รีวิวซีรีส์เกาหลี

[รีวิว-เรื่องย่อ] สตาร์ทอัพ | Start-Up (2020) ซีรีส์ที่เริ่มดีแต่จบไม่ถึงฝัน

  • งานภาพและเพลงประกอบ ที่สวยงามและถ่ายทอดอารมณ์ได้อย่างลงตัว
  • ตัวละครอย่าง จีพยอง ที่มีพัฒนาการสมจริงและน่าจดจำ
  • เรื่องราวในช่วงแรกที่ชวนให้ลุ้นเกี่ยวกับโลก สตาร์ทอัพ
  • แนวคิดเกี่ยวกับความฝันและการเริ่มต้นใหม่ที่ยังคงสร้างแรงบันดาลใจ

คุณเคยดู ซีรีส์เกาหลี ที่เริ่มต้นด้วยความหวังอันสดใส แต่กลับสะดุดล้มในตอนจบหรือไม่? Start-Up (2020) คือตัวอย่างที่ชัดเจนของเรื่องราวที่เริ่มต้นด้วยพลังอันเปี่ยมล้น แต่สุดท้ายกลับทิ้งความรู้สึกขัดใจให้ผู้ชม ซีรีส์เรื่องนี้นำเสนอโลกของ สตาร์ทอัพ ที่เต็มไปด้วยความฝันและการแข่งขัน ผสมผสานกับเรื่องราวความรักที่ชวนให้ลุ้น แต่กลับหลงทางในรักสามเส้าจนเสียสมดุล ด้วยงานภาพที่สวยงามและเพลงประกอบที่ยอดเยี่ยม Start-Up มีทุกอย่างที่จะเป็น ซีรีส์แห่งปี แต่ทำไมมันถึงไม่ถึงเป้า?

บทความนี้จะพาคุณไปสำรวจ Start-Up อย่างละเอียด ตั้งแต่จุดเริ่มต้นที่สดใส ตัวละครที่น่าจดจำ ไปจนถึงจุดที่ทำให้ผู้ชมผิดหวัง คุณจะได้รู้ว่าเหตุใดซีรีส์เรื่องนี้ถึงกลายเป็นที่ถกเถียงในหมู่แฟน ซีรีส์เกาหลี และมันคุ้มค่าที่จะดูหรือไม่ พร้อมแล้ว มาเจาะลึกโลกของ Start-Up กันเลย!

สตาร์ทอัพ | Start-Up (2020)

รีวิวและเรื่องย่อ Start-Up (สตาร์ทอัพ)

Start-Up เล่าเรื่องราวของสองพี่น้อง อินแจ และ ดัลมี ที่ต้องแยกจากกันหลังจากการหย่าร้างของพ่อแม่ อินแจเลือกไปอยู่กับแม่ที่แต่งงานใหม่กับประธานบริษัทใหญ่ ทำให้เธอเติบโตในโลกที่เต็มไปด้วยโอกาสและความมั่งคั่ง ส่วนดัลมีอยู่กับพ่อที่ฝันจะสร้าง สตาร์ทอัพ ให้ประสบความสำเร็จ แต่โชคชะตากลับเล่นตลก เมื่อพ่อของเธอประสบอุบัติเหตุร้ายแรง ส่งผลให้ชีวิตของดัลมีพลิกผัน เธอต้องต่อสู้เพื่อความฝันในโลกที่โหดร้ายของ ธุรกิจสตาร์ทอัพ ด้วยตัวคนเดียว

เรื่องราวซับซ้อนขึ้นเมื่อ จีพยอง เด็กกำพร้าที่ได้รับการช่วยเหลือจากย่าของดัลมี เริ่มเขียนจดหมายถึงเธอโดยใช้ชื่อของ โดซาน อัจฉริยะหนุ่มที่ไม่มีตัวตนจริงๆ การติดต่อผ่านจดหมายนี้กลายเป็นกำลังใจให้ดัลมีในช่วงเวลาที่ยากลำบาก แต่เมื่อถึงวันที่ทั้งสองต้องพบกัน จีพยองต้องตามหาโดซานตัวจริงเพื่อมาแสดงบทบาทแฟนในจดหมาย สถานการณ์นี้จุดชนวนให้เกิด รักสามเส้า ที่กลายเป็นหัวใจของเรื่อง แต่ก็ทำให้เรื่องราวเกี่ยวกับ สตาร์ทอัพ ซึ่งควรจะเป็นจุดเด่น ต้องหลบไปอยู่ข้างทาง

