![[รีวิว-เรื่องย่อ] ติดหรูอยู่บังเกอร์ | Billionaire Bunker (2025)](https://www.nanitalk.com/wp-content/uploads/2025/09/Review-Billionaire-Bunker-2025.webp)
- Billionaire Bunker เป็นซีรีส์ที่สร้างจากไอเดียสุดเจ๋งเกี่ยวกับมหาเศรษฐีที่ถูกหลอกให้เข้าไปอยู่ในบังเกอร์วันสิ้นโลก
- การแสดงของนักแสดงอย่าง Miren Ibarguren ในบท Minerva โดดเด่นด้วยสไตล์การบริการลูกค้าที่โอเวอร์แต่แฝงความลับ
- ซีรีส์สำรวจธีมการหลอกลวงชนชั้นสูงและความขัดแย้งในพื้นที่จำกัด
- ผู้สร้าง Álex Pina นำเสนอเรื่องราวที่เริ่มต้นสนุกแต่จบลงด้วยความยืดยาวน่าเบื่อ
เราเคยคิดเล่นๆ มั้ยว่าถ้าโลกกำลังจะแตก แล้วพวกมหาเศรษฐีรวยล้นฟ้าต้องไปซ่อนตัวในบังเกอร์สุดหรู มันจะเป็นยังไง? แต่ถ้าทั้งหมดนั้นเป็นแผนหลอกลวงล่ะ? ซีรีส์ Billionaire Bunker (2025) จากผู้สร้างสุดฮอตอย่าง Álex Pina (คนเดียวกับ Money Heist) พาเราไปสัมผัสกับเรื่องราวของเหล่าคนรวยที่ถูกขังในบังเกอร์ใต้ดิน ด้วยข้ออ้างว่าวันสิ้นโลกกำลังมา แต่จริงๆ แล้วทุกอย่างเป็นแค่เกมหลอกสุดแสบ ซีรีส์เรื่องนี้เริ่มต้นด้วยไอเดียที่ทำให้เราอยากดูต่อทันที แต่พอเรื่องเดินไปเรื่อยๆ มันก็เริ่มน่าเบื่อเพราะตอนยาวเกินไป
ลองนึกภาพสิ กลุ่มคนรวยๆ ที่ปกติใช้เงินซื้อทุกอย่าง ตอนนี้ต้องมาติดแหง็กในที่แคบๆ กับคนที่พวกเขาเกลียดหน้า แถมยังมีดราม่าครอบครัวผสมโรงอีก เหมือนเอาคนจากโลกคนละใบมายัดรวมกันในกล่องแคบๆ แล้วเขย่าแรงๆ Billionaire Bunker เล่าเรื่องนี้ผ่านตัวละครหลักอย่าง Rafa และ Guillermo ที่มีปมแค้นกันตั้งแต่แรก เพราะลูกชายของ Rafa เคยขับรถเมาแล้วฆ่าคู่หมั้นของลูกสาว Guillermo ซีรีส์พยายามผสมผสานความตึงเครียดแบบวันสิ้นโลกกับพล็อตหลอกลวงสไตล์เขิสต์ แต่สุดท้ายมันก็กลายเป็นเพียงหนังระทึกขวัญธรรมดาที่ไร้เสน่ห์
ในบทความนี้ เราจะพาไปเจาะลึกทุกมุมของซีรีส์เรื่องนี้ ตั้งแต่จุดเด่นที่ทำให้ตอนแรกๆ สนุกสุดๆ ไปจนถึงจุดด้อยที่ทำให้เรื่องยืดยาวเกินเหตุ มาดูกันว่า Billionaire Bunker จะทำให้เราคิดยังไงเกี่ยวกับการหลอกลวงคนรวย และทำไมไอเดียดีๆ ถึงกลายเป็นความน่าเบื่อได้ง่ายๆ

รีวิวและเรื่องย่อ Billionaire Bunker (ติดหรูอยู่บังเกอร์)
