วันสำคัญ

ประวัติวันคริสต์มาส (Christmas) จุดเริ่มต้นเทศกาลแห่งความสุข

วันคริสต์มาส (Christmas Day) 2567/2024 ตรงกับวันที่ 25 ธันวาคม เป็นเทศกาลที่เต็มไปด้วยความสุข ความอบอุ่น และความหมายที่สำคัญสำหรับผู้คนทั่วโลก ไม่ว่าจะในเชิงศาสนาหรือวัฒนธรรม วันคริสต์มาสไม่ได้เป็นเพียงแค่การเฉลิมฉลองวันหนึ่ง แต่ยังเป็นสัญลักษณ์ของการรวมตัวและการให้ความรักแก่กัน วันสำคัญนี้มีประวัติศาสตร์ที่ยาวนานและหลากหลายเรื่องราวที่น่าสนใจ

Advertisement

ต้นกำเนิดของวันคริสต์มาสเริ่มจากการเฉลิมฉลองวันเกิดของพระเยซูคริสต์ในศาสนาคริสต์ แม้จะไม่มีการระบุวันที่แน่นอนในคัมภีร์ไบเบิล แต่วันที่ 25 ธันวาคมได้รับการกำหนดให้เป็นวันคริสต์มาสตั้งแต่ศตวรรษที่ 4 ซึ่งเป็นผลมาจากการเชื่อมโยงกับเทศกาลฤดูหนาวของชาวโรมันและการเผยแพร่ศาสนาคริสต์

ในยุคปัจจุบัน วันคริสต์มาสกลายเป็นเทศกาลที่มีการผสมผสานระหว่างศาสนา วัฒนธรรม และการค้า การตกแต่งบ้านด้วยแสงไฟ ต้นคริสต์มาส และการให้ของขวัญกลายเป็นสิ่งที่คนทั่วโลกคุ้นเคย การเฉลิมฉลองนี้ไม่ได้จำกัดแค่ในหมู่ชาวคริสต์ แต่ยังเป็นเทศกาลที่ผู้คนจากศาสนาและวัฒนธรรมอื่นๆ เข้าร่วมด้วยความยินดี

วันคริสต์มาส (Christmas Day)

วันคริสต์มาส
รูปภาพต้นคริสต์มาส

คริสต์มาส (ภาษาอังกฤษ: Christmas Day) หรือ วันสมโภชพระคริสตสมภพ (Feast of the Nativity) จัดขึ้นเป็นประจำทุกปีเพื่อเฉลิมฉลองการประสูติของพระเยซู เป็นวันหยุดทางศาสนาและวัฒนธรรม

Advertisement

ประชากรหลายพันล้านคนทั่วโลกจัดการเฉลิมฉลองในวันที่ 25 ธันวาคม วันดังกล่าวเน้นปีพิธีกรรมของคริสต์ศาสนิกชนเป็นสำคัญ คริสต์มาสเป็นวันปิดเทศกาลเตรียมการรับเสด็จ (Advent) และวันเริ่มต้นเทศกาลพระคริสตสมภพ (Christmastide) สิบสองวัน คริสต์มาสเป็นวันหยุดราชการในหลายประเทศทั่วโลก และมีผู้ที่ไม่ใช่ศาสนาคริสต์ก็หันมาเฉลิมฉลองกันมากขึ้น และเป็นส่วนสำคัญในคริสต์มาสและฤดูวันหยุด

คริสต์มาส คือ การฉลองวันประสูติของพระเยซูผู้เป็นศาสดาสูงสุดของชาวคริสต์ทั่วโลก เป็นวันฉลองที่มีความสำคัญ และมีความหมายมากที่สุดวันหนึ่ง เพราะชาวคริสต์ถือว่า พระเยซูมิใช่เป็น แต่เพียงมนุษย์ธรรดา ๆ ที่มาเกิดเหมือนเด็กทั่วไป แต่พระองค์เป็นบุตรของพระเจ้าผู้สูงสุด และมีพระธรรมชาติเป็น พระเจ้า และเป็นมนุษย์ในพระองค์เอง การบังเกิดของพระองค์ จึงเป็นเหตุการณ์ พิเศษ ที่ไม่เหมือนใคร และไม่มีใครเหมือนด้วย

คริสต์มาสอีฟ

คริสต์มาสอีฟ (Christmas Eve) คือ

คริสต์มาสอีฟ (Christmas Eve) ตามวัฒนธรรมตะวันตกโดยทั่วไปคือ วันที่ 24 ธันวาคม ของทุกปี ตามระบบปฏิทินสมัยใหม่ ความหมายจริงคือ เย็นแรกของวันคริสต์มาส ซึ่งมีการเฉลิมฉลองเพื่อระลึกถึง การประสูติของพระเยซู โดยในวันนี้ ชาวคริสต์จำนวนมากจะเดินทางไปร่วมพิธีนมัสการ ตามโบสถ์คาทอลิค ทำกันในเวลาเที่ยงคืน หรือที่ทางเยอรมนีเรียกว่า “ไวฮนาคท” (Weihnacht) หรือมีความหมายเดียวกันกับคำว่า “White Christmas” ซึ่งถือว่าเป็น “คืนอันศักดิ์สิทธิ์”

