![[รีวิว-เรื่องย่อ] ปารีสนี้ไม่มีหอไอเฟล | The Wrong Paris (2025)](https://www.nanitalk.com/wp-content/uploads/2025/09/Review-The-Wrong-Paris-2025.webp)
- The Wrong Paris เป็นหนังโรแมนติกคอมเมดี้ที่สร้างจากความเข้าใจผิดสุดป่วน เมื่อสาวที่ฝันถึงปารีสฝรั่งเศส ต้องไปเจอปารีสเท็กซัสแทน
- การแสดงของมิแรนดา คอสโกรฟ ในบทดอว์นโดดเด่นด้วยความจริงใจและความใฝ่ฝันที่ทำให้เราอยากเอาใจช่วย
- หนังสำรวจธีมความรัก ความฝัน และการเสียดสีรายการเรียลลิตี้โชว์หาคู่
- ผู้กำกับเล่นกับความแตกต่างระหว่างแฟนตาซีโรแมนติกกับชีวิตจริงแบบเท็กซัส
เราเคยฝันอยากบินไปปารีสเมืองโรแมนติก ดูหอไอเฟลสวยๆ กินครัวซองต์ร้อนๆ ไหม? แต่ถ้าไปถึงแล้วดันเจอแต่คาวบอยกับทะเลทรายแทนล่ะ? หนัง The Wrong Paris (2025) ของ Netflix พาเราไปหัวเราะกับความเข้าใจผิดสุดป่วนของสาวน้อยที่อยากเรียนศิลปะในปารีสฝรั่งเศส แต่ดันสมัครรายการหาคู่ที่ปารีสเท็กซัสซะงั้น เรื่องจริงๆ มันมาจากไอเดียเรียลลิตี้โชว์ที่เล่นกับความคาดหวังผิดๆ ทำให้หนังเรื่องนี้เต็มไปด้วยมุกฮาและบทเรียนชีวิตเบาๆ
เรื่องราวเริ่มจาก ดอว์น แสดงโดย มิแรนดา คอสโกรฟ (Miranda Cosgrove) สาวศิลปินที่กำลังลำบากเรื่องเงิน ครอบครัว และความฝัน เธอคิดว่าจะได้ไปเรียนศิลปะในปารีส แต่ดันเข้าใจผิด สมัครรายการหาคู่ที่ชื่อ “The Wrong Paris” ซึ่งถ่ายทำในปารีสเท็กซัส เมืองเล็กๆ เต็มไปด้วยคาวบอยและฟาร์มวัว แล้วยังต้องแข่งกับสาวๆ อื่นเพื่อชิงหัวใจของ เทรย์ คาวบอยหนุ่มหล่อ แสดงโดย เพียร์สัน โฟเด (Pierson Fodé) ที่มาพร้อมเสน่ห์แบบบ้านๆ และฉากถอดเสื้อที่ทำเอาใจเต้นไม่เป็นจังหวะ
ในรีวิวนี้ เราจะพาไปเจาะลึกทุกมุมของหนังเรื่องนี้ ตั้งแต่จุดเด่นที่ทำให้ยิ้มได้ ไปจนถึงจุดด้อยที่อาจทำให้เซ็งนิดๆ มาดูกันว่า The Wrong Paris จะทำให้เราหัวเราะลั่นหรือแค่ยิ้มมุมปาก แล้วยังมีข้อคิดเกี่ยวกับความรักและความฝันที่ซ่อนอยู่ด้วยนะ

รีวิวและเรื่องย่อ The Wrong Paris (ปารีสนี้ไม่มีหอไอเฟล)
