![[รีวิว-เรื่องย่อ] จูราสสิค เวิลด์ กำเนิดชีวิตใหม่ | Jurassic World Rebirth (2025)](https://www.nanitalk.com/wp-content/uploads/2025/07/Review-Jurassic-World-Rebirth-2025.webp)
Key Points
- Jurassic World Rebirth (2025) มีทั้งจุดเด่นและจุดด้อย โดยฉากแอ็กชันและภาพสวยงามสร้างความตื่นเต้นได้ดี
- บทและตัวละครอาจรู้สึกว่างเปล่าและอัดแน่นเกินไป โดยเฉพาะเรื่องราวของครอบครัวที่ดูไม่จำเป็น
- การแสดงของนักแสดงอย่าง Scarlett Johansson และ Mahershala Ali ทำได้ดีตามบทบาท แต่บทไม่ค่อยช่วยให้โดดเด่น
- ภาพและเสียงรวมถึงงานกำกับของ Gareth Edwards ช่วยเพิ่มอรรถรสให้กับภาพยนตร์
จูราสสิค เวิลด์ กำเนิดชีวิตใหม่ (2025) ภาคล่าสุดของแฟรนไชส์จูราสสิค พาร์ค ที่แฟนๆ รอคอย แต่จะสนุกและตื่นเต้นแค่ไหน? มาร่วมติดตามรีวิวและไขข้อข้องใจไปด้วยกัน ภาพยนตร์เรื่องนี้พาเรากลับไปสู่โลกที่เต็มไปด้วยไดโนเสาร์อีกครั้ง ภายใต้การกำกับของ Gareth Edwards ที่เคยสร้างผลงานอย่าง Rogue One: A Star Wars Story และ The Creator มาแล้ว
ภาพยนตร์เรื่องนี้พยายามผสมผสานความตื่นเต้นจากภาคก่อนๆ กับข้อคิดเตือนใจเกี่ยวกับโลกปัจจุบัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการวิพากษ์วิจารณ์ระบบทุนนิยมที่ซ่อนอยู่เบื้องหลังความบันเทิง อย่างไรก็ตาม ภาพยนตร์เรื่องนี้มีทั้งจุดเด่นและจุดด้อย บางช่วงทำให้เรารู้สึกตื่นเต้นเหมือนดูภาคแรก แต่บางช่วงก็รู้สึกว่ายืดเยื้อและไม่ค่อยมีอะไรใหม่

รีวิวและเรื่องย่อ Jurassic World Rebirth (จูราสสิค เวิลด์ กำเนิดชีวิตใหม่)
จูราสสิค เวิลด์ กำเนิดชีวิตใหม่ (2025) พาเรากลับไปสู่โลกที่เต็มไปด้วยไดโนเสาร์อีกครั้ง ภายใต้การกำกับของ Gareth Edwards ที่เคยสร้างผลงานอย่าง Rogue One: A Star Wars Story และ The Creator มาแล้ว ภาพยนตร์เรื่องนี้พยายามผสมผสานความตื่นเต้นจากภาคก่อนๆ กับข้อคิดเตือนใจเกี่ยวกับโลกปัจจุบัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการวิพากษ์วิจารณ์ระบบทุนนิยมที่ซ่อนอยู่เบื้องหลังความบันเทิง
อย่างไรก็ตาม ภาพยนตร์เรื่องนี้มีทั้งจุดเด่นและจุดด้อย บางช่วงทำให้เรารู้สึกตื่นเต้นเหมือนดูภาคแรก แต่บางช่วงก็รู้สึกว่ายืดเยื้อและไม่ค่อยมีอะไรใหม่ โดยเฉพาะในช่วงครึ่งแรกที่มีการพูดคุยกันมากมายแต่ไม่ค่อยมีเนื้อหาที่ลึกซึ้ง แต่เมื่อถึงจุดที่ไดโนเสาร์ออกมาล่าและต่อสู้กัน ความตื่นเต้นก็กลับมาอีกครั้ง ฉากเหล่านี้ถ่ายทอดออกมาได้อย่างน่าตื่นเต้นและมีความเครียดที่พอเหมาะ ทำให้เรารู้สึกลุ้นไปกับตัวละคร
บทภาพยนตร์ของ Jurassic World Rebirth เขียนโดย David Koepp ผู้เขียนบทภาคแรก แต่คราวนี้รู้สึกว่าบทมีทั้งความว่างเปล่าและอัดแน่นเกินไป มีตัวละครมากมายแต่แต่ละคนกลับไม่ค่อยมีเอกลักษณ์หรือความลึกซึ้ง ตัวละครหลักอย่าง Zora Bennett (แสดงโดย Scarlett Johansson) เป็นนักรบรับจ้างที่ดูไม่ค่อยเข้ากับบทบาทเท่าไหร่นัก แต่ก็พยายามเล่นให้เข้ากับตัวละคร
นอกจากนี้ยังมีตัวละครอื่นๆ อย่าง Dr. Henry Loomis (จอนาธาน เบเลย์) นักบรรพชีวินวิทยาที่ดูน่ารักแต่ไม่ค่อยมีบทบาทสำคัญ และยังมีเรื่องราวของครอบครัวที่หลงเข้าไปในเกาะ ซึ่งดูเหมือนถูกเพิ่มเข้ามาโดยไม่จำเป็น ทำให้จังหวะของเรื่องช้าลง ส่วน Duncan Kincaid (มาเฮอร์ชาลา อาลี) เป็นลูกน้องที่ซื่อสัตย์และมีประสบการณ์ ให้ความรู้สึกน่าสนใจกว่า
