30 ซีรีส์สปินออฟที่ต้องดู จากจักรวาลดัง สานต่อพล็อตแบบจัดเต็ม

ถ้าเราเป็นคอซีรีส์ตัวยงที่ชอบความสนุกแบบต่อยอดจากเรื่องโปรด ซีรีส์สปินออฟ คือสิ่งที่ต้องไม่พลาด! อัปเดต 2568 นี้ วงการสตรีมมิ่งกำลังคึกคักด้วย ซีรีส์สปินออฟ ที่ทั้งต่อยอดจากจักรวาลดังและนำเสนอเรื่องราวใหม่ที่ชวนให้ลุ้นจนนั่งไม่ติด ไม่ว่าจะเป็นแนวแอคชันสุดมันส์ ดราม่าที่บีบหัวใจ หรือคอมเมดี้ที่เรียกเสียงหัวเราะ ทุกเรื่องถูกคัดสรรมาเพื่อให้เราได้ฟินกันแบบเต็มอิ่ม

ซีรีส์สปินออฟ ไม่ได้แค่เล่าเรื่องของตัวละครที่เรารักในมุมใหม่ แต่ยังพาเราไปสำรวจโลกที่ขยายใหญ่ขึ้น ด้วยโปรดักชันสุดอลังการและนักแสดงที่จัดเต็ม บทความนี้จะพาเราไปเจาะลึก 30 ซีรีส์สปินออฟ ที่ดีที่สุดแต่ละเรื่องมีอะไรให้ตื่นเต้นจนต้องรีบกดดูทันที! พร้อมแล้ว ไปลุยกันเลย!

1. The Book of Boba Fett (2021)

The Book of Boba Fett เป็น ซีรีส์สปินออฟ จากจักรวาล Star Wars ที่โฟกัสไปที่ โบบา เฟตต์ นักล่าค่าหัวสุดเท่ เรื่องราวเล่าถึงการผจญภัยของเขาและ เฟนเนค แชงด์ หลังจากเหตุการณ์ใน The Mandalorian เมื่อโบบาต้องขึ้นเป็นผู้นำอาชญากรในดาวทาทูอีน ซีรีส์นี้เต็มไปด้วยฉากแอคชันสุดมันส์ และการต่อสู้เพื่อครองอำนาจในโลกใต้ดินที่โหดร้าย

แฟนๆ Star Wars จะได้เห็นมุมใหม่ของโบบา ที่ไม่ใช่แค่นักล่าค่าหัว แต่เป็นผู้นำที่มีทั้งความฉลาดและความเด็ดขาด การเล่าเรื่องผสมผสานความดิบของโลกมาเฟียกับกลิ่นอายของนิยายวิทยาศาสตร์ ทำให้ซีรีส์นี้เป็นที่ชื่นชอบของทั้งแฟนเก่าและแฟนใหม่

• ชื่อเรื่องในภาษาไทย: คัมภีร์แห่งโบบ้า เฟตต์
• ประเภท: แอคชัน, ผจญภัย, นิยายวิทยาศาสตร์
• วันที่ออกอากาศ: 29 ธันวาคม 2021
• นักแสดงนำ: เทมูรา มอร์ริสัน (Temuera Morrison), มิง-นา เหวิน (Ming-Na Wen)
• ผู้กำกับ: โรเบิร์ต รอดริเกซ (Robert Rodriguez)
• จำนวนตอน: 7 ตอน
• เรตติ้ง IMDb: 7.2/10
• ช่องทางการดูในประเทศไทย: Disney+

2. Ahsoka (2023)

Ahsoka เป็น ซีรีส์สปินออฟ อีกเรื่องจาก Star Wars ที่เล่าเรื่องของ อาโศกา ทาโน อดีตเจไดที่ออกเดินทางเพื่อตามหา แกรนด์แอดมิรัลธรอว์น ศัตรูตัวฉกาจ ซีรีส์นี้ต่อยอดจาก The Mandalorian และนำเสนอเรื่องราวที่เข้มข้นด้วยการผสมผสานแอคชันและปริศนาในจักรวาลอันกว้างใหญ่

นอกจากฉากต่อสู้ด้วยไลต์เซเบอร์ที่ตื่นตา ซีรีส์ยังเจาะลึกตัวละครอาโศกาที่แฟนๆ รัก ด้วยการแสดงที่ทรงพลังของ โรซาริโอ ดอว์สัน ทำให้ Ahsoka เป็นหนึ่งใน ซีรีส์สปินออฟ ที่ได้รับคำชื่นชมอย่างล้นหลาม

• ชื่อเรื่องในภาษาไทย: อาโซกา
• ประเภท: แอคชัน, ผจญภัย, นิยายวิทยาศาสตร์
• วันที่ออกอากาศ: 22 สิงหาคม 2023
• นักแสดงนำ: โรซาริโอ ดอว์สัน (Rosario Dawson), นาตาชา หลิว บอร์ดิซโซ (Natasha Liu Bordizzo)
• ผู้กำกับ: เดฟ ฟิโลนี (Dave Filoni)
• จำนวนตอน: 8 ตอน
• เรตติ้ง IMDb: 7.6/10
• ช่องทางการดูในประเทศไทย: Disney+

