โซเชียล

ผีกระสือ ความลึกลับของภูตผีในตำนานไทย

  • ผีกระสือคือภูตผีในตำนานไทย ที่มีลักษณะเป็นหัวมนุษย์แยกจากลำตัว มีเครื่องในห้อยโหย่และสามารถลอยบินได้ในตอนกลางคืน
  • ความเชื่อเรื่องผีกระสือเกิดจากการผสมผสานวัฒนธรรม ระหว่างความเชื่อดั้งเดิมของไทยกับอิทธิพลจากประเทศเพื่อนบ้านในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
  • การป้องกันผีกระสือใช้วิธีดั้งเดิมหลายแบบ เช่น การใช้ของมีคม การแขวนหัวหอมกระเทียม และการใช้เครื่องรางของศักดิ์สิทธิ์
  • ผีกระสือยังคงมีอิทธิพลต่อวัฒนธรรมป๊อปไทย ปรากฏในภาพยนตร์ เกม โซเชียลมีเดีย และสื่อบันเทิงรูปแบบต่างๆ ในยุคปัจจุบัน

เราเคยได้ยินเรื่องเล่าของ ผีกระสือ หรือไม่? ภูตผีชนิดหนึ่งที่ฝังรากลึกในความเชื่อและตำนานของคนไทยมาช้านาน ผีกระสือเป็นหนึ่งในภูตผีที่น่าสะพรึงกลัวที่สุดในวัฒนธรรมไทย ด้วยลักษณะที่แปลกประหลาดและพฤติกรรมที่น่าขนลุก ทำให้กลายเป็นเรื่องเล่าที่ถ่ายทอดกันมาจากรุ่นสู่รุ่น

ผีกระสือ มีลักษณะเป็นหัวมนุษย์ที่แยกออกจากลำตัว มีเครื่องในห้อยโหย่ออกมาด้านล่าง และสามารถลอยบินได้ในตอนกลางคืน ความเชื่อเรื่องผีชนิดนี้ไม่เพียงแต่ปรากฏในประเทศไทยเท่านั้น แต่ยังพบได้ในหลายประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แต่ละท้องถิ่นก็จะมีความเชื่อและคำเล่าขานที่แตกต่างกันออกไป บทความนี้จะพาเราไปสำรวจความลึกลับของผีกระสือ ตั้งแต่ที่มาของตำนาน ลักษณะเฉพาะ วิธีการป้องกัน ไปจนถึงอิทธิพลที่มีต่อวัฒนธรรมไทยในปัจจุบัน

ที่มาและประวัติของผีกระสือ

ความเชื่อเรื่อง ผีกระสือ มีรากฐานมาจากวัฒนธรรมผสมผสานระหว่างความเชื่อดั้งเดิมของไทยกับอิทธิพลจากประเทศเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งมาเลเซียและอินโดนีเซีย ซึ่งมีภูตผีที่คล้ายคลึงกันคือ “Penanggalan” และ “Krasue” ตามลำดับ ในประวัติศาสตร์ไทย การถ่ายทอดเรื่องเล่าเกี่ยวกับผีกระสือมักเกิดขึ้นในสังคมชนบท โดยเฉพาะในภาคใต้และภาคกลาง

ตำนานโบราณเล่าว่า ผีกระสือ เกิดขึ้นจากการที่ผู้หญิงคนหนึ่งได้ฝึกฝนเวทมนตร์คาถาอาคม แต่ใช้ในทางที่ผิด หรือได้รับคำสาปจากผู้ที่มีอานุภาพทางจิตวิญญาณ เมื่อเสียชีวิตแล้วจิตวิญญาณจึงไม่สามารถไปสู่ภพภูมิอื่นได้ ต้องคอยเร่ร่อนอยู่ในโลกมนุษย์และแสดงตัวในรูปแบบที่น่าสะพรึงกลัว การเล่าขานเรื่องราวของผีกระสือจึงมักเชื่อมโยงกับแนวคิดเรื่องกรรมและผลแห่งกรรม

