[รีวิว-เรื่องย่อ] เดอะเกิร์ลเฟรนด์: หวง ลวง หลง | The Girlfriend (2025) ซีรีส์ระทึกขวัญจิตวิทยา

• The Girlfriend เป็นซีรีส์ที่สร้างจากนิยายขายดีของมิเชล ฟรานเซส เกี่ยวกับความขัดแย้งทางชนชั้นและการหลอกลวงที่ชวนลุ้น
• การแสดงของโอลิเวีย คุก ในบทเชอร์รี่โดดเด่นมาก แสดงความซับซ้อนของตัวละครที่ทั้งน่ารักและน่ากลัวได้อย่างลงตัว
• ซีรีส์สำรวจธีมความสัมพันธ์แม่ลูก ความอิจฉาริษยา และการหักหลังที่ทำให้เราต้องตั้งคำถามว่าใครกันแน่ที่ผิด
• ผู้กำกับอย่างโรบิน ไรท์ ที่กำกับตอนแรกๆ เอง นำเสนอเรื่องราวที่ตึงเครียดและเต็มไปด้วยพล็อตหักมุม

เราเคยคิดไหมว่าความรักในครอบครัวมันจะกลายเป็นสงครามได้ยังไง? ลองนึกภาพแม่ที่รักลูกชายหัวปักหัวปำ จู่ๆ ลูกก็พาแฟนสาวคนใหม่มาบ้าน แล้วแม่ดันสงสัยว่าเธอคนนี้มีอะไรแอบแฝง ซีรีส์ The Girlfriend (2025) ของผู้กำกับ โรบิน ไรท์ (Robin Wright) พาเราไปดำดิ่งสู่ความดราม่าที่ผสมผสานความเศร้าโศก ความขัดแย้งทางชนชั้น สัญชาตญาณแม่ ความริษยาระหว่างผู้หญิง และการหลอกลวงที่ชวนช็อก ซีรีส์นี้มีแค่ 6 ตอน แต่แต่ละตอนเต็มไปด้วยพล็อตหักมุมที่ทำให้เรานั่งไม่ติดเก้าอี้ ไม่รู้เลยว่าจะเชียร์ใครดี ถ้าเชียร์ผิดฝั่ง อาจจะเสียใจทีหลังนะ

เรื่องราวเกิดขึ้นในลอนดอน กับ ลอร่า แสดงโดย โรบิน ไรท์ (Robin Wright) เจ้าของแกลเลอรีศิลปะที่ชีวิตดูเพอร์เฟกต์ เธออยู่กับสามีเจ้าของโรงแรม ฮาวเวิร์ด แสดงโดย วาลีด ซูเอเตอร์ (Waleed Zuaiter) ในคฤหาสน์หรูย่านเซนต์จอห์นส์วูดที่มีสระว่ายน้ำใต้ดิน และบ้านพักตากอากาศในสเปน ลูกชายสุดที่รัก แดนนี่ แสดงโดย ลอรี เดวิดสัน (Laurie Davidson) กำลังฝึกเป็นหมอ และยังติดแม่มากๆ เหมือนเด็กน้อย แต่มีฉากนึงที่แดนนี่แอบลงสระไปแกล้งแม่ใต้น้ำ แล้วทั้งคู่หัวเราะกันกลิ้ง มันดูใกล้ชิดเกินไปสำหรับลูกชายวัย 20 กว่าๆ นะ เราว่า

ในบทความนี้ เราจะพาไปเจาะลึกทุกมุมของซีรีส์เรื่องนี้ ตั้งแต่การแสดงที่เด็ดดวง ไปจนถึงข้อความลึกซึ้งเกี่ยวกับ ธรรมชาติมนุษย์ ที่ซีรีส์อยากสื่อ มาดูกันว่า The Girlfriend จะทำให้เราตั้งคำถามกับความสัมพันธ์ในชีวิตจริงได้ยังไงบ้าง

รีวิวและเรื่องย่อ The Girlfriend (เดอะเกิร์ลเฟรนด์: หวง ลวง หลง)

