![[รีวิว-เรื่องย่อ] ชีวิตต้องสาป | Maledictions (2025) ซีรีส์ดราม่าการเมืองสุดเซ็ง](https://www.nanitalk.com/wp-content/uploads/2025/09/Review-Maledictions-2025.webp)
- Maledictions เป็นซีรีส์ที่สร้างจากเรื่องเกมการเมืองและปัญหาชีวิตส่วนตัว แต่ขาดความตื่นเต้นและเสน่ห์จนนั่งดูแบบง่วงๆ
- การแสดงของนักแสดงอย่าง Monica Antonopulos ในบท Lucrezia มีเสน่ห์นุ่มนวลที่ช่วยให้ซีรีส์มีสีสันบ้าง แต่ก็ไม่พอที่จะยกทั้งเรื่อง
- ซีรีส์สำรวจธีมความสัมพันธ์ซับซ้อนและการทรยศ แต่เล่าแบบจืดชืดจนไม่สะดุดใจ
- ผู้สร้าง Daniel Burman ทำซีรีส์สั้นๆ แต่กลับรู้สึกว่ายังยาวเกินไปเพราะเนื้อหาไม่ดึงดูด
เราเคยรู้สึกเหนื่อยล้าจากชีวิตประจำวัน แล้วอยากหาอะไรดูชิลๆ บน Netflix มั้ย? แต่แทนที่จะได้ผ่อนคลาย กลับเจอซีรีส์ที่ทำให้ยิ่งเซ็งกว่าเดิม ซีรีส์ Maledictions (2025) ของผู้สร้าง Daniel Burman พาเราไปสัมผัสเรื่องราวเกมการเมืองสุดวุ่น ปัญหาชีวิตส่วนตัวที่ยุ่งเหยิง และเหตุการณ์ลักพาตัวที่ควรจะตื่นเต้น แต่ทุกอย่างกลับออกมาแบบจืดชืด เหมือนกินข้าวเปล่าไม่มีกับแกล้ม ซีรีส์สั้นแค่ 3 ตอนนี้เหมือนถูกสาปให้ไร้เสน่ห์ ไม่มีอะไรที่ทำให้เราว้าวหรือสะเทือนใจเลย
ลองนึกภาพเรานั่งเปิด Netflix พิมพ์ชื่อ Maledictions แล้วเห็นแค่ 3 ตอน เราก็แบบ เฮ้ย ดีใจอะ สั้นดี แต่พอดูจบแล้วรู้สึกโล่งอกที่มันจบซะที เพราะมันไม่ได้ให้ความสุข ความตื่นเต้น หรือแม้แต่ความโมโหอะไรเลย ซีรีส์นี้เล่าเรื่องในสุญญากาศแบบไม่มีอะไรสะเทือนใจ เหมือนดูเพื่อทำงาน ไม่ใช่ดูเพื่อสนุก เราเลยสงสัยว่า ทำไมซีรีส์ที่ควรจะดราม่าเข้มข้นถึงออกมาแบบนี้? บทความนี้จะพาเราไปเจาะลึกทุกมุมของ ซีรีส์ Maledictions ตั้งแต่โครงเรื่อง การแสดง ไปจนถึงจุดที่ทำให้มันกลายเป็นอะไรที่ “แค่มีอยู่” บนแพลตฟอร์ม
ในรีวิวนี้ เราจะชำแหละให้เห็นชัดๆ ว่าทำไม ซีรีส์การเมือง แบบนี้ถึงไม่เวิร์ค และอะไรที่ยังพอเก็บกู้ได้บ้าง มาดูกันว่า Maledictions จะทำให้เราเรียนรู้อะไรเกี่ยวกับการเลือกซีรีส์ดูในวันที่เหนื่อยๆ หรือมันจะเป็นแค่ตัวอย่างของความน่าเบื่อที่เราควรเลี่ยง

รีวิวและเรื่องย่อ Maledictions (ชีวิตต้องสาป)