ในสมัยโบราณ ความเชื่อเรื่อง ผีกระสือ ยังทำหน้าที่เป็นเครื่องมือในการควบคุมสังคม โดยเฉพาะการสอนให้ผู้หญิงมีความประพฤติที่ดี ไม่ไปยุ่งเกี่ยวกับเวทมนตร์คาถาอาคม และเตือนให้คนในชุมชนระวังพฤติกรรมที่อาจนำความเคราะห์กรรมมาสู่ตนเองและครอบครัว นอกจากนี้ ยังเป็นการสะท้อนถึงบทบาทของผู้หญิงในสังคมไทยแบบดั้งเดิมที่มีข้อจำกัดหลายประการ

ผีกระสือ ลอยอยู่กลางคืนใต้แสงพระจันทร์เต็มดวง มีเพียงศีรษะและลำตัวท่อนบนที่ยังคงสวมผ้าพันอกสีแดงดำ เส้นผมยาวปลิวสยาย ดวงตาเรืองแสงสีขาว ฟันแหลมคม และอวัยวะภายในเช่นตับ กระเพาะ ลำไส้ห้อยลงมาอย่างน่าสะพรึงท่ามกลางฉากหลังป่ามืด

ลักษณะและอาการของผีกระสือ

ผีกระสือ มีลักษณะที่โดดเด่นและแตกต่างจากภูตผีอื่นๆ อย่างชัดเจน ภูตผีชนิดนี้ปรากฏตัวเป็นหัวของผู้หญิงที่แยกออกจากลำตัว โดยมีเครื่องในของร่างกายเช่น หัวใจ ปอด ลำไส้ และกระเพาะอาหารห้อยโหย่ออกมาด้านล่าง ซึ่งสร้างความน่าสะพรึงกลัวให้กับผู้ที่เห็น เครื่องในเหล่านี้มักมีเลือดและของเหลวอื่นๆ หยดออกมาขณะที่ลอยบิน

สิ่งที่ทำให้ ผีกระสือ น่าสะพรึงกลัวมากยิ่งขึ้นคือความสามารถในการลอยบินได้อย่างอิสระในตอนกลางคืน โดยจะเปล่งแสงสีเขียวหรือแสงวาวอ่อนๆ ที่มองเห็นได้จากระยะไกล เสียงของผีกระสือยังมีลักษณะเป็นเสียงหัวเราะที่เฮฮาหรือเสียงครางเศร้าโศก ซึ่งสามารถได้ยินได้ในคืนที่เงียบสงบ การเคลื่อนไหวของผีกระสือมักจะเร็วมากและไม่สามารถคาดเดาทิศทางได้

พฤติกรรมของ ผีกระสือ มักเกี่ยวข้องกับการหาอาหารเพื่อเลี้ยงชีพ โดยจะกินของสกปรกต่างๆ เช่น อุจจาระ ปัสสาวะ หรือสิ่งปฏิกูลอื่นๆ นอกจากนี้ยังชอบกินเลือดและเนื้อสด ทำให้เป็นที่เกรงกลัวของคนในชุมชน ผีกระสือยังมีนิสัยชอบซุ่มซ่อนและแอบดูคนในบ้าน โดยเฉพาะในตอนที่ผู้คนกำลังรับประทานอาหารหรือนอนหลับ บางครั้งอาจแสดงความอิจฉาริษยาต่อผู้หญิงที่มีความสุขในชีวิต

ความเชื่อและตำนานที่เกี่ยวข้อง

ในความเชื่อของคนไทยโบราณ การเกิดของ ผีกระสือ มักเกิดจากสาเหตุหลายประการ สาเหตุที่พบบ่อยที่สุดคือการที่ผู้หญิงคนหนึ่งได้เรียนเวทมนตร์คาถาอาคมเพื่อใช้เสน่ห์หรือสร้างอันตรายแก่คนอื่น แต่ใช้ไม่ถูกวิธีจนกลายเป็นการสาปตนเอง หรืออาจเป็นผลจากการที่ถูกคนอื่นใส่เสน่ห์หรือสาปแช่ง เมื่อเสียชีวิตแล้วจิตวิญญาณจึงไม่สามารถจากไปได้

