เรื่องน่าสนใจ

BM-21 Grad คืออะไร? ระบบจรวดทรงพลังแห่งสงคราม

  • BM-21 Grad คือระบบจรวดหลายลำกล้องจากสหภาพโซเวียต ใช้จรวด 122 มม. ยิงได้ 40 ลูกใน 20 วินาที ระยะยิง 20-40 กม.
  • ถูกใช้งานโดยกัมพูชาในความขัดแย้งชายแดน ไทย-กัมพูชา สร้างความกังวลเนื่องจากพลังทำลายล้างและความแม่นยำต่ำ
  • ประเทศไทยควรเฝ้าระวังและวางแผนยุทธวิธีเพื่อรับมือภัยคุกคามจากระบบนี้ในพื้นที่ชายแดน

เคยสงสัยไหมว่า BM-21 Grad ที่ได้ยินในข่าวความขัดแย้งชายแดนคืออะไร? อาวุธที่ถูกพูดถึงบ่อยครั้งนี้ไม่ใช่แค่เครื่องยิงจรวดธรรมดา แต่เป็นระบบจรวดหลายลำกล้องที่ทรงพลังจากยุคสงครามเย็น ซึ่งยังคงสร้างความหวาดกลัวในสนามรบทั่วโลก รวมถึงในบริบทของความตึงเครียดระหว่าง ไทย-กัมพูชา ด้วยพลังทำลายล้างที่สามารถยิงจรวด 40 ลูกในเวลาเพียง 20 วินาที มันกลายเป็นสัญลักษณ์ของการโจมตีที่รวดเร็วและรุนแรง ในบทความนี้ เราจะพาคุณไปเจาะลึกว่า BM-21 Grad คืออะไร มีประวัติความเป็นมาอย่างไร และเหตุใดจึงมีความสำคัญในสถานการณ์ความมั่นคง

BM-21 Grad ไม่ใช่แค่อาวุธสงคราม แต่เป็นเครื่องมือยุทธวิธีที่ออกแบบมาเพื่อเปลี่ยนสมรภูมิในพริบตา ด้วยความสามารถในการยิงครอบคลุมพื้นที่กว้างและเคลื่อนที่ได้อย่างรวดเร็ว มันถูกใช้ในหลายประเทศ รวมถึงกัมพูชา ซึ่งเพิ่มความกังวลให้กับประเทศไทยในบริบทของความขัดแย้งชายแดน บทความนี้จะอธิบายทุกอย่างที่คุณต้องรู้เกี่ยวกับ ระบบจรวดหลายลำกล้อง นี้ ตั้งแต่ที่มา คุณสมบัติ ไปจนถึงบทบาทในสถานการณ์ปัจจุบัน

BM-21 Grad คืออะไร?

BM-21 Grad (บีเอ็ม-21 แกรด) คือ ระบบจรวดหลายลำกล้อง (Multiple Launch Rocket System – MLRS) ที่พัฒนาโดยสหภาพโซเวียตในช่วงต้นทศวรรษ 1960 คำว่า “Grad” ในภาษารัสเซียแปลว่า “ลูกเห็บ” สื่อถึงความสามารถในการยิงจรวดจำนวนมากราวกับพายุลูกเห็บถล่มเป้าหมาย ระบบนี้ถูกออกแบบมาเพื่อทดแทน BM-14 ขนาด 140 มม. และพัฒนาต่อจาก คัตยูชา (BM-13) ที่โด่งดังในสมัยสงครามโลกครั้งที่สอง โดยเริ่มประจำการครั้งแรกในปี ค.ศ. 1963 และถูกใช้งานครั้งแรกในสงครามจริงเมื่อปี 1969 ระหว่างความขัดแย้งชายแดนจีน-โซเวียต

BM-21 Grad ถูกติดตั้งบนรถบรรทุก Ural-375D หรือในรุ่นใหม่กว่าคือ Ural-4320 ทำให้เคลื่อนที่ได้อย่างรวดเร็วและเหมาะสำหรับยุทธวิธี “ยิงแล้วเผ่น” (Shoot and Scoot) ซึ่งช่วยลดโอกาสถูกโจมตีตอบโต้ ระบบนี้ใช้จรวดขนาด 122 มม. ที่มีระยะยิงตั้งแต่ 20 ถึง 40 กิโลเมตร ขึ้นอยู่กับประเภทของจรวดและหัวรบที่ใช้ ด้วยความสามารถในการยิงจรวด 40 ลูกภายใน 20 วินาที มันสามารถสร้าง “ทะเลเพลิง” ครอบคลุมพื้นที่เป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ในบริบทของประเทศไทย BM-21 Grad กลายเป็นที่สนใจเนื่องจากกัมพูชา ซึ่งเป็นเพื่อนบ้านที่มีความขัดแย้งชายแดนเป็นระยะๆ ได้ครอบครองระบบนี้ตั้งแต่ทศวรรษ 1980 เพื่อใช้ต่อสู้กับกลุ่มเขมรแดง โดยข้อมูลจาก The Military Balance ปี 2025 ระบุว่ากัมพูชามี BM-21 หรือรุ่นลอกเลียนจากจีน (เช่น Type 83) อย่างน้อย 8 หน่วยยิง ซึ่งเพียงพอสำหรับการโจมตีในระดับยุทธวิธี

