รีวิวซีรีส์ฝรั่ง

[รีวิว-เรื่องย่อ] Task (2025) ซีรีส์ดราม่าอาชญากรรมสุดเข้มข้น

  • Task เป็นซีรีส์ที่สร้างโดยแบรด อิงเกิลส์บี ผู้สร้าง Mare Of Easttown เล่าเรื่องในพื้นที่ฟิลาเดลเฟียเต็มไปด้วยกลิ่นอายท้องถิ่น
  • การแสดงของมาร์ค รัฟฟาโลในบททอม แบรนดิส เอฟบีไอที่กำลังดิ้นรนกับโศกนาฏกรรมครอบครัวโดดเด่นมาก
  • ซีรีส์สำรวจธีมความเจ็บปวดส่วนตัว ความขัดแย้งในงานสืบสวน และชีวิตอาชญากรที่ไม่ธรรมดา
  • ผู้กำกับนำเสนอเรื่องราวช้าๆ แต่ลึกซึ้ง ทำให้เราอินกับตัวละครก่อนที่เนื้อเรื่องจะพีค

เราเคยคิดไหมว่าชีวิตของตำรวจสืบสวนจะวุ่นวายขนาดไหน ถ้าต้องเจอกับปัญหาครอบครัวที่หนักหน่วงไปพร้อมๆ กัน? ซีรีส์ Task (2025) ของผู้สร้าง แบรด อิงเกิลส์บี (Brad Ingelsby) พาเราไปดำดิ่งสู่โลกของเอฟบีไอที่ต้องนำทีมสืบคดีปล้นสุดอันตรายในพื้นที่ ฟิลาเดลเฟีย เรื่องราวได้รับแรงบันดาลใจจากชีวิตจริงในย่านเดลโก ที่เต็มไปด้วยสำเนียงท้องถิ่น การเชียร์ทีมเบสบอลฟิลลิส และความเหนื่อยล้าจากชีวิตประจำวัน เหมือนกับซีรีส์ Mare Of Easttown ที่หลายคนติดใจ

ทุกอย่างเริ่มต้นจาก ทอม แบรนดิส แสดงโดย มาร์ค รัฟฟาโล (Mark Ruffalo) ชายที่กำลังต่อสู้กับความสูญเสียในครอบครัว เขาต้องกลับมาทำงานภาคสนามอีกครั้งเพื่อนำทีมสืบคดีปล้นบ้านผลิตยาเสพติดที่อาจจุดชนวนสงครามแก๊งค์ แต่ในขณะเดียวกัน ชีวิตส่วนตัวของเขาก็พังพินาศ ลูกชายกำลังรอคำพิพากษาจากเหตุการณ์ร้ายแรง และเขาต้องพึ่งคำให้การจากลูกสาวเพื่อช่วยเหลือ ซีรีส์เรื่องนี้ถามเราว่า ถ้าเราเป็นเขา เราจะรับมือยังไงกับความกดดันสองด้าน?

ในบทความนี้ เราจะพาไปเจาะลึกทุกมุมของ Task ตั้งแต่ตัวละครหลักที่ซับซ้อน ไปจนถึงธีมที่ทำให้เราคิดตาม มาดูกันว่าซีรีส์เรื่องนี้จะพาเราไปสัมผัสกับความจริงของการสืบสวนอาชญากรรมที่ผสมผสานกับดราม่าชีวิตได้ยังไง เหมือนกับการเล่นเกมที่ทุกก้าวต้องระวัง เพราะผิดพลาดทีเดียวอาจพังทั้งหมด

Task (2025) #1

รีวิวและเรื่องย่อ Task

Task เล่าเรื่องของ ทอม แบรนดิส เอฟบีไอพิเศษที่กำลังฟื้นตัวจากโศกนาฏกรรมครอบครัว เขาตื่นเช้ามาในบ้านไม้เงียบๆ มองดูนกผ่านกล้องส่องทางไกล และจุ่มหน้าลงในอ่างน้ำแข็งเพื่อปลุกตัวเองให้ตื่นจากฝันร้าย ชีวิตของเขาพังทลายหลังจากเหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องกับภรรยา ซูซาน แสดงโดย มิเรลล์ อีนอส (Mireille Enos) และลูกชาย อีธาน แสดงโดย แอนดรูว์ รัสเซล (Andrew Russell) ที่กำลังรอคำพิพากษา ทอมเลือกถอยจากงานภาคสนาม ไปช่วยงานจัดโต๊ะในงานหางานตำรวจแทน วันๆ เขาแค่นั่งฟังวิทยุเชียร์ทีมฟิลลิส ดื่มวอดก้าจากแก้วใหญ่ และพยายามไม่ให้ความเศร้าครอบงำ