ซีรีส์ Maledictions แบ่งเรื่องออกเป็น 3 ตอน เหมือน 3 องก์ในละคร แต่แทนที่จะสร้างความตื่นเต้น กลับกลายเป็นการเล่าที่น่าเบื่อจนเราอยากกดข้าม ตอนแรกแนะนำตัวละครอย่าง Román (Gustavo Bassani) และ Zoe (Francesca Varela) ที่ติดอยู่ในเกมการเมืองและปัญหาส่วนตัว แต่ทุกอย่างเกิดขึ้นแบบไร้แรงกระแทก เหมือนโยนก้อนหินลงบ่อน้ำแต่ไม่เห็นคลื่นกระเพื่อม เรารู้สึกว่ามันขาดการสร้างบรรยากาศที่ทำให้เราอิน ทุกฉากเหมือนเดินเรื่องในสูญญากาศที่ไม่มีอะไรกระทบใจจริงๆ
ตอนที่สองนี่แหละที่พอมีแสงสว่างบ้าง มันเปิดเผยความลับในความสัมพันธ์ระหว่าง Román กับ Zoe ที่ทำให้เราคิดว่า โอ้ น่าสนใจนะ แต่เพราะการกำกับที่จืดชืด การเปิดเผยนี้เลยออกมาแบบเบาๆ เหมือนบอกเล่าเรื่อง gossip ในกลุ่มเพื่อน ไม่ได้ทำให้เราตกใจหรืออยากดูต่อ เราเลยสงสัยว่า ถ้าซีรีส์มีโอกาสพัฒนาตอนกลางให้เข้มข้นกว่านี้ มันจะกลายเป็นอะไรที่สนุกมั้ย? แต่สุดท้าย มันก็แค่จุดประกายเล็กๆ ที่ดับวูบไปเร็วเกิน
ตอนจบของเรื่องถูกปิดแบบเรียบง่าย ไม่มีจุดพีกที่ทำให้เราจดจำได้ เรื่องราวที่เกี่ยวกับการลักพาตัวและการหักหลังทางการเมืองควรจะเต็มไปด้วยความกดดัน แต่กลับกลายเป็นสิ่งที่ไม่มีพิษภัย จนทำให้เรารู้สึกโล่งใจที่มันจบลงโดยไม่ต้องดูต่อ ซีรีส์เรื่องนี้เหมือนอาหารจานหนึ่งที่กินแล้วไม่อิ่ม ไม่หิว แต่ก็ไม่ทิ้งความรู้สึกพิเศษอะไรไว้เลย
นักแสดงใน Maledictions มีบางคนที่เด่นขึ้นมาบ้าง เช่น Monica Antonopulos ในบท Lucrezia ภรรยาของ Fernando (Leonardo Sbaraglia) เธอมีเสน่ห์นุ่มนวล ดวงตาที่เย้ายวน และการแสดงที่ทำให้เราสงสัยว่ามีอะไรซ่อนอยู่ระหว่างเธอกับ Román เราไม่ได้เห็นฉากเซ็กส์ระหว่างพวกเขา แต่แค่การมอง การรอคอยในฉากต่างๆ ก็พอสร้างความน่าค้นหา เหมือน riddle ที่เราอยากแก้ แต่ซีรีส์ไม่ยอมขุดลึกกว่านั้น มันเลยกลายเป็นจุดที่น่าผิดหวัง
อีกคนที่ช่วยให้ซีรีส์ดูมีชีวิตชีวาขึ้นคือ อาเลฮานดรา เฟล็คนาร์ ในบทไอรีน เธอรับบทเป็นหุ่นเชิดที่ทั้งแสบและควบคุมทุกอย่างได้อย่างสนุก ทำให้เรารู้สึกว่าเธอคือแสงสว่างในความมืดของเรื่องนี้ การแสดงของเธอทำให้เรายิ้มมุมปากได้บ้าง แต่ก็ไม่เพียงพอที่จะยกทั้งเรื่องที่เต็มไปด้วยความน่าเบื่อ เหมือนมีดอกไม้สวยงามโผล่ขึ้นมากลางทะเลทราย แต่ทะเลทรายก็ยังคงกว้างใหญ่เกินไป
