อาหาร & เครื่องดื่ม

Specialty Coffee คืออะไร? เริ่มต้นสู่โลกกาแฟ Specialty

เคยสงสัยไหมว่าทำไมบางร้านกาแฟถึงขายแก้วละหลายร้อยบาท ในขณะที่กาแฟทั่วไปราคาไม่กี่สิบบาท? คำตอบอยู่ที่ Specialty Coffee หรือกาแฟ Specialty ที่ไม่ใช่แค่เครื่องดื่มธรรมดา แต่เป็นศิลปะและศาสตร์ของการชงที่เน้นคุณภาพตั้งแต่เมล็ดจนถึงแก้ว

Specialty Coffee คือกาแฟที่ผ่านการคัดสรรอย่างพิถีพิถัน ตั้งแต่การปลูก การเก็บเกี่ยว ไปจนถึงกระบวนการคั่วและชง โดยเมล็ดกาแฟต้องได้คะแนนคุณภาพตั้งแต่ 80 คะแนนขึ้นไป (จาก 100) ตามมาตรฐาน Specialty Coffee Association (SCA) ซึ่งแตกต่างจากกาแฟทั่วไปที่มักเน้นปริมาณมากกว่าคุณภาพ

ในบทความนี้ เราจะพาเพื่อนๆ ไปรู้จักกับ Specialty Coffee คืออะไร? อย่างละเอียด ตั้งแต่ความหมาย กระบวนการผลิต ไปจนถึงวิธีดื่มให้ได้รสชาติเต็มที่ พร้อมแนะนำร้านกาแฟ Specialty ในไทยที่ควรลอง!

Specialty Coffee คืออะไร?

Specialty Coffee คืออะไร?

Specialty Coffee คือกาแฟคุณภาพสูงที่ผ่านการควบคุมคุณภาพในทุกขั้นตอน ตั้งแต่การปลูกจนถึงการเสิร์ฟ เมล็ดกาแฟ Specialty จะต้องมาจากแหล่งปลูกที่ดี มีการเก็บเกี่ยวในเวลาที่เหมาะสม และผ่านกระบวนการแปรรูปอย่างพิถีพิถัน

ความพิเศษของกาแฟประเภทนี้คือ รสชาติที่ซับซ้อนและโดดเด่น ซึ่งแตกต่างจากกาแฟทั่วไปที่มักมีรสขมหรือเปรี้ยวเพียงอย่างเดียว กาแฟ Specialty อาจให้รสชาติของผลไม้ ดอกไม้ หรือช็อกโกแลต ขึ้นอยู่กับสายพันธุ์และแหล่งปลูก

Advertisement

อีกปัจจัยสำคัญคือ การให้คะแนนคุณภาพ (Cupping Score) โดยผู้เชี่ยวชาญ หากเมล็ดกาแฟได้คะแนนต่ำกว่า 80 จะไม่ถือเป็น Specialty Coffee นี่คือเหตุผลที่กาแฟ Specialty มักมีราคาสูงกว่า เพราะต้องใช้ความใส่ใจในทุกขั้นตอนการผลิต

กระบวนการผลิต Specialty Coffee ตั้งแต่ต้นจนจบ

1. การปลูกและเก็บเกี่ยว

กาแฟ Specialty ต้องปลูกในสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม เช่น ที่สูงจากระดับน้ำทะเล 800 เมตรขึ้นไป เพื่อให้เมล็ดมีความหนาแน่นและรสชาติดี การเก็บเกี่ยวต้องเลือกเฉพาะผลเชอร์รีที่สุกเต็มที่เท่านั้น ซึ่งมักทำด้วยมือเพื่อความแม่นยำ

2. การแปรรูป (Processing)

หลังจากเก็บเกี่ยว จะมีวิธีการแปรรูป 3 แบบหลักคือ

  • แบบล้าง (Washed Process): ใช้การหมักและล้างเมือกออกให้สะอาด ได้รสชาติสะอาดและเปรี้ยวสดชื่น
  • แบบธรรมชาติ (Natural Process): ตากผลกาแฟทั้งลูกให้แห้ง ได้รสชาติหวานและกลิ่นผลไม้
  • แบบกึ่งล้าง (Honey Process): อยู่ระหว่างสองแบบแรก ให้รสชาติที่balanced ระหว่างความหวานและความเปรี้ยว

3. การคั่ว (Roasting)