แต่แล้วเจ้านาย แคธลีน แมคกินตี แสดงโดย มาร์ธา พลิมป์ตัน (Martha Plimpton) ก็เรียกเขากลับมาทำงานจริงจัง ทอมต้องนำทีมพิเศษสืบคดีปล้นบ้านผลิตยาที่เกิดขึ้นในเขตเดลาแวร์และมอนต์โกเมอรี ซึ่งอาจนำไปสู่สงครามแก๊งค์ใหญ่ ทีมของเขาประกอบด้วยตำรวจท้องถิ่นสามคน ลิซซี่ สโตเวอร์ แสดงโดย อลิสัน โอลิเวอร์ (Alison Oliver) ที่ชีวิตวุ่นวายเต็มไปด้วยปัญหาหย่าร้าง อาเลอาห์ คลินตัน แสดงโดย ธูโซ เอ็มเบดู (Thuso Mbedu) ที่ชอบความเป็นระเบียบ และ แอนโธนี กราสโซ แสดงโดย เฟเบียน แฟรงเคิล (Fabien Frankel) ผู้เชี่ยวชาญคดีองค์กรอาชญากรรม ซีรีส์แสดงให้เห็นว่าทีมนี้ต้องปรับตัวกันยังไงในสถานการณ์ที่ตึงเครียด เหมือนกับการรวมกลุ่มเพื่อนที่นิสัยต่างกันสุดขั้วแต่ต้องทำงานร่วมกัน

ในอีกด้าน เราติดตาม ร็อบบี้ แสดงโดย ทอม เพลฟรีย์ (Tom Pelphrey) ชายที่ทำงานเก็บขยะแต่แอบทำภารกิจลับ เขาพาลูกชายไปหาหลานสาว เมฟ แสดงโดย เอมิเลีย โจนส์ (Emilia Jones) ก่อนออกไปทำงานกับคู่หู คลิฟฟ์ แสดงโดย ราอูล คาสติลโล (Raúl Castillo) พวกเขาไม่ใช่แค่เก็บขยะ แต่แอบสอดแนมบ้านผลิตยาตามคำสั่งทางข้อความ เพื่อหาจังหวะปล้นเงินก้อนโต บางครั้งก็พาเด็กหนุ่มชื่อ พีชส์ แสดงโดย โอเวน ทีเก (Owen Teague) ไปช่วย ชีวิตของร็อบบี้ก็ไม่ต่างจากทอม เต็มไปด้วยความเจ็บปวด เขาอาศัยบ้านพี่ชายที่ตายไป ดูแลลูกๆ หลังภรรยาทิ้งไป และความสัมพันธ์กับเมฟเริ่มตึงเครียดเพราะเธออยากมีชีวิตวัยรุ่นปกติ

มาร์ค รัฟฟาโล (Mark Ruffalo) ในบททอม แบรนดิส แสดงได้อย่างยอดเยี่ยม เขาถ่ายทอดความทุกข์ทรมานทางอารมณ์ได้ชัดเจน เห็นได้จากฉากที่เขาเจอเพื่อนเก่า บาทหลวงแดเนียล จอร์จส์ แสดงโดย อิซัค เดอ บังโกเล (Isaach De Bankolé) ซึ่งเผยให้เห็นว่าทอมเคยเป็นบาทหลวงก่อนเข้าวงการตำรวจ แต่ตอนนี้ศรัทธาของเขาสั่นคลอน ทอมไม่ใช่แค่ตำรวจเศร้าๆ แต่เป็นคนที่เห็นโลกมามาก รู้ดีว่าการนำทีมสืบคดีที่ไม่ใช่ขอบเขตของเอฟบีไอจะปวดหัวขนาดไหน เหมือนกับคนที่เหนื่อยกับชีวิตแต่ยังต้องสู้ต่อ

การแสดงของรัฟฟาโลทำให้เราอินกับตัวละคร เห็นถึงความซับซ้อนที่มากกว่าแค่เจ้าหน้าที่สืบสวน เราจะได้เห็นว่าเขาต้องรับมือกับความสูญเสียยังไง ในขณะที่งานก็กดดันไม่หยุด ซีรีส์ใช้เวลาเซ็ตอัพชีวิตตัวละครก่อนเข้าสู่เนื้อเรื่องหลัก ทำให้เรารู้สึกเหมือนรู้จักพวกเขาจริงๆ เหมือนเพื่อนที่กำลังเจอเรื่องหนักๆ

ในฝั่งอาชญากร ทอม เพลฟรีย์ (Tom Pelphrey) ในบทร็อบบี้ก็ไม่ธรรมดา เขาไม่ใช่อาชญากรตัวฉกาจ แต่เป็นพ่อบ้านที่มีงานประจำและครอบครัว ร็อบบี้พยายามหลีกเลี่ยงความรุนแรงในการปล้น แต่เมื่อสถานการณ์บีบคั้น เช่นฉากปล้นบ้านที่ผิดพลาดและมีพยานที่ไม่คาดคิด เขาก็ต้องยิงปืน ซีรีส์แสดงให้เห็นว่าร็อบบี้กำลังดิ้นรนกับชีวิตเหมือนทอม ความสัมพันธ์กับเมฟที่เริ่มร้าวฉานเพราะเธออยากมีชีวิตอิสระ ทำให้เราสงสารเขา เหมือนคนธรรมดาที่หลงทางในโลกมืด

