นิทานชาดก

นิทานชาดก : ลิงเจ้าปัญญา

ในป่าลึกแห่งหนึ่ง มีลิงเจ้าปัญญาตัวหนึ่งอาศัยอยู่ มันมีไหวพริบและฉลาดหลักแหลม อยู่มาวันหนึ่ง ลิงเจ้าปัญญาต้องเผชิญกับอันตรายจากจระเข้เจ้าเล่ห์ แต่ด้วยปัญญาอันเฉียบแหลมของมัน ลิงเจ้าปัญญาจึงสามารถเอาชนะจระเข้ได้อย่างเด็ดขาด

ลิงเจ้าปัญญา

ในสมัยหนึ่ง พระพุทธเจ้าประทับอยู่วัดเชตวันเมืองสาวัตถี ทรงปรารภความพยายามเพื่อปลงพระชนม์พระองค์ของพระเทวทัต ได้ตรัสอดีตนิทานมาสาธกว่า…

กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว พระโพธิสัตว์เกิดเป็นพญาวานรตัวหนึ่ง มีรูปร่างขนาดเท่าลูกม้า มีพละกำลังมาก อาศัยอยู่ในชายป่าแห่งหนึ่ง เที่ยวหากินอยู่บนเกาะกลางแม่น้ำแห่งหนึ่งซึ่งอุดมสมบูรณ์ไปด้วยผลไม้นานาชนิด พญาวานรจะกระโจนจากฝั่งแม่น้ำข้างนี้ไปพักที่แผ่นหินกลางน้ำ แล้วกระโจนจากแผ่นหินไปขึ้นบนเกาะนั้นในเวลาเช้า เที่ยวหากินผลไม้ต่างๆ ในเกาะนั้นในเวลากลางวัน แล้วจะกระโดดกลับทำนองเดียวกันในเวลาเย็น โดยลักษณะเช่นนี้เป็นประจำทุกวัน

ในแม่น้ำนั้น มีจระเข้ผัวเมียคู่หนึ่งอาศัยอยู่ ได้มองเห็นลิงนั้นกระโดดข้ามไปมาทุกเช้าเย็น ในเช้าวันหนึ่ง จระเข้ผู้เมียเกิดแพ้ท้องต้องการกินหัวใจของลิง จึงพูดกับสามีว่า ” พี่ ฉันแพ้ท้องต้องการกินหัวใจของลิงตัวนั้น พี่จงหามาให้ฉันหน่อยนะ “

จระเข้ผู้สามีกล่าวว่า ” ได้จ้า ที่รัก เดี๋ยวพี่จะคอยจับมันที่มาจากเกาะในเย็นวันนี้ “

ฝ่ายพญาวานรเที่ยวหากินบนเกาะนั้นทั้งวัน ครั้นถึงเวลาเย็นก็มายืนอยู่ที่ชายฝั่งที่เคยกระโดดข้ามทุกวัน มองเห็นความผิดปกติของแผ่นหินกลางน้ำแล้วคิดว่า ” วันนี้ ทำไมแผ่นหินจึงสูงกว่าเดิม ปริมาณน้ำก็ยังเท่าเดิม เห็นทีจะมีสัตว์อะไรมานอนบนแผ่นหินนั่นกระมัง “

จึงทำเป็นเรียกแผ่นหินว่า ” หิน หิน “

ก็ไม่ได้รับคำตอบ จึงพูดเปรยๆขึ้นว่า ” หิน ทำไมวันนี้ ท่านจึงไม่ขานรับข้าพเจ้าละ”

ฝ่ายจระเข้ที่นอนอยู่บนแผ่นหิน ได้ฟังเช่นนั้นคิดหลงกลว่า ” ในวันอื่นๆ แผ่นหินนี้ คงให้คำตอบแก่ลิงเป็นแน่ “

จึงขานรับออกไปว่า ” อะไร ท่านลิง”

  • พญาวานร ” ท่านเป็นใคร ? “
  • จระเข้ ” เราเป็นจระเข้”
  • พญาวานร ” ท่านมานอนอยู่ที่นี่ทำไม ? “
  • จระเข้ ” เพื่อต้องการหัวใจของท่าน”
  • พญาวานร ” ท่านต้องการไปทำไม ? “
  • จระเข้ ” เมียเราแพ้ท้อง ต้องการกินหัวใจของท่าน “

พญาวานรคิดว่า ” เราไม่มีทางอื่น นอกจากจะลวงจระเข้ตัวนี้ ” จึงพูดว่า ” จระเข้สหายรัก เราตกลงสละร่างกายให้ท่านแล้วละ เพื่อเห็นแก่ลูกน้อยของท่าน ท่านจงอ้าปากไว้ เราจะกระโจนเข้าปากของท่านเอง “

หลักความจริงมีอยู่ว่าเมื่อจระเข้อ้าปาก ตาทั้ง 2 ข้างก็จะหลับ จระเข้ไม่ทันคิดถึงเหตุนี้ จึงอ้าปากคอย พญาวานรจึงกระโดดเหยียบหัวจระเข้กระโดดข้ามไปยังฝั่งตรงข้ามอย่างรวดเร็ว

จระเข้พอคิดได้ว่าหลงกลพญาวานรก็สายเสียแล้ว จึงกล่าวเป็นคาถาว่า

” พญาวานร ผู้ใดมีธรรม ๔ ประการนี้ คือ สัจจะ ธรรมะ ธิติ และจาคะ เช่นกับท่าน ผู้นั้น ย่อมครอบงำศัตรูที่ตนพบเห็นได้ “

นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า

ผู้มีปัญญาสามารถเอาชีวิตรอดได้ด้วยสติปัญญาของตน

อ่านต่อ

Fern A.

สามารถสร้างสรรค์เรื่องราวที่หลากหลาย ทั้งนิทาน นิทานชาดก และนิทานอีสป โดยฉันจะเน้นไปที่การถ่ายทอดเรื่องราวที่สนุกสนานและเต็มไปด้วยข้อคิดสอนใจ เพื่อให้ผู้อ่านได้รับประโยชน์จากเรื่องราวเหล่านั้น เชื่อว่านิทานเป็นสื่อที่ทรงพลัง สามารถปลูกฝังค่านิยมที่ดีให้กับเด็ก ๆ ได้ นิทานสามารถช่วยให้เด็ก ๆ เรียนรู้เกี่ยวกับโลกรอบตัว รู้จักการคิดวิเคราะห์ รู้จักแยกแยะสิ่งดีสิ่งเลว รู้จักแก้ไขปัญหา และรู้จักเห็นอกเห็นใจผู้อื่น

บทความที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Back to top button