3. Better Call Saul (2015)

Better Call Saul เป็น ซีรีส์สปินออฟ จาก Breaking Bad ที่เล่าถึงชีวิตของ ซอล กูดแมน ทนายความเจ้าเล่ห์ก่อนจะกลายเป็นที่ปรึกษาของ วอลเตอร์ ไวต์ เรื่องราวย้อนไปสมัยที่เขายังเป็น ซาอูล กูดแมน และพยายามสร้างชื่อในวงการกฎหมาย

ซีรีส์นี้ผสมผสานดราม่า คอมเมดี้ และอาชญากรรมได้อย่างลงตัว การแสดงของ บ็อบ โอเดนเคิร์ก ทำให้ตัวละครซอลมีมิติและน่าติดตาม ไม่ว่าจะเป็นฉากในศาลหรือแผนการสุดแสบ ซีรีส์นี้พิสูจน์ว่า สปินออฟ สามารถยอดเยี่ยมไม่แพ้ต้นฉบับ

• ชื่อเรื่องในภาษาไทย: มีปัญหา ปรึกษาซอล
• ประเภท: ดราม่า, อาชญากรรม, คอมเมดี้
• วันที่ออกอากาศ: 8 กุมภาพันธ์ 2015
• นักแสดงนำ: บ็อบ โอเดนเคิร์ก (Bob Odenkirk), โจนาธาน แบงค์ส (Jonathan Banks)
• ผู้กำกับ: วินซ์ กิลลิแกน (Vince Gilligan)
• จำนวนตอน: 63 ตอน
• เรตติ้ง IMDb: 8.9/10
• ช่องทางการดูในประเทศไทย: Netflix

4. Young Sheldon (2017)

Young Sheldon เป็น ซีรีส์สปินออฟ จาก The Big Bang Theory ที่เล่าถึงวัยเด็กของ เชลดอน คูเปอร์ นักวิทยาศาสตร์อัจฉริยะในวัย 9 ขวบ เรื่องราวเกิดขึ้นในเท็กซัส ที่เชลดอนต้องเผชิญกับความท้าทายในโรงเรียนและครอบครัว

ซีรีส์นี้ผสมผสานความตลกและความอบอุ่นของครอบครัวได้อย่างลงตัว การแสดงของ เอียน อาร์มิเทจ ทำให้เชลดอนเด็กน่ารักและน่าหงุดหงิดในเวลาเดียวกัน เหมาะสำหรับแฟนๆ ที่อยากรู้ที่มาของตัวละครสุดไอคอนิก

• ชื่อเรื่องในภาษาไทย: ยังเชลดอน
• ประเภท: คอมเมดี้, ครอบครัว
• วันที่ออกอากาศ: 25 กันยายน 2017
• นักแสดงนำ: เอียน อาร์มิเทจ (Iain Armitage), โซอี เพอร์รี (Zoe Perry)
• ผู้กำกับ: ชัค ลอร์ (Chuck Lorre)
• จำนวนตอน: 83 ตอน
• เรตติ้ง IMDb: 7.6/10
• ช่องทางการดูในประเทศไทย: HBO Max, Netflix

5. The Mandalorian (2019)

The Mandalorian เป็น ซีรีส์สปินออฟ จาก Star Wars ที่เล่าถึง ดิน จาริน นักล่าค่าหัวที่รับภารกิจปกป้อง เบบี้โยดา ซีรีส์นี้เต็มไปด้วยแอคชันและการผจญภัยในจักรวาลอันกว้างใหญ่

การเล่าเรื่องที่ผสมผสานความเป็นคาวบอยกับนิยายวิทยาศาสตร์ ทำให้ The Mandalorian ได้รับความนิยมอย่างล้นหลาม การปรากฏตัวของเบบี้โยดายิ่งทำให้แฟนๆ ตกหลุมรักซีรีส์นี้แบบถอนตัวไม่ขึ้น

• ชื่อเรื่องในภาษาไทย: เดอะ แมนดาลอเรียน
• ประเภท: แอคชัน, ผจญภัย, นิยายวิทยาศาสตร์
• วันที่ออกอากาศ: 12 พฤศจิกายน 2019
• นักแสดงนำ: เปโดร ปาสคาล (Pedro Pascal), จีน่า คาราโน (Gina Carano)
• ผู้กำกับ: จอน แฟฟโรว์ (Jon Favreau)
• จำนวนตอน: 24 ตอน
• เรตติ้ง IMDb: 8.7/10
• ช่องทางการดูในประเทศไทย: Disney+

6. Frasier (1993)

Frasier เป็น ซีรีส์สปินออฟ จาก Cheers ที่เล่าถึง ดร.เฟรเซอร์ เครน จิตแพทย์ที่ย้ายไปซีแอตเทิลเพื่อเริ่มต้นชีวิตใหม่ในฐานะพิธีกรรายการวิทยุ ซีรีส์นี้เต็มไปด้วยมุกตลกสุดเฉียบและสถานการณ์สุดป่วน

การแสดงของ เคลซีย์ แกรมเมอร์ ทำให้ตัวละครเฟรเซอร์กลายเป็นไอคอนแห่งวงการซิตคอม ความสัมพันธ์ระหว่างเขากับครอบครัวและเพื่อนร่วมงานยิ่งเพิ่มความสนุกให้กับซีรีส์นี้

