รีวิวซีรีส์ฝรั่ง

[รีวิว-เรื่องย่อ] บัลลาร์ด ศิษย์สืบเก๋า | Ballard (2025)

  • Ballard (2025) เป็น ซีรีส์สืบสวน สปินออฟจาก Bosch: Legacy นำโดย Maggie Q ในบท Renée Ballard ที่ต้องสืบ คดีเย็นชืด ใน ลอสแอนเจลิส
  • ซีรีส์ขาดเสน่ห์แบบนัวร์ของ Bosch และเริ่มต้นช้า แต่ดีขึ้นในตอนท้ายเมื่อตัวละครเริ่มมีมิติ
  • การจี้ของ Harry Bosch และตัวละครเก่าอื่นๆ รู้สึกไม่จำเป็นและไม่ช่วยให้เรื่องเด่นขึ้น
  • เหมาะสำหรับแฟน ซีรีส์ตำรวจ ทั่วไป แต่แฟน Bosch อาจผิดหวังจากความแตกต่างของโทนและสไตล์

ถ้าพูดถึง ซีรีส์สืบสวน ที่ครองใจแฟนๆ มาอย่างยาวนาน คงหนีไม่พ้น Bosch และ Bosch: Legacy ที่สร้างจากนิยายของ Michael Connelly แต่ในปี 2025 นี้ โลกของ ลอสแอนเจลิส ได้ต้อนรับ Ballard ซีรีส์ใหม่ล่าสุดที่นำแสดงโดย Maggie Q ในบท Renée Ballard นักสืบสาวที่ต้องเผชิญคดีเย็นชืด (Cold Case) และดราม่าภายในกรมตำรวจ คำถามคือ ซีรีส์นี้จะสานต่อความยิ่งใหญ่ของรุ่นพี่อย่าง Bosch ได้หรือไม่? หรือจะกลายเป็นแค่ ซีรีส์ตำรวจ สูตรสำเร็จทั่วไป? วันนี้เราจะพาไปเจาะลึกทุกแง่มุมของ Ballard (2025) กัน!

ถ้าคุณเป็นแฟน Bosch ตัวยง คุณอาจจะตื่นเต้นที่เห็น Renée Ballard ซึ่งปรากฏตัวครั้งแรกในตอนจบของ Bosch: Legacy ซีซั่น 3 ได้มีซีรีส์เป็นของตัวเอง แต่ขอบอกเลยว่า Ballard ไม่ได้เดินตามรอยรุ่นพี่แบบเต็มตัว ซีรีส์นี้เหมือนเพื่อนบ้านที่ยืมชื่อมาใช้ แต่พยายามสร้างตัวตนใหม่ที่แตกต่าง ด้วยการนำเสนอเรื่องราวของ นักสืบลอสแอนเจลิส ที่ต้องต่อสู้ทั้งคดีฆาตกรรมและปัญหาการเมืองในกรมตำรวจ แต่จะน่าติดตามแค่ไหน? มาดูกันว่า Ballard จะพาคุณดำดิ่งสู่โลกแห่งการสืบสวนได้สนุกแค่ไหน หรือจะกลายเป็นแค่ซีรีส์ที่ดูจบแล้วลืม!

Ballard (บัลลาร์ด ศิษย์สืบเก๋า)

รีวิวและเรื่องย่อ Ballard (บัลลาร์ด ศิษย์สืบเก๋า)

Ballard (2025) ออกฉายทาง Prime Video เมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม 2025 โดยเป็น ซีรีส์สปินออฟ จาก Bosch: Legacy ที่หยิบตัวละคร Renée Ballard ซึ่งสร้างโดย Michael Connelly มาเล่าเรื่องราวในมุมใหม่ Maggie Q รับบทเป็น Renée Ballard นักสืบสาวที่ถูกย้ายไปดูแลหน่วย คดีเย็นชืด หลังจากร้องเรียนเรื่องการประพฤติมิชอบของเพื่อนร่วมงาน เธอต้องเผชิญกับความท้าทายในการนำทีมใหม่เพื่อคลี่คลายคดีฆาตกรรมที่ถูกลืม โดยมี John Carroll Lynch, Courtney Taylor, Michael Mosley, Rebecca Field, และ Victoria Moroles มาร่วมสมทบ