The Wrong Paris เล่าเรื่องของดอว์น สาวน้อยที่ใฝ่ฝันอยากเรียนศิลปะใน ปารีสฝรั่งเศส แต่ชีวิตพลิกผันเมื่อเธอสมัครรายการหาคู่เรียลลิตี้โชว์โดยไม่รู้ตัว แล้วดันได้ไปปารีสเท็กซัสแทน เมืองเล็กๆ ที่เต็มไปด้วยคาวบอย ฟาร์มวัว และความวุ่นวายแบบอเมริกันชนบท เธอต้องแข่งกับสาวๆ อื่นเพื่อชิงหัวใจเทรย์ คาวบอยหนุ่มที่กำลังหาคู่ชีวิต แต่ดอว์นแค่อยากได้เงินรางวัลไปจ่ายหนี้และตามฝันศิลปะเท่านั้นเอง มันเหมือนเกมแมวไล่จับหนูที่ทุกคนคาดหวังโรแมนติก แต่กลับได้ความจริงจังแบบชีวิตจริง
จุดเด่นของหนังคือไอเดียสุดป่วนที่เล่นกับชื่อเมืองเหมือนกัน แต่คนละโลกเลย ดอว์นคิดว่าจะได้เห็นหอไอเฟล แต่ดันเจอแต่ทะเลทรายกับม้า หนังใช้มุกนี้สร้างความฮาและเสียดสีรายการหาคู่ที่ขายฝันโรแมนติกแบบปลอมๆ บางฉากอย่างตอนดอว์นพยายามแกล้งแพ้เพื่อเอาเงิน มันตลกแบบที่เราอยากหัวเราะตาม เพราะมันเหมือนชีวิตจริงที่แผนการไม่เคยเป็นไปตามแผน
นอกจากนั้น หนังยังมีโมเมนต์อบอุ่นจากครอบครัวของดอว์น โดยเฉพาะยายที่ให้กำลังใจ ทำให้เรื่องไม่ใช่แค่โรแมนติกผิวๆ แต่มีน้ำหนักทางอารมณ์นิดๆ เหมือนกาแฟที่ผสมนมพอให้ดื่มง่าย ไม่ขมเกินไป
การแสดงของ มิแรนดา คอสโกรฟ (Miranda Cosgrove) ในบทดอว์นคือจุดขายใหญ่เลย เธอเล่นเป็นสาวจริงใจที่กำลังดิ้นรนกับชีวิต ฝันอยากเป็นศิลปินแต่ติดปัญหาเงินๆ ทองๆ มันทำให้เราอยากเอาใจช่วย เหมือนดูเพื่อนสนิทที่กำลังลุ้นสอบเข้าคณะในฝัน การเปลี่ยนแปลงจาก “เอาเงินก่อน” ไปเป็น “หรือว่ารักสำคัญกว่า” มันธรรมชาติแบบที่เรารู้สึกเชื่อได้
เพียร์สัน โฟเด (Pierson Fodé) ในบทเทรย์ก็เจ๋งมาก เขาเอาอยู่กับบทคาวบอยหล่อเสน่ห์แรง ที่มีทั้งความบ้านๆ และความอบอุ่น เคมีระหว่างดอว์นกับเทรย์ไม่ถึงกับร้อนแรง แต่พอให้เรายิ้มตามตอนพวกเขางงๆ กัน มันเหมือนคู่รักในชีวิตจริงที่เริ่มจากความเข้าใจผิด แล้วค่อยๆ เข้าใจกัน
ตัวประกอบก็ช่วยเติมสีสัน เช่นเพื่อนอย่างจัสมินที่สงบสุขุม หรือคู่แข่งอย่างเล็กซี่ที่เว่อร์ๆ และโปรดิวเซอร์เรเชล แสดงโดย ยวอนน์ ออร์จิ (Yvonne Orji) ที่เพิ่มความแสบสันให้กับการเสียดสีรายการหาคู่ มันทำให้หนังไม่น่าเบื่อ แม้พล็อตจะเดาได้บ้าง
แต่หนังก็มีจุดอ่อนที่ทำเอาเราถอนหายใจ เช่นพล็อตที่เดินตามสูตรโรแมนติกคอมเมดี้แบบเป๊ะๆ จนเดาทางได้หมด มันเหมือนกินขนมเดิมๆ ที่รู้รสชาติล่วงหน้า ไม่มีเซอร์ไพรส์อะไร อย่างการเปลี่ยนใจของดอว์นจากเงินไปรัก มันมาถึงแบบไม่มีอะไรน่าตื่นเต้น เหมือนรถไฟที่วิ่งตรงไม่มีโค้ง