Billionaire Bunker เล่าเรื่องของกลุ่มมหาเศรษฐีที่ถูกหลอกให้เข้าไปอยู่ในบังเกอร์สุดไฮเทค โดยบริษัท Kimera ที่นำโดย Minerva (Miren Ibarguren) ผู้หญิงที่ทำหน้าที่เหมือนพนักงานบริการลูกค้าสุดเพอร์เฟกต์ แต่แฝงความลับไว้เพียบ เรื่องเริ่มต้นเหมือนดราม่าครอบครัวในวันสิ้นโลก ที่โลกกำลังจะพังเพราะวิกฤตการเมืองนำไปสู่สงครามนิวเคลียร์ เหล่าคนรวยพวกนี้เลยรีบหนีลงบังเกอร์ แต่จริงๆ แล้วทุกอย่างเป็นแค่แผนปลอมที่บริษัทสร้างขึ้นมาเพื่อหลอกพวกเขา
ตัวละครหลักอย่าง Rafa (Carlos Santos) พ่อที่เพิ่งพาลูกชาย Max (Pau Simon) ออกจากคุก หลังจาก Max ขับรถเมาแล้วฆ่าคู่หมั้นของคนอื่น และ Guillermo (Joaquín Furriel) พ่อของเหยื่อที่โกรธแค้นสุดๆ เพราะน้องสาวของเหยื่ออย่าง Asia (Alicia Falcó) ต้องมาอยู่ในที่เดียวกันกับฆาตกร พวกเขาต้องอยู่ร่วมกันในพื้นที่แคบๆ ที่เต็มไปด้วยเทคโนโลยีล้ำๆ เหมือนหนังไซไฟ แต่ความขัดแย้งส่วนตัวทำให้ทุกอย่างปะทุขึ้น เหมือนเอาคนที่เกลียดกันเข้าไปขังในห้องแคบ แล้วรอดูว่าจะระเบิดยังไง
ซีรีส์เรื่องนี้มีจุดพลิกผันใหญ่ตอนจบตอนแรกที่ทำให้เราอยากดูต่อ แต่พอเรื่องเดินไป มันก็เริ่มเสียเสน่ห์เพราะยืดยาวเกิน 8 ตอน แต่ละตอนชั่วโมงเต็มๆ ทำให้ความตึงเครียดกลายเป็นความน่าเบื่อแทน
การแสดงของ Miren Ibarguren ในบท Minerva เป็นจุดเด่นสุดๆ เธอเล่นเป็นหัวหน้าบังเกอร์ที่ดูแลทุกอย่างแบบมือโปร แต่จริงๆ แล้วแฝงแผนร้ายไว้ การแสดงของเธอทำให้เรารู้สึกว่าตัวละครนี้เหมือนพนักงานโรงแรมที่ยิ้มตลอดเวลา แต่ข้างในเต็มไปด้วยความลึกลับ เหมือนคนที่ขายของแต่แอบซ่อนมีดไว้ข้างหลัง นักแสดงคนอื่นอย่าง Carlos Santos ในบท Rafa ก็ถ่ายทอดความเป็นพ่อที่พยายามปกป้องลูกได้ดี แต่พอเรื่องยืด มันก็เริ่มซ้ำซาก
Joaquín Furriel ในบท Guillermo แสดงความโกรธแค้นได้อย่างสมจริง ทำให้เรารู้สึกถึงปมแค้นครอบครัวที่ถูกจุดไฟในพื้นที่จำกัด เหมือนเอาคนสองคนที่เกลียดกันไปกินข้าวด้วยกันทุกวัน แล้วดูว่าจะฆ่ากันเมื่อไหร่ การแสดงของ Alicia Falcó ในบท Asia ก็เพิ่มมิติให้ดราม่าครอบครัวดูน่าติดตาม แต่ซีรีส์กลับไม่ขุดลึกพอ ทำให้บางส่วนดูตื้นเขิน
โดยรวม การแสดงช่วยพยุงเรื่องไว้ได้ตอนแรกๆ แต่พอพล็อตเริ่มซ้ำ มันก็ไม่พอที่จะทำให้เราอยากดูต่อ เหมือนอาหารจานเด็ดที่กินไปเรื่อยๆ แล้วเริ่มเลี่ยน
จุดด้อยใหญ่คือความยืดยาวของซีรีส์ 8 ตอนที่แต่ละตอนยาวชั่วโมง ทำให้ไอเดียดีๆ อย่างการหลอกลวงคนรวยกลายเป็นเรื่องน่าเบื่อ เหมือนเล่าเรื่องสนุกแต่ยืดยาวเกินจนคนฟังหลับ ธีมหลักอย่างการวิจารณ์ชนชั้นสูงที่ใช้เงินซื้อทุกอย่าง และความง่ายที่คนพวกนี้ถูกหลอก ยังอยู่ แต่ซีรีส์กลับไม่ขุดลึกพอ ทำให้กลายเป็น thriller ธรรมดาแทนที่จะเป็นการทดลองสังคมสุดเจ๋ง
