
- การเกษียณเป็นโอกาสในการเริ่มต้นชีวิตใหม่ด้วยกิจกรรมที่เหมาะสมกับความสนใจและสุขภาพ
- ผู้เกษียณในไทยสามารถเลือกทำ งานอดิเรก เช่น ปลูกต้นไม้ ทำอาหาร หรืองานฝีมือ เพื่อความสุขและรายได้เสริม
- อาชีพพาร์ทไทม์ เช่น งานร้านค้าปลีกหรืองานออนไลน์ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการรายได้เพิ่ม
- การใช้ประสบการณ์ทำงาน เช่น เป็นที่ปรึกษาหรือไกด์ท่องเที่ยว สามารถสร้างรายได้และคุณค่า
- การวางแผนการเงิน เช่น การลงทุนในหุ้นปันผลหรือให้เช่าทรัพย์สิน ช่วยเพิ่มความมั่นคง
ประเทศไทยกำลังก้าวสู่ สังคมสูงวัยอย่างสมบูรณ์ โดยในปี 2567 มีผู้สูงอายุอายุ 60 ปีขึ้นไปกว่า 13 ล้านคน คิดเป็นร้อยละ 20 ของประชากรทั้งหมด ตามข้อมูลจากสำนักงานสถิติแห่งชาติ การเกษียณอายุจึงไม่ใช่เพียงการหยุดทำงาน แต่เป็นโอกาสในการเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่เต็มไปด้วยความเป็นไปได้ คำถามที่หลายคนเผชิญคือ “เกษียณแล้วทำอะไรดี?” บทความนี้จะนำเสนอกิจกรรมและอาชีพที่เหมาะสมสำหรับผู้เกษียณในประเทศไทย พร้อมเคล็ดลับในการวางแผนชีวิตให้มีความสุขและมั่นคง โดยอ้างอิงข้อมูลจากแหล่งที่น่าเชื่อถือ เช่น Thai PBS และ Chulalongkorn University
การเกษียณอาจเป็นช่วงเวลาที่ท้าทายสำหรับบางคน โดยเฉพาะเมื่อต้องปรับตัวจากชีวิตการทำงานที่ยุ่งวุ่นวายมาสู่การมีเวลาว่างมากขึ้น การเลือกกิจกรรมที่เหมาะสมไม่เพียงช่วยให้ชีวิตมีสีสัน แต่ยังส่งเสริมสุขภาพกายและใจ รวมถึงสร้างความมั่นคงทางการเงิน ด้วยข้อมูลที่ว่า 36.1% ของผู้สูงอายุในไทยยังคงทำงานอยู่ ส่วนใหญ่เป็นงานที่ไม่เป็นทางการ เช่น งานส่วนตัวหรือช่วยเหลือในธุรกิจครอบครัว การวางแผนล่วงหน้าจึงเป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้มั่นใจว่าชีวิตหลังเกษียณจะเต็มไปด้วยความสุขและความมั่นคง
งานอดิเรกและกิจกรรมยามว่าง
งานอดิเรก เป็นวิธีที่ยอดเยี่ยมสำหรับผู้เกษียณในการใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์และเพิ่มความสุขในชีวิตประจำวัน กิจกรรมเหล่านี้ไม่เพียงช่วยผ่อนคลาย แต่ยังสามารถสร้างรายได้เสริมได้ในบางกรณี
- การปลูกต้นไม้ เป็นกิจกรรมที่ได้รับความนิยมในหมู่ผู้สูงอายุ เนื่องจากช่วยให้ใกล้ชิดกับธรรมชาติและลดความเครียด การปลูกผักสวนครัวหรือไม้ดอกสามารถนำผลผลิตไปใช้ในครัวเรือนหรือจำหน่ายในชุมชนได้
- การทำอาหารและขาย เหมาะสำหรับผู้ที่รักการทำอาหาร การทำอาหารกล่อง ขนมหวาน หรือเครื่องดื่มเพื่อจำหน่ายที่บ้านหรือร้านค้าในท้องถิ่นสามารถสร้างรายได้ที่น่าสนใจ ตัวอย่างเช่น การขายขนมไทยในตลาดนัดอาจทำกำไรได้ดี
- งานฝีมือพื้นบ้าน เช่น การเย็บปักถักร้อยหรือการทำเครื่องจักสาน เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ช่วยอนุรักษ์วัฒนธรรมและสร้างรายได้ โดยสามารถจำหน่ายผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ เช่น Shopee หรือ Lazada
- การเข้าร่วมชมรมผู้สูงอายุในท้องถิ่นยังเป็นวิธีที่ดีในการค้นหางานอดิเรกใหม่ๆ และสร้างความสัมพันธ์ในชุมชน ซึ่งช่วยส่งเสริมสุขภาพจิตและป้องกันความเหงา