นักแสดงในเรื่องนี้ล้วนเป็นนักแสดงที่มีฝีมือ แต่ด้วยบทที่ไม่ค่อยช่วยเหลือ ทำให้การแสดงดูไม่โดดเด่นเท่าที่ควร Scarlett Johansson พยายามเล่นบทนักรบรับจ้าง แต่ดูเหมือนจะไม่ค่อยเข้ากับภาพลักษณ์ของเธอ ส่วน Mahershala Ali ให้ความรู้สึกที่ดีกว่าในบทลูกน้องที่ซื่อสัตย์
Jonathan Bailey ก็น่ารักในบทนักวิทยาศาสตร์ แต่ก็ไม่ค่อยมีอะไรให้โชว์ ส่วนนักแสดงอื่นๆ อย่าง Manuel Garcia-Rulfo, Luna Blaise, Audrina Miranda, และ David Iacono ก็แสดงได้ดีตามบทบาท แต่บทของพวกเขาก็ไม่ค่อยมีความลึกซึ้ง
แม้ว่าบทจะมีข้อบกพร่อง แต่ภาพยนตร์ก็มีฉากที่น่าประทับใจหลายฉาก โดยเฉพาะฉากในร้านสะดวกซื้อที่ถูกทิ้งร้าง ซึ่งถ่ายทอดความตึงเครียดและความน่ากลัวได้ดี รวมถึงฉากในรังไดโนเสาร์บนผาที่สวยงามและตื่นเต้น นอกจากนี้ ยังมีฉากที่ไดโนเสาร์ต่อสู้กันเอง ซึ่งสร้างความตื่นเต้นให้กับผู้ชมได้เป็นอย่างดี
ฉากเหล่านี้เป็นจุดเด่นของภาพยนตร์และทำให้เรารู้สึกว่าคุ้มค่ากับการรอคอย งานกำกับของ Gareth Edwards ช่วยสร้างความรู้สึกกดดันและน่าตื่นเต้นในฉากเหล่านี้ได้อย่างดีเยี่ยม
จุดอ่อนสำคัญของ Jurassic World Rebirth คือเรื่องราวของครอบครัวที่หลงเข้าไปในเกาะ ซึ่งดูเหมือนถูกเพิ่มเข้ามาโดยไม่จำเป็น ทำให้จังหวะของเรื่องช้าลงและรู้สึกว่าไม่ค่อยสอดคล้องกับเรื่องราวหลัก นอกจากนี้ บทสนทนาระหว่างตัวละครในช่วงครึ่งแรกก็ดูยาวเกินไปและไม่ค่อยมีสาระ

ทำให้รู้สึกว่าเรื่องยืดเยื้อ แต่เมื่อถึงครึ่งหลัง จังหวะก็ดีขึ้นและมีความตื่นเต้นมากขึ้น อย่างไรก็ตาม การตัดสินใจใส่ subplot นี้ดูเหมือนจะไม่ช่วยเสริมเรื่องราวหลักเท่าไหร่นัก
ด้านภาพและเสียง Jurassic World Rebirth ทำออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม ภาพถ่ายโดย John Mathieson ที่เคยทำงานใน Gladiator, Logan, และ Doctor Strange in the Multiverse of Madness มาแล้ว ภาพสวยงาม โดยเฉพาะในช่วงที่แสงอาทิตย์ส่องลงมาบนน้ำ หรือในอุโมงค์ที่มีแสงส่องผ่าน
เสียงประกอบของ Alexandre Desplat ก็ช่วยเพิ่มอรรถรสให้กับภาพยนตร์ โดยมีการนำเอาธีมเพลงคลาสสิกของ John Williams จากภาคแรกมาใช้บ้างเล็กน้อย ทำให้รู้สึกคุ้นเคยและตื่นเต้น
โดยรวมแล้ว Jurassic World Rebirth (2025) เป็นภาพยนตร์ที่มีทั้งจุดเด่นและจุดด้อย ฉากแอ็กชันและภาพสวยงามทำให้รู้สึกตื่นเต้น แต่บทและตัวละครก็มีข้อบกพร่องบ้าง อย่างไรก็ตาม สำหรับแฟนๆ ของแฟรนไชส์นี้ ภาพยนตร์เรื่องนี้ยังคงมีอะไรให้ลุ้นและเพลิดเพลินได้
เราขอเชิญชวนให้คุณแชร์ความคิดเห็นในคอมเมนต์ หรือบอกเล่าประสบการณ์การดูภาพยนตร์เรื่องนี้ได้เลย! อย่าลืมติดตามรีวิวหนังอื่นๆ ที่นี่เพื่ออัพเดทความบันเทิงล่าสุด
- ชื่อเรื่องในภาษาไทย: จูราสสิค เวิลด์ กำเนิดชีวิตใหม่
- ประเภท: แอคชั่น, ผจญภัย, วิทยาศาสตร์, ทริลเลอร์
- วันที่ออกอากาศ: 2 กรกฎาคม 2025
- นักแสดงนำ: สการ์เล็ตต์ โจแฮนส์สัน, มาเฮอร์ชาลา อาลี, โจนาธาน เบลีย์, รูเพิร์ต เฟรนด์
- ผู้กำกับ: แกเร็ธ เอ็ดเวิร์ดส์
- จำนวนตอน/ความยาว: 2 ชั่วโมง 13 นาที
- เรตติ้ง IMDb: 6.8/10
- ช่องทางการดูในประเทศไทย: โรงภาพยนตร์