เหตุผลที่ คริสต์มาส เริ่มต้นในตอนเย็นของวัน คริสต์มาสอีฟ เพราะธรรมเนียมการนับปีของคริสเตียน วันจะเริ่มต้นเมื่อพระอาทิตย์ตกตามเรื่องราวในปฐมกาลเกิดความสว่างกับความมืด คือวันที่ 1 นอกจากนี้ในคืนก่อนวันนี้จะมีงานแครอลลิง ซึ่งจะมีเด็ก ๆ ไปร้องเพลงตามบ้านในคืนวันคริสต์มาสผู้ที่นับถือศาสนาคริสต์ จะมารวมตัวกันที่โบสถ์เพื่อทำกิจกรรมร่วมกัน เช่น การแสดง ร้องเพลง และในวันที่ 25 ธันวาคม ก็จะมีการเฉลิมฉลองกันตามบ้านเรือน และถือเป็นโอกาสดีที่จะมีการเยี่ยมเยียนระหว่างญาติพี่น้อง ส่วนในตอนกลางคืนทุกคนจะพร้อมหน้าเพื่อมาร่วมรับประทานอาหารค่ำและอาหารมื้อ สำคัญบนโต๊ะนั่นก็คือไก่งวง

ประวัติคริสต์มาส

ในอดีตจักรพรรดิออกัสตัส รับสั่งให้ราษฎรทุกคน ในอาณาจักรโรมัน ไปลงทะเบียนสำมะโนประชากร โยเซฟและมารีย์ ซึ่งมีครรภ์แก่จึงต้องเดินทางไปยังเมืองเบธเลเฮม อันเป็นเมืองที่กษัตริย์ดาวิดประสูติ พอดีถึงกำหนดที่มารีย์จะคลอดบุตร เธอก็ได้คลอดบุตรชายหัวปี เธอเอาผ้าพันกายพระกุมารแล้ววางไว้ในรางหญ้า เนื่องจากตามโรงแรมไม่มีที่พักเลย

คืนนั้นทูตสวรรค์ของพระเจ้า ปรากฎแก่พวกเลี้ยงแกะ พวกเขาตกใจกลัวมาก แต่ทูตสวรรค์ปลอบพวกเขาว่า “อย่ากลัวไปเลยเพราะเรานำข่าวดีมาบอก คืนนี้เองในเมืองของกษัตริย์ดาวิด มีพระผู้ช่วยให้รอดประสูติ พระองค์นั้นเป็นพระคริสต์พระเป็นเจ้า นี่จะเป็นหลักฐานให้พวกท่านแน่ใจคือ พวกท่านจะพบพระกุมารมีผ้าพันกาย นอนอยู่ในรางหญ้า”

ทันใดนั้นมีทูตสวรรค์อีกมากมาย ร้องเพลงสรรเสริญ พระเจ้าว่า “Gloria in Excelsis Deo” ขอเทิดพระเกียรติพระเจ้าผู้สถิตย์ในสวรรค์ชั้นสูงสุด สันติสุขบนพิภพจงเป็นของผู้ที่พระองค์ทรงพอพระทัย

ประวัติของพระเยซู

ประวัติของพระเยซู

พระเยซู (ภาษาอังกฤษ: Jesus) เป็นชาวยิวผู้เป็นศาสดาของศาสนาคริสต์ คริสต์ศาสนิกชนเรียกพระองค์ว่า พระเยซูคริสต์ เพราะถือว่าพระองค์เป็นพระคริสต์ พระผู้ช่วยให้รอด เป็นพระบุตรพระเป็นเจ้า และเป็นพระเจ้าพระบุตรซึ่งเป็นพระบุคคลหนึ่งในพระตรีเอกภาพ นอกจากนี้ในคัมภีร์ไบเบิลยังบันทึกว่าพระเยซูทรงแสดงปาฏิหาริย์ทรงรักษาคนตาบอดให้หายขาด รักษาคนพิการ โดยตรัสว่า บาปของเจ้าได้รับการให้อภัยแล้ว หลังพระเยซูสิ้นพระชนม์ ก็ได้ทรงฟื้นขึ้นจากความตายหลังสิ้นพระชนม์ได้เพียง 3 วัน และเสด็จขึ้นสู่สวรรค์

