมกับพยายามหลีกเลี่ยงอดีตที่ตามหลอกหลอนเขาไปทุกวัน ในขณะเดียวกัน Santi Wheeler (Peter Dager) วัยรุ่นที่มีความสามารถในการตีกอล์ฟอย่างน่าทึ่ง แต่ขาดคำแนะนำและการสนับสนุนจากผู้ใหญ่รอบตัว การพบกันของทั้งสองคนไม่ใช่ฉากโรแมนติกหรือการพบกันโดยบังเอิญแบบในหนังทั่วไป แต่เป็นการชนกันของความแตกต่าง ที่แม้จะไม่น่าจะลงตัว แต่กลับกลายเป็นแรงผลักดันให้กันและกันได้อย่างน่าประหลาดใจ

Stick ไม่ใช่แค่เรื่องเกี่ยวกับกีฬากอล์ฟเท่านั้น แต่มันคือเรื่องราวของการเติบโตของมนุษย์ การยอมรับความล้มเหลว การเรียนรู้ที่จะให้อภัย และการพยายามกลับมาอีกครั้ง แม้ว่าจะไม่มีใครรอคอยคุณอยู่ตรงเส้นชัยก็ตาม นี่คือเหตุผลที่ทำให้ Stick (2025) เป็นงานเขียนที่มีความหมายลึกซึ้ง และสามารถสะท้อนชีวิตจริงได้อย่างใกล้เคียง

Stick (2025)

รีวิวและเรื่องย่อ Stick

Pryce Cahill (Owen Wilson) เป็นตัวละครที่ไม่พยายามน่ารัก แต่กลับน่าสนใจมาก เพราะเขายอมรับความเจ็บปวดของเขาอย่างตรงไปตรงมา ไม่มีการปรุงแต่งมากจนเกินไป หรือพยายามทำให้เขาน่าสงสารเกินจริง นี่คือภาพของคนธรรมดาที่เคยสูญเสียทุกอย่างและกำลังพยายามสร้างชีวิตใหม่ แม้ว่าจะไม่มั่นใจว่าจะสำเร็จหรือไม่ก็ตาม Owen Wilson นำเสนอความอ่อนล้าและความเหนื่อยล้าทางอารมณ์ได้อย่างน่าเชื่อถือ

ในทางกลับกัน Santi Wheeler (Peter Dager) คือตัวแทนของความเยาว์วัย ความมั่นใจเกินร้อย และความไม่พร้อมสำหรับการเติบโต แต่ในขณะเดียวกัน เขาก็มีความอ่อนไหวที่แอบซ่อนอยู่ภายใต้หน้ากากความหยิ่งผยอง Peter Dager แสดงบทบาทนี้ได้อย่างสมจริง ทำให้เราเห็นการเปลี่ยนแปลงของตัวละครอย่างค่อยเป็นค่อยไป ตั้งแต่การปฏิเสธคำแนะนำไปจนถึงการเริ่มไว้วางใจในความรู้ของคนอื่น

บทความที่เกี่ยวข้อง
Advertisement

ความสัมพันธ์ระหว่าง Pryce และ Santi เติบโตอย่างเป็นธรรมชาติ ไม่มีการเปลี่ยนแปลงที่ฉับพลันหรือฉากที่เกินจริง พวกเขาทะเลาะกัน ไม่เข้าใจกัน แต่ในเวลาเดียวกันก็เรียนรู้จากกันและกัน นี่คือความงามของ Stick ที่ไม่พยายามบีบให้เราร้องไห้หรือหัวเราะ แต่ปล่อยให้ความรู้สึกค่อยๆ ก่อตัวขึ้นเอง

หนึ่งในจุดแข็งของ Stick คือบทพูดที่เขียนออกมาอย่างเป็นธรรมชาติ ไม่พยายามตลกเกินไปหรือพยายามสร้างประโยคเด็ดที่ต้องจดจำ บทสนทนาเหมือนการได้ยินคนพูดจริงๆ บางครั้งก็เงียบเสียง บางครั้งก็ไม่ได้คมกริบ แต่กลับให้ความรู้สึกว่า “ใช่” อย่างบอกไม่ถูก โดยเฉพาะในฉากที่ Pryce สอน Santi วิธี putt ซึ่งกลายเป็นฉากที่มีทั้งความตลก เศร้า และให้แง่คิดในเวลาเดียวกัน

อารมณ์ขันใน Stick ไม่ได้มาแบบ punchline ที่ชัดเจน แต่มาในรูปแบบของพฤติกรรมหรือสถานการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ ทำให้ผู้ชมหัวเราะโดยไม่รู้ตัว และบางครั้งก็หัวเราะแล้วรู้สึกเศร้าตามในทันที นี่คือสไตล์การเล่าเรื่องที่เหมาะกับผู้ชมที่ต้องการเนื้อหาที่ลึกซึ้ง ไม่ใช่แค่การถูกบันเทิงแบบผิวเผิน

