รีวิวหนัง-ซีรีส์

[รีวิว-เรื่องย่อสารคดี] มิสเตอร์แม็คแมน | Mr. McMahon (2024)

ในปี 2024 ซีรีส์สารคดีชุดใหม่จาก Netflix ชื่อว่า Mr. McMahon ได้เปิดตัวและสร้างกระแสความสนใจเป็นอย่างมาก ภายใต้การกำกับของ Chris Smith ผู้ที่เคยสร้างชื่อจาก Tiger King ซีรีส์นี้เล่าถึงชีวิตและความสำเร็จของ Vince McMahon เจ้าพ่อวงการมวยปล้ำที่ทำให้ WWE กลายเป็นธุรกิจบันเทิงระดับโลก เรื่องราวเบื้องหลังที่เต็มไปด้วยความซับซ้อนของเขาถูกถ่ายทอดผ่านบทสัมภาษณ์และเหตุการณ์ต่าง ๆ ในวงการมวยปล้ำ

Advertisement

อย่างไรก็ตาม เพียงแค่สองวันก่อนที่สารคดีชุดนี้จะเปิดตัว Vince McMahon กลับออกมาแสดงความคิดเห็นอย่างไม่พอใจผ่านทางโซเชียลมีเดีย เป็นการเตือนให้ผู้ชมรู้สึกถึงเรื่องราวที่กำลังจะถูกเปิดเผยในซีรีส์นี้ บทแรกของ Mr. McMahon จัดเต็มด้วยข้อเท็จจริงที่ทำให้ McMahon ไม่พอใจ ซึ่งทำให้ผู้ชมต้องตั้งคำถามถึงจริยธรรมและการกระทำเบื้องหลังภาพลักษณ์ที่เขาแสดงออกมาในวงการมวยปล้ำ

สิ่งที่ทำให้สารคดีชุดนี้มีความน่าสนใจเป็นพิเศษก็คือการเชื่อมโยงเรื่องราวของวงการมวยปล้ำที่เติบโตขึ้นพร้อม ๆ กับการเปิดเผยเบื้องหลังของ McMahon ที่เต็มไปด้วยข้อถกเถียงและความขัดแย้ง แม้ว่า McMahon จะได้รับการยกย่องว่าเป็นผู้บุกเบิกวงการ แต่ก็ไม่สามารถปฏิเสธได้ว่าชื่อเสียงของเขานั้นถูกสร้างขึ้นบนพื้นฐานของความโหดร้ายและความลึกลับที่ซ่อนอยู่เบื้องหลัง

มิสเตอร์แม็คแมน | Mr. McMahon (2024)

รีวิว-เรื่องย่อสารคดี Mr. McMahon (มิสเตอร์แม็คแมน)

การผลิตสารคดี Mr. McMahon เริ่มขึ้นในปี 2021 โดย Chris Smith ได้สัมภาษณ์บุคคลในวงการมวยปล้ำกว่า 100 ชั่วโมง ซึ่งรวมถึง McMahon เอง ครอบครัวของเขา นักมวยปล้ำระดับแนวหน้า รวมถึงนักข่าวและบุคคลภายนอกที่รู้จัก McMahon เป็นอย่างดี แต่ระหว่างการถ่ายทำเรื่องราวก็เกิดเรื่องราวไม่คาดฝันขึ้น เมื่อ McMahon ถูกกล่าวหาว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีการล่วงละเมิดทางเพศและการค้ามนุษย์

การผลิตสารคดีถูกหยุดชั่วคราว และ Smith ต้องตัดสินใจว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป เขามีสองทางเลือก คือจะยกเลิกโครงการนี้ทั้งหมด หรือจะสร้างสารคดีตามที่เขาตั้งใจไว้แล้วเพิ่มบทสรุปในตอนท้ายเพื่อให้ผู้ชมรับรู้ว่าเรื่องราวส่วนใหญ่ถ่ายทำก่อนที่ McMahon จะถูกบังคับให้ลาออกจากตำแหน่งผู้บริหารสูงสุดของ WWE Smith ไม่ได้เลือกทั้งสองวิธี แต่เลือกที่จะใช้ความสามารถในการสร้างภาพยนตร์ของเขาให้เกิดประโยชน์สูงสุด ด้วยการตัดต่ออย่างพิถีพิถันและเล่าเรื่องราวผ่านมุมมองที่แตกต่างออกไป

Advertisement

Mr. McMahon ใช้ประโยชน์จากฟุตเทจและบทสัมภาษณ์ที่ได้รับการอนุมัติจาก WWE ภายใต้สภาวะที่แตกต่างกันออกไป สารคดีได้เชื่อมโยงระหว่างการเติบโตของวงการมวยปล้ำระดับโลกและการเปิดเผยด้านมืดของ McMahon เอง ภาพของเขาถูกสร้างขึ้นในฐานะบุคคลที่เต็มไปด้วยอำนาจและความสามารถในการกำหนดทิศทางของวงการมวยปล้ำให้เป็นไปตามที่เขาต้องการ จนกระทั่งกลายเป็นเรื่องราวของผู้ร้ายที่เปิดเผยความลับของตัวเองผ่านคำให้การของผู้คนที่ไม่คาดคิดว่าจะกลายเป็นพยานสำคัญในการเปิดโปงตัวตนของเขา

