![[รีวิว-เรื่องย่อ] บันทึกรักนักโดนเท | Diary of a Ditched Girl (2025)](https://www.nanitalk.com/wp-content/uploads/2025/09/Review-Diary-of-a-Ditched-Girl-2025.webp)
- Diary of a Ditched Girl เป็นซีรีส์ที่สร้างจากเรื่องจริงของสาวที่โดนเทซ้ำซาก จนกลายเป็นโรคจิตตกหลุมรักใครก็ได้ที่ยิ้มให้
- การแสดงของคาร์ลา เซห์น ในบทอแมนด้าเด่นสุดๆ แสดงความสิ้นหวังและความบ้าคลั่งได้อย่างน่าอึดอัดแต่จริงใจ
- ซีรีส์สำรวจธีมความสัมพันธ์ที่ผิดพลาดและการพึ่งพาครอบครัว โดยเฉพาะพี่น้องสาวที่ต้องคอยรับมือกับปัญหาของกันและกัน
- ผู้กำกับเน้นความไม่สมบูรณ์แบบของตัวละคร ทำให้เรารู้สึกทั้งขำทั้งสงสาร
เคยรู้สึกเหงาจนอยากตกหลุมรักใครก็ได้ที่ยิ้มให้ไหม? หรือเคยคิดว่าชีวิตรักของตัวเองเหมือนซีรีส์โรแมนติกคอมเมดี้ แต่สุดท้ายโดนเทซ้ำซากจนกลายเป็นเรื่องน่าอาย? ซีรีส์ Diary of a Ditched Girl (2025) พาเราไปเจาะลึกชีวิตของ อแมนด้า สาวโสดที่หิวความรักสุดๆ เธอพร้อมจะหลงใครก็ได้แค่พูด “สวัสดี” หรือแม้แต่ถามว่าถังขยะเต็มยัง ซีรีส์เรื่องนี้ดัดแปลงจากเรื่องจริงในสวีเดนช่วงปี 1930s แต่เอามาเล่าแบบสมัยใหม่ที่เต็มไปด้วยความดราม่าและมุกตลกดำๆ ทำให้เรารู้สึกทั้งขำทั้งอึดอัดไปพร้อมกัน
เรื่องราวหมุนรอบ อแมนด้า ที่แสดงโดย คาร์ลา เซห์น (Carla Sehn) สาวที่มองโลกในแง่ดีเกินไปจนกลายเป็นโรค เธอคิดว่าตัวเองเป็นนางเอกซีรีส์รักหวานแหวว แต่ชีวิตจริงกลับเต็มไปด้วยการโดนเทและความสิ้นหวัง ซีรีส์ไม่กลัวที่จะแสดงด้านมืดของเธอ ทำให้เรารู้สึกเหมือนกำลังดูคนที่กำลังจะคลั่ง เพราะเธอพร้อมเปลี่ยนตัวเองเพื่อผู้ชายที่ไม่สมควรได้รับแม้แต่ยิ้มเดียว ในบทความนี้ เราจะพาไปรีวิวทุกมุมของซีรีส์เรื่องนี้ ตั้งแต่การแสดงที่โดดเด่น ไปจนถึงข้อความลึกซึ้งเกี่ยวกับ ความรักที่ผิดพลาด และการพึ่งพาครอบครัว มาดูกันว่า Diary of a Ditched Girl จะทำให้เราคิดใหม่เกี่ยวกับการหาคู่ยังไง

รีวิวและเรื่องย่อ Diary of a Ditched Girl (บันทึกรักนักโดนเท)