จุดเด่นของ BM-21 Grad คือความเรียบง่ายและต้นทุนต่ำเมื่อเทียบกับอาวุธสมัยใหม่ แต่ยังคงมีพลังทำลายล้างสูง อย่างไรก็ตาม ข้อจำกัดสำคัญคือความแม่นยำที่ต่ำ ทำให้เหมาะสำหรับการโจมตีพื้นที่กว้างมากกว่าการโจมตีเป้าหมายที่ต้องการความแม่นจำ การออกแบบที่ทนทานและความสามารถในการปรับใช้ในสภาพภูมิประเทศที่หลากหลายทำให้มันยังคงเป็นที่นิยมในหลายประเทศทั่วโลก รวมถึงในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

คุณสมบัติและการทำงานของ BM-21 Grad

BM-21 Grad ประกอบด้วยรถบรรทุกที่ติดตั้งท่อยิงจรวด 40 ท่อ จัดเรียงเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า โดยสามารถหมุนทิศทางได้เพื่อเล็งเป้าหมาย ลูกจรวด M-21OF ขนาด 122 มม. มีความยาวประมาณ 2.87 เมตร และสามารถติดตั้งหัวรบได้หลายประเภท เช่น หัวรบระเบิดแรงสูง (High-Explosive Fragmentation), หัวรบเพลิง หรือแม้แต่หัวรบเคมี ขึ้นอยู่กับภารกิจ

การทำงานของระบบนี้เริ่มจากการเตรียมยิง ซึ่งลูกเรือสามคนสามารถติดตั้งและพร้อมยิงได้ภายใน 3 นาที จรวดสามารถยิงได้ทั้งแบบเดี่ยวหรือแบบยิงพร้อมกันทั้ง 40 ลูกในเวลาเพียง 20 วินาที การยิงแบบครบชุดจะครอบคลุมพื้นที่เป้าหมายกว้างขวาง ทำให้เหมาะสำหรับการโจมตีค่ายทหาร แนวป้องกัน หรือยุทโธปกรณ์ที่ตั้งอยู่กับที่ หลังยิงเสร็จ รถสามารถเคลื่อนย้ายได้ทันทีเพื่อหลีกเลี่ยงการโจมตีตอบโต้

ในแง่ของระยะยิง จรวดรุ่นพื้นฐานมีระยะประมาณ 20 กิโลเมตร แต่จรวดรุ่นใหม่ เช่น จรวดที่ใช้กระสุนต่อต้านบุคคลหรือรถถัง สามารถยิงได้ไกลถึง 30-40 กิโลเมตร ความเร็วสูงสุดของรถบรรทุกอยู่ที่ 75 กม./ชม. และมีระยะปฏิบัติการถึง 750 กิโลเมตร ทำให้เหมาะสำหรับการเคลื่อนที่ในสมรภูมิที่กว้างขวาง

อย่างไรก็ตาม BM-21 Grad มีข้อจำกัดในเรื่องความแม่นยำ เนื่องจากจรวดถูกออกแบบมาเพื่อโจมตีพื้นที่กว้างมากกว่าการโจมตีจุดเดียว ซึ่งอาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อพลเรือนหากใช้ในพื้นที่ที่มีประชากรหนาแน่น ในบริบทของความขัดแย้งชายแดน ไทย-กัมพูชา การใช้ BM-21 Grad โดยกัมพูชาในอดีต เช่น ในปี 2011 ได้สร้างความกังวลอย่างมาก เนื่องจากพลังทำลายล้างที่อาจกระทบต่อหมู่บ้านหรือชุมชนใกล้ชายแดน