หนึ่งในสิ่งที่ทำให้ Start-Up โดดเด่นตั้งแต่ตอนแรกคือ งานภาพ ที่สวยงามราวกับภาพวาด ฉากที่เต็มไปด้วยสีสันของดอกซากุระและโทนสีชมพูช่วยสร้างบรรยากาศที่สดใสและน่าตื่นตาในช่วงต้นเรื่อง ผู้กำกับใช้มุมกล้องและแสงที่ละเมียดละไม ทำให้ทุกฉากดูมีชีวิตชีวา โดยเฉพาะฉากที่ตัวละครเดินท่ามกลางเมืองที่เต็มไปด้วยความฝัน งานภาพในช่วงแรกเปรียบเหมือนการชงชาดีๆ ที่ทั้งหอมและน่าลิ้มลอง แต่เสียดายที่ความสวยงามนี้ค่อยๆ จางลงเมื่อเรื่องราวเริ่มเน้นไปที่ความรักมากเกินไป

สิ่งที่ยอดเยี่ยมไม่แพ้กันคือ เพลงประกอบ ที่กลายเป็นหนึ่งในจุดแข็งของซีรีส์ ชุดเพลงที่เลือกใช้ใน Start-Up สามารถถ่ายทอดอารมณ์ของความหวัง ความรัก และความสูญเสียได้อย่างสมบูรณ์แบบ เพลงอย่าง “Future” และ “Day & Night” กลายเป็นที่จดจำและช่วยขับเน้นอารมณ์ของตัวละครในแต่ละฉาก คุณเคยรู้สึกไหมว่าเพลงดีๆ สามารถทำให้ฉากธรรมดากลายเป็นช่วงเวลาที่น่าจดจำ? นั่นคือสิ่งที่เพลงใน Start-Up ทำได้อย่างยอดเยี่ยม และเป็นเหตุผลที่แฟนๆ ยังคงพูดถึงเพลงประกอบของซีรีส์เรื่องนี้อยู่เสมอ

แม้ว่า Start-Up จะเริ่มต้นด้วยแนวคิดที่น่าสนใจเกี่ยวกับโลกของ สตาร์ทอัพ และความท้าทายในการสร้างธุรกิจ แต่เรื่องราวกลับเสียศูนย์เมื่อ รักสามเส้า ระหว่างดัลมี โดซาน และจีพยองเริ่มครอบงำเนื้อหา ตัวละครหลักอย่างดัลมีและโดซาน ซึ่งควรจะเป็นตัวแทนของความมุ่งมั่นและความฝัน กลับถูกทำให้ดูสับสนและขาดเหตุผลในช่วงหลังของเรื่อง การตัดสินใจของพวกเขาดูไม่สอดคล้องกับสิ่งที่ผู้ชมคาดหวัง และบางครั้งก็รู้สึกเหมือนถูกบังคับให้เดินตามสูตรของ K-Drama ทั่วไป

ยิ่งไปกว่านั้น การเน้นที่ความรักทำให้ประเด็นเกี่ยวกับ สตาร์ทอัพ ซึ่งเป็นหัวใจของเรื่องในตอนแรก ถูกทิ้งไว้ข้างทาง เรื่องราวเกี่ยวกับการแข่งขันในโลกธุรกิจที่เคยชวนให้ลุ้นในช่วง 10 ตอนแรก กลับกลายเป็นเพียงฉากหลังที่จืดชืดในตอนท้าย คุณเคยรู้สึกผิดหวังเมื่อซีรีส์ที่คุณรักเริ่มหลงทางหรือไม่? นั่นคือสิ่งที่ Start-Up ทำให้ผู้ชมรู้สึก และเป็นเหตุผลที่ทำให้ตอนจบกลายเป็นที่ถกเถียงในหมู่แฟนๆ