ความสําคัญของวันคริสต์มาส

เราจะเห็นได้ว่า คริสต์มาสเป็นวันสำคัญวันหนึ่ง เนื่องจากเป็นการระลึกถึงวันที่พระบุตรของพระเจ้ามาบังเกิดเป็นมนุษย์ พระองค์เป็นพระเจ้า ที่จะอยู่กับเราตลอดไป ส่วนหนึ่งของมนุษย์เป็นพี่หัวปีที่จะนำมนุษย์ทั้งมวลไปสู่พระบิดาเจ้า พระองค์เป็นความสำเร็จบริบูรณ์ตามคำสัญญาของพระเจ้า ที่จะดูแลป้องกันรักษาเราผู้เป็นประชากรของพระองค์ เราเป็นเหมือนลูกแกะที่หายไป แต่พระเยซูเป็นชุมพาบาลใจดีที่ตามหาเราจนพบและจะไม่มีอะไร ที่จะแยกเรากับพระองค์ได้อีกเลย มนุษย์ทุกคนไม่ว่าจะเป็นชนชาติไหนจะรวยหรือจน คนศรัทธาหรือคนบาป ล้วนมีความสำคัญต่อหน้าพระเจ้าเสมอ เพราะตั้งแต่การเสด็จมาบังเกิดของพระเยซูนั้น พระเป็นเจ้าพระบิดาทรงเห็นพระฉายาลักษณ์ของพระบุตรในมนุษย์ทุกคน เราก็เช่นเดียวกัน เราต้องรักซึ่งกันและกันเหมือนอย่างที่เรารักพระเจ้า นั่นหมายถึงเราต้องเคารพศักดิ์ศรีของมนุษย์ทุกคน ไม่ว่าคนเหล่านั้นจะเป็นคนยากจน คนต่างชาติ หรือคนที่วางตัวเป็นศัตรูกับเรา

“เขาจะรักพระเจ้าที่เขามองไม่เห็นได้อย่างไร ถ้าเขาไม่รักพี่น้องที่มองเห็นได้ นี่แหละเป็นพระดำรัสที่พระเยซูเจ้าประทานแก่เรา คนที่รักพระเจ้าต้องรักพี่น้องของตนด้วย”

กิจกรรมวันคริสต์มาส วันคริสต์มาส
รูปภาพคริสต์มาส

กิจกรรมวันคริสต์มาส

คริสต์มาสเป็นเทศกาลหลักและวันหยุดราชการในหลายประเทศทั่วโลก รวมทั้งประเทศที่ประชากรส่วนใหญ่มิใช่คริสต์ศาสนิกชน ในบางประเทศที่ไม่ใช่คริสต์ ประเทศเหล่านี้รับคริสต์มาสเข้ามาระหว่างถูกปกครองเป็นอาณานิคม (เช่น ฮ่องกง) ส่วนในประเทศอื่น ประชากรค่อย ๆ รับเอาการเฉลิมฉลองของคริสต์ศาสนิกชนกลุ่มน้อยหรืออิทธิพลจากวัฒนธรรมต่างประเทศ ในหลายประเทศ เช่น ญี่ปุ่นและเกาหลี ซึ่งคริสต์มาสเป็นที่นิยมแม้มีคริสตศาสนิกชนน้อย ก็ได้รับเอาคริสต์มาสส่วนที่เป็นฆราวาสหลายอย่าง เช่น การให้ของขวัญ การประดับตกแต่ง และต้นคริสต์มาส ประเทศที่คริสต์มาสไม่ใช่วันหยุดราชการ เช่น สาธารณรัฐประชาชนจีน (ยกเว้นฮ่องกงและมาเก๊า) ญี่ปุ่น ซาอุดิอาระเบีย อัลจีเรีย ไทย เนปาล อิหร่าน ตุรกี และเกาหลีเหนือ การเฉลิมฉลองคริสต์มาสรอบโลกอาจมีรูปแบบแตกต่างกันชัดเจนมาก ซึ่งสะท้อนให้เห็นวัฒนธรรมประเพณีของแต่ละชาติ

  • เข้าโบสถ์
  • เดินขบวนทางศาสนา หรือ ขบวนแห่ก่อนคริสต์มาส
  • เดินขบวนฆราวาส หรือ ขบวนแห่ซึ่งนำเสนอซานตาคลอส และบุคคลสัญลักษณ์ของเทศกาลอื่น ๆ
  • การรวมญาติ และการแลกของขวัญ

วันคริสต์มาสทําอะไรบ้าง

ตกแต่งเครื่องประดับที่สวยงามในเทศกาลคริสต์มาส มีการตั้งต้นคริสมต์มาสไว้ในใจกลางเมือง (ภาษาอังกฤษ: Christmas tree) และ มีธรรมเนียมในการตกแต่งรอบ ๆ นอกบ้านด้วยไฟและสิ่งของที่เป็นประกาย รถลากเลื่อนตุ๊กตาหิมะ และสิ่งของอื่น ๆ ที่ให้ความหมายถึงคริสต์มาส เครื่องประดับตกแต่งสถานที่ที่กลายเป็นที่นิยมกันนั้น ได้แก่ ระฆัง กระดิ่ง เทียนไข ทอฟฟี่มีรูปร่างเป็นแท่งเป็นลายขาวแดง ถุงเท้ายาว พวงมาลัย และเทพยาดา