อาชีพพาร์ทไทม์
สำหรับผู้เกษียณที่ต้องการรายได้เสริม อาชีพพาร์ทไทม์ เป็นทางเลือกที่ยืดหยุ่นและเหมาะสมกับวัย โดยเฉพาะงานที่ไม่หนักและสามารถเลือกเวลาทำงานได้
- งานร้านค้าปลีกหรือร้านกาแฟ เป็นตัวเลือกที่ได้รับความนิยม เนื่องจากเป็นงานที่ไม่ต้องใช้แรงมากและให้โอกาสในการพบปะผู้คน ตัวอย่างเช่น การทำงานในร้านสะดวกซื้อหรือร้านหนังสือในห้างสรรพสินค้า
- งานออนไลน์ ในยุคดิจิทัล เช่น การเป็นอินฟลูเอนเซอร์ ยูทูบเบอร์ หรือรีวิวสินค้า เป็นทางเลือกที่น่าสนใจ โดยเฉพาะเมื่อ 48.77% ของผู้สูงอายุในไทยใช้อินเทอร์เน็ตในปี 2567 การเริ่มต้นอาจง่ายด้วยการสร้างคอนเทนต์เกี่ยวกับประสบการณ์ชีวิตหรือทักษะเฉพาะตัว
- การขายของออนไลน์ เช่น เสื้อผ้า งานฝีมือ หรือผลิตภัณฑ์ท้องถิ่น ผ่านแพลตฟอร์มอย่าง Facebook Marketplace ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่สามารถสร้างรายได้สูงหากมีการวางแผนที่ดี
- งานเหล่านี้ยังได้รับการสนับสนุนจากนโยบายของรัฐ เช่น ค่าจ้างขั้นต่ำ 45 บาทต่อชั่วโมงสำหรับผู้สูงอายุที่ทำงานพาร์ทไทม์ ตามประกาศกระทรวงแรงงานเมื่อวันที่ 8 มีนาคม 2562
การใช้ประสบการณ์ที่มี
ผู้เกษียณที่มีประสบการณ์ทำงานยาวนานสามารถนำความรู้และทักษะมาใช้ใน อาชีพที่ใช้ประสบการณ์ เพื่อสร้างรายได้และคุณค่าให้กับสังคม
- การเป็นที่ปรึกษา เป็นทางเลือกที่เหมาะสมสำหรับผู้ที่มีความเชี่ยวชาญในสาขาต่างๆ เช่น การบริหารจัดการ การเงิน หรือการตลาด บริษัทหลายแห่งในไทยมักจ้างผู้เกษียณเป็นที่ปรึกษาเพื่อถ่ายทอดความรู้ให้กับพนักงานรุ่นใหม่
- นักเขียน นักแปล หรือไกด์ท่องเที่ยว เหมาะสำหรับผู้ที่มีทักษะด้านภาษา การเขียนคู่มือหรือบล็อกเกี่ยวกับประสบการณ์ชีวิต การแปลเอกสาร หรือการเป็นไกด์ท่องเที่ยวในสถานที่ท่องเที่ยวท้องถิ่นสามารถสร้างรายได้ที่น่าสนใจ
- ตัวอย่างเช่น การเป็นไกด์ท่องเที่ยวในจังหวัดที่มีนักท่องเที่ยวจำนวนมาก เช่น เชียงใหม่หรือภูเก็ต สามารถใช้ความรู้เกี่ยวกับวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ท้องถิ่นเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยว
- การทำงานเหล่านี้ยังช่วยให้ผู้เกษียณรู้สึกมีคุณค่าและมีส่วนร่วมในสังคม ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญสำหรับสุขภาพจิตในวัยเกษียณ
การลงทุนและวางแผนการเงิน
การวางแผนการเงิน เป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้มั่นใจว่าผู้เกษียณจะมีรายได้เพียงพอในช่วงบั้นปลายชีวิต ข้อมูลจาก Chulalongkorn University ระบุว่า 54.3% ของผู้สูงอายุในไทยมีเงินออม แต่ 41.4% มีเงินออมน้อยกว่า 50,000 บาท
- การให้เช่าทรัพย์สิน เช่น บ้านหรือคอนโด เป็นวิธีที่สร้างรายได้ประจำ โดยสามารถทำรายได้ 9,000-10,000 บาทต่อเดือน ขึ้นอยู่กับทำเลและขนาดของทรัพย์สิน
- การลงทุนในหุ้นปันผล เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ช่วยเพิ่มรายได้ประจำ แต่ต้องมีการศึกษาข้อมูลอย่างรอบคอบเพื่อลดความเสี่ยง
