รีวิวหนังฝรั่ง

[รีวิว-เรื่องย่อ] รู้ไหมใครโหด | Woman of the Hour (2023)

“Woman of the Hour” หนังที่สร้างจากเรื่องจริง นำเสนอเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงในปี 1978 เมื่อ Rodney Alcala ฆาตกรต่อเนื่องและผู้ข่มขืนปรากฏตัวในรายการเกมโชว์ชื่อดัง โดยหนังเรื่องนี้เป็นผลงานการกำกับครั้งแรกของ Anna Kendrick นักแสดงที่เราคุ้นเคยจากบทบาทที่เฉลียวฉลาดและเปี่ยมด้วยพลัง Kendrick ได้นำเสนอเรื่องราวของ Sheryl นักแสดงสาวที่ต้องเจอกับ Alcala ในเกมโชว์ครั้งนั้น ซึ่งทำให้หนังเรื่องนี้ไม่เพียงเป็นหนังระทึกขวัญ แต่ยังวิพากษ์วิจารณ์ถึงอำนาจของ “การมอง” ที่ซ่อนอยู่ในทุกมุมมองของสังคม ทั้งในเรื่องของความรุนแรงทางเพศและความไม่เท่าเทียมที่ผู้หญิงต้องเผชิญ

ความสามารถในการกำกับของ Kendrick โดดเด่นจากการที่เธอเน้นเล่าผ่านมุมมองของผู้หญิงทุกคนในเรื่อง ทั้งในแง่ของการที่พวกเธอต้องเผชิญกับอำนาจของผู้ชายที่กดขี่และใช้การมองในทางที่เป็นอันตราย หนังนี้สะท้อนให้เห็นถึงการใช้สายตาเป็นเครื่องมือทั้งในการครอบงำและในการปลดปล่อย เช่นเดียวกับการทำให้ผู้ชมตั้งคำถามเกี่ยวกับการแสดงออกของตัวเองและสิ่งที่เกิดขึ้นในชีวิตจริงรอบตัวเรา

หนังเรื่องนี้ไม่ได้มุ่งเน้นไปที่การสร้างความบันเทิงเพียงอย่างเดียว แต่ยังเชิญชวนให้ผู้ชมคิดเกี่ยวกับสิ่งที่อยู่ลึกลงไปในสังคม โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องของการกดขี่ทางเพศ การใช้ความรุนแรง และการละเลยความปลอดภัยของผู้หญิงในสังคมที่มักจะไม่ได้รับการปกป้องเพียงพอ

Woman of the Hour (รู้ไหมใครโหด) (2023)

รีวิวและเรื่องย่อ Woman of the Hour (รู้ไหมใครโหด)

ใน “Woman of the Hour” Kendrick เลือกใช้มุมมองของสายตาเป็นเครื่องมือสำคัญในการเล่าเรื่อง ตั้งแต่ฉากแรกที่เหยื่อคนหนึ่งถูกถ่ายโดย Rodney Alcala ที่เป็นช่างภาพ เขาใช้กล้องเพื่อควบคุมและสร้างอำนาจเหนือผู้หญิง ความสามารถในการกำกับของ Kendrick โดดเด่นจากการที่เธอไม่เพียงนำเสนอการข่มขู่และความรุนแรงผ่านการกระทำเท่านั้น แต่ยังแสดงให้เห็นการเปลี่ยนแปลงของตัวละคร Alcala เมื่อเปลี่ยนจากบทบาทของชายผู้มีเสน่ห์เป็นนักล่าที่โหดเหี้ยม สายตาของตัวละคร Alcala กลายเป็นสัญลักษณ์ของอำนาจที่น่ากลัวและไม่สามารถคาดเดาได้

Advertisement

สายตาในหนังเรื่องนี้ยังมีบทบาทในการสื่อสารระหว่างตัวละครหญิงด้วยกัน เช่น เมื่อ Laura หญิงสาวที่เชื่อว่า Alcala คือผู้ที่ฆ่าเพื่อนของเธอ เธอสบตากับ Sheryl ในฉากหนึ่ง แต่ด้วยแสงสว่างจากกล้องทำให้ Sheryl ไม่สามารถรับสัญญาณเตือนจากสายตาของ Laura ได้ ฉากนี้เป็นหนึ่งในหลายๆ ฉากที่ Kendrick ใช้สายตาเป็นสัญลักษณ์ที่บ่งบอกถึงการสื่อสารอย่างเงียบๆ ระหว่างผู้หญิงที่กำลังเผชิญหน้ากับผู้ชายที่มีอำนาจและอันตราย