สัญลักษณ์ วันคริสต์มาส
รูปภาพคริสต์มาส

สัญลักษณ์วันคริสต์มาส

The Christmas Wreath
การแขวนพวงมาลัยไว้ที่หน้าประตูบ้านนั้นเป็นประเพณีที่นิยมกระทำกันในช่วงเทศกาลที่มีความสำคัญ รวมถึงช่วงเทศกาลคริสต์มาสด้วย

Holly (ต้นฮอลลี่)
สีเขียวชอุ่มของต้นฮอลลี่เป็นสัญลักษณ์ที่แสดงถึงการมีชีวิตอยู่ชั่วนิรันดร์ ซึ่งต้นฮอลลี่นี้เป็นต้นที่มีลักษณะเด่นเป็นพุ่มไม้เตี้ย ๆซึ่งจะมีความสัมพันธ์กับพระเยซูคริสต์

Bells (กระดิ่งวันคริสต์มาส)
เสียงระฆังที่ถูกดังขึ้นในตอนเช้าของวันคริสต์มาสนั้นถือเป็นการเฉลิมฉลองให้กับการกำเนิดของพระเยซู

Poinsettia
เป็นดอกไม้ประจำเทศกาลคริสต์มาส

The Star (ดาว)
สำหรับชาวคริสต์เตียนนั้น ดาวคริสต์มาสถูกสมมติว่าเป็นแบบอย่างของการแสดงออกที่ดีโดยพระเยซูคริสต์ ซึ่งถูกบัญญัติไว้ในพระคัมภีร์ไบเบิลว่า “the bright and morning star”

Baubles and Apples (เครื่องประดับและแอปเปิ้ล)
ในบางแห่ง แอปเปิ้ลถูกใช้เป็นเครื่องประดับต้นไม้ จากการที่มีคนศรัทธาความเชื่อที่ว่า ลำต้นที่เกิดจากการรวมกันของต้นแอปเปิ้ลมองดูคล้ายกับต้นไม้แห่งชีวิตในแดนสวรรค์ แม้ว่าในคัมภีร์ไบเบิ้ลจะไม่ได้กล่าวไว้

Christmas Gifts (ของขวัญคริสต์มาส)
ประวัติความเป็นมาของการแลกเปลี่ยนของขวัญคริสต์มาสนั้นต้องย้อนกลับไปถึงประเพณีการให้ของขวัญในยุคโรมันซึ่งทำกันในเมือง Saturnalia

Christmas Rose
ดอกคริสต์มาสเดิมที มีต้นกำเนิดที่ประเทศอังกฤษและปัจจุบันนี้ก็สามารถค้นพบดอกคริสต์มาสได้ตามเทือกเขาในทางตอนกลางของยุโรป ดอกคริสต์มาสจะบานในช่วงฤดูหนาว

Christmas Colors
สีที่เกี่ยวข้องในช่วงเทศกาลคริสต์มาสมีหลากหลาย เช่น สีแดงของผลฮอลลี่หรือซานตาคลอส, สีเขียวของต้นไม้, สีทองของเทียนและดวงดาว, สีขาวโพรนของทุ่งหิมะ

Mince Pies (พาย)
พายนั้นได้มีการเริ่มทำในรูปทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า ด้านนอกของพายจะมีความกรอบโดยจะมีรูอยู่ตรงกลาง พายได้ถูกเปรียบให้เป็นสัญลักษณ์เปลพระเยซูคริสต์

Father Christmas
ซานตาคลอส เขาถูกสร้างขึ้นมาโดย โทมัส เนสท์ เป็นนักเขียนการ์ตูนทางตอนเหนือของอเมริกาซึ่งเขาได้วาดรูดให้กับหนังสือรายสัปดาห์ที่ชื่อว่า Haper ในช่วงระหว่างปีคริสตศักราช 1863-1883 รูปภาพของเขาจะเป็นรูปแบบสบาย ๆ ที่อ้างถึงบทกวีของชาวแอฟริกาตะวันตกจากนั้นก็ได้มีการพัฒนามาเป็นรูปร่างที่อ้วนขึ้นเล็กน้อยจนได้กลายมาเป็นซานตาคลอสในปัจจุบันนี้