ตำนานบางเรื่องเล่าว่า ผีกระสือ สามารถถ่ายทอดให้กับคนรุ่นต่อไปได้ โดยจะเลือกผู้หญิงในตระกูลเดียวกันหรือคนที่มีจิตใจอ่อนแอ การถ่ายทอดนี้จะเกิดขึ้นในช่วงก่อนที่ผีกระสือตัวเดิมจะตาย โดยจะต้องมีพิธีกรรมพิเศษหรือการส่งผ่านความรู้เกี่ยวกับเวทมนตร์คาถา ทำให้ผีกระสือสามารถอยู่ต่อไปได้ในรูปแบบใหม่

ความเชื่อเรื่อง ผีกระสือ ยังเชื่อมโยงกับฤดูกาลและเวลาในการออกหากิน ผีกระสือจะออกหากินเฉพาะในตอนกลางคืน โดยเฉพาะคืนที่มืดไม่มีแสงจันทร์ หรือคืนที่มีฝนตก เพราะเป็นเวลาที่ผู้คนจะอยู่ในบ้านและไม่สามารถมองเห็นได้ชัดเจน นอกจากนี้ยังเชื่อกันว่าผีกระสือจะออกหากินบ่อยในช่วงเปลี่ยนฤดูกาลหรือในเดือนที่มีความชื้นสูง ทำให้ชุมชนมีการเตรียมพร้อมและป้องกันในช่วงเวลาดังกล่าว

วิธีการป้องกันและขจัดผีกราสือ

การป้องกัน ผีกระสือ ตามความเชื่อดั้งเดิมมีวิธีการหลากหลาย วิธีที่นิยมมากที่สุดคือการใช้ของมีคมหรือเหล็กไว้รอบบ้าน เช่น มีด กรรไกร หรือสิ่วเสียบไว้ที่หน้าต่างและประตู เพราะเชื่อกันว่าผีกระสือจะกลัวเหล็กและของมีคม การแขวนหัวหอมและกระเทียมไว้รอบบ้านก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่นิยมใช้ เนื่องจากกลิ่นแรงของพืชเหล่านี้จะทำให้ผีกระสือไม่กล้าเข้ามาใกล้

การใช้เครื่องรางและของศักดิ์สิทธิ์ยังเป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการป้องกัน ผีกระสือ การติดพระเครื่องหรือยันต์ที่ได้รับการปลุกเสกจากพระอาจารย์ที่มีชื่อเสียง การสวดมนต์หรือเจริญพระพุทธคุณในเวลากลางคืน และการจุดธูปเทียนไว้ที่ศาลพระภูมิหรือสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ล้วนเป็นวิธีการที่คนไทยนิยมใช้เพื่อป้องกันภัยจากผีกระสือ

เมื่อสงสัยว่ามี ผีกระสือ อยู่ในบริเวณใกล้เคียง ชุมชนมักจะรวมตัวกันทำพิธีขจัดหรือไล่ผี โดยเชิญพระอาจารย์หรือหมอผีที่มีความรู้ความสามารถมาช่วย การทำพิธีสะเดาะเคราะห์ การสวดมนต์หมู่คณะ และการใช้น้ำมนต์โรยรอบพื้นที่ล้วนเป็นวิธีการที่ได้รับความนิยม บางครั้งอาจต้องใช้วิธีการที่รุนแรงขึ้น เช่น การเผาบ้านที่เชื่อว่าเป็นที่อาศัยของผีกระสือ หรือการทำพิธีส่งวิญญาณไปสู่สุคติ

