รีวิวหนังฝรั่ง

[รีวิว-เรื่องย่อ] Mountainhead (2025) สะท้อนโลกอันตรายของเศรษฐี

Key Points

  • Mountainhead (2025) วิจารณ์ความหลงผิดของคนรวยในยุคเทคโนโลยี
  • สะท้อนการขาดความรับผิดชอบและการตระหนักรู้ต่อวิกฤตโลก
  • การแสดงที่ยอดเยี่ยมจากดาราดัง เช่น Steve Carell และ Jason Schwartzman
  • เสนอแง่คิดที่ให้ผู้ชมต้องทบทวนการใช้ชีวิตของตัวเอง

เมื่อคนร่ำรวยที่สุดของโลกมารวมตัวกันบนยอดเขาเพื่อสนุกสนานท่ามกลางโลกที่กำลังล่มสลาย นี่คือเนื้อหาหลักของหนัง Mountainhead (2025) ที่นำแสดงโดยดาราดังอย่าง Steve Carell, Cory Michael Smith, Ramy Youssef และ Jason Schwartzman เรื่องราวที่ดูเหมือนจะเต็มไปด้วยความตลกร้ายนี้กลับเปิดเผยให้เห็นถึงความไร้สาระของบรรดามหาเศรษฐี ที่ชีวิตผูกติดอยู่กับโลกเสมือนจริง ขณะที่โลกภายนอกกำลังพังทลาย พวกเขากลับยุ่งอยู่กับการคำนวณผลประโยชน์ของตัวเอง

Mountainhead (2025)

รีวิวและเรื่องย่อ Mountainhead (เมาน์เทนเฮด)

หนัง Mountainhead กำกับโดย Jesse Armstrong ผู้โด่งดังจากซีรีส์ Succession ซึ่งกลับมาสะท้อนอีกครั้งกับสังคมของคนรวยที่ใช้ชีวิตอย่างไม่แยแสกับวิกฤตโลก เรื่องนี้พูดถึงกลุ่มชายสี่คนที่ดูเหมือนมีทุกอย่าง แต่ขาดสิ่งสำคัญที่สุด นั่นคือ ความจริงจังในชีวิต พวกเขารวมตัวในบ้านพักตากอากาศสุดหรูบนภูเขาสูง แต่ละคนต่างพยายามแสดงความสำคัญของตัวเอง ทั้งที่แท้จริงแล้ว พวกเขากลับล้มเหลวในการเป็น “คนจริงจัง”

ตัวละครหลักอย่าง Randall (แสดงโดย Steve Carell) เป็นนักลงทุนที่เต็มไปด้วยอีโก้ จนสามารถปฏิเสธคำวินิจฉัยทางการแพทย์ได้เพียงเพราะคิดว่าตัวเองฉลาดกว่าหมอ อีกด้านหนึ่งคือ Venis (รับบทโดย Cory Michael Smith) เจ้าพ่อโซเชียลมีเดียผู้คล้ายกับ Elon Musk อย่างมาก ทั้งหยิ่งยโสและชอบล้อเลียนคนอื่นโดยไม่มีอารมณ์ขัน ส่วน Sam (แสดงโดย Ramy Youssef) กลับกลายเป็นผู้ที่มีสามัญสำนึกและมโนธรรมเพียงคนเดียว แต่ก็ถูกกดดันจากกลุ่มให้กลายเป็นศัตรู ขณะที่เจ้าบ้านอย่าง Hugo Van Alk หรือ “Soups” (รับบทโดย Jason Schwartzman) กลับหมกมุ่นกับการเพิ่มมูลค่าทรัพย์สินแม้จะร่ำรวยมหาศาลอยู่แล้วก็ตาม

สิ่งที่หนัง Mountainhead ถ่ายทอดอย่างชัดเจนคือการวิพากษ์วัฒนธรรมของเหล่า “เทคโบรส์” (Tech Bros) หรือเศรษฐีเทคโนโลยีผู้เชื่อว่าพวกเขามีอำนาจควบคุมทุกอย่างบนโลกนี้ แม้กระทั่งในวันที่ระบบทุกอย่างล่มสลาย น้ำประปาหยุดไหล พวกเขายังไม่สามารถทำอะไรได้นอกจากเช็กมือถือดูความพินาศที่กำลังเกิดขึ้น แล้วคิดแต่เรื่องการหากำไรจากวิกฤต โดยไม่มีความตระหนักถึงบทบาทของตัวเองที่มีส่วนทำให้โลกมาถึงจุดนี้