Stockings (ถุงเท้า)
จากนิทานที่เล่ากันว่ามีนักบุญชื่อนิโคลัสได้พบกับพี่น้องสามสาว ซึ่งพวกเธอได้พักอยู่นอกเมืองและมีความเป็นอยู่ที่ค่อนข้างยากจน นักบุญนิโคลัสเกิดความคิดที่จะช่วยให้พวกเขาสามพี่น้องหลุดพ้นจากความเป็นไปได้ที่ 3 สาวพี่น้องจะต้องไปเป็นโสเภณี คืนนั้นนักบุญนิโคลาสก็ได้ปล่อยทองสามก้อนลงไปในปล่องไฟของบ้านของพวกเธอ ซึ่งเหรียญนั้นไม่ได้ตกลงไปบนพื้นเตาอย่างที่เขาคิดไว้แต่กลับตกลงไปในถุงเท้าของพวกเธอที่แขวนไว้ข้างหน้าเตาผิงเพื่อที่จะให้ถุงเท้านั้นแห้ง ในตอนเช้าของวันต่อมาพวกเธอทั้งสามคนได้พบเหรียญอยู่ในถุงเท้าจึงเกิดความปิติยินดีมาก ต่อมาก็มีผู้คนมากมายแขวนถุงเท้าคริสต์มาสไว้ โดยหวังว่าจะได้รับของขวัญในลักษณะเดียวกันบ้าง

The Chimney (ปล่องไฟ)
เหตุผลที่ซานตาคลอสที่ลงมาตามปล่องไฟนั้นต้องย้อนกลับไปถึงยุคก่อนประวัติศาสตร์เมื่อครั้งที่ผู้คนในสมัยนั้นยังอาศัยอยู่ในใต้ดิน ซึ่งแต่ละบ้านจะมีรูควันเป็นทางเข้าออกจากบ้าน หลังจากนั้นไม่นาน รูควันนั้นก็ได้ถูกแทนที่ด้วยปล่องไฟ จึงทำให้ซานตาคลอสต้องเข้าออกทางปล่องไฟด้วย

Carol singing
เหตุผลที่ว่าทำไมผู้คนถึงเริ่มร้องเพลงในช่วงคริสต์มาสนั้นมาจากการที่นางฟ้าทั้งหลายได้ร้องเพลงประสานเสียงหลังจากที่ปรากฎกายลงมาต่อกลุ่มคนเลี้ยงแกะที่เมืองเบธเลเฮม เพื่อป่าวประกาศว่าพระเยซูได้ประสูติลงมายังโลกนี้แล้ว

ประวัติซานตาคลอส

ประวัติซานตาคลอส

ตำนานของซานตาคลอส (Santa Claus) สามารถย้อนกลับไปได้ถึงนักบุญนิโคลัสที่เกิดในตุรกีประมาณ 280 AD เซนต์นิโคลัสมอบทรัพย์สมบัติที่ตกทอดมาทั้งหมดและเดินทางไปชนบทเพื่อช่วยเหลือผู้ยากไร้และผู้เจ็บป่วยซึ่งเป็นที่รู้จักในฐานะผู้พิทักษ์เด็ก และกะลาสีเรือ

เซนต์นิโคลัสเข้าสู่วัฒนธรรมยอดนิยมของอเมริกาเป็นครั้งแรกในช่วงปลายศตวรรษที่ 18 ในนิวยอร์กเมื่อครอบครัวชาวดัตช์รวมตัวกันเพื่อเป็นเกียรติในวันครบรอบการเสียชีวิตของ Saint Nicholas หรือเรียกสั้น ๆ ว่า ซานตา

ประวัติศาสตร์และตำนานพื้นบ้าน ตามวัฒนธรรมตะวันตกหลายประเทศ กล่าวกันว่าเขาเป็นผู้นำของขวัญไปยังบ้านของเด็กดีในช่วงเย็นและข้ามคืนวันคริสต์มาสอีฟ วันที่ 24 ธันวาคม ภาพลักษณ์สมัยใหม่ถูกดัดแปลงมาจากภาพลักษณ์ซินเทอร์กลาส (Sinterklass) แบบดัตช์ ซึ่งอาจมีพื้นฐานมาจากเรื่องเล่าชีวประวัตินักบุญเกี่ยวกับบุคคลในประวัติศาสตร์ผู้ให้ของขวัญชื่อนักบุญนิโคลัส อีกทอดหนึ่ง เรื่องเล่าที่แทบไม่ต่างกันยังปรากฏในตำนานพื้นบ้านกรีกและไบแซนไทน์ คือ บาซิลแห่งซีซาเรีย วันสมโภชของบาซิลในวันที่ 1 มกราคมนั้น ถูกมองว่าเป็นช่วงเวลาแห่งการแลกของขวัญในกรีซ