Diary of a Ditched Girl เล่าเรื่องของ อแมนด้า สาวที่ตกหลุมรักง่ายเกินเหตุ เธอพร้อมจะหลงเสน่ห์ผู้ชายหล่อๆ ที่แค่ยิ้มให้หรือพูดอะไรเบๆ อย่าง “ถังขยะเต็มยัง?” แม้แต่ผู้ชายห่วยๆ ที่ทำเรื่องน่าขยะแขยง เธอยังรู้สึกอบอุ่นได้ ซีรีส์แสดงให้เห็นว่าเธอหิวความรักและเซ็กส์จนกลายเป็นโรค ตัวละครแบบนี้ปกติเราเห็นแต่ในผู้ชายที่เอาไว้เล่นมุกตลก แต่ที่นี่ซีรีส์เอามาเล่าแบบจริงจัง ทำให้เรารู้สึกอึดอัดเหมือนกำลังดูคนป่วยจริงๆ การแสดงของคาร์ลา เซห์น ทำให้ตัวละครดูไม่มั่นคงและเกือบคลั่ง เธอเปลือยทั้งกายและใจ ทำให้เราสงสารแต่ก็หงุดหงิดไปพร้อมกัน เพราะอแมนด้าคิดว่าตัวเองเป็นนางเอกซีรีส์รัก
ความฝันแบบโรแมนติกของเธอทำให้คาดหวังสูงเกินจริง พอไม่สมหวังก็พังทลาย ร้องไห้ บ่น และวิ่งหา อดิน่า น้องสาว (แสดงโดย โมอาห์ แมดเซ่น) ให้มาปลอบและช่วยยืนด้วยลำแข้งตัวเอง อแมนด้าและอดิน่าไม่ใช่แค่น้องสาวแต่ยังทำงานด้วยกัน แม่ของพวกเธออย่าง โมนิคา (อิงเกลา โอลส์สัน) กำลังเดตผู้ชายที่ไม่ค่อยแคร์ ส่วนพ่อ ริคาร์ด (ตอร์เคล ปีเตอร์สสัน) เอาแต่สนใจครอบครัวใหม่ ทำให้สองสาวต้องพึ่งกันเอง แต่คำปลอบใจมักไหลไปทางเดียว คืออดิน่าที่แข็งแกร่งเสมอ ในขณะที่อแมนด้าเอาแต่ระบายปัญหา เธอคิดว่าน้องสาวไม่มีปัญหาเพราะมีแฟน (อิสซาค คาล์มโรธ) นี่แหละที่แสดงให้เห็นว่าเธอให้ความสำคัญกับ “คู่ชีวิต” มากเกินไป เหมือนเด็กที่ดูซีรีส์รักคลาสสิกแล้วอยากจูบเด็กผู้ชายในโรงเรียน
ซีรีส์เรื่องนี้เหมือนคำวิจารณ์นางเอกซีรีส์รักที่หมกมุ่นกับการหาคู่จนมองข้ามปัญหาของคนรอบข้าง อดิน่าป่วยเป็น โรคย้ำคิดย้ำทำ ที่แย่ลงเพราะการกระทำของอแมนด้า แน่นอนว่าเธอไม่ได้ตั้งใจ แต่เพราะมัวแต่สนุกกับความรัก เธอเลยไม่เห็นผลกระทบกว้างๆ อแมนด้าเปลี่ยนตัวเองเพื่อผู้ชายห่วยๆ จนดูไม่มั่นคง แต่หลังจากดูไป 7 ตอน เราก็เริ่มเบื่อเพราะซีรีส์มีแค่นี้ การแสดงของเซห์นดีจริง แต่เรื่องอื่นๆ อย่างแม่เลี้ยงใจร้ายหรือความสัมพันธ์แบบเปิดปิดกับ เอมิล (โยฮันเนส ลินด์ควิสต์) ดูไม่น่าเชื่อถือ เอมิลรักเธอทำไม? หรือเพราะรู้สึกผิดที่เคยปฏิเสธเธอตอนเด็ก? เขาแค่เป็น “ผู้ชายที่ใช่” ในบท แต่ไม่มีบุคลิกจริงๆ