หนึ่งในประเด็นหลักที่ Kendrick นำเสนอใน “Woman of the Hour” คือการที่ผู้หญิงมักต้องแสดงออกด้วยความเป็นมิตรเพื่อความอยู่รอดในสถานการณ์ที่ตึงเครียด Sheryl ในหนังต้องรับบทเป็นผู้หญิงที่ต้อง “แกล้งทำเป็นดี” เพื่อให้ผ่านสถานการณ์หลายๆ ครั้งไปได้ เช่น ฉากที่เธอต้องรับมือกับพิธีกรเกมโชว์ที่เต็มไปด้วยการเหยียดเพศ และฉากที่เธอต้องปฏิเสธเพื่อนบ้านที่พยายามเข้าหาเธอด้วยความไม่เต็มใจ

ผู้หญิงในหนังทุกคนล้วนต้องรับมือกับการแสดงออกที่ไม่ใช่ตัวตนที่แท้จริงของตนเอง เช่น Amy หญิงสาวที่หนี Alcala แต่ต้องยิ้มและหัวเราะเพื่อเอาตัวรอดจากสถานการณ์ที่อันตราย Kendrick แสดงให้เห็นถึงการต่อสู้ทางอารมณ์ของผู้หญิงในสังคมที่ต้องเผชิญกับการถูกกดขี่และควบคุม การที่ผู้หญิงต้องแสดงออกอย่างไม่เป็นตัวตนเพื่อรักษาชีวิตและความปลอดภัยของตัวเอง

หนังเรื่องนี้ไม่เพียงเล่าถึงความรุนแรงที่ Alcala ก่อ แต่ยังวิจารณ์สังคมที่ปล่อยให้ผู้ชายอย่าง Alcala มีอำนาจและเสน่ห์ที่สามารถก่อความรุนแรงได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการใช้ความรุนแรงทางเพศและการละเลยต่อความปลอดภัยของผู้หญิง Kendrick สื่อให้เห็นถึงการที่ผู้ชายในสังคมมักใช้การมองเป็นเครื่องมือในการควบคุมและใช้ประโยชน์จากผู้หญิง เช่น ฉากที่ตำรวจปล่อยตัว Alcala ด้วยเสียงหัวเราะและรอยยิ้ม ซึ่งสะท้อนถึงความล้มเหลวของสังคมในการปกป้องผู้หญิงจากความรุนแรง

การมองในหนังไม่ได้เป็นเพียงการเฝ้าดู แต่ยังเป็นการตั้งคำถามเกี่ยวกับอำนาจ Kendrick ไม่ได้มุ่งเน้นไปที่การแสดงความรุนแรงอย่างชัดเจน แต่เธอเลือกที่จะตัดฉากออกก่อนที่ความรุนแรงจะกลายเป็นสิ่งที่ดึงดูดความสนใจของผู้ชม การใช้เสียงและภาพในช่วงที่เกิดความรุนแรงยังช่วยสร้างบรรยากาศที่น่ากลัวและไม่สบายใจ ซึ่งทำให้ผู้ชมรู้สึกถึงความไม่ปลอดภัยและการถูกคุกคาม

“Woman of the Hour” ของ Anna Kendrick ไม่เพียงแต่เป็นหนังที่สร้างจากเรื่องจริงของฆาตกรต่อเนื่อง แต่ยังเป็นผลงานที่วิจารณ์สังคมที่ยังคงปล่อยให้ความรุนแรงทางเพศเกิดขึ้น Kendrick ใช้การเล่าเรื่องผ่านสายตาและการมองเป็นเครื่องมือในการสร้างความตึงเครียดและการสะท้อนถึงปัญหาที่ผู้หญิงในสังคมเผชิญ หนังเรื่องนี้ทำให้ผู้ชมต้องตั้งคำถามเกี่ยวกับอำนาจและความรุนแรงที่อยู่รอบตัวเรา และกระตุ้นให้เราตระหนักถึงความสำคัญของการปกป้องและเคารพในสิทธิมนุษยชนของทุกคน

  • ประเภท: อาชญากรรม, ระทึกขวัญ
  • วันที่ฉายในไทย: 17 ตุลาคม 2024
  • นักแสดงนำ: Anna Kendrick, Daniel Zovatto
  • ผู้กำกับ: Anna Kendrick
  • จำนวนตอน/ความยาว: 94 นาที
  • เรตติ้ง IMDb: 6.8/10
  • ช่องทางการดู: –

Advertisement

กดเพื่ออ่านเพิ่มเติม
Advertisement

PhiRa W.

เป็นนักเขียนอิสระที่หลงใหลในสื่อบันเทิงทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นภาพยนตร์ ซีรีส์ วาไรตี้ และสารคดี ผมชอบที่จะวิเคราะห์และถอดรหัสเนื้อหาเหล่านั้นออกมาในรูปแบบของรีวิวที่เข้าใจง่ายและสนุกสนาน เพื่อแบ่งปันมุมมองและประสบการณ์ให้กับผู้อ่าน

บทความที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Back to top button
Shopee