ตอนจบของ Start-Up เป็นหนึ่งในจุดที่ทำให้ผู้ชมรู้สึกผิดหวังมากที่สุด การพัฒนาตัวละครที่ดูเหมือนจะไปได้ดีในช่วงแรก กลับถูกทำลายด้วยการตัดสินใจที่ขาดเหตุผลและการหักมุมที่ไม่สมเหตุสมผล แนวคิดเกี่ยวกับการ “ออกเรือโดยไม่มีแผนที่” หรือการเสี่ยงในโลกธุรกิจ ซึ่งฟังดูน่าสนใจในทางทฤษฎี กลับขัดแย้งกับสิ่งที่ซีรีส์พยายามนำเสนอในตอนแรกเกี่ยวกับการวางแผนและความรอบคอบในการทำ สตาร์ทอัพ

โปสเตอร์ซีรีส์เกาหลี Start-Up (สตาร์ทอัพ)

อย่างไรก็ตาม ตัวละครอย่าง จีพยอง ยังคงเป็นแสงสว่างในความมืดของตอนจบ ตัวละครของเขามีความสมจริงและพัฒนาการที่สม่ำเสมอ ทำให้ผู้ชมบางส่วนรู้สึกผูกพันกับเขามากกว่าตัวละครหลักเสียอีก ถ้าคุณกำลังมองหา ซีรีส์เกาหลี ที่จะทำให้คุณรู้สึกหลากหลายอารมณ์ Start-Up อาจจะยังคงคุ้มค่าที่จะลองดู แต่ต้องเตรียมใจสำหรับตอนจบที่อาจทำให้คุณต้องถอนหายใจ

Start-Up (2020) เป็น ซีรีส์เกาหลี ที่เริ่มต้นด้วยความสดใสและพลังแห่งความฝันในโลก สตาร์ทอัพ ด้วยงานภาพที่สวยงาม เพลงประกอบที่ยอดเยี่ยม และตัวละครที่น่าจดจำในช่วงแรก ซีรีส์เรื่องนี้มีทุกอย่างที่จะกลายเป็นผลงานชิ้นเอก แต่การเน้นที่ รักสามเส้า และตอนจบที่ชวนขัดใจทำให้มันไม่สามารถไปถึงจุดสูงสุดที่ควรจะเป็นได้ ถ้าคุณเป็นแฟน K-Drama ที่ชื่นชอบเรื่องราวความรักและไม่ซีเรียสกับตอนจบที่ไม่สมบูรณ์แบบ ซีรีส์นี้อาจจะยังคงมอบความบันเทิงให้คุณได้

ถึงเวลาแล้วที่คุณจะลองดู Start-Up และตัดสินด้วยตัวเอง! คุณคิดว่าตอนจบของซีรีส์เรื่องนี้ยุติธรรมกับตัวละครหรือไม่? มาคุยกันในคอมเมนต์หรือแชร์รีวิวนี้ให้เพื่อนๆ ที่รัก ซีรีส์เกาหลี เพื่อชวนกันมาถกเถียงถึงความน่าผิดหวังและความน่าประทับใจของเรื่องนี้กัน!

  • ชื่อเรื่องในภาษาไทย: สตาร์ทอัพ
  • ประเภท: ดราม่า, โรแมนติก, ธุรกิจ
  • วันที่ออกอากาศ: ตุลาคม 2020
  • นักแสดงนำ: แบซูจี, นัมจูฮยอก, คิมซอนโฮ, คังฮันนา
  • ผู้กำกับ: โอชุงฮวาน
  • จำนวนตอน/ความยาว: 16 ตอน
  • เรตติ้ง MyDramaList: 7.5/10
  • ช่องทางการดูในประเทศไทย: Netflix

PhiRa W.

เป็นนักเขียนอิสระที่หลงใหลในสื่อบันเทิงทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นภาพยนตร์ ซีรีส์ วาไรตี้ และสารคดี ผมชอบที่จะวิเคราะห์และถอดรหัสเนื้อหาเหล่านั้นออกมาในรูปแบบของรีวิวที่เข้าใจง่ายและสนุกสนาน เพื่อแบ่งปันมุมมองและประสบการณ์ให้กับผู้อ่าน

บทความที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Back to top button