• ชื่อเรื่องในภาษาไทย: เฟรเซอร์
• ประเภท: คอมเมดี้, ซิตคอม
• วันที่ออกอากาศ: 16 กันยายน 1993
• นักแสดงนำ: เคลซีย์ แกรมเมอร์ (Kelsey Grammer), เดวิด ไฮด์ เพียร์ซ (David Hyde Pierce)
• ผู้กำกับ: เดวิด อังเกลล์ (David Angell)
• จำนวนตอน: 264 ตอน
• เรตติ้ง IMDb: 8.2/10
• ช่องทางการดูในประเทศไทย: Amazon Prime

7. Angel (1999)

Angel เป็น ซีรีส์สปินออฟ จาก Buffy the Vampire Slayer ที่เล่าถึง แองเจิล แวมไพร์ที่มีวิญญาณ ซึ่งย้ายไปลอสแอนเจลิสเพื่อต่อสู้กับความชั่วร้ายและช่วยเหลือผู้คน ซีรีส์นี้ผสมผสานแอคชันและดราม่าได้อย่างลงตัว

เรื่องราวเจาะลึกปมในใจของแองเจิลและทีมของเขา พร้อมทั้งสำรวจประเด็นเกี่ยวกับการไถ่บาปและความดี ทำให้ Angel เป็น สปินออฟ ที่มีเอกลักษณ์ไม่แพ้ต้นฉบับ

• ชื่อเรื่องในภาษาไทย: เทพบุตรแวมไพร์
• ประเภท: แอคชัน, ดราม่า, แฟนตาซี
• วันที่ออกอากาศ: 5 ตุลาคม 1999
• นักแสดงนำ: เดวิด บอเรียนาซ (David Boreanaz), คาริสมา คาร์เพนเตอร์ (Charisma Carpenter)
• ผู้กำกับ: จอส วีดอน (Joss Whedon)
• จำนวนตอน: 110 ตอน
• เรตติ้ง IMDb: 7.9/10

8. Daria (1997)

Daria เป็น ซีรีส์สปินออฟ จาก Beavis and Butt-Head ที่เล่าถึง ดาเรีย มอร์เกนดอร์ฟเฟอร์ สาววัยรุ่นสุดเฉลียวที่มองโลกด้วยมุมมองเสียดสี ซีรีส์นี้เน้นความตลกและการวิพากษ์สังคมวัยรุ่น

ด้วยบทสนทนาที่ฉลาดและตัวละครที่มีมิติ Daria กลายเป็นสัญลักษณ์ของวัยรุ่นยุค 90 ที่ยังคงน่าดูในปี 2025 สำหรับคนที่ชอบซีรีส์แนวซิตคอมที่มีสาระ

• ประเภท: คอมเมดี้, ซิตคอม, การ์ตูน
• วันที่ออกอากาศ: 3 มีนาคม 1997
• นักแสดงนำ (พากย์เสียง): เทรซีย์ แกรนด์สตาฟฟ์ (Tracy Grandstaff), เวนดี้ ฮูปส์ (Wendy Hoopes)
• ผู้กำกับ: เกล็น ไอชเลอร์ (Glenn Eichler)
• จำนวนตอน: 65 ตอน
• เรตติ้ง IMDb: 8.1/10

9. The Walking Dead: World Beyond (2020)

The Walking Dead: World Beyond เป็น ซีรีส์สปินออฟ จาก The Walking Dead ที่เล่าถึงกลุ่มวัยรุ่นในโลกหลังซอมบี้ระบาด เรื่องราวโฟกัสที่ โฮป และ ไอริส สองพี่น้องที่ออกเดินทางเพื่อช่วยพ่อของพวกเขา

ซีรีส์นี้เน้นการเติบโตของตัวละครวัยรุ่นในโลกที่โหดร้าย พร้อมสำรวจธีมของความหวังและการเอาตัวรอด ทำให้เป็น สปินออฟ ที่แตกต่างจากต้นฉบับ

• ชื่อเรื่องในภาษาไทย: เดอะวอล์กกิงเดด: สู่โลกกว้าง
• ประเภท: ดราม่า, สยองขวัญ, นิยายวิทยาศาสตร์
• วันที่ออกอากาศ: 1 ตุลาคม 2020
• นักแสดงนำ: อเล็กซา แมนซูร์ (Alexa Mansour), อาลีอาห์ รอยัล (Aliyah Royale)
• ผู้กำกับ: สก็อตต์ เอ็ม. กิมเพิล (Scott M. Gimple)
• จำนวนตอน: 20 ตอน
• เรตติ้ง IMDb: 4.5/10
• ช่องทางการดูในประเทศไทย: Amazon Prime

10. Fear the Walking Dead (2015)

Fear the Walking Dead เป็น ซีรีส์สปินออฟ จาก The Walking Dead ที่เล่าถึงจุดเริ่มต้นของการระบาดของซอมบี้ในลอสแอนเจลิส ผ่านมุมมองของครอบครัวหนึ่งที่ต้องดิ้นรนเพื่อเอาชีวิตรอด