การบำรุงรักษา BM-21 Grad ค่อนข้างง่ายและมีต้นทุนต่ำเมื่อเทียบกับระบบอาวุธสมัยใหม่ ทำให้มันเป็นตัวเลือกยอดนิยมสำหรับกองทัพที่มีงบประมาณจำกัด อย่างไรก็ตาม การที่มันถูกใช้งานมานานหลายทศวรรษทำให้บางหน่วยอาจมีสภาพที่ล้าสมัย ซึ่งต้องได้รับการปรับปรุงอย่างต่อเนื่องเพื่อรักษาประสิทธิภาพ

บทบาทของ BM-21 Grad ในความขัดแย้งชายแดนไทย-กัมพูชา

ความตึงเครียดบริเวณชายแดน ไทย-กัมพูชา โดยเฉพาะในพื้นที่ใกล้ปราสาทพระวิหาร เป็นหัวข้อที่ได้รับความสนใจอย่างมากในช่วงหลายปีที่ผ่านมา BM-21 Grad ถูกพูดถึงในฐานะอาวุธสำคัญของกองทัพกัมพูชา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเหตุการณ์ความขัดแย้งเมื่อปี 2011 ซึ่งกัมพูชาใช้ระบบนี้ในการยิงโจมตีพื้นที่ชายแดน สร้างความเสียหายและความหวาดกลัวต่อพลเรือนในจังหวัดศรีสะเกษ

จากข้อมูลล่าสุดในปี 2025 กัมพูชายังคงมี BM-21 Grad หรือรุ่นที่คล้ายกัน เช่น Type 83 จากจีน ในคลังอาวุธ โดยมีการจัดแสดงการยิงจริงในปี 2010 ที่จังหวัดกำปงชนัง เพื่อแสดงแสนยานุภาพทางทหาร การที่กัมพูชาเคลื่อนย้าย BM-21 Grad ไปยังพื้นที่ชายแดนในช่วงที่สถานการณ์ตึงเครียด เช่น ในกรณีที่ชาวเน็ตเขมรถ่ายคลิปการเคลื่อนย้ายเมื่อต้นปี 2025 ทำให้เกิดความกังวลในหมู่ประชาชนชาวไทย

BM-21 Grad มีบทบาทสำคัญในแง่ของการกดดันทางจิตวิทยา เนื่องจากพลังทำลายล้างที่รุนแรงและความสามารถในการโจมตีจากระยะไกลโดยไม่ต้องเผชิญหน้าตรง อย่างไรก็ตาม การใช้งานในพื้นที่ที่มีพลเรือนอาศัยอยู่ เช่น หมู่บ้านชายแดน อาจนำไปสู่การละเมิดกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ เนื่องจากความแม่นยำที่ต่ำอาจทำให้เกิดความเสียหายต่อเป้าหมายที่ไม่ใช่ทหาร

ทิ้งท้าย

BM-21 Grad คือระบบจรวดหลายลำกล้องที่ทรงพลังและยังคงมีบทบาทสำคัญในสนามรบทั่วโลก รวมถึงในความขัดแย้งชายแดน ไทย-กัมพูชา ด้วยประวัติอันยาวนานตั้งแต่ยุคสงครามเย็น ความสามารถในการยิงจรวด 40 ลูกในเวลาเพียง 20 วินาที และความยืดหยุ่นในการเคลื่อนที่ ทำให้มันเป็นอาวุธที่น่ากลัว แม้ว่าจะมีข้อจำกัดในเรื่องความแม่นยำ การที่กัมพูชาครอบครองและใช้งานระบบนี้ยังคงเป็นประเด็นที่ประเทศไทยต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะในพื้นที่ชายแดนที่มีความอ่อนไหว

สำหรับผู้อ่านที่สนใจในประเด็นความมั่นคงและอาวุธยุทโธปกรณ์ การติดตามข้อมูลจากแหล่งที่น่าเชื่อถือ หรือรายงานจากสื่อท้องถิ่น จะช่วยให้เข้าใจสถานการณ์ได้ดียิ่งขึ้น หากคุณพบว่าบทความนี้มีประโยชน์ อย่าลืมแชร์ให้เพื่อนๆ หรือแสดงความคิดเห็นด้านล่างเพื่อแลกเปลี่ยนมุมมองเกี่ยวกับ BM-21 Grad และสถานการณ์ชายแดน!

Source
car250wikipedia

NaniTalk S.

เป็นนักเขียนที่ขยันขันแข็งและมุ่งมั่นที่จะผลิตเนื้อหาที่มีคุณภาพ เรียนรู้และเติบโตอยู่เสมอ เชื่อว่าเนื้อหาที่ดีสามารถสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อโลกได้

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Back to top button