อีกอย่างคือดราม่าความสัมพันธ์ที่ดูโหลและไม่น่าเชื่อ เหมือนเอาสูตรสำเร็จมาผสมกันแบบไม่ลงตัว การผลิตที่ดูไฮเทคกับชุดสีสันสดใสเริ่มกลายเป็นความกดดันแบบผิดๆ ทำให้เรารู้สึกอึดอัดแทนที่จะตื่นเต้น เหมือนอยู่ในห้องที่สวยแต่แคบจนหายใจไม่ออก
ซีรีส์พยายามสื่อว่าคนรวยพวกนี้ถูกหลอกง่ายเพราะชินกับการจ่ายเงินซื้อสิทธิพิเศษ แต่สุดท้ายมันก็ไม่ไปถึงไหน ทำให้เรื่องจบแบบไม่สะใจ
Álex Pina ผู้สร้างจาก Money Heist ร่วมมือกับ Esther Martínez Lobato ทำให้ซีรีส์มีกลิ่นอายเขิสต์ที่เราคุ้นเคย แต่คราวนี้มันไม่เวิร์กเท่า เพราะพล็อตที่ควรจะตึงเครียดกลายเป็นยืดยาว การถ่ายภาพและโปรดักชันดูล้ำสมัย เหมือนโลกไซไฟ แต่กลับทำให้บรรยากาศดูเย็นชาและไม่น่าอยู่ เหมือนบังเกอร์ที่หรูแต่ไร้ชีวิตชีวา
เสียงประกอบและดนตรีช่วยสร้างความตึงเครียดตอนแรกๆ แต่พอเรื่องเดินช้า มันก็กลายเป็นส่วนเกิน บทเขียนพยายามผสมผสานความลึกลับกับดราม่า แต่สุดท้ายไม่สมดุล ทำให้เรารู้สึกว่าซีรีส์เรื่องนี้มีศักยภาพแต่พลาดเป้า โดยรวม ผู้สร้างมีไอเดียดี แต่การเล่าเรื่องที่ยาวเกินทำให้เสียของ เหมือนทำเค้กอร่อยแต่ใส่ส่วนผสมมากไปจนเละ
Billionaire Bunker (2025) เป็นซีรีส์ที่เริ่มต้นด้วยไอเดียสุดแสบที่ทำให้เราอยากดู แต่สุดท้ายกลายเป็นเรื่องยืดยาวที่น่าเบื่อเพราะละทิ้งจุดเด่นเดิมๆ ซีรีส์เรื่องนี้เตือนเราว่าการหลอกลวงคนรวยง่ายแค่ไหน และความขัดแย้งในพื้นที่จำกัดสามารถทำลายทุกอย่างได้ แต่ปัญหาอยู่ที่ ธรรมชาติของมนุษย์ ที่เต็มไปด้วยความเห็นแก่ตัว แม้ในบังเกอร์สุดหรูก็ตาม
ถ้าเราเป็นแฟน ซีรีส์ระทึกขวัญแบบเขิสต์ และอยากเห็นการวิจารณ์สังคมชนชั้นสูง Billionaire Bunker ยังพอดูได้ แต่เตรียมใจกับความยืดยาวเอาไว้ มาคอมเมนต์กันหน่อยว่าซีรีส์เรื่องนี้ทำให้เราคิดยังไงเกี่ยวกับคนรวยที่ถูกหลอก และแชร์รีวิวนี้ให้เพื่อนๆ ที่ชอบซีรีส์ดราม่าลึกลับดูสิ!
- ชื่อเรื่องในภาษาไทย: ติดหรูอยู่บังเกอร์
- ประเภท: ดราม่า, ระทึกขวัญ, เขิสต์
- วันที่ออกฉาย: 15 กันยายน 2568
- นักแสดงนำ: Miren Ibarguren, Carlos Santos, Joaquín Furriel, Alicia Falcó, Pau Simon
- ผู้สร้าง: Álex Pina, Esther Martínez Lobato
- จำนวนตอน: 8 ตอน
- เรตติ้ง IMDb: 5.4/10
- ช่องทางการดูในประเทศไทย: Netflix