ซีรีส์นี้เน้นความสัมพันธ์ในครอบครัวและการตัดสินใจที่ยากลำบากในช่วงวิกฤต ทำให้เป็น สปินออฟ ที่มีทั้งความตื่นเต้นและดราม่าที่เข้มข้น

• ชื่อเรื่องในภาษาไทย: เฟียร์เดอะวอล์กกิงเดด
• ประเภท: ดราม่า, สยองขวัญ, นิยายวิทยาศาสตร์
• วันที่ออกอากาศ: 23 สิงหาคม 2015
• นักแสดงนำ: คิม ดิคเกนส์ (Kim Dickens), คลิฟฟ์ เคอร์ติส (Cliff Curtis)
• ผู้กำกับ: โรเบิร์ต เคิร์กแมน (Robert Kirkman)
• จำนวนตอน: 113 ตอน
• เรตติ้ง IMDb: 6.8/10
• ช่องทางการดูในประเทศไทย: Amazon Prime

11. The Boys: Gen V (2023)

The Boys: Gen V เป็น ซีรีส์สปินออฟ จาก The Boys ที่เล่าถึงชีวิตของนักศึกษาซูเปอร์ฮีโร่ในมหาวิทยาลัยที่ฝึกฝนพลังพิเศษ เรื่องราวเต็มไปด้วยความรุนแรงและการเสียดสีสังคม

ซีรีส์นี้ผสมผสานความตลก ดราม่า และแอคชันได้อย่างลงตัว การแสดงของนักแสดงรุ่นใหม่ทำให้ Gen V เป็น สปินออฟ ที่สดใหม่และน่าติดตาม

• ชื่อเรื่องในภาษาไทย: เดอะ บอยส์: เจน วี
• ประเภท: แอคชัน, ดราม่า, คอมเมดี้
• วันที่ออกอากาศ: 29 กันยายน 2023
• นักแสดงนำ: แจซซ์ ซินแคลร์ (Jaz Sinclair), แชนซ์ เพอร์โดโม (Chance Perdomo)
• ผู้กำกับ: เอริค คริปเก (Eric Kripke)
• จำนวนตอน: 8 ตอน
• เรตติ้ง IMDb: 7.7/10
• ช่องทางการดูในประเทศไทย: Amazon Prime

12. NCIS (2003)

NCIS เป็น ซีรีส์สปินออฟ จาก JAG ที่เล่าถึงทีมสืบสวนของหน่วยงาน NCIS ที่ต้องแก้ไขคดีอาชญากรรมที่เกี่ยวข้องกับกองทัพเรือ ซีรีส์นี้เต็มไปด้วยแอคชันและปริศนา

การแสดงของ มาร์ค ฮาร์มอน ในบท กิ๊บส์ ทำให้ซีรีส์นี้กลายเป็นตำนาน ด้วยการเล่าเรื่องที่ผสมผสานความตื่นเต้นและมิตรภาพของทีม

• ชื่อเรื่องในภาษาไทย: เอ็นซีไอเอส: หน่วยสืบสวนแห่งนาวิกโยธิน
• ประเภท: อาชญากรรม, ดราม่า, แอคชัน
• วันที่ออกอากาศ: 23 กันยายน 2003
• นักแสดงนำ: มาร์ค ฮาร์มอน (Mark Harmon), ฌอน เมอร์เรย์ (Sean Murray)
• ผู้กำกับ: โดนัลด์ พี. เบลลิซาริโอ (Donald P. Bellisario)
• จำนวนตอน: 467 ตอน
• เรตติ้ง IMDb: 7.8/10

13. NCIS: Los Angeles (2009)

NCIS: Los Angeles เป็น ซีรีส์สปินออฟ จาก NCIS ที่เล่าถึงทีมสืบสวนในลอสแอนเจลิสที่ต้องจัดการกับคดีอาชญากรรมสุดอันตราย ซีรีส์นี้เน้นแอคชันและเทคโนโลยี

การแสดงของ คริส โอดอนเนลล์ และ แอลแอล คูล เจ ทำให้ซีรีส์นี้มีสีสันและน่าติดตาม เหมาะสำหรับแฟนๆ ที่ชอบความตื่นเต้น

• ชื่อเรื่องในภาษาไทย: เอ็นซีไอเอส ลอสแองเจลลิส
• ประเภท: อาชญากรรม, ดราม่า, แอคชัน
• วันที่ออกอากาศ: 22 กันยายน 2009
• นักแสดงนำ: คริส โอดอนเนลล์ (Chris O’Donnell), แอลแอล คูล เจ (LL Cool J)
• ผู้กำกับ: เชน เบรนแนน (Shane Brennan)
• จำนวนตอน: 323 ตอน
• เรตติ้ง IMDb: 6.8/10

14. NCIS: New Orleans (2014)

NCIS: New Orleans เป็น ซีรีส์สปินออฟ จาก NCIS ที่เล่าถึงทีมสืบสวนในนิวออร์ลีนส์ เรื่องราวผสมผสานแอคชันและวัฒนธรรมท้องถิ่นของเมือง

ซีรีส์นี้โดดเด่นด้วยการแสดงของ สก็อตต์ บาคูล่า และกลิ่นอายของนิวออร์ลีนส์ที่ทำให้เรื่องราวมีเอกลักษณ์และน่าติดตาม