The Girlfriend เล่าเรื่องชีวิตของ ลอร่า ที่ดูเหมือนจะสมบูรณ์แบบ แต่ทุกอย่างพลิกผันเมื่อ แดนนี่ พาแฟนสาวคนใหม่ชื่อ เชอร์รี่ แสดงโดย โอลิเวีย คุก (Olivia Cooke) มาที่บ้าน เชอร์รี่ดูสุภาพเรียบร้อย แต่ลอร่าดันสงสัยทันทีว่าเธอมีเจตนาแอบแฝง ลอร่ายังแอบเยาะชื่อของเชอร์รี่กับเพื่อนสนิท อิซาเบลล่า แสดงโดย ทันย่า มูดี้ (Tanya Moodie) ว่าเชยๆ แต่เชอร์รี่ดันได้ยินเข้า สงครามจิตวิทยาเลยเริ่มต้นขึ้นแบบเงียบๆ

ซีรีส์นี้ฉลาดมากที่เล่าเรื่องจากสองมุมมอง ในแต่ละตอนจะมีไตเติ้ลบอกว่าตอนนี้เราเห็นจากสายตาของลอร่าหรือเชอร์รี่ แล้วกลางตอนก็สลับมุม ทำให้เราเห็นว่าการกระทำเดียวกันตีความต่างกันยังไง เช่น สิ่งที่เชอร์รี่คิดว่าเป็นการป้องกันตัว กลับดูเหมือนการประกาศสงครามในสายตาลอร่า หรือมุกตลกประหม่าๆ อาจกลายเป็นคำพูดเหน็บแนมร้ายกาจ วิธีนี้ทำให้เรื่องน่าติดตามสุดๆ เหมือนเล่นเกมแมวไล่จับหนูที่ไม่มีใครชนะง่ายๆ

จากมุมมองชนชั้น ลอร่าไม่ได้คิดผิดหรอก เชอร์รี่พยายามแกล้งทำเป็นเด็กโรงเรียนเอกชนที่พ่อเป็นสถาปนิก แต่จริงๆ แล้วเธอมาจากครอบครัวธรรมดา พ่อเป็นคนขายเนื้อ แม่เป็นช่างก่อสร้าง เธอโกหกเพื่อไต่เต้าขึ้นมา แต่คำโกหกพวกนี้ทำให้เธอเป็นภัยคุกคามจริงๆ หรือเปล่า? ซีรีส์เล่นกับความสงสัยนี้ตลอด ทำให้เราลุ้นระทึกว่าตัวละครไหนกันแน่ที่เป็นตัวร้าย

การแสดงของ โรบิน ไรท์ (Robin Wright) ในบทลอร่าคือจุดขายใหญ่ เธอถ่ายทอดความเย็นชาแต่แฝงความคลั่งใคล้ได้อย่างน่าทึ่ง ทำให้ลอร่าดูเป็นแม่ที่ปกป้องลูกแบบสุดโต่ง แต่ก็มีด้านมืดที่ค่อยๆ เผยออกมา ไรท์ยังกำกับตอนแรกๆ เองด้วย ทำให้ซีรีส์มีสไตล์ที่คมคาย เหมือนเธอรู้ดีว่าต้องเล่นยังไงให้คนดูอิน

โอลิเวีย คุก (Olivia Cooke) ก็ไม่แพ้กันในบทเชอร์รี่ เธอทำให้ตัวละครที่เปลี่ยนสีเหมือนกิ้งก่าดูน่าหลงใหลและน่าสงสารในเวลาเดียวกัน สำเนียงหรูๆ ของเธอไม่เคยหลุดเลย แต่ก็มีฉากที่เธอต่อยแฟนเก่าตรงหน้าที่ทำงาน แสดงให้เห็นด้านดุเดือดที่ซ่อนอยู่ การแสดงแบบนี้ทำให้เราสงสัยตลอดว่าตกลงเชอร์รี่เป็นเหยื่อหรือนักล่ากันแน่