หนึ่งในประเด็นที่น่าสนใจของสารคดีชุดนี้คือการสัมภาษณ์ Paul Levesque หรือที่รู้จักกันในนาม Triple H ซึ่งเป็นลูกเขยของ McMahon และเป็นผู้บริหารสูงสุดด้านเนื้อหาของ WWE ในปัจจุบัน เขาให้ข้อมูลที่ชี้ให้เห็นด้านมืดของ Vince ที่ไม่เคยถูกเปิดเผยมาก่อน วลีที่ Vince กล่าวไว้ในตอนแรกของสารคดีว่า “ผมอยากจะบอกเล่าเรื่องราวจริง ๆ ให้คุณฟัง” กลายเป็นคำพูดที่สร้างความรู้สึกเสียดแทงใจและทำให้ McMahon รู้สึกเสียใจในภายหลัง

แม้ว่า Vince McMahon ยังมีชีวิตอยู่ แต่สถานการณ์ที่เขาต้องเผชิญอยู่ในปัจจุบันนั้นเต็มไปด้วยความเสื่อมเสียและอับอาย Mr. McMahon ถูกสร้างขึ้นในลักษณะที่เหมือนกับคำสรรเสริญบุคคลผู้เสียชีวิต ไม่เพียงแค่ McMahon เอง แต่ยังสะท้อนถึงวัฒนธรรมของวงการมวยปล้ำที่ทำให้เขากลายเป็นบุคคลเช่นนี้

สารคดีชุดนี้ถือเป็นหนึ่งในกลยุทธ์ของ Netflix ที่ทำให้ McMahon กลายเป็นอดีตในขณะที่ WWE รุ่นใหม่ภายใต้การดูแลของ Triple H กำลังจะเปิดตัวบนแพลตฟอร์มนี้ ความรู้สึกนี้ทำให้ผู้ชมรู้สึกว่าเป็นการจัดการเชิงธุรกิจที่ไร้ความเมตตาและเต็มไปด้วยการเล่าเรื่องเชิงศีลธรรมที่ชัดเจน Mr. McMahon อาจเปรียบเสมือนการล่มสลายของละครสัตว์ที่ไม่มีใครคาดคิดว่าจะเกิดขึ้นกับผู้ควบคุมโชว์

ข้อสรุปหนึ่งที่เราสามารถตีความได้จากสารคดีชุดนี้คือการที่วงการมวยปล้ำเต็มไปด้วยสีสันและการแสดงที่ดูเหมือนจะเป็นเพียงตัวละคร แต่แท้จริงแล้ว McMahon กลับเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงของเขาโดยไม่รู้ตัว เขาใช้วงการมวยปล้ำเป็นฉากหลังในการปล่อยให้พฤติกรรมและบุคลิกภาพที่แท้จริงของเขาทำงานอยู่เบื้องหลัง ด้วยเหตุนี้ วงการมวยปล้ำจึงกลายเป็นเวทีที่เปิดเผยตัวตนและพฤติกรรมของบุคคลในลักษณะที่คนทั่วไปอาจไม่ทันได้สังเกต

ทิ้งท้าย

สารคดี Mr. McMahon เป็นผลงานที่แสดงให้เห็นถึงวิธีการที่วงการบันเทิงสามารถกลายเป็นหน้ากากที่ปกปิดความจริงของบุคคลได้อย่างแนบเนียน แม้ว่าจะเป็นเรื่องราวที่เรารู้กันมานานแล้ว แต่การได้นำเสนอผ่านมุมมองใหม่ที่ใช้ฟุตเทจและบทสัมภาษณ์เดิม กลับทำให้เรื่องราวนี้มีความเข้มข้นและน่าติดตามมากขึ้น Vince McMahon ผู้ที่เคยถูกยกย่องว่าเป็นบุคคลที่เปลี่ยนแปลงวงการมวยปล้ำอย่างยิ่งใหญ่ กลับกลายเป็นตัวแทนของการล่มสลายของอุตสาหกรรมที่เขาเคยสร้างขึ้นมาเอง

  • ประเภท: สารคดี, กีฬา
  • วันที่ออกอากาศ: 25 กันยายน 2024
  • นักแสดงนำ: Vince McMahon, Terry Bollea, Bruce Pritchard
  • ผู้กำกับ: Chris Smith
  • จำนวนตอน/ความยาว: 6 ตอน
  • เรตติ้ง IMDb: 8.0/10
  • ช่องทางการดู: Netflix

Advertisement

อ่านต่อ
Advertisement

PhiRa W.

เป็นนักเขียนอิสระที่หลงใหลในสื่อบันเทิงทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นภาพยนตร์ ซีรีส์ วาไรตี้ และสารคดี ผมชอบที่จะวิเคราะห์และถอดรหัสเนื้อหาเหล่านั้นออกมาในรูปแบบของรีวิวที่เข้าใจง่ายและสนุกสนาน เพื่อแบ่งปันมุมมองและประสบการณ์ให้กับผู้อ่าน

บทความที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Back to top button