• ชื่อเรื่องในภาษาไทย: ปฏิบัติการเดือด เมืองคนดุ
• ประเภท: อาชญากรรม, ดราม่า, แอคชัน
• วันที่ออกอากาศ: 23 กันยายน 2014
• นักแสดงนำ: สก็อตต์ บาคูล่า (Scott Bakula), ลูคัส แบล็ค (Lucas Black)
• ผู้กำกับ: แกรี่ กลาสเบิร์ก (Gary Glasberg)
• จำนวนตอน: 155 ตอน
• เรตติ้ง IMDb: 6.8/10

15. CSI: Miami (2002)

CSI: Miami เป็น ซีรีส์สปินออฟ จาก CSI: Crime Scene Investigation ที่เล่าถึงทีมสืบสวนในไมอามีที่ใช้เทคโนโลยีในการแก้คดีอาชญากรรม ซีรีส์นี้เน้นความตื่นเต้นและปริศนา

การแสดงของ เดวิด คารูโซ ในบท ฮอเรติโอ เคน ทำให้ซีรีส์นี้กลายเป็นที่จดจำ ด้วยสไตล์การเล่าเรื่องที่เข้มข้นและฉากที่สวยงามของไมอามี

• ชื่อเรื่องในภาษาไทย: หน่วยเฉพาะกิจสืบศพระห่ำไมอามี่
• ประเภท: อาชญากรรม, ดราม่า, ลึกลับ
• วันที่ออกอากาศ: 23 กันยายน 2002
• นักแสดงนำ: เดวิด คารูโซ (David Caruso), เอมิลี่ พรอกเตอร์ (Emily Procter)
• ผู้กำกับ: แอนโธนี อี. ซุยเคอร์ (Anthony E. Zuiker)
• จำนวนตอน: 232 ตอน
• เรตติ้ง IMDb: 6.4/10

16. CSI: NY (2004)

ซีรีส์ CSI: NY เป็น ซีรีส์สปินออฟ จาก CSI: Crime Scene Investigation ที่เล่าถึงทีมสืบสวนในนิวยอร์ก เรื่องราวเน้นการใช้เทคโนโลยีและวิทยาศาสตร์ในการคลายปมคดี

ซีรีส์นี้โดดเด่นด้วยการแสดงของ แกรี่ ซินนิส และกลิ่นอายของมหานครนิวยอร์ก ทำให้เป็น สปินออฟ ที่น่าติดตามสำหรับแฟนๆ แนวสืบสวน

• ชื่อเรื่องในภาษาไทย: หน่วยเฉพาะกิจสืบศพระทึกนิวยอร์ก
• ประเภท: อาชญากรรม, ดราม่า, ลึกลับ
• วันที่ออกอากาศ: 22 กันยายน 2004
• นักแสดงนำ: แกรี่ ซินนิส (Gary Sinise), เมลินา คานาคาเรเดส (Melina Kanakaredes)
• ผู้กำกับ: แอนโธนี อี. ซุยเคอร์ (Anthony E. Zuiker)
• จำนวนตอน: 197 ตอน
• เรตติ้ง IMDb: 6.9/10

17. Law & Order: Special Victims Unit (1999)

Law & Order: SVU เป็น ซีรีส์สปินออฟ จาก Law & Order ที่เล่าถึงทีมสืบสวนคดีอาชญากรรมเกี่ยวกับการล่วงละเมิดทางเพศ เรื่องราวเข้มข้นและสะท้อนปัญหาสังคม

การแสดงของ มาริสกา ฮาร์กิเทย์ ในบท โอลิเวีย เบนสัน ทำให้ซีรีส์นี้กลายเป็นตำนาน ด้วยการเล่าเรื่องที่สมจริงและน่าสะเทือนใจ

• ชื่อเรื่องในภาษาไทย: ลอว์ แอนด์ ออร์เดอร์ : สเปเชียล วิคทิม ยูนิต
• ประเภท: อาชญากรรม, ดราม่า, ลึกลับ
• วันที่ออกอากาศ: 20 กันยายน 1999
• นักแสดงนำ: มาริสกา ฮาร์กิเทย์ (Mariska Hargitay), คริสโตเฟอร์ เมโลนี (Christopher Meloni)
• ผู้กำกับ: ดิค วูล์ฟ (Dick Wolf)
• จำนวนตอน: 551 ตอน
• เรตติ้ง IMDb: 8.1/10
• ช่องทางการดูในประเทศไทย: HBO MAX, Prime Video

18. Law & Order: Criminal Intent (2001)

Law & Order: Criminal Intent เป็น ซีรีส์สปินออฟ จาก Law & Order ที่เน้นการสืบสวนผ่านมุมมองของอาชญากร เรื่องราวเต็มไปด้วยปริศนาและจิตวิทยา

การแสดงของ วินเซนต์ ดิออนอฟริโอ ทำให้ซีรีส์นี้มีเอกลักษณ์ ด้วยการเล่าเรื่องที่เจาะลึกจิตใจของตัวละครทั้งฝ่ายดีและร้าย

