นิทานชาดก

นิทานชาดก : ลักษณะของหญิง

ลักษณะของหญิง

ในสมัยหนึ่ง พระพุทธเจ้าประทับอยู่วัดเชตวันเมืองสาวัตถี ทรงปรารภภิกษุผู้กระสันอยากสึกเพราะหญิงรูปหนึ่ง ได้ตรัสอดีตนิทานมาสาธกว่า…

กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว ในเมืองพาราณสี มีฤาษีอยู่ตนหนึ่งสร้างอาศรมอยู่ริมฝั่งแม่น้ำคงคา มีลูกสาวของเศรษฐีตระกูลหนึ่งชื่อทุษฐกุมารี เป็นหญิงดุร้าย หยาบช้า มักด่า มักทุบตีพวกทาสคนรับใช้เสมอ

วันหนึ่ง ลูกสาวของเศรษฐีและบริวารพากันไปเล่นน้ำในแม่น้ำคงคาจนตะวันตกดิน ขณะนั้นได้มีลมฝนตั้งเค้าขึ้น ผู้คนพากันวิ่งหนีกลับบ้านหมด เหลือแต่ลูกสาวเศรษฐีและผู้รับใช้เท่านั้น พวกทาสรับใช้ด้วยความชิงชังในตัวลูกสาวเศรษฐีเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว จึงพากันปล่อยให้นางอยู่คนเดียวหนีกลับไปบ้านหมด พอถึงบ้าน เศรษฐีถามหาลูกสาว ก็ตอบว่า “นางมาก่อนพวกตนแล้ว ไม่รู้ว่านางไปไหน” พวกญาติ ๆ พากันออกติดตามค้นหาก็ไม่พบ

ฝ่ายลูกสาวเศรษฐีถูกลมฝนพัดลอยไปตามน้ำ ร้องไห้เสียงดังไปทางอาศรมของฤาษี ฤาษีได้ยินเสียงคนร้องไห้ จึงออกไปช่วยนางขึ้นมาจากน้ำ ให้ผิงไฟ หาผลไม้ให้กิน และถามถึงสาเหตุที่ตกน้ำ นางจึงเล่าเรื่องราวต่าง ๆ ให้ฟัง เนื่องจากมีอาศรมอยู่หลังเดียว ฤาษีจึงให้นางพักในอาศรม ส่วนตนเองออกไปอยู่กลางแจ้ง

เวลาผ่านไปสองสามวัน ฤาษีจึงบอกให้นางกลับบ้าน ฝ่ายลูกสาวเศรษฐีกลับคิดจะทำลายศีลของฤาษี และพากลับไปบ้านด้วยจึงไม่ยอมกลับบ้าน ตั้งแต่วันนั้นมานางจึงแสดงมายาหญิงยั่วยวนจนฤาษีเสียศีลเสื่อมฌานในอีกสองวันต่อมา ดาบสได้ชวนเธออยู่ในป่า นางไม่ยอมจะไปอยู่ในหมู่บ้าน จึงชวนกันไปอยู่ในหมู่บ้านแห่งหนึ่งทำการค้าขายเลี้ยงชีพ เพราะดาบสขายเปรียง (น้ำมันชนิดหนึ่ง) เลี้ยงชีพ ชาวบ้านจึงเรียกเขาว่า ตักกบัณฑิต

วันหนึ่ง มีโจรป่ากลุ่มหนึ่ง ลงจากเขามาปล้นหมู่บ้านได้จับเอาตัวลูกสาวเศรษฐีขึ้นเขาไปด้วย หัวหน้าโจรพอใจในตัวนางจึงแต่งนางเป็นภรรยา ฝ่ายตักกบัณฑิตด้วยความรักในภรรยาจึงคอยนางอยู่ที่บ้าน หวังว่าวันหนึ่งโจรจะปล่อยนางลงมา ส่วนลูกสาวเศรษฐีมีความสุขอยู่กับโจรกลัวว่าตักกบัณฑิตจะมานำนางกลับไปจึงวางแผนฆ่าเขา ด้วยการส่งคนไปบอกตักกบัณฑิตขึ้นมารับนางกลับบ้าน ในขณะที่พวกโจรไม่อยู่บ้าน พอตักกบัณฑิตมารับนางก็เหนี่ยวรั้งเอาไว้ให้ถึงกลางคืนแล้วค่อยหนีไปด้วยกัน จึงให้ตักกบัณฑิตขึ้นไปซ่อนตัวอยู่ในยุ้งข้าว

พอตกเย็นหัวหน้าโจรกลับมาถึงบ้านด้วยอาการเมา นางจึงบอกเขาว่า “พี่ ศัตรูของพี่ แอบซ่อนตัวอยู่ในยุ้งข้าวนี้เอง” หัวหน้าโจรจึงถือเอาดาบเดินไปที่ยุ้งข้าว ชกตักกบัณฑิตล้มลงเตะต่อยจนหนำใจ ส่วนตักกบัณฑิตขณะที่ถูกเตะถูกต่อยได้แต่พูดว่า

“ขี้โกรธ อกตัญญู ชอบส่อเสียดประทุษร้ายมิตร” อย่างเดียวเท่านั้น มิได้พูดอย่างอื่น โจรจับเขามัดไว้แล้วกินข้าวเย็นเสร็จก็เข้านอน ตื่นเช้าขึ้นมาสร่างเมา ก็เริ่มเตะ ต่อยและโบยตักกบัณฑิตอีก เขาก็กล่าวเพียง 4 คำนั้น โจรแปลกใจจึงถามว่า “ท่านพูดอะไร ไม่เห็นพูดอย่างอื่น”

ตักกบัณฑิต จึงเล่าเรื่องราวต่าง ๆ ให้โจรฟัง โจรจึงคิดว่า “นางคนนี้ชั่วรายนัก ชายคนนี้มีคุณธรรม นางยังคิดจะฆ่าเสีย ถึงตัวเรา วันหนึ่งนางก็ต้องฆ่า”

จึงตัดสินใจฆ่านาง ด้วยการเดินไปปลุกลูกสาวเศรษฐีให้มาจับมือตักกบัณฑิตไว้ ชักดาบออกทำทีว่าจะฟันตักกบัณฑิตกลับฟันนางตายคาที่ ส่วนโจรและตักกบัณฑิตตัดสินใจบวชเป็นฤาษีต่อไป

พระพุทธองค์ ได้ตรัสเล่าอดีตนิทานแล้ว จึงตรัสพระคาถาว่า “ธรรมดาหญิงมีนิสัยมักโกรธ อกตัญญู มักพูดส่อเสียด ชอบทำลายมิตร ภิกษุ เธอจงประพฤติพรหมจรรย์เถิด จักไม่เสื่อมจากสุข”

นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า

อย่าไว้ใจทาง อย่าวางใจคน แม้กระทั่งภรรยา

อ่านต่อ

บทความที่เกี่ยวข้อง

Back to top button

เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ เราใช้คุกกี้เพื่อนำเสนอเนื้อหาและโฆษณา คลิกเพื่อดูข้อมูลเพิ่มเติม นโยบายคุกกี้ และ นโยบายความเป็นส่วนตัว

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์ Analytics

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้

บันทึกการตั้งค่า