- การวางแผนการเงินควรรวมถึงการจัดการค่าใช้จ่าย เช่น ค่ารักษาพยาบาล ซึ่งเป็นค่าใช้จ่ายที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ในวัยเกษียณ การซื้อประกันชีวิตแบบบำนาญอาจเป็นทางเลือกที่ช่วยเพิ่มความมั่นคง
- การปรึกษานักวางแผนการเงินหรือเข้าร่วมอบรมการเงินที่จัดโดยธนาคารหรือสถาบันการเงิน เช่น ธนาคารกรุงเทพ Bangkok Bank สามารถช่วยให้ผู้เกษียณวางแผนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
งานอาสาสมัครและการทำงานเพื่อสังคม
งานอาสาสมัคร เป็นวิธีที่ยอดเยี่ยมในการใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์และสร้างความสัมพันธ์ในชุมชน
- การสอนหนังสือเด็กด้อยโอกาส เป็นการแบ่งปันความรู้และประสบการณ์ เช่น การสอนอ่านเขียนหรือทักษะพื้นฐานให้กับเด็กในชุมชนที่ขาดแคลน
- การช่วยเหลือผู้สูงอายุหรือผู้พิการ เช่น การเป็นอาสาสมัครในศูนย์ผู้สูงอายุหรือองค์กรการกุศล ช่วยให้ผู้เกษียณรู้สึกมีส่วนร่วมและมีคุณค่า
- การเข้าร่วมชมรมผู้สูงอายุหรือองค์กรท้องถิ่น เช่น ชมรมที่จัดตั้งโดยกรมกิจการผู้สูงอายุ DOP สามารถช่วยให้ผู้เกษียณค้นพบโอกาสในการทำงานอาสาสมัคร
- งานอาสาสมัครยังช่วยส่งเสริมสุขภาพจิต โดยลดความรู้สึกเหงาและเพิ่มความรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งของสังคม ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญสำหรับผู้สูงอายุ
สถิติและการสนับสนุนจากภาครัฐ
หัวข้อ | รายละเอียด |
---|---|
เปอร์เซ็นต์ผู้สูงอายุที่ทำงาน | 36.1% ของผู้สูงอายุ (60 ปีขึ้นไป) ยังคงทำงาน ลดลงจาก 38.9% ในปี 2547 |
อาชีพหลัก | ส่วนใหญ่เป็นงานส่วนตัวหรือช่วยในธุรกิจครอบครัว 86.4% เป็นแรงงานนอกระบบ |
การกระจายตามเพศ | ผู้ชายทำงานมากกว่าผู้หญิงในทุกกลุ่มอายุ |
กลุ่มอายุที่ทำงาน | 51.83% ของผู้ที่มีอายุ 60-69 ปีทำงาน สูงสุดในกลุ่มผู้สูงอายุ |
แหล่งรายได้ | 32.18% จากบุตร, 19.18% จากเบี้ยยังชีพ |
เงินออม | 54.3% มีเงินออม 41.4% มีเงินออมน้อยกว่า 50,000 บาท |
การสนับสนุนจากรัฐ | สิทธิทำงานและอบรมวิชาชีพ, ลดหย่อนภาษี, ค่าจ้างขั้นต่ำ 45 บาท/ชั่วโมง |
ทิ้งท้าย
การเกษียณอายุเป็นช่วงเวลาที่สำคัญในชีวิต และการวางแผนล่วงหน้าสามารถช่วยให้ชีวิตหลังเกษียณเต็มไปด้วยความสุขและความมั่นคง ไม่ว่าจะเลือกทำ งานอดิเรก เช่น การปลูกต้นไม้หรืองานฝีมือ ทำงาน พาร์ทไทม์ เช่น งานร้านค้าหรืองานออนไลน์ ใช้ประสบการณ์ที่มี เช่น เป็นที่ปรึกษา ลงทุนทางการเงิน เช่น ให้เช่าทรัพย์สิน หรือทำงานอาสาสมัคร สิ่งสำคัญคือการเลือกกิจกรรมที่เหมาะสมกับความสนใจและสภาพร่างกาย
รัฐบาลไทยมีนโยบายสนับสนุนผู้สูงอายุ เช่น สิทธิในการทำงานและอบรมวิชาชีพ การลดหย่อนภาษีสำหรับนายจ้างที่จ้างผู้สูงอายุ และค่าจ้างขั้นต่ำสำหรับงานพาร์ทไทม์ ผู้เกษียณจึงสามารถมั่นใจได้ว่าจะได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐในการดำเนินชีวิตหลังเกษียณ เริ่มต้นวางแผนวันนี้เพื่อให้ชีวิตหลังเกษียณของคุณเต็มไปด้วยความสุขและความหมาย!