โดยทั่วไปซานตาคลอสถูกพรรณนาว่าเป็นชายเคราขาวร่างท้วมผู้ร่าเริงสนุกสนาน สวมโค้ทสีแดงกับคอเสื้อสีขาว กางเกงขายาวสีแดง เข็มขัดและรองเท้าหนังสีดำ (ภาพของเขามักไม่ค่อยมีเคราโดยไม่มีหนวด) ภาพลักษณ์นี้ได้รับความนิยมในสหรัฐอเมริกาและแคนาดาในคริสต์ศตวรรษที่ 19 เนื่องจากอิทธิพลอย่างสำคัญของกวี “การมาเยี่ยมจากนักบุญนิโคลัส” ของคลีเมนต์ คลาร์ก มัวร์ ใน ค.ศ.1823 และของนักเขียนภาพล้อเลียนและนักวาดการ์ตูนการเมือง โทมัส แนสต์ ภาพลักษณ์นี้ถูกรักษาและเสริมแต่งผ่านเพลง วิทยุ โทรทัศน์ หนังสือเด็กและภาพยนตร์ การพรรณนาซานตาคลอสในอเมริกาเหนือดังที่พัฒนาขึ้นในคริสต์ศตวรรษที่ 19 และ 20 ต่อมาได้มีอิทธิพลต่อความเข้าใจสมัยใหม่ของฟาเธอร์คริสต์มาส ซินเตอร์กลาสและนักบุญนิโคลัสในวัฒนธรรมยุโรป

ตามความเชื่อซึ่งสามารถสืบย้อนไปได้ถึงคริสต์ศักราช 1820 ซานตาคลอสอาศัยที่ขั้วโลกเหนือ พร้อมกับเอลฟ์มีเวทมนตร์จำนวนมากและกวางเรนเดียร์เหาะเก้าตัว (แต่เดิมมีแปด) ตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 20 ในแนวคิดซึ่งทำให้ได้รับความนิยมโดยเพลง “ซานตาคลอสกำลังมาเมือง” ใน ค.ศ. 1934 เชื่อกันว่าซานตาคลอสทำรายชื่อเด็กทั่วโลก และแบ่งประเภทพวกเขาตามพฤติกรรม ดื้อ หรือ น่ารัก และในกลางดึกคริสต์มาส ซานตาคลอสจะแอบเข้าไปในบ้านที่มีเด็กประพฤติดีทางปล่องไฟ เพื่อนำของขวัญไปใส่ในถุงเท้าที่แขวนรอไว้หน้าเตาผิง รวมทั้งของเล่นและลูกกวาด และบางครั้งส่งถ่านหินไปให้เด็กดื้อ ภายในคืนคริสต์มาสอีฟคืนเดียว เขาสำเร็จได้ด้วยความช่วยเหลือของเอลฟ์ผู้ทำของเล่นในโรงงาน และกวางเรนเดียร์ที่ลากเลื่อนหิมะของเขา

ตำนานกวางเรนเดียร์ของซานตาคลอส

ตำนานกวางเรนเดียร์ของซานตาคลอส

รูดอล์ฟ (Rudolf) เป็นหนึ่งในกวาง 9 ตัวของซานตาคลอส แต่กวางที่มีการพูดถึงมากที่สุดก็คือ กวางรูดอล์ฟ มันเป็นกวางสายพันธุ์เรนเดียร์ มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวคือ จมูกสีแดงของมัน

รูดอล์ฟเป็นลูกกวางของพ่อกวางที่มีชื่อว่า ดอนเนอร์ รูดอล์ฟถูกเพื่อน ๆ ของมันหัวเราะเยาะเย้ยอยู่เป็นประจำเนื่องจากจมูกที่มีสีแดงซึ่งแตกต่างจากพรรคพวก เมื่อวันคริสต์มาสอีฟ (วันก่อนคริสต์มาสหนึ่งวัน)

วันหนึ่งซานตาคลอสกำลังเดินทางไปให้ของขวัญกับเด็ก ๆ แต่แล้วก็มีหมอกทึบจัด จนซานตาคลอสคิดจะยกเลิกให้ของขวัญแล้ว แต่ซานตาคลอสเห็นสีแดงของจมูกของรูดอล์ฟ จึงคิดว่าจมูกสีแดงสว่างของมันอาจเป็นไฟส่องทางได้ จึงนำมันมาขี่ และสามารถให้ของขวัญเด็ก ๆ ได้ตามเป้าหมาย ซานตาคลอสจึงให้รูดอล์ฟเป็นกวางตัวหน้าสุดของขบวน และข้างหลังของรูดอล์ฟมีกวางอีก 8 ตัว รูดอล์ฟจึงเป็นกวางที่มีบุญคุณต่อซานตาคลอสมากที่สุด

เพลงคริสต์มาส

คําอวยพรวันคริสต์มาส

เพลงคริสต์มาสเริ่มมีขึ้นในศตวรรษที่ 5 แต่งโดยพระสงฆ์และฆราวาส มีเนื้อร้องเป็นภาษาลาติน ลักษณะของเพลงเป็นแบบสง่า เน้นถึงความหมายของการเสด็จมาของพระเยซูเจ้า แต่ในศตวรรษที่ 12 ได้มีการแต่งในท่วงทำนองที่ร่าเริงสนุกสนานมากขึ้น เริ่มจากประเทศอิตาลี โดยนักบุญฟรังซิส อัสซีซี และนักบวชคณะฟรังซิสกัน เป็นผู้สนับสนุน ให้มีเพลงคริสต์มาสแบบใหม่