Task (2025) #2

ซีรีส์เรื่องนี้เปรียบเทียบกับ Mare Of Easttown ได้ชัดเจน ไม่ใช่แค่เพราะผู้สร้างคนเดียวกัน แต่ยังมีกลิ่นอาย เดลโก เต็มเปี่ยม สำเนียงท้องถิ่น การพูด “wudder” แทน “water” และการอ้างอิงถึงฟิลาเดลเฟีย ทำให้รู้สึกเหมือนอยู่ในจักรวาลเดียวกัน แบรด อิงเกิลส์บี เล่าเรื่องช้าๆ แต่มีพลัง เซ็ตอัพชีวิตตัวละครก่อนเข้าสู่ความขัดแย้ง เหมือนการจุดไฟช้าๆ แล้วระเบิดทีเดียว

ธีมหลักคือความเจ็บปวดส่วนตัวที่ผสมกับงานอาชญากรรม เราจะได้เห็นว่าทอมและร็อบบี้ต่างก็เป็นมากกว่าแค่ตำรวจกับโจร พวกเขามีครอบครัว มีความเศร้า และต้องตัดสินใจยากๆ ซีรีส์ใช้รายละเอียดเล็กๆ เช่น ลิซซี่ที่ชอบมาสายและทะเลาะกับทนายหย่า หรืออาเลอาห์ที่เช็ดแล็ปท็อปสะอาดเอี่ยม เพื่อสร้างมิติให้ทีมสืบสวน ทำให้เรื่องไม่น่าเบื่อ

การเล่าเรื่องแบบนี้ทำให้เราคิดตาม เหมือนถามตัวเองว่าถ้าเราเจอสถานการณ์แบบนี้ เราจะทำยังไง? ซีรีส์ค่อยๆ สร้างความตึงเครียด โดยเฉพาะตอนที่การปล้นของร็อบบี้ผิดพลาด และทีมของทอมเริ่มเข้าใกล้ มันเหมือนเกมแมวไล่หนูที่ทุกฝ่ายมีเหตุผลของตัวเอง

Task (2025) เป็นซีรีส์ที่ทำให้เราตั้งคำถามกับชีวิตของตำรวจและอาชญากร ว่าปัญหาจริงๆ อยู่ที่ไหน ระหว่างความสูญเสียส่วนตัวหรือโลกที่โหดร้ายรอบตัว ซีรีส์แสดงให้เห็นว่ามนุษย์เราต้องการมากกว่าแค่เอาชีวิตรอด แต่ต้องหาทางรับมือกับความเจ็บปวดภายในด้วย การแสดงที่ยอดเยี่ยมและธีมลึกซึ้งทำให้เรื่องนี้ไม่ใช่แค่ดราม่าอาชญากรรมธรรมดา แต่เป็นการสำรวจจิตใจมนุษย์

ถ้าเราเป็นแฟนซีรีส์แนวสืบสวนที่มีเนื้อหาจริงจัง Task คือเรื่องที่ต้องดู มันจะทำให้เราคิดถึงความซับซ้อนของชีวิตและการตัดสินใจในสถานการณ์วิกฤต ลองนึกภาพถ้าเราเป็นทอมหรือร็อบบี้ เราจะเลือกทางไหน? ซีรีส์เรื่องนี้ตอบคำถามนั้นได้ดีเยี่ยม

สำหรับใครที่ชอบ ซีรีส์ดราม่าที่มีกลิ่นอายท้องถิ่น และการแสดงชั้นนำ Task ไม่ทำให้ผิดหวัง มันเตือนเราว่าความจริงของการสืบสวนไม่ได้สวยงามเสมอไป มาแชร์ความคิดเห็นกันในคอมเมนต์ว่าซีรีส์เรื่องนี้ทำให้เรารู้สึกยังไงกับธีมครอบครัวและอาชญากรรม และอย่าลืมแชร์รีวิวนี้ให้เพื่อนๆ ที่ติดตามซีรีส์แนวนี้ อาจจะทำให้พวกเขาอยากดูทันที!

  • ประเภท: ดราม่า, อาชญากรรม, ระทึกขวัญ
  • วันที่ออกฉาย: 15 กันยายน 2568
  • นักแสดงนำ: มาร์ค รัฟฟาโล (Mark Ruffalo), ทอม เพลฟรีย์ (Tom Pelphrey), เอมิเลีย โจนส์ (Emilia Jones), มิเรลล์ อีนอส (Mireille Enos), มาร์ธา พลิมป์ตัน (Martha Plimpton)
  • ผู้สร้าง: แบรด อิงเกิลส์บี (Brad Ingelsby)
  • ความยาว: 7 ตอน
  • เรตติ้ง IMDb: 7.8/10
  • ช่องทางการดูในประเทศไทย: HBO MAX

กดเพื่ออ่านต่อ

PhiRa W.

เป็นนักเขียนอิสระที่หลงใหลในสื่อบันเทิงทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นภาพยนตร์ ซีรีส์ วาไรตี้ และสารคดี ผมชอบที่จะวิเคราะห์และถอดรหัสเนื้อหาเหล่านั้นออกมาในรูปแบบของรีวิวที่เข้าใจง่ายและสนุกสนาน เพื่อแบ่งปันมุมมองและประสบการณ์ให้กับผู้อ่าน

บทความที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Back to top button