• ชื่อเรื่องในภาษาไทย: ลอว์แอนด์ออร์เดอร์ : หน่วยสืบสวนคดีผู้ร้ายมีจุดประสงค์พิเศษ
• ประเภท: อาชญากรรม, ดราม่า, ลึกลับ
• วันที่ออกอากาศ: 30 กันยายน 2001
• นักแสดงนำ: วินเซนต์ ดิออนอฟริโอ (Vincent D’Onofrio), แคธริน เออร์บี (Kathryn Erbe)
• ผู้กำกับ: ดิค วูล์ฟ (Dick Wolf)
• จำนวนตอน: 195 ตอน
• เรตติ้ง IMDb: 7.5/10

19. Chicago P.D. (2014)

Chicago P.D. เป็น ซีรีส์สปินออฟ จาก Chicago Fire ที่เล่าถึงหน่วยตำรวจในชิคาโกที่ต้องจัดการกับอาชญากรรมในเมือง ซีรีส์นี้เต็มไปด้วยแอคชันและดราม่า

การแสดงของ เจสัน เบเก ในบท แฮงค์ วอยต์ ทำให้ซีรีส์นี้มีพลังและน่าติดตาม เหมาะสำหรับแฟนๆ ที่ชอบเรื่องราวเข้มข้น

• ชื่อเรื่องในภาษาไทย: ชิคาโก PD
• ประเภท: อาชญากรรม, ดราม่า, แอคชัน
• วันที่ออกอากาศ: 8 มกราคม 2014
• นักแสดงนำ: เจสัน เบเก (Jason Beghe), โซเฟีย บุช (Sophia Bush)
• ผู้กำกับ: ดิค วูล์ฟ (Dick Wolf)
• จำนวนตอน: 223 ตอน
• เรตติ้ง IMDb: 8.1/10
• ช่องทางการดูในประเทศไทย: Prime Video

20. Chicago Med (2015)

Chicago Med เป็น ซีรีส์สปินออฟ จาก Chicago Fire ที่เล่าถึงทีมแพทย์ในโรงพยาบาลชิคาโก เรื่องราวเน้นดราม่าและความท้าทายในวงการแพทย์

ซีรีส์นี้โดดเด่นด้วยการแสดงของ โอลิเวอร์ แพลตต์ และการเล่าเรื่องที่สมจริง ทำให้เป็น สปินออฟ ที่น่าติดตามสำหรับแฟนๆ แนวการแพทย์

• ชื่อเรื่องในภาษาไทย: ทีมแพทย์ยื้อมัจจุราช
• ประเภท: ดราม่า, การแพทย์
• วันที่ออกอากาศ: 17 พฤศจิกายน 2015
• นักแสดงนำ: โอลิเวอร์ แพลตต์ (Oliver Platt), เอส. เอพาธา เมอร์เคอร์สัน (S. Epatha Merkerson)
• ผู้กำกับ: ดิค วูล์ฟ (Dick Wolf)
• จำนวนตอน: 182 ตอน
• เรตติ้ง IMDb: 7.6/10
• ช่องทางการดูในประเทศไทย: Prime Video

21. Private Practice (2007)

Private Practice เป็น ซีรีส์สปินออฟ จาก Grey’s Anatomy ที่เล่าถึงชีวิตของ แอดดิสัน มอนต์โกเมอรี ศัลยแพทย์ที่ย้ายไปลอสแอนเจลิสเพื่อเริ่มต้นใหม่

ซีรีส์นี้ผสมผสานดราม่าและความสัมพันธ์ของตัวละครได้อย่างลงตัว การแสดงของ เคท วอลช์ ทำให้ Private Practice เป็นที่รักของแฟนๆ แนวการแพทย์

• ประเภท: ดราม่า, การแพทย์, โรแมนติก
• วันที่ออกอากาศ: 26 กันยายน 2007
• นักแสดงนำ: เคท วอลช์ (Kate Walsh), ทิม เดลี (Tim Daly)
• ผู้กำกับ: ชอนดา ไรมส์ (Shonda Rhimes)
• จำนวนตอน: 111 ตอน
• เรตติ้ง IMDb: 6.8/10
• ช่องทางการดูในประเทศไทย: Disney+

22. Station 19 (2018)

Station 19 เป็น ซีรีส์สปินออฟ จาก Grey’s Anatomy ที่เล่าถึงชีวิตของนักผจญเพลิงในซีแอตเทิล เรื่องราวเต็มไปด้วยแอคชันและดราม่า

ซีรีส์นี้โดดเด่นด้วยการแสดงของ เจน่า เดวาน และการเล่าเรื่องที่เข้มข้น ทำให้เป็น สปินออฟ ที่น่าติดตามสำหรับแฟนๆ แนวฮีโร่

• ประเภท: ดราม่า, แอคชัน
• วันที่ออกอากาศ: 22 มีนาคม 2018
• นักแสดงนำ: เจน่า เดวาน (Jaina Lee Ortiz), เจสัน จอร์จ (Jason George)
• ผู้กำกับ: ชอนดา ไรมส์ (Shonda Rhimes)
• จำนวนตอน: 105 ตอน
• เรตติ้ง IMDb: 7.0/10
• ช่องทางการดูในประเทศไทย: Disney+

23. 911: Lone Star (2020)