อิทธิพลต่อวัฒนธรรมไทยและสื่อร่วมสมัย

ผีกระสือ ได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมป๊อปไทยในหลายรูปแบบ โดยเฉพาะในภาพยนตร์สยองขวัญไทยที่ได้รับความนิยมทั้งในประเทศและต่างประเทศ ภาพยนตร์อย่าง “กระสือ” ได้สร้างกระแสและทำให้ผีกระสือเป็นที่รู้จักในวงกว้างมากขึ้น นอกจากนี้ยังมีภาพยนตร์และซีรีส์ที่นำเอาเรื่องของผีกระสือมาสร้างสรรค์ในแนวทางใหม่

ในโลกของเกมและการ์ตูน ผีกระสือ ยังคงเป็นตัวละครที่ได้รับความนิยม เกมสยองขวัญไทยหลายเกมได้นำเอาผีกระสือมาเป็นศัตรูหรือตัวละครสำคัญ การ์ตูนและหนังสือการ์ตูนก็มีการนำเสนอผีกระสือในรูปแบบที่ทั้งน่ากลัวและน่ารัก สร้างความหลากหลายในการตีความและเข้าใจเรื่องราวของภูตผีชนิดนี้

ปัจจุบัน ผีกระสือ ยังคงเป็นที่นิยมในแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียต่างๆ มีการสร้างมีมหรือเนื้อหาขำขันที่เกี่ยวกับผีกระสือ การเล่าเรื่องสยองขวัญในช่อง YouTube และพอดแคสต์ รวมถึงการนำมาใช้ในการตลาดและการโฆษณาผลิตภัณฑ์ต่างๆ ทำให้ภูตผีแต่โบราณนี้ยังคงมีชีวิตอยู่ในสังคมไทยแม้ในยุคดิจิทัล

ทิ้งท้าย

ผีกระสือ คือมากกว่าแค่เรื่องเล่าสยองขวัญธรรมดา แต่เป็นการสะท้อนถึงความเชื่อ ความกลัว และค่านิยมของสังคมไทยในอดีต ผ่านการศึกษาเรื่องราวของผีกระสือ เราจะเห็นได้ว่าตำนานนี้มีบทบาทสำคัญในการสร้างเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมไทย และยังคงมีอิทธิพลต่อการสร้างสรรค์ผลงานศิลปะและบันเทิงในปัจจุบัน

แม้ว่าในยุคสมัยใหม่ความเชื่อเรื่อง ผีกระสือ อาจลดความน่าเชื่อถือลง แต่ยังคงเป็นส่วนหนึ่งของมรดกทางวัฒนธรรมที่สำคัญ การเล่าขานและการสืบทอดเรื่องราวเหล่านี้ไปสู่คนรุ่นใหม่จะช่วยรักษาความหลากหลายทางวัฒนธรรมและสร้างความเข้าใจในรากเหง้าของความเป็นไทย ไม่ว่าเราจะเชื่อหรือไม่เชื่อ แต่การเรียนรู้และเข้าใจเรื่องราวเหล่านี้จะช่วยให้เรามองเห็นความงามและความลึกซึ้งของวัฒนธรรมไทย

เราหวังว่าบทความนี้จะช่วยให้ผู้อ่านได้เข้าใจ ผีกระสือ ในมิติที่หลากหลาย ตั้งแต่ความเชื่อดั้งเดิมไปจนถึงบทบาทในสังคมร่วมสมัย หากผู้อ่านมีประสบการณ์หรือเรื่องเล่าเกี่ยวกับผีกระสือ สามารถแบ่งปันให้เราฟังได้ในคอมเมนต์ เพื่อให้เราได้เรียนรู้และแลกเปลี่ยนมุมมองกันต่อไป

กดเพื่ออ่านต่อ

NaniTalk S.

เป็นนักเขียนที่ขยันขันแข็งและมุ่งมั่นที่จะผลิตเนื้อหาที่มีคุณภาพ เรียนรู้และเติบโตอยู่เสมอ เชื่อว่าเนื้อหาที่ดีสามารถสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อโลกได้

บทความที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Back to top button