ซีรีส์ยังมีฉากดราม่าที่ชวนอึ้ง เช่น พัฒนาการเรื่องราวที่ยืดขยายความเชื่อจนถึงขีดสุด แต่เพราะการเล่าเรื่องที่มั่นใจ เราก็ยอมกลืนมันลงคอไปได้แบบไม่ติด ทุกการต่อสู้แย่งชิงอำนาจถูกขายออกมาอย่างเนียนๆ ทำให้เรื่องดูมีคลาสมากกว่าซีรีส์ระทึกขวัญทั่วไป

ซีรีส์สำรวจ ความขัดแย้งทางชนชั้น และ สัญชาตญาณแม่ อย่างลึกซึ้ง เหมือนถามเราว่าถ้าความรักมันกลายเป็นพิษ เราจะรับมือยังไง? การหักมุมแต่ละครั้งชวนให้คิดว่าใครกันแน่ที่เป็นฝ่ายผิด มันเหมือนกระจกสะท้อนความสัมพันธ์ในชีวิตจริงที่เต็มไปด้วยความไม่แน่นอน

แม้บางส่วนจะดูเว่อร์ๆ แต่ซีรีส์มีสไตล์ที่หรูหรา เช่น ฉากเซ็กซ์ที่ใช้เพลง ‘Chaise Longue’ ของ Wet Leg มาประกอบ ทำให้รู้สึกสนุกและตื่นเต้น มันผสมผสานความคีโมระหว่างผู้หญิงสองคนกับความลึกลับจิตวิทยาได้อย่างลงตัว เหมือนซีรีส์ระดับพรีเมียมที่ทำให้เราติดหนึบจนดูจบไม่ไหว

สุดท้าย ซีรีส์นี้ทำให้เราตั้งคำถามกับตัวเองว่าความไว้วางใจในความสัมพันธ์มันเปราะบางแค่ไหน เหมือนการเล่นเกมที่ไม่มีกฎตายตัว

The Girlfriend (2025) เป็นซีรีส์ที่ทำให้เราตั้งคำถามกับความจริงในความสัมพันธ์ ซีรีส์เรื่องนี้แสดงให้เห็นว่าปัญหาไม่ได้อยู่ที่ชื่อเรื่องธรรมดาๆ แต่คือ ธรรมชาติของมนุษย์ ที่เต็มไปด้วยความหวง ความลวง และความหลง แม้ชีวิตจะดูเพอร์เฟกต์แค่ไหน เมื่อความขัดแย้งทางชนชั้นและการหลอกลวงเข้ามา ความดราม่าก็ระเบิดออกมาแบบหยุดไม่อยู่

สำหรับใครที่ชอบ ซีรีส์ระทึกขวัญจิตวิทยา และอยากเห็นการแสดงระดับเทพจากนักแสดงดัง The Girlfriend คือเรื่องที่ห้ามพลาดเลย มันจะทำให้เราได้คิดทบทวนเกี่ยวกับความอิจฉาและการปกป้องคนที่รัก มาแชร์ความคิดเห็นในคอมเมนต์ว่าซีรีส์เรื่องนี้ทำให้เรารู้สึกยังไงกับความสัมพันธ์แม่ลูก และอย่าลืมแชร์รีวิวนี้ให้เพื่อนๆ ที่ชอบเรื่องดราม่าลุ้นระทึก!

• ชื่อเรื่องในภาษาไทย: เดอะเกิร์ลเฟรนด์: หวง ลวง หลง
• ประเภท: ดราม่า, ระทึกขวัญจิตวิทยา, หลอกลวง
• วันที่ออกฉาย: 2025
• นักแสดงนำ: โรบิน ไรท์ (Robin Wright), โอลิเวีย คุก (Olivia Cooke), ลอรี เดวิดสัน (Laurie Davidson), วาลีด ซูเอเตอร์ (Waleed Zuaiter), ทันย่า มูดี้ (Tanya Moodie)
• ผู้กำกับ: โรบิน ไรท์
• จำนวนตอน: 6 ตอน
• ช่องทางการดูในประเทศไทย: Prime Video