เนื้อเรื่องเริ่มต้นด้วยการแนะนำ Renée Ballard ที่ต้องรับมือกับคดีฆาตกรรมน้องสาวของสมาชิกสภาเมือง Jake Pearlman (รับบทโดย Noah Bean) ซึ่งนำไปสู่การค้นพบเหยื่อรายอื่นๆ ทีมของเธอประกอบด้วยอดีตคู่หู Thomas Laffont (John Carroll Lynch), อาสาสมัครที่มีพลังจิต Colleen Hatteras (Rebecca Field), นักศึกษาฝึกงาน Martina Castro (Victoria Moroles), ตำรวจสำรอง Ted Rawls (Michael Mosley) และอดีตนักสืบ Samira Parker (Courtney Taylor) ที่มีประวัติคล้ายกับ Ballard การสืบสวนคดีนี้ยังพาไปสู่การเปิดเผยข้อมูลกลุ่มตำรวจทุจริตที่เชื่อมโยงกับอดีตของ Ballard และ Parker ซึ่งทำให้เรื่องราวเข้มข้นขึ้น

ถ้าจะให้เปรียบเทียบ Ballard กับ Bosch หรือ Bosch: Legacy มันเหมือนการเปรียบเทียบกาแฟรสเข้มจากร้านโปรดกับชานมที่หวานเกินไป Ballard พยายามฉีกตัวเองออกจากรุ่นพี่ด้วยโทนที่สดใสกว่าและโลเคชันที่เปลี่ยนจากย่าน ดาวน์ทาวน์ลอสแอนเจลิส ไปเป็นย่านชายหาดฝั่งตะวันตกของ ลอสแอนเจลิส แต่การเปลี่ยนแปลงนี้กลับทำให้ซีรีส์ขาดเสน่ห์แบบนัวร์ (Noir) ที่เป็นเอกลักษณ์ของ Bosch ซึ่งเต็มไปด้วยบรรยากาศมืดหม่นและความเข้มข้นของพล็อตเรื่องการที่ Ballard เลือกโทนที่สว่างและเบากว่าทำให้รู้สึกเหมือนดู ซีรีส์ตำรวจ ทั่วไปอย่าง The Closer หรือ Cold Case มากกว่าที่จะเป็นส่วนหนึ่งของจักรวาล Bosch

ในแง่ของการแสดง Maggie Q เป็นนักแสดงที่มีฝีมือจากผลงานอย่าง Mission: Impossible III และ The Protégé แต่ในบท Renée Ballard เธอยังไม่สามารถถ่ายทอดความมีเสน่ห์หรือน้ำหนักของตัวละครได้เทียบเท่ากับ Titus Welliver ในบท Harry Bosch ซึ่งกลายเป็นภาพจำของแฟนๆ ไปแล้ว ตัวละครของ Ballard มีวลีเด็ดว่า “อดีตอยู่กับเราตลอด” แต่กลับรู้สึกว่างเปล่าเมื่อเทียบกับคำพูดอมตะของ Bosch อย่าง “ทุกคนมีค่า หรือไม่มีใครมีค่า” นอกจากนี้ ตัวละครสมทบอย่าง John Carroll Lynch และ Courtney Taylor ทำได้ดีในบทของตัวเอง แต่ก็ยังไม่เพียงพอที่จะยกให้ซีรีส์นี้โดดเด่นในหมู่ ซีรีส์สืบสวน อื่นๆ

หนึ่งในจุดอ่อนของ Ballard คือการที่ซีรีส์เริ่มต้นแบบกระโจนเข้าสู่เรื่องราวโดยไม่มีการปูพื้นให้ผู้ชมรู้สึกผูกพันกับตัวละครตั้งแต่แรก คุณอาจจะงงว่า Renée Ballard คือใคร? ทำไมเราต้องแคร์? โดยเฉพาะถ้าคุณไม่ได้ดู Bosch: Legacy มาก่อน เพราะตัวละครนี้เพิ่งถูกแนะนำในตอนจบของซีซั่น 3 เท่านั้น เรื่องราวเริ่มดีขึ้นเมื่อซีรีส์ค่อยๆ เผยปูมหลังของตัวละครในตอนท้ายๆ แต่กว่าจะถึงจุดนั้น ผู้ชมทั่วไปอาจจะเลิกดูไปแล้ว ตัวละครอย่าง Colleen Hatteras (Rebecca Field) ที่มีพลังจิตและบุคลิกสดใส หรือ Samira Parker (Courtney Taylor) ที่มีเส้นเรื่อง redemption arc ช่วยเพิ่มสีสันให้ทีม แต่ก็ยังไม่เพียงพอที่จะทำให้ซีรีส์นี้แตกต่างจาก ซีรีส์ตำรวจ อื่นๆ