เพลงคริสตมาสแบบใหม่นี้ เป็นที่ชื่นชอบของชาวบ้าน เพราะมีท่วงทำนองที่ร่าเริงกว่า และเน้นถึงความชื่นชมยินดีในโอกาสคริสต์มาส เพลงเหล่านี้มีทั้งที่เป็นภาษาลาติน และภาษาพื้นเมือง เพลงหนึ่งที่แต่งในสมัยนั้น (แต่งคำร้องในปี ค.ศ.1274) และยังใช้อยู่จนถึงปัจจุบัน คือ เพลง Oh Come, All Ye Faithful หรือ Adeste Fideles ในภาษาลาติน เพลงคริสต์มาสที่นิยมร้องมากที่สุดในปัจจุบันได้แต่งขึ้นในศตวรรษที่ 19 จากประเทศเยอรมัน และประเทศอังกฤษเป็นส่วนใหญ่ เพลงที่มีชื่อเสียงมากได้แก่ เพลง Silent Night, Holy Night

ความเป็นมาของเพลงนี้มาจากวันก่อนวันฉลองคริสต์มาส ของปี ค.ศ.1818 คุณพ่อโจเซฟ โมห์ (Joseph Mohr) เจ้าอาวาสวัดที่โอเบิร์นดอฟ (Oberndorf) ประเทศออสเตรีย ได้ข่าวว่าออร์แกนในวัดเสีย ทำให้วงขับร้องไม่สามารถร้องเพลงตามที่ซ้อมไว้ได้ จึงมีการแต่งเพลงคริสต์มาสใหม่ นำไปให้เพื่อนชื่อ ฟรานซ์ กรูเบอร์ (Franz Gruber) ใส่ทำนองในคืนวันที่ 24 นั่นเอง และเล่นเพลง Silent Night เป็นครั้งแรก โดยมีการเล่นกีตาร์ประกอบการขับร้อง ซึ่งกลายเป็นเพลงที่นิยมมากที่สุดทั่วโลก

เนื้อเพลง We Wish You a Merry Christmas

We wish you a merry Christmas (ร้องสามรอบ)
And a happy New Year.
Glad tidings we bring
To you and your kin;
Glad tidings for Christmas
And a happy New Year!

We want some lucky cookies (ร้องสามรอบ)
Please bring it right here!
Glad tidings we bring
To you and your kin;
Glad tidings for Christmas
And a happy New Year!

We won’t go until we get some (ร้องสามรอบ)
So bring it out here!
Glad tidings we bring
To you and your kin;
Glad tidings for Christmas
And a happy New Year!

We wish you a Merry Christmas (ร้องสามรอบ)
And a happy New Year.
Glad tidings we bring
To you and your kin;
Glad tidings for Christmas
And a happy New Year!

คําอวยพรคริสต์มาสภาษาอังกฤษ

คําอวยพรวันคริสต์มาส

You are special, you are unique. May your Christmas be also as special and unique as you are!
Merry Christmas!

คุณเป็นคนพิเศษ คุณไม่เหมือนใคร ขอให้คริสต์มาสของคุณพิเศษแบบไม่เหมือนใครอย่างที่คุณเป็น
สุขสันต์วันคริสต์มาส


Here’s wishing you all the joys of the season. Wish you and your family a Merry Christmas!

ขอให้คริสต์มาสของคุณเต็มไปด้วยความสนุก ขอให้คุณและครอบครัวมีความสุขในวันคริสต์มาส


Sending the warmest Christmas wishes to you and your family. May God shower his choicest blessings on you and your family this Christmas!

ขอส่งคำอวยพรอันอบอุ่นที่สุดแด่คุณและครอบครัว ขอให้พระเจ้าทรงโปรยพรอันวิเศษที่สุดให้คุณและครอบครัวในคริสต์มาสนี้


May Christ bless you with all the happiness and success you deserve! Merry Xmas!

ขอให้พระผู้เป็นเจ้าทรงประทานพรแด่คุณ ด้วยความสุขและความสำเร็จที่คุณคู่ควร สุขสันต์วันคริสต์มาส


May your world be filled with warmth and good cheer this Holy season, and throughout the year! Wish your Christmas be filled with peace and love.
Merry Xmas.

ขอให้โลกของคุณเต็มไปด้วยความอบอุ่น ความสดชื่น ในเทศกาลอันศักดิ์สิทธิ์นี้และตลอดปี
ขอให้คริสต์มาสของคุณเต็มไปด้วยสันติภาพและความรัก สุขสันต์วันคริสต์มาส


May the Christmas season fill your home with joy, your heart with love and your life with laughter.