ส่วนนักแสดงหลักอย่าง Gustavo Bassani และ Francesca Varela แสดงได้โอเค แต่ขาดเคมีที่ทำให้เราอินกับความสัมพันธ์ของพวกเขา มันเหมือนเพื่อนร่วมงานที่คุยกันเฉยๆ ไม่ใช่คู่รักในดราม่าเข้มข้น เราเลยรู้สึกว่าการแสดงทั้งหมดมันแค่ “อยู่ตรงนั้น” ไม่ได้กระตุ้นอารมณ์อะไรจริงจัง

ซีรีส์ Netflix อย่าง Maledictions ถูกสาปให้ตกอยู่ในคำสาปของความจืดชืด มันไม่มีความสุข ความพอใจ หรือแม้แต่ความโกรธที่จะทำให้เรารู้สึกอะไร ทุกอย่างดำเนินไปอย่างไร้รสชาติไร้ความแสบสันต์ เราดูแล้วก็แค่รู้สึกว่า มันเป็นซีรีส์ที่เราดูเพราะต้องดู ไม่ใช่เพราะอยากดู เหมือนไปงานเลี้ยงที่ไม่มีเพลง ไม่มีอาหารอร่อย แค่ยืนคุยกันเฉยๆ
ถ้าจะหาข้อดี เราชอบที่ซีรีส์ไม่แสดงเซ็กส์ระหว่าง Román กับ Lucrezia แบบ explicit มันปล่อยให้เราจินตนาการว่ามีอะไรเกิดขึ้นในห้องนั้นบ้าง Lucrezia รัก Román จริงๆ มั้ย? การมองแบบชวนคิดในฉากแรกๆ มันสร้างแรงดึงดูดที่เงียบแต่ชวนติดตาม แต่สุดท้ายซีรีส์ก็ไม่พัฒนาส่วนนี้ให้ลึกซึ้ง เลยกลายเป็นโอกาสที่พลาดไปครั้งใหญ่
โดยรวมแล้ว ความน่าเบื่อจำเจนี่แหละที่ทำให้ Maledictions ล้มเหลว มันเหมือนหนังสือที่ปกสวยแต่เนื้อในว่างเปล่า เราเลยคิดว่า ถ้าผู้สร้างใส่พลังมากกว่านี้ มันอาจจะกลายเป็นเพชรลับ แต่ตอนนี้ มันก็แค่ซีรีส์ที่ไม่มีพิษภัยที่นั่งอยู่บน Netflix
ซีรีส์ Maledictions (2025) ทำให้เราตั้งคำถามว่าการเล่าเรื่องสั้นๆ จะเวิร์คเสมอมั้ย ถ้ามันขาดแพสชันและแรงดึงดูด ซีรีส์นี้ก็แสดงให้เห็นว่า ต่อให้มีธีมการเมืองก็ตาม การทรยศ และดราม่าชีวิต แต่ถ้าเล่าแบบจืด มันก็ไร้ค่า เหมือนฝันร้ายที่ไม่น่ากลัว แต่ทำให้เราเซ็งแทน
สำหรับใครที่กำลังหาซีรีส์ดูในวันที่เหนื่อยๆ เราว่าเลี่ยงเรื่องนี้ไปเถอะ ลองหาอะไรที่ตื่นเต้นกว่านี้ดีกว่า ซีรีส์ดราม่าการเมือง ที่ดีควรทำให้เราคิด ทำให้เรารู้สึก แต่เรื่องนี้ทำไม่ได้ มาแชร์ในคอมเมนต์กันว่าคุณเคยดูซีรีส์น่าเบื่อแบบนี้มั้ย และมันทำให้คุณรู้สึกยังไง? อย่าลืมแชร์รีวิวนี้ให้เพื่อนๆ ที่ชอบดู Netflix ด้วยนะ!
- ชื่อเรื่องในภาษาไทย: ชีวิตต้องสาป
- ประเภท: ดราม่า, การเมือง, ระทึกขวัญ
- วันที่ออกฉาย: 14 กันยายน 2568
- นักแสดงนำ: Gustavo Bassani, Francesca Varela, Monica Antonopulos, Leonardo Sbaraglia, Alejandra Flechner
- ผู้สร้าง: Daniel Burman
- จำนวนตอน: 3 ตอน
- เรตติ้ง IMDb: 5.8/10
- ช่องทางการดูในประเทศไทย: Netflix