ในส่วนของการเชื่อมโยงกับ Bosch ซีรีส์พยายามใส่ตัวละครเก่าอย่าง Harry Bosch (Titus Welliver), Jerry Edgar (Jamie Hector), และ Honey Chandler (Mimi Rogers) เข้ามาเพื่อดึงดูดแฟนๆ แต่การปรากฏตัวของพวกเขากลับรู้สึกเหมือนเป็นแค่การจี้ (cameo) ที่ไม่มีน้ำหนัก Titus Welliver ในบท Bosch กลายเป็นแค่ที่ปรึกษาที่โผล่มาให้คำแนะนำเล็กๆ น้อยๆ ซึ่งน่าเสียดายมากเมื่อเทียบกับบทบาทที่ทรงพลังในซีรีส์ต้นฉบับ การที่ Bosch: Legacy ถูกยกเลิกและแทนที่ด้วย Ballard ทำให้แฟนๆ รู้สึกเหมือนถูกหักหลัง เพราะตัวละครที่รักอย่าง Bosch และ Jerry Edgar กลับไม่มีโอกาสได้เฉิดฉายอย่างที่ควร

Ballard (บัลลาร์ด ศิษย์สืบเก๋า)

Ballard (2025) เป็น ซีรีส์สืบสวน ที่มีศักยภาพแต่ยังไปไม่ถึงจุดหมาย ด้วยการแสดงของ Maggie Q และทีมนักแสดงสมทบที่พยายามอย่างเต็มที่ ซีรีส์นี้เริ่มต้นได้ไม่น่าประทับใจนัก แต่ค่อยๆ ดีขึ้นเมื่อเรื่องราวและตัวละครเริ่มลงตัวในตอนท้ายๆ อย่างไรก็ตาม การขาดเสน่ห์แบบนัวร์ของ Bosch และการพึ่งพาการจี้ของตัวละครเก่าที่ยังไม่ลงตัวทำให้ Ballard ตกอยู่ในภาวะที่เหมือนจะเป็นได้ทั้ง ซีรีส์สืบสวน ที่ยอดเยี่ยมและแค่ซีรีส์สูตรสำเร็จทั่วไป ถ้าคุณเป็นแฟน Bosch ตัวยง คุณอาจจะรู้สึกผิดหวัง แต่ถ้าคุณเป็นผู้ชมใหม่ที่ชอบ ซีรีส์ตำรวจ ทั่วไป เรื่องนี้อาจจะพอให้ความบันเทิงได้

ถึงจะมีข้อบกพร่อง Ballard ก็ยังมีจุดเด่นในแง่ของการเล่าเรื่อง คดีเย็นชืด และการพัฒนาตัวละครสมทบอย่าง Colleen Hatteras และ Samira Parker ที่น่าจะดึงดูดผู้ชมบางกลุ่มได้ ถ้าคุณตัดสินใจจะดู ขอแนะนำให้อดทนสัก 2-3 ตอน เพราะซีรีส์จะเริ่มเข้มข้นขึ้นเมื่อคุณเริ่มรู้จักตัวละครมากขึ้น และถ้าคุณดูจบแล้ว อย่าลืมมาแชร์ความคิดเห็นในคอมเมนต์ด้านล่างนี้! คุณคิดว่า Ballard จะไปต่อได้ไกลแค่ไหน? หรือควรให้ Bosch กลับมาแทน? มาร่วมคุยกัน!

  • ชื่อเรื่องในภาษาไทย: บัลลาร์ด ศิษย์สืบเก๋า ซีซั่น 1
  • ประเภท: อาชญากรรม, ดราม่า, ลึกลับ
  • วันที่ออกอากาศ: 9 กรกฎาคม 2025
  • นักแสดงนำ: Maggie Q, Titus Welliver, John Carroll Lynch
  • ผู้กำกับ: Jet Wilkinson
  • จำนวนตอน/ความยาว: 10 ตอน
  • เรตติ้ง IMDb:
  • ช่องทางการดูในประเทศไทย: Prime Video

กดเพื่ออ่านต่อ

NaniTalk S.

เป็นนักเขียนที่ขยันขันแข็งและมุ่งมั่นที่จะผลิตเนื้อหาที่มีคุณภาพ เรียนรู้และเติบโตอยู่เสมอ เชื่อว่าเนื้อหาที่ดีสามารถสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อโลกได้

บทความที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Back to top button