ขอให้เทศกาลคริสต์มาสเต็มเติมความสนุกให้ครอบครัวของคุณ
เต็มเติมหัวใจด้วยความรัก และเติมเต็มชีวิตด้วยเสียงหัวเราะ

การ์ดวันคริสต์มาส

การ์ดคริสต์มาสเป็นบัตรอวยพรที่ส่งกันเป็นส่วนหนึ่งของงานฉลองคริสต์มาสแบบดั้งเดิมเพื่อถ่ายทอดความรู้สึกเทศกาลวันหยุดระหว่างคน การ์ดคริสต์มาสมักจะมีการแลกเปลี่ยนกันในช่วงหลายสัปดาห์ก่อนวันคริสต์มาสโดยคนในสังคมตะวันตกและในเอเชีย

การ์ดวันคริสต์มาส 6
การ์ดวันคริสต์มาส 5
การ์ดวันคริสต์มาส 4
การ์ดวันคริสต์มาส 3
การ์ดวันคริสต์มาส 2
การ์ดวันคริสต์มาส 1

ข้อเท็จจริงของคริสต์มาส

  • ในแต่ละปีมีการจำหน่ายต้นคริสต์มาสจริง ในสหรัฐอเมริกาที่เดียวถึง 30-35 ล้านต้น มีผู้ปลูกต้นคริสต์มาส 21,000 ต้น ในสหรัฐอเมริกา (โดยปกติต้นไม้จะใช้เวลาเติบโต ประมาณ 15 ปีก่อนที่จะขายได้)
  • ในยุคกลางการเฉลิมฉลองคริสต์มาสเป็นไปอย่างครึกครื้น ซึ่งเหมือนกับงานปาร์ตี้ มาร์ดิกราส์ ในปัจจุบัน เทศกาลมาร์ดิกราส์ที่นิวออร์ลีนส์นั้นเป็นเทศกาลเฉลิมฉลองรื่นเริงที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก
  • คริสต์มาสถูกยกเลิก ตั้งแต่ปี 1659 ถึง 1681 การเฉลิมฉลองคริสต์มาสเป็นสิ่งผิดกฎหมายในบอสตัน และผู้ฝ่าฝืนกฎหมายถูกปรับ 5 ชิลลิง
  • วันคริสต์มาส ได้รับการประกาศให้เป็นวันหยุดของรัฐบาลกลางในสหรัฐอเมริกาเมื่อวันที่ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2413
  • Eggnog เครื่องดื่มรสชาติดีที่จะต้องมีกันทุกบ้านในช่วงหน้าเทศกาลคริสต์มาส

คำถามที่พบบ่อย

ซานตาคลอสมาคืนคริสต์มาสวันไหน ?

ซานตาคลอสมาคืนวันที่ 24

แกะของขวัญคริสต์มาสวันไหน ?

แกะของขวัญคริสต์มาสเช้าวันที่ 25

สรุป

วันคริสต์มาสเป็นเทศกาลวันสำคัญทางศาสนาคริสต์ที่เฉลิมฉลองกันทั่วโลก เป็นวันแห่งการฉลองการบังเกิดของพระเยซูเจ้า ซึ่งเป็นบุตรของพระเจ้าผู้สูงสุด ชาวคริสต์ทั่วโลกจึงถือเอาวันที่ 25 ธันวาคมเป็นวันคริสต์มาส และมีการเฉลิมฉลองด้วยการร่วมพิธีมิสซา ประดับตกแต่งบ้านเรือนด้วยแสงไฟและต้นคริสต์มาส มอบของขวัญให้แก่กัน และรับประทานอาหารร่วมกันในครอบครัว

สำหรับชาวไทยที่นับถือศาสนาคริสต์ วันคริสต์มาสก็ถือเป็นอีกหนึ่งวันสำคัญทางศาสนาที่พวกเขาจะได้เฉลิมฉลองร่วมกันกับครอบครัวและเพื่อนฝูง ถึงแม้ว่าวันคริสต์มาสจะไม่มีวันหยุดราชการในประเทศไทย แต่ก็มีผู้คนจำนวนมากที่ให้ความสำคัญกับวันคริสต์มาสและร่วมเฉลิมฉลองกันอย่างสนุกสนาน

หากท่านสนใจที่จะเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับวันคริสต์มาส ก็สามารถอ่านบทความนี้ต่อ หรือเข้าไปศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์หรือแหล่งความรู้อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับวันคริสต์มาส

นอกจากนี้ ท่านยังสามารถร่วมเฉลิมฉลองวันคริสต์มาสกับชาวคริสต์ทั่วโลกได้ โดยส่งบัตรอวยพร มอบของขวัญ หรือเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ ที่จัดขึ้นในวันคริสต์มาส

เรื่องที่เกี่ยวข้อง:

Advertisement

Advertisement

NaniTalk S.

เป็นนักเขียนที่ขยันขันแข็งและมุ่งมั่นที่จะผลิตเนื้อหาที่มีคุณภาพ เรียนรู้และเติบโตอยู่เสมอ เชื่อว่าเนื้อหาที่ดีสามารถสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อโลกได้

บทความที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Back to top button
Shopee