การคั่วกาแฟ Specialty จะเน้นการเปิดเผยรสชาติเดิมของเมล็ด ไม่คั่วเข้มเกินไป โดยทั่วไปจะอยู่ในระดับ Light ถึง Medium Roast เพื่อคงความซับซ้อนของรสชาติ

Specialty Coffee #2

วิธีชง Specialty Coffee ให้ได้รสชาติเต็มที่

1. เลือกอุปกรณ์ที่เหมาะสม

การชงกาแฟ Specialty สามารถทำได้หลายวิธี เช่น

  • Pour Over (V60, Chemex): เหมาะกับกาแฟที่มีรสชาติซับซ้อน
  • Aeropress: ให้ความสะดวกและรสชาติเข้มข้น
  • Espresso Machine: สำหรับผู้ชอบความเข้มข้นแบบเต็มๆ

2. สัดส่วนและเวลาในการชง

อัตราส่วนมาตรฐานคือ กาแฟ 1 ส่วน ต่อน้ำ 15-18 ส่วน (เช่น ใช้กาแฟ 20 กรัม ต่อน้ำ 300 มล.) และควบคุมเวลาในการสกัดให้เหมาะสม (ปกติ 2-4 นาที)

3. การเลือกเมล็ดกาแฟ

ควรเลือกเมล็ดที่คั่วใหม่ (ไม่เกิน 1 เดือน) และบดก่อนชงเสมอเพื่อรักษาความสด

ทำไมกาแฟ Specialty ถึงพิเศษกว่ากาแฟทั่วไป?

กาแฟทั่วไปมักมาจากการผสมเมล็ดหลายแหล่งและคั่วเข้มเพื่อกลบรสชาติที่อาจไม่สมบูรณ์แบบ แต่กาแฟ Specialty เน้น “Single Origin” หรือกาแฟจากแหล่งเดียว ทำให้สามารถติดตามที่มาและรสชาติเฉพาะตัวได้ เช่น กาแฟจากดอยช้างอาจให้รสผลไม้เปรี้ยว ในขณะที่กาแฟจากบราซิลอาจให้รสช็อกโกแลตและนัท

รสชาติของกาแฟ Specialty มีความซับซ้อน บางครั้งอาจมีโน้ตของดอกไม้ ผลไม้ หรือแม้แต่ไวน์ ซึ่งหาไม่ได้ในกาแฟทั่วไป นอกจากนี้ กระบวนการผลิตยังคำนึงถึงความยั่งยืนและความเป็นธรรมต่อเกษตรกรอีกด้วย

Specialty Coffee #1

วิธีชิมกาแฟ Specialty ให้เป็น

การชิมกาแฟ Specialty ไม่ใช่แค่ดื่มแต่เป็นการ “ลิ้มรส” เริ่มจากดมกลิ่นก่อนดื่ม สังเกตความหอมของดอกไม้หรือผลไม้ จากนั้นจิบเล็กน้อยให้รสชาติกระจายทั่วปาก

ลองเปรียบเทียบกาแฟจากแหล่งต่างๆ เช่น กาแฟเอธิโอเปียอาจมีรสเบอร์รี ในขณะที่โคลอมเบียอาจให้รสชาติเหมือนคาราเมล การฝึกชิมบ่อยๆ จะช่วยให้คุณแยกแยะรสชาติได้ดีขึ้น

ทิ้งท้าย

Specialty Coffee ไม่ใช่แค่เครื่องดื่ม แต่เป็นประสบการณ์ที่ให้คุณได้สัมผัสรสชาติอันหลากหลายและความพิถีพิถันในทุกขั้นตอน หากคุณเป็นคนที่ชอบกาแฟและอยากค้นหาความแตกต่าง ลองเริ่มจากร้านเล็กๆ ที่เน้นคุณภาพ แล้วคุณอาจพบว่ากาแฟที่ดีสามารถเปลี่ยนวันธรรมดาให้พิเศษได้

อย่าลืมแชร์บทความนี้ให้เพื่อนๆ ที่ชอบกาแฟ หรือคอมเมนต์ด้านล่างว่าคุณชอบร้าน Specialty Coffee ที่ไหนบ้าง!

Advertisement
กดเพื่ออ่านต่อ
Advertisement

NaniTalk S.

เป็นนักเขียนที่ขยันขันแข็งและมุ่งมั่นที่จะผลิตเนื้อหาที่มีคุณภาพ เรียนรู้และเติบโตอยู่เสมอ เชื่อว่าเนื้อหาที่ดีสามารถสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อโลกได้

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Back to top button