หลายคนอาจคิดว่าการถ่ายทำเกี่ยวกับกีฬากอล์ฟนั้นน่าเบื่อ แต่ใน Stick (2025) ทีมงานสามารถถ่ายทอดบรรยากาศของสนามกอล์ฟได้อย่างน่าสนใจ โดยเน้นการแสดงออกทางร่างกายและอารมณ์ของตัวละครมากกว่าการโฟกัสที่การตีหรือคะแนน กล้องเคลื่อนไหวอย่างเรียบง่าย แต่ให้ความรู้สึกถึงการต่อสู้ภายในของตัวละครได้อย่างน่าประทับใจ

โดยเฉพาะในฉากที่ตัวละครต้องเผชิญกับความกดดันบนสนาม ทีมงานเลือกที่จะเน้นใบหน้า การหายใจ และท่าทางของพวกเขา แทนที่จะใช้ slow-motion หรือดนตรีประกอบแบบดราม่ามากเกินไป สิ่งนี้ทำให้ผู้ชมรู้สึกถึงความเครียดและความคาดหวังของตัวละครได้อย่างแท้จริง

แม้ว่าจะเป็นเรื่องราวของ Pryce และ Santi เป็นหลัก แต่ตัวละครเสรือก็มีบทบาทสำคัญในการเติมเต็มเรื่องราว เช่น Mitts (Marc Maron) เพื่อนร่วมชะตากรรมของ Pryce ที่แม้จะพูดจาแสยะ แต่กลับเป็นคนที่ซื่อสัตย์ที่สุดในเรื่องราว นอกจากนี้ Zero (Lilli Kay) และ Judy Greer ในบทอดีตภรรยาของ Pryce ก็ช่วยเพิ่มมิติทางอารมณ์ให้กับตัวละครหลักได้อย่างน่าพอใจ

การวางบทของตัวละครเสรือกไม่ใช่เพื่อเติมเต็มช่องว่างของพล็อต แต่เพื่อขยายความเข้าใจในตัวละครหลัก ทำให้ผู้ชมเห็นว่าแต่ละคนมีมุมมองและบาดแผลของตัวเอง ซึ่งส่งผลต่อการกระทำและคำพูดตลอดทั้งเรื่อง

แม้จะมีจุดแข็งหลายประการ แต่ Stick ก็ไม่ได้ไร้ที่ติ บางครั้งมันยังคงใช้ tropes ที่เราเคยเห็นในหนังแนวนี้ เช่น ฉาก slow-motion ที่เกิดขึ้นพร้อมกับเพลง acoustic guitar ซึ่งแม้จะสวยงาม แต่ก็อาจทำให้เรื่องราวสูญเสียความสดใหม่ไปบางส่วน

หากคุณกำลังมองหาผลงานที่ทำให้คุณคิดถึงตัวเอง คิดถึงคนรอบตัว และอาจจะรู้สึกว่า “เราไม่ได้โดดเดี่ยว” Stick (2025) คือคำตอบ หากคุณชอบเรื่องราวที่ไม่ต้องจบแบบ perfect ending แต่ให้ความรู้สึกว่า “โอเค เราจะลองอีกครั้ง” แล้วล่ะก็ คุณจะรักเรื่องนี้อย่างแน่นอน

  • ประเภท: คอมเมดี้, กีฬา
  • วันที่ออกอากาศ: 4 มิถุนายน 2025
  • นักแสดงนำ: โอเวน วิลสัน, ปีเตอร์ เดเกอร์, ลิลลี่ เคย์, มาริอานา เทรวิโญ, มาร์ค มารอน
  • ผู้กำกับ: วาเลอรี ฟาริส, โจนาธาน เดย์ตัน, เดวิด ด็อบคิน
  • จำนวนตอน/ความยาว: 10 ตอน
  • ช่องทางการดู: Apple TV+

Advertisement
กดเพื่ออ่านต่อ
Advertisement

PhiRa W.

เป็นนักเขียนอิสระที่หลงใหลในสื่อบันเทิงทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นภาพยนตร์ ซีรีส์ วาไรตี้ และสารคดี ผมชอบที่จะวิเคราะห์และถอดรหัสเนื้อหาเหล่านั้นออกมาในรูปแบบของรีวิวที่เข้าใจง่ายและสนุกสนาน เพื่อแบ่งปันมุมมองและประสบการณ์ให้กับผู้อ่าน

บทความที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Back to top button