บทพูดก็ไม่สม่ำเสมอ บางทีฮาแบบฉลาด แต่บางทีก็จืดชืดเหมือนบอก “ฉันรักเธอ” แบบไม่มีอารมณ์ หนังอยากเสียดสีรายการหาคู่ แต่ทำได้แค่แตะๆ ไม่ได้เจาะลึก เหมือนอยากว่ายน้ำแต่แค่เอาเท้าแช่ มันเลยไม่คมพอที่จะทำให้เราหัวเราะแบบสะใจ
นอกจากนั้น ความสมจริงบางอย่างก็หลุดๆ เช่นดอว์นไม่รู้ตัวว่ารายการถ่ายที่เท็กซัสจนเกือบจบ มันดูฝืนๆ เหมือนใส่พล็อตมาเพื่อดราม่า แต่ไม่ค่อยเมคเซนส์ โทนเรื่องก็แกว่งระหว่างฮากับจริงจัง จนบางทีเรางงว่าต้องหัวเราะหรืออินดี

งานภาพและตัดต่ออยู่ในระดับโอเค ไม่ได้ว้าวแต่ก็ดูเพลิน หนังถ่ายทำส่วนใหญ่ในบริติชโคลัมเบีย แต่แกล้งเป็นเท็กซัสได้เนียนๆ มีฉากฟาร์ม โคลน และคาวบอยที่ช่วยสร้างบรรยากาศ มันเหมือนโปสการ์ดจากชนบทอเมริกาที่ทำให้เรารู้สึกถึงความแตกต่างจากปารีสในฝัน
เพลงประกอบและจังหวะเรื่องช่วยให้หนังไหลลื่น แต่บางโมเมนต์ที่อยากดึงอารมณ์ มันเร่งรีบเกินไป เหมือนมอนตาจที่โผล่มาแบบไม่มีปูพื้น ถ้าปรับให้ช้าลงหน่อย คงอินกว่านี้
โดยรวม หนังเรื่องนี้เหมือนขนมหวานที่กินเพลินแต่ไม่ติดใจนาน มันมีเสน่ห์จากไอเดียป่วนและตัวละครน่ารัก แต่ขาดความสดใหม่
The Wrong Paris (2025) ทำให้เราหัวเราะกับความเข้าใจผิดในชีวิต และตั้งคำถามว่าความรักแท้จริงคืออะไร ระหว่างฝันโรแมนติกปลอมๆ หรือความจริงจังแบบบ้านๆ หนังเรื่องนี้เตือนเราว่าบางที สวรรค์ที่เราคิดอาจไม่ใช่ที่ที่เราคาดหวัง แต่ถ้าเปิดใจ มันอาจนำพาไปสู่สิ่งที่ดีกว่า
สำหรับใครที่ชอบ หนังโรแมนติกคอมเมดี้เบาๆ เรื่องนี้เหมาะมาก ดูแล้วรู้สึกสดชื่น เหมือนกินไอติมในวันร้อนๆ แต่ถ้าอยากอะไรลึกซึ้งหรือเซอร์ไพรส์ อาจข้ามไปเลย มาแชร์กันในคอมเมนต์ว่าคุณเคยเข้าใจผิดแบบนี้ไหม แล้วหนังเรื่องนี้ทำให้คุณคิดยังไงเกี่ยวกับความรัก? อย่าลืมแชร์รีวิวนี้ให้เพื่อนๆ ที่ชอบหนังแนวนี้ดูด้วยนะ!
ถ้าจะให้คะแนน หนังเรื่องนี้ไม่เพอร์เฟกต์ แต่มีเสน่ห์พอให้ดูเพลิน ถ้าคุณอยากพักสมอง ดูอะไรฮาๆ กับโรแมนติกน่ารักๆ มันตอบโจทย์แน่นอน
- ชื่อเรื่องในภาษาไทย: ปารีสนี้ไม่มีหอไอเฟล
- ประเภท: โรแมนติก, คอมเมดี้, เสียดสี
- วันที่ออกฉาย: 14 กันยายน 2568
- นักแสดงนำ: มิแรนดา คอสโกรฟ (Miranda Cosgrove), เพียร์สัน โฟเด (Pierson Fodé), ยวอนน์ ออร์จิ (Yvonne Orji)
- ความยาว: 1 ชั่วโมง 45 นาที
- เรตติ้ง IMDb: 5.8/10
- ช่องทางการดูในประเทศไทย: Netflix