911: Lone Star เป็น ซีรีส์สปินออฟ จาก 911 ที่เล่าถึงทีมกู้ภัยในเท็กซัส นำโดย โอเวน สแตรนด์ นักผจญเพลิงจากนิวยอร์ก เรื่องราวเต็มไปด้วยแอคชันและดราม่า

การแสดงของ ร็อบ โลว์ ทำให้ซีรีส์นี้มีเสน่ห์และน่าติดตาม เหมาะสำหรับแฟนๆ ที่ชอบเรื่องราวเกี่ยวกับฮีโร่ในชีวิตจริง

• ประเภท: ดราม่า, แอคชัน
• วันที่ออกอากาศ: 19 มกราคม 2020
• นักแสดงนำ: ร็อบ โลว์ (Rob Lowe), ลิฟ ไทเลอร์ (Liv Tyler)
• ผู้กำกับ: ไรอัน เมอร์ฟี (Ryan Murphy)
• จำนวนตอน: 61 ตอน
• เรตติ้ง IMDb: 7.3/10
• ช่องทางการดูในประเทศไทย: Disney+

24. Star Trek: Picard (2020)

Star Trek: Picard เป็น ซีรีส์สปินออฟ จาก Star Trek: The Next Generation ที่เล่าถึงชีวิตของ ฌอง-ลุค พิคาร์ด หลังเกษียณจากสตาร์ฟลีต เรื่องราวเต็มไปด้วยการผจญภัยในอวกาศ

ซีรีส์นี้ผสมผสานนิยายวิทยาศาสตร์และดราม่าได้อย่างลงตัว การแสดงของ แพทริค สจ๊วร์ต ทำให้ Picard เป็น สปินออฟ ที่น่าจดจำ

• ประเภท: นิยายวิทยาศาสตร์, ดราม่า, ผจญภัย
• วันที่ออกอากาศ: 23 มกราคม 2020
• นักแสดงนำ: แพทริค สจ๊วร์ต (Patrick Stewart), อิซา บริโอนส์ (Isa Briones)
• ผู้กำกับ: อเล็กซ์ เคิร์ตซ์แมน (Alex Kurtzman)
• จำนวนตอน: 30 ตอน
• เรตติ้ง IMDb: 7.3/10
• ช่องทางการดูในประเทศไทย: Amazon Prime

25. Star Trek: Discovery (2017)

Star Trek: Discovery เป็น ซีรีส์สปินออฟ จาก Star Trek ที่เล่าถึงลูกเรือของยาน ดิสคัฟเวอรี่ ในภารกิจสำรวจอวกาศ เรื่องราวเต็มไปด้วยแอคชันและปริศนา

การแสดงของ โซนีควา มาร์ติน-กรีน และโปรดักชันสุดอลังการทำให้ซีรีส์นี้เป็นที่ชื่นชอบของแฟนๆ Star Trek

• ชื่อเรื่องในภาษาไทย: สตาร์ เทรค: ดิสคัฟเวอรี
• ประเภท: นิยายวิทยาศาสตร์, ดราม่า, ผจญภัย
• วันที่ออกอากาศ: 24 กันยายน 2017
• นักแสดงนำ: โซนีควา มาร์ติน-กรีน (Sonequa Martin-Green), ดั๊ก โจนส์ (Doug Jones)
• ผู้กำกับ: อเล็กซ์ เคิร์ตซ์แมน (Alex Kurtzman)
• จำนวนตอน: 65 ตอน
• เรตติ้ง IMDb: 7.0/10

26. The Good Fight (2017)

The Good Fight เป็น ซีรีส์สปินออฟ จาก The Good Wife ที่เล่าถึง ไดแอน ล็อกฮาร์ต ทนายความที่ต้องเผชิญกับความท้าทายในวงการกฎหมาย เรื่องราวเต็มไปด้วยดราม่าและการเมือง

การแสดงของ คริสติน บารานสกี ทำให้ซีรีส์นี้มีพลังและน่าติดตาม เหมาะสำหรับแฟนๆ ที่ชอบเรื่องราวในศาล

• ประเภท: ดราม่า, อาชญากรรม, การเมือง
• วันที่ออกอากาศ: 19 กุมภาพันธ์ 2017
• นักแสดงนำ: คริสติน บารานสกี (Christine Baranski), ซาราห์ สตีล (Sarah Steele)
• ผู้กำกับ: โรเบิร์ต คิง (Robert King)
• จำนวนตอน: 60 ตอน
• เรตติ้ง IMDb: 8.3/10

27. Legends of Tomorrow (2016)

Legends of Tomorrow เป็น ซีรีส์สปินออฟ จาก Arrow และ The Flash ที่เล่าถึงทีมซูเปอร์ฮีโร่ที่เดินทางข้ามเวลาเพื่อปกป้องประวัติศาสตร์ เรื่องราวเต็มไปด้วยแอคชันและความสนุก

ซีรีส์นี้ผสมผสานความตลกและแอคชันได้อย่างลงตัว ทำให้เป็น สปินออฟ ที่เหมาะสำหรับแฟนๆ ซูเปอร์ฮีโร่