นอกจากนี้ ซีรีส์พูดถึงปัญหาเงินๆ ทองๆ และสองสาวเรียกตัวเองว่า “จน” แต่เราไม่เห็นพวกเธอจัดการชีวิตจริงๆ ยังไง มีฉากอแมนด้าเดินช้อปในซูเปอร์แบบไม่แคร์ราคา เหมือนปัญหาเงินแค่เอามาเพิ่มดราม่าแบบผิวเผิน ซีรีส์เรื่องนี้เหมือนความรักที่ทำให้เราหลง แต่สุดท้ายก็เทเรา เหมือนความสัมพันธ์ระหว่างอแมนด้ากับเอมิลที่ผันผวนสุดๆ การกำกับภาพทำให้เรารู้สึกถึงความไม่แน่นอนของชีวิต ด้วยมุมกล้องที่สั่นไหวเหมือนอารมณ์ของตัวละคร ภูมิทัศน์เมืองสวีเดนดูธรรมดาแต่ซ่อนความเหงาไว้ ทำให้เราเข้าใจความสิ้นหวังของอแมนด้าได้ดีขึ้น
เสียงประกอบช่วยสร้างบรรยากาศที่ทั้งตลกและเศร้า ด้วยเพลงป๊อปสมัยใหม่ที่เข้ากับอารมณ์วัยรุ่น บทซีรีส์เขียนแบบที่ชิ้นส่วนต่างๆ มาปะติดปะต่อกันเหมือนปริศนา ทำให้เรื่องไหลลื่นแต่ก็คาดเดาได้ยาก เหมือนชีวิตจริงที่ไม่มีสคริปต์ ซีรีส์สำรวจความขัดแย้งระหว่างความฝันโรแมนติกกับความเป็นจริงที่โหดร้าย เปรียบเหมือนการกินขนมหวานมากไปจนปวดฟัน ไม่ว่าอแมนด้าจะพยายามหาความรักแค่ไหน สุดท้ายปัญหาก็มาจากตัวเธอเอง
Diary of a Ditched Girl (2025) เป็นซีรีส์ที่ทำให้เราตั้งคำถามกับความรักที่ผิดพลาดและการพึ่งพาครอบครัว ซีรีส์แสดงให้เห็นว่าปัญหาไม่ได้อยู่ที่ผู้ชายห่วยๆ แต่มาจาก ธรรมชาติของมนุษย์ ที่เต็มไปด้วยความต้องการและความไม่มั่นคง แม้จะอยู่ในสังคมที่ดูสมบูรณ์แบบ เมื่อขาดการสื่อสารและความเข้าใจ ความสัมพันธ์ก็พังได้ง่ายๆ
สำหรับใครที่ชอบ ซีรีส์ดราม่าคอมเมดี้ที่มีเนื้อหาลึกซึ้ง และอยากเห็นการแสดงที่ทำให้อึดอัดแต่จริงใจ Diary of a Ditched Girl เป็นเรื่องที่ไม่ควรพลาด ซีรีส์จะทำให้เราคิดทบทวนเกี่ยวกับการหาคู่และการดูแลคนรอบข้าง มาแชร์ความคิดเห็นในคอมเมนต์ว่าซีรีส์เรื่องนี้ทำให้เรารู้สึกยังไงกับความรักสมัยนี้ และอย่าลืมแชร์รีวิวนี้ให้เพื่อนๆ ที่กำลังโดนเทหรือหิวความรักอยู่!
- ชื่อเรื่องในภาษาไทย: บันทึกรักนักโดนเท
- ประเภท: ดราม่า, คอมเมดี้, โรแมนติก
- วันที่ออกฉาย: 15 กันยายน 2568
- นักแสดงนำ: คาร์ลา เซห์น (Carla Sehn), โมอาห์ แมดเซ่น (Moah Madsen), อิงเกลา โอลส์สัน (Ingela Olsson), ตอร์เคล ปีเตอร์สสัน (Torkel Petersson), โยฮันเนส ลินด์ควิสต์ (Johannes Lindkvist)
- ความยาว: 7 ตอน
- เรตติ้ง IMDb: 7.2/10
- ช่องทางการดูในประเทศไทย: Netflix