สไตล์การเขียนบทของ Jesse Armstrong ยังคงมีเสน่ห์เฉพาะตัว เต็มไปด้วยคำพูดเสียดสีที่เฉียบแหลมและบทสนทนาที่ลึกซึ้งกว่าการพูดคุยธรรมดาของบรรดาเศรษฐีตัวจริง เขาสามารถทำให้ผู้ชมรู้สึกสนุกกับการวิพากษ์ชนชั้นสูง ขณะเดียวกันก็แทรกข้อคิดสำคัญเกี่ยวกับความรับผิดชอบต่อสังคมและโลกที่ทุกคนควรมี

บทความที่เกี่ยวข้อง
Advertisement

หนังสะท้อนให้เห็นมุมมองที่บิดเบี้ยวของมหาเศรษฐีที่เชื่อว่าตัวเองจะสามารถไปถึงจุด “หลังมนุษย์” หรือ “Post-Human” ได้ภายในเวลาอันสั้น ขณะที่ผู้คนทั่วโลกกลับดิ้นรนเอาชีวิตรอดจากวิกฤติทางสังคม การเงิน และการเมือง กลุ่มคนรวยกลับสนใจแค่เรื่องกำไรจากเทคโนโลยีที่อาจช่วยให้พวกเขารอดพ้นจากสถานการณ์ที่พวกเขาเป็นส่วนหนึ่งของปัญหา

หนัง Mountainhead (2025) คือการตั้งคำถามอย่างหนักแน่นว่า “คนรวยจะตื่นจากความฝันอันหลงผิดของตัวเองได้หรือไม่?” ความเฉยชาต่อโลกของกลุ่มเศรษฐีในหนังนี้สะท้อนภาพสังคมที่เริ่มแยกห่างกันระหว่างผู้มีอำนาจกับคนทั่วไป และเตือนผู้ชมว่าความสำเร็จและเงินทองไม่ได้หมายถึงการมีชีวิตที่ดีหากขาดความเข้าใจและรับผิดชอบต่อสังคม

ท้ายที่สุด หนังเรื่องนี้เชื้อเชิญให้ผู้ชมย้อนมองตนเองว่าเราได้ “จริงจัง” กับการแก้ปัญหาของโลกหรือยัง หรือจะปล่อยให้ความเฉื่อยชาของคนรวยกลายเป็นตัวอย่างที่เราไม่อยากเดินตาม?

  • ชื่อเรื่องในภาษาไทย: เมาน์เทนเฮด
  • ประเภท: ดราม่า, คอมเมดี้, เสียดสี, โศกนาฏกรรม
  • วันที่ออกอากาศ: 31 พฤษภาคม 2025
  • นักแสดงนำ: สตีฟ คาเรลล์, เจสัน ชวาร์ตซ์แมน, คอรี ไมเคิล สมิธ, รามี ยูซเซฟ
  • ผู้กำกับ: เจสซี อาร์มสตรอง
  • จำนวนตอน/ความยาว: 1 ชั่วโมง 49 นาที
  • เรตติ้ง IMDb: 5.5/10
  • ช่องทางการดู: HBO Max

Advertisement
กดเพื่ออ่านต่อ
Advertisement

PhiRa W.

เป็นนักเขียนอิสระที่หลงใหลในสื่อบันเทิงทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นภาพยนตร์ ซีรีส์ วาไรตี้ และสารคดี ผมชอบที่จะวิเคราะห์และถอดรหัสเนื้อหาเหล่านั้นออกมาในรูปแบบของรีวิวที่เข้าใจง่ายและสนุกสนาน เพื่อแบ่งปันมุมมองและประสบการณ์ให้กับผู้อ่าน

บทความที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Back to top button