• ชื่อเรื่องในภาษาไทย: รวมพลคนเหนือมนุษย์
• ประเภท: แอคชัน, ผจญภัย, นิยายวิทยาศาสตร์
• วันที่ออกอากาศ: 21 มกราคม 2016
• นักแสดงนำ: เคตี้ ล็อตซ์ (Caity Lotz), แบรนดอน รูธ (Brandon Routh)
• ผู้กำกับ: เกร็ก เบอร์ลันติ (Greg Berlanti)
• จำนวนตอน: 110 ตอน
• เรตติ้ง IMDb: 6.8/10
• ช่องทางการดูในประเทศไทย: Netflix

28. Supergirl (2015)

Supergirl เป็น ซีรีส์สปินออฟ จาก Arrowverse ที่เล่าถึง คารา ซอร์-เอล ซูเปอร์ฮีโร่สาวจากดาวคริปตันที่ปกป้องโลก เรื่องราวเต็มไปด้วยแอคชันและแรงบันดาลใจ

การแสดงของ เมลิสซา เบนอยสต์ ทำให้ Supergirl เป็นที่รักของแฟนๆ ด้วยการเล่าเรื่องที่เน้นความเข้มแข็งของผู้หญิง

• ชื่อเรื่องในภาษาไทย: ซูเปอร์เกิร์ล สาวน้อยจอมพลัง
• ประเภท: แอคชัน, ผจญภัย, นิยายวิทยาศาสตร์
• วันที่ออกอากาศ: 26 ตุลาคม 2015
• นักแสดงนำ: เมลิสซา เบนอยสต์ (Melissa Benoist), คาลิสตา ฟล็อกฮาร์ต (Calista Flockhart)
• ผู้กำกับ: เกร็ก เบอร์ลันติ (Greg Berlanti)
• จำนวนตอน: 126 ตอน
• เรตติ้ง IMDb: 6.2/10

29. Torchwood (2006)

Torchwood เป็น ซีรีส์สปินออฟ จาก Doctor Who ที่เล่าถึงทีมลับที่จัดการกับภัยคุกคามจากเอเลี่ยน เรื่องราวเต็มไปด้วยแอคชันและความลึกลับ

ซีรีส์นี้โดดเด่นด้วยการเล่าเรื่องที่เข้มข้นและตัวละครที่มีมิติ ทำให้เป็น สปินออฟ ที่น่าติดตามสำหรับแฟนๆ นิยายวิทยาศาสตร์

• ประเภท: นิยายวิทยาศาสตร์, ดราม่า, แอคชัน
• วันที่ออกอากาศ: 22 ตุลาคม 2006
• นักแสดงนำ: จอห์น แบร์โรว์แมน (John Barrowman), อีฟ ไมลส์ (Eve Myles)
• ผู้กำกับ: รัสเซลล์ ที. เดวีส์ (Russell T. Davies)
• จำนวนตอน: 41 ตอน
• เรตติ้ง IMDb: 7.7/10

30. The Sarah Jane Adventures (2007)

The Sarah Jane Adventures เป็น ซีรีส์สปินออฟ จาก Doctor Who ที่เล่าถึง ซาราห์ เจน สมิธ นักข่าวที่ต่อสู้กับเอเลี่ยนพร้อมทีมวัยรุ่น เรื่องราวเหมาะสำหรับผู้ชมทุกวัย

ซีรีส์นี้ผสมผสานความสนุกและการผจญภัยได้อย่างลงตัว การแสดงของ เอลิซาเบธ สเลเดน ทำให้ Sarah Jane เป็นที่รักของแฟนๆ

• ประเภท: นิยายวิทยาศาสตร์, ผจญภัย, ครอบครัว
• วันที่ออกอากาศ: 1 มกราคม 2007
• นักแสดงนำ: เอลิซาเบธ สเลเดน (Elisabeth Sladen), แดเนียล แอนโธนี (Daniel Anthony)
• ผู้กำกับ: รัสเซลล์ ที. เดวีส์ (Russell T. Davies)
• จำนวนตอน: 53 ตอน
• เรตติ้ง IMDb: 7.4/10

การเดินทางผ่าน 30 ซีรีส์สปินออฟ ที่คัดมาให้ในบทความนี้ คงทำให้เราเห็นแล้วว่า สปินออฟ ไม่ได้เป็นแค่ส่วนเสริมของเรื่องต้นฉบับ แต่หลายเรื่องกลับสร้างความยิ่งใหญ่ได้ในแบบของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็น Star Wars ที่ขยายจักรวาลด้วย The Mandalorian และ Ahsoka หรือ Better Call Saul ที่ทำให้เราตกหลุมรักทนายสุดแสบจาก Breaking Bad ทุกเรื่องล้วนมีจุดเด่นที่ชวนให้เรากดดูแบบไม่หยุด

สำหรับวัยรุ่นชาวเน็ตที่กำลังมองหาความสนุกในปี 2025 นี้ ลิสต์ ซีรีส์สปินออฟ ที่เรานำมาให้คือคำตอบ! ไม่ว่าจะดูผ่าน Netflix, Disney+, หรือ HBO Max รับรองว่าแต่ละเรื่องจะทำให้เราติดหนึบจนลืมเวลา อย่ารอช้า รีบไปเก็บลิสต์